หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/51

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๔

ในปีนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้มีพระราชสาสนไปกรุงรัตนบุรอังวะ ในพระราชสาสนนั้นว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงเทพมหานครศรีอยุทธยาอันเสด็จปราบดาภิเศกผ่านพิภพไอสุริยสวรรยาธิปัติถวัลยราชประเวณี มีพระราชหฤไทยหน่วงน้าวพระบรมโพธิญาณ บำเพ็ญทานการกุศลเปนอจลศรัทธาแท้มิได้หวาดไหว ตั้งพระไทยที่จะรื้อสัตวให้พ้นห้วงมหรรณพนทีธาร กล่าวคือ สังสารวัฏ บัดนี้ เห็นว่า กระลียุคจะถึงแก่สัตวทั้งหลายทั่วประเทศธานีใหญ่น้อยทั้งปวง เพราะจุลศักราชถ้วน ๑๐๐๐ ปีขาล สำเรทธิศก จึงอุสาหกระทำสัตยาธิษฐาน แล้วตั้งพระราชพิธีลบศักราช เอากุญเปนสำเรทธิศก ขึ้นดิถีวารจันทรเถลิงศกเปนทวาปรายุค เพื่อจะให้กรุงประเทศธานีใหญ่น้อยทั้งปวงเปนบรมศุขสมบูรณทั่วกัน ให้พระเจ้ากรุงอังวะแลเมืองขอบขัณฑเสมาทั้งปวงใช้ศักราชตามพระนครศรีอยุทธยาลบนี้เถิด ส่งพระราชสาสนไปเมืองตองอูให้ส่งไปกรุงอังวะ.

ครั้นศักราช ๑๐๐๒ ปีมโรง โทศก พระเจ้ากรุงอังวะแต่งทูตานุทูตจำทูลพระราชสาสนมา แลในพระราชสาสนนั้นว่า พระเจ้ากรุงรัตนบุรอังวะอันตั้งอยู่ในธรรมสาสตรราชสาตรแลมีบ่อแก้วเปนพื้นเมือง ขอจำเริญทางพระราชไมตรีมายังสมเด็จพระเจ้ากรุงทวารวดีศรรอยุทธยา ด้วยแจ้งกฤติศัพท์ไปว่า สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมนั้นทิวงคตแล้ว พระองค์เสด็จขึ้นผ่านพิภพตามราชประเพณี มีพระกฤติยศกฤติคุณใหญ่ยิ่งกว่ากระษัตราธิราชแต่ก่อน กอปรด้วยปราสาททองแลโคบุตรกุญชรชาติตัวประเสริฐเปนศรีเมืองนั้น ฝ่ายกรุงรัตนบุรอังวะมีความยินดีนัก บัดนี้ ให้ทูตานุทูตมาถามข่าวพระศพ