หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/64

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๗

วันคืนแก่กันว่าจะยกเข้ามา แลข้าหลวงนั้นก็กลับคืนเข้ามากราบทูลพระกรุณาตามเนื้อความนั้น ครั้นได้ทรงทราบเนื้อความทุกประการ จึงมีพระราชโองการตรัศสั่งแก่มหาดเล็กว่า ให้เอาเงินหลวงร้อยชั่งไปให้แก่พระไตรภูวนาทิตยวงษ์ว่า พระราชทานให้ออกมาให้แจกแก่ข้าไทยทั้งปวงนั้นจงทั่วกัน อยู่มา พระยาพิไชยสงคราม พระมหามนตรี ทูลแด่สมเด็จพระรามราชาธิราชว่า พระยาพัทลุงแลพระศรีภูริปรีชาซึ่งทรงพระกรุณาตรัศสั่งว่า จะให้ไปกินเมืองนั้น ก็มิไป แลคนทั้งสองนี้ครั้นกลางคืนย่อมลงไปวังหลังมิได้ขาด แลคิดอ่านด้วยพระไตรภูวนาทิตยวงษ์จะคิดร้ายแก่แผ่นดิน จึงสมเด็จพระรามราชาธิราชก็เอาเนื้อคดีนั้นกราบทูลพระกรุณา จึงมีพระราชโองการตรัศว่า จะให้เสาะสางฟังเนื้อความนี้ดูจงมั่นแม่นก่อน.

อยู่มาวันหนึ่ง นายพุก เดิมเปนมหาดเล็ก เปนโทษครั้งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงปราสาททองให้ศักเปนหมู่เรือพระที่นั่ง แลนายพุกมาบอกแก่พระยาจักรี พระยาพระคลัง ว่า พระยาพัทลุง พระศรีภูริปรีชา แลหมื่นภักดีศวร ย่อมลงไปหาพระไตรภูวนาทิตยวงษ์ณวังหลัง คิดอ่านซ่องสุมไพร่พลจะทำร้ายแก่แผ่นดิน พระยาจักรีแลพระยาพระคลังบอกแก่พระยาพิชิตภักดี ๆ ก็กราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทราบ จึงมีพระราชโองการตรัศสั่งพระยาพระคลังว่า หมื่นภักดีศวรซึ่งสั่งให้ไปรั้งเมืองแลมิได้ไปนั้น เห็นว่า จะคบกันคิดกระทำร้าย ให้ลงโทษตัดศีศะเสียบไว้น่าศาลาลูกขุนณพระราชวังบวรสถานมงคล ส่วนพระไตรภูวนาทิตยวงษ์ ครั้นเข้ามาเฝ้าณบนที่พระราชวังบวรสถานมงคลไซ้ ย่อมหาพระสิทธิไชย แลท้าวราช นายพิม มากระซิบ