หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/337

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๐๐

พิจารณาชำระสืบสาวได้เนื้อเงินหนักยี่สิบชั่งเศษ ได้เนื้อทองหนักสิบสามตำลึง ส่งเข้ามาถวาย

ฝ่ายเนเมียวแม่ทัพค่ายโพธิ์สามต้นจึงให้พลพม่าเข้ามาจุดเพลิงเผาปราสาทที่พเนียดนั้นเสีย แล้วให้ตั้งค่ายลงที่พเนียด แลวัดพระเจดีย์แดง วัดสามพิหาร วัดมรฎป วัดกระโจม วัดนางชี วัดนางปลื้ม วัดศรีโพธิ์ ให้ปลูกหอรบเอาปืนใหญ่น้อยขึ้นยิงเข้ามาในกรุงทุก ๆ ค่าย

ฝ่ายข้างในกรุงฯ ก็เกิดโจรผู้ร้ายปล้นกันเนือง ๆ มิได้ขาด แลคนที่อดอาหารซูบผอมป่วยไข้ล้มตายนั้นก็มาก ที่หนีออกไปหาพม่านั้นก็เนือง ๆ

ฝ่ายข้าราชการเจ้าน่าที่ทั้งปวงจึงให้ชักเอาปืนใหญ่ขึ้นตั้งบนเชิงเทินยิงค่ายพม่าวัดการ้อง วัดนางปลื้ม แลให้ลากเอาปืนปราบหงษาออกไปตั้งที่ท่าทรายยิงค่ายวัดศรีโพธิ์ ยิงกระสุนแรกประจุดินน้อยต่ำไป ไปถูกตลิ่ง ครั้นประจุมากขึ้น กระสุนออกสูงข้ามเกินวัดศรีโพธิ์ไป แลพม่าก่อป้อมสูงขึ้นที่ค่ายวัดนางปลื้ม เอาปืนใหญ่ขึ้นตั้งยิงเข้ามาในกรุงถูกผู้คนเปนอันมาก

ขณะนั้น เสนาบดีปฤกษากันกราบทูลพระกรุณาว่า จะขอให้ออกไปเจรจาความเมืองกับพม่า ก็โปรดให้กระทำตามคำปฤกษา จึงแต่งให้พระยากระลาโหมกับพวกลูกขุนออกไปเจรจาความเมืองกับเนเมียวมหาเสนาบดีแม่ทัพณค่ายพเนียดว่า กรุงเทพมหานครศรีอยุทธยากับกรุงรัตนบุรอังวะก็ร่วมสโมสรสามัคคีรสเปนพระราชสัมพันธมิตรไมตรีสุวรรณปัถพีทองแผ่นเดียวกันมาแต่ก่อน มิได้เคยเปนปัจนึกแก่กัน บัดนี้ มีมูลเหตุแห่งเภทนาธิกรณ์เกิดร้าวราวเปนประการใด พระ