หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/339

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๐๒

ตั้งค่ายริมศาลาดินนอกกำแพง แล้วให้ขุดอุโมงค์รุ้งไปตามยาวใต้รากกำแพง ให้ขนเอาฟืนมาใส่ใต้ราก แล้วให้เกณฑ์พลทหารสี่กอง ๆ ละห้าร้อยให้ทำบันไดเปนอันมากสำหรับจะพาดกำแพงปีนปล้นเอาเมืองทั้งสี่ทิศ ตระเตรียมการทั้งปวงไว้ให้สรรพ กำหนดวันจะเข้าปล้นเอาเมืองวันใด จะให้สัญญาอาณัติด้วยเสียงปืนใหญ่เปนสำคัญ แล้วให้เอาบันไดพาดกำแพงขึ้นปล้นเอาเมืองให้พร้อมกันทุกด้านทุกกอง

ลุศักราช ๑๑๒๙ ปีกุญ นพศพ ถึงณวัด ค่ำ วันเนาสงกรานต์วันกลาง พม่าจุดเพลิงเผาฟืนเชื้อใต้รากกำแพงหัวรอริมป้อมมหาไชย แลพม่าค่ายวัดการ้อง วัดนางปลื้ม แลค่ายอื่น ๆ ทุกค่าย จุดปืนใหญ่ปืนป้อมแลหอรบยิงระดมเข้ามาในกรุงพร้อมกันตั้งแต่เพลาบ่ายสามโมงเศษจนพลบค่ำ พอกำแพงที่จุดเชื้อฟืนเผารากนั้นทรุดลงน่อยหนึ่ง ถึงเพลาสองทุ่ม จึงให้จุดปืนสัญญาขึ้น พลพม่าทุกด้านทุกกองซึ่งเตรียมไว้ก็เอาบันไดพาดที่กำแพงทรุดแลที่อื่น ๆ รอบพระนครพร้อมกัน ก็ปีนเข้ากรุงได้ในเพลานั้น แลจุดเพลิงขึ้นทุกตำบลเผาเย่าเรือนอาวาสแลพระราชวังทั้งปราสาทราชมณเฑียร แสงเพลิงสว่างดังกลางวัน แล้วเที่ยวไล่จับผู้คนค้นริบเอาทรัพย์เงินทองสิ่งของทั้งปวงต่าง ๆ แต่พระเจ้าแผ่นดินนั้นหนีออกจากเมืองลงเรือน้อยไปกับมหาดเล็กสองคน ไปเร้นซ่อนอยู่ในสุมทุมไม้ใกล้บ้านจิกข้างวัดสังควาด มหาดเล็กนั้นก็ทิ้งเสียหนีไปอื่น อดอาหารอยู่แต่พระองค์เดียว พม่าหาจับได้ไม่ จับได้แต่พระราชวงศานุวงษ์ทั้งปวงไปไว้ทุก ๆ ค่าย