หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/41

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

ลุศักราช ๙๙๔ ปีวอก จัตวาศก ทรงพระกรุณาสร้างพระมหาปราสาทองค์หนึ่ง สิบเอ็จเดือนเสร็จ ให้นามว่า ศิริยศโสธรมหาพิมานบรรยงก์ ในเพลากลางคืน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระสุบินนิมิตรว่า สมเด็จอมรินทราธิราชเจ้าเสด็จลงมานั่งแทบพระองค์ไสยาศน์ ตรัศบอกว่า ให้ตั้งจักรพยุห แล้วสมเด็จอมรินทราธิราชหายไป เพลาเช้า เสด็จออกขุนนาง ทรงพระกรุณาตรัศเล่าพระสุบินให้โหราพฤฒาจารย์ทั้งปวงฟัง พระมหาราชครูปโรหิตโหราพฤฒาจารย์ถวายพยากรณ์ทำนายว่า เพลาวานนี้ ทรงพระมหากรุณาให้ชื่อพระมหาปราสาทว่า ศิริยศโสธรมหาพิมานบรรยงก์ นั้น เห็นไม่ต้องนามสมเด็จอมรินทราธิราชซึ่งเสด็จลงมาบอกให้ตั้งจักรพยุห อันจักรพยุหนี้เปนที่ตั้งใหญ่ในมหาพิไชยสงคราม อาจจะข่มเสียได้ซึ่งปัจจามิตรทั้งหลาย ขอพระราชทานเอานามจักรอันนี้ให้ชื่อพระมหาปราสาทว่า จักรวรรดิไพชยนต์มหาปราสาท ตามลักษณเทพสังหรณ์ในพระสุบินนิมิตรอันประเสริฐ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัศได้ทรงฟังก็มีพระไทยปรีดายิ่งนัก จึงให้แปลงชื่อพระมหาปราสาทตามคำพระมหาราชครูทั้งปวง.

ในปีนั้น พระราชเทวีประสูตรพระราชบุตรองค์หนึ่ง พระญาติพระวงษ์เหฦๅบเห็นเปน ๔ กรแล้วปรกติเปน ๒ กร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัศแจ้งความมหัศจรรย์ ก็พระราชทานพระนามว่า พระนารายน์ราชกุมาร ในปีนั้น ทรงพระกรุณาให้สร้างพระที่นั่งไอสวรรย์ทิพอาศน์เกาะบางนางอิน มีพระราชนิเวศปราการประกอบพฤกษาชาติร่มรื่นเปนที่สำราญพระราชหฤไทยประพาศราชตระกูลสุริวงษ์อนงคนารีทั้งปวง แล้วสร้างพระอารามเคียงพระราชนิเวศถวายเปนสงฆทาน มีพระเจดีย์วิหารเปน