หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/47

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๐

อยู่หัวได้ยินเสียงอสนีสนั่นตรงพระราชวังก็ตกพระไทย ตรัศให้ข้าหลวงเข้าไปดู ข้าหลวงเข้าไปกลับออกมากราบทูลตามซึ่งมีเหตุนั้นให้ทราบทุกประการ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทราบดังนั้น เร่งให้หมอเข้าไปแก้คนทั้งปวง ครั้นประฏิบัติพระสงฆ์แล้ว เสด็จกลับเข้าพระราชวัง ทอดพระเนตรเห็นรอยอสนีประจักษ์ ทรงพระกรุณาตรัศว่า ราชบุตรเรานี้มีบุญอยู่ แล้วให้สมโภชสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระนารายน์ราชกุมารสามวัน.

ลุศักราช ๙๙๙ ปีฉลู นพศก พระอาทิตยวงษ์คบคิดกับขุนนางซึ่งเปนโทษถอดเสียจากราชการแต่ก่อนนั้น ครั้นได้พวกสองร้อยเศษ เพลาย่ำฆ้องรุ่ง เปิดประตู ก็กรูกันเข้าไปในพระราชวังถึงน่าสิงห์สรรเพชญ์ปราสาท โห่ร้องอื้ออึง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ทันรู้พระองค์ ลงเรือพระที่นั่งลอยอยู่น่าขนานประจำท่า ตรัศให้ตำรวจไปเร่งขุนนางเข้าไปจับเหล่าร้าย เสนาบดีทั้งปวงรู้ก็พากันคุมไพร่เข้าไปไล่ตีพวกพระอาทิตยวงษ์แตกกระจาย จับเอาตัวพระอาทิตยวงษ์ได้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นพระราชวัง สั่งให้พิจารณาเอาพวกขบถซึ่งคบคิดกับพระอาทิตยวงษ์ได้สิ้น ก็สั่งให้เอาไปประหารชีวิตรเสียณแตลงแกง รุ่งขึ้นวันหนึ่ง นายช้างต้นโคบุตรเล่นหมากรุกอยู่ในโรงช้าง อสนีลงต้องนายช้างตาย แต่ช้างต้นโคบุตรจะได้เปนอันตรายหามิได้.

ลุศักราช ๑๐๐๐ ปีขาล สำเรทธิศก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัศปฤกษาแก่เสนาพฤฒามาตยราชปโรหิตทั้งหลายว่า บัดนี้ จุลศักราชถ้วน ๑๐๐๐ ปี กาลกระลียุคจะบังเกิดไปภายน่าทั่วประเทศธานีใหญ่น้อยเปนอันมาก เราคิดว่า จะเสี่ยงบารมีลบศักราช บัดนี้ ขาลสำเรทธิศก จะเอากุญเปนสำเรทธิศก ขึ้นดิถีวารจันทรเถลิงศก ให้กรุงประเทศ