หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/340

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๐๓

ฝ่ายเนเมียวแม่ทัพใหญ่จึงใช้ทหารไปประกาศแก่นายทัพทั้งปวงว่า ตัวเรากระทำการตีกรุงศรีอยุทธยาได้สำเร็จเพราะปัญญาแลฝีมือของเรา ซึ่งนายทัพทั้งหลายจะมาคอยชุบมือเอาส่วน กวาดเอาพระราชวงศานุวงษ์กระษัตริย์ไทยไปไว้ทุกค่ายทุกทัพเปนบำเหน็จมือของตัวนั้นไม่ชอบ ให้เร่งส่งมาให้เราทั้งสิ้น ถ้ามิส่งมา เราจะยกไปตีเอาขัติยราชวงษ์ทั้งปวงมาให้จงได้ นายทัพทั้งปวงก็กลัวอำนาจเนเมียวทั้งสิ้นด้วยกัน ต่าง ๆ ก็ส่งพระราชวงศานุวงษ์ซึ่งจับมาไว้ณค่ายนั้นให้ไปแก่เนเมียวแม่ทัพณค่ายโพธิ์สามต้นทั้งสิ้น มิได้มีผู้ใดขัดแขงเอาไว้ แลเนเมียวกับนายทัพนายกองทั้งปวงก็ให้ขนเอาปืนใหญ่น้อยในพระนคร ได้ปืนใหญ่น้อยพันสองร้อยเศษ ปืนนกสับเปนหลายหมื่น เอาลงบรรทุกเรือกับทั้งขุนนางแลครอบครัวราษฎรชายหญิงประมาณสามหมื่นเศษ ที่หนีไปซุ่มซ่อนอยู่ในป่าดงแลไปณหัวเมืองต่าง ๆ ก็เปนอันมาก แลได้พระราชทรัพย์ในท้องพระคลังแลสิ่งของทองเงินต่าง ๆ ก็มาก ที่ยักย้ายทรัพย์สิ่งสินลงเร้นซ่อนฝังไว้ พม่าก็เฆี่ยนตีแลย่างเร่งเอาทรัพย์ ให้นำขุดเอาสิ่งของเงินทองได้บ้างไม่ได้บ้าง แลฆ่าฟันตายเสียก็มากกว่ามาก แล้วพม่าเอาเพลิงสุมหลอมเอาทองคำซึ่งแผ่หุ้มองค์พระพุทธรูปยืนใหญ่ในพระวิหารหลวงวัดพระศรีสรรเพชดารามนั้น ขนเอาเนื้อทองคำไปทั้งสิ้น แต่จัดแจงเก็บรวบรวมเอาทรัพย์มาไว้ทุกทัพทุกค่ายช้าอยู่ถึงเก้าวันสิบวัน เนเมียวจึงตั้งพระนายกอง ภาษาพม่าเรียกว่า สุกี้ นั้นให้เปนผู้รักษากรุงเทพ ให้รวบรวมผู้คนซึ่งตกค้างอยู่บ้างนั้นตั้งอยู่ณค่ายโพธิ์สามต้น ให้มองญาพม่าคนหนึ่งอยู่เปนปลัดเมือง แล้วมอบเรือบรรทุกปืนใหญ่น้อยทั้งปวงให้แก่ปกันหวุ่น