หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/335

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๙๘

ข้าศึกหาถูกต้องรี้พลผู้ใดไม่ พระยากำแพงเพ็ชรจึงขับพลทหารไล่รุกเข้าไป ให้ปีนขึ้นหักเอาค่ายได้ ไล่ตลุมบอนฟันแทงพวกพลชาวบ้าน ๆ กง ชาวบ้านกงก็ตื่นแตกแหกค่ายพ่ายหนีไป ได้ช้างพลายพังเจ็ดช้างกับเงินทองแลเสบียงอาหารเปนอันมาก ครั้นรุ่งขึ้นณวัด ค่ำ จึงยกพลทหารมาหยุดประทับตำบลหนองไม้ซุ้มตามทาง แล้วเดินทัพหยุดประทับร้อนแรมไปประมาณสองวัน ก็ถึงบ้านนาเริ่งแขวงเมืองนครนายก หยุดประทับอยู่คืนหนึ่ง แล้วยกไปแต่ที่นั้นอิกวันหนึ่ง จึงข้ามแม่น้ำไปฝ่ายฟากตระวันออก ถึงบ้านกบแจะด่านเมืองปราจิณบุรี ให้หยุดพักรี้พลหุงอาหารกิน เสร็จแล้วจึงเดินทัพข้ามท้องทุ่งไปจนเพลาเย็น แลกองพระเชียงเงินนั้นล้าอยู่มามิทัน พระยากำแพงเพ็ชรจึงขึ้นม้ากลับมากับหลวงพรหมเสนาเที่ยวตามหากองพระเชียงเงินก็มิได้พบ จึงให้รอทัพหยุดคอยท่าอยู่ที่นั้นถึงสามวัน จนถึงณวัน ๑๒ ฯ  ค่ำ จึงให้เดินทัพเข้าในป่า หยุดประทับที่หนองน้ำ หุงอาหารกินเสร็จแล้ว ต่อเพลาบ่าย กองพระเชียงเงินจึงยกตามมาถึง พระยากำแพงเพ็ชรโกรธว่า พระเชียงเงินแกล้งเชือนแชเสีย มิได้เจ็บร้อนด้วย จะคิดเอาใจออกหาก จึงให้ลงโทษโบยหลังสามสิบที แล้วจะให้ประหารชีวิตรเสีย นายทหารทั้งปวงพากันขอชีวิตรไว้

ขณะนั้น ฝ่ายแม่ทัพพม่าแจ้งข่าวว่า กองทัพซึ่งยกไปตามพระยากำแพงเพ็ชรนั้นเสียทีมาเปนหลายครั้ง จึงเกณฑ์ทัพเรือให้ยกหนุนเพิ่มเติมมาอิก แลทัพบกซึ่งพ่ายมาก่อนนั้นยกลงมาตั้งอยู่ณปากน้ำเจ้าโล้เมืองฉเชิงเทรา ทัพเรือไปถึงขึ้นบรรจบกันที่นั้น ครั้นถึงณวัน ๑๔ ฯ  ค่ำ กองทัพพม่ายกขึ้นมาแต่ปากน้ำเจ้าโล้ทั้งทัพบกทัพเรือมา