หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/329

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๙๒

ออกไปหาเจ้า แลพระยารัตนาธิเบศนั้นก็พาพรรคพวกหนีออกไปเข้าด้วยช่วยกันคิดการซึ่งจะทำสงครามกับพม่า จัดแจงการมิทันพร้อม ยังมิได้ยกเข้ามา ฝ่ายกองทัพพม่าได้แจ้งเหตุดังนั้น แม่ทัพจึงเกณฑ์ให้เมฆราโบกับแนกวนจอโบสองนายคุมพลสามพันยกทำเรือออกไปตีค่ายไทยซึ่งตั้งอยู่ณปากน้ำโยทกานั้น ได้รบกันเปนสามารถ พม่าหักเอาค่ายได้ แล้วฆ่าหมื่นเก้า หมื่นศรีนาวา ตายในที่รบ แต่นายทองอยู่น้อยนั้นหนีรอด ทัพไทยก็แตกฉานพ่ายหนีกระจัดพลัดพรายกันไป พม่าได้ไชยชำนะแล้วก็เลิกทัพกลับเข้ามายังค่ายณกรุงเทพมหานคร

ฝ่ายกรมหมื่นเทพพิพิธกับพระยารัตนาธิเบศแจ้งว่า เสียค่ายปากน้ำโยทกาแก่พม่าแล้ว ก็ตกใจ มิได้คิดอ่านที่จะยกมาสู้รบกับพม่าอิก ก็พาสมัคพรรคพวกหนีไปทางช่องเรือแตกขึ้นไปณเมืองนครราชสิมา

ในขณะนั้น มังมหานรทาแม่ทัพใหญ่ซึ่งอยู่ณค่ายสีกุกป่วยหนักถึงแก่กรรม พม่านายทัพนายกองทั้งปวงทุก ๆ ค่ายมาพร้อมทำการปลงศพ เสร็จแล้วให้ก่อพระเจดีย์บรรจุอัฐิไว้ในค่ายนั้น แล้วจึงประชุมปฤกษากันซึ่งจะตั้งโบชุกแม่ทัพใหญ่ขึ้นแทน จะได้ว่ากล่าวบังคับบัญชานายทัพนายกองทั้งปวงสิทธิ์ขาดในการสงครามสืบไป แลนายทัพนายกองเห็นแก่งแย่งกันไป หาลงพร้อมกันไม่ บางพวกก็ว่า จะเอาเนเมียวมหาเสนาบดีเปนโบชุกแม่ทัพใหญ่ บางพวกก็ว่า จะเอาติงจาแมงข่องปลัดค่ายสีกุก บางพวกก็ว่า จะเอาปกันหวุ่นนายค่ายบางไทร หาต้องกันไม่ ภายหลังจึงปฤกษาพร้อมกันว่า เนเมียวมหาเสนาบดีนั้นมีสติปัญญาแลฝีมือเข้มแขงก็จริง แต่ทว่า มิใช่เชื้อชาติพม่าชาตรี ฝ่ายบิดาเปนพม่า