หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/341

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๐๔

แม่ทัพทางใต้ ให้ยกทัพบกทัพเรือกลับไปทางเมืองกาญจนบุรีโดยทางมา แล้วเนเมียวให้กองทัพทางเหนือทั้งปวงคุมเอาสมเด็จพระอนุชาธิราชซึ่งทรงผนวชกับพระราชวงศานุวงษ์ทั้งนั้นไปทางเหนือ ยังเหลืออยู่บ้างแต่ที่ประชวรจึงมอบไว้แก่พระนายกอง ที่เล็ดลอดหนีไปได้นั้นก็มีบ้าง ซึ่งครอบครัวขุนนางแลราษฎรทั้งปวงนั้นก็แบ่งปันกันกวาดเอาไปทั้งสองทัพทางเหนือทางใต้ แลตัวเนเมียวนั้นก็ยกทัพบกทัพเรือกลับไปทางเมืองอุไทยธานีพร้อมกัน ขึ้นบกแล้วยกไปยังเมืองเมาะตมะ

ฝ่ายปกันหวุ่นแม่ทัพทางใต้ก็ยกทัพบกทัพเรือกับทั้งเรือบรรทุกปืนแลครอบครัวไทยแบ่งไปทางบกทางเรือบ้าง แลตัวปกันหวุ่นนั้นไปทางเรือ ครั้นลงมาถึงตลาดแก้ว เห็นว่า ปืนพระพิรุณนั้นใหญ่นัก เหลือกำลังที่จะเอาไปเมืองอังวะ จึงให้เข็นชักขึ้นจากเรือเอาขึ้นที่วัดเขมา ให้เอาดินดำประจุเต็มกระบอก จุดเพลิงระเบิดเสีย แล้วจึงตั้งนายทองอินคนหนึ่งเปนไทยเข้าเกลี้ยกล่อม ให้เรียกว่า เจ้าทองอิน เปนเจ้าเมืองธนบุรี ให้รวบรวมราษฎรซึ่งเหลือตกตั้งค้างอยู่นั้นอยู่รักษาเมืองธนตำบลบางกอก แล้วก็ยกทัพเรือออกไปทางเมืองกาญจนบุรี บรรจบกับกองทัพซึ่งยกไปทางเมืองสุพรรณบุรีนั้น แล้วก็ขึ้นบก เกณฑ์พลทหารให้ลากปืนใหญ่ขึ้นจากเรือที่ท่าดินแดง แล้วลากเข็นไปทางบก

อนึ่ง ปกันหวุ่นเอาเรือพระที่นั่งกิ่งไปลำหนึ่ง เอาขึ้นตะเฆ่ชักลากไปกับทั้งปืนใหญ่ด้วยกันจนตกถึงลำน้ำเมืองสมิ เอาปืนลงบรรทุกเรือใหญ่ออกปากน้ำเมืองเมาะตมะไปเข้าปากน้ำเมืองเสี่ยง ส่งขึ้น