หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/70

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๓

ลอองธุลีพระบาทแล้ว จึงมีพระราชโองการตรัศถามว่า ที่จะลงไปนั้น จะไปโดยทางชลมารคดีฤๅ ๆ จะไปโดยสถลมารคดี แลจะไปโดยทางสถลมารคก็ได้ ด้วยช้างม้ารี้พลพร้อมกันอยู่ พระยาจักรีกราบทูลว่า สถลมารคนั้นลุ่มโคลนนัก ขอพระราชทานเสด็จโดยทางชลมารค ก็มีพระราชโองการตรัศว่า ชอบแล้ว พระยาจักรีจึงกราบทูลว่า มีโจทย์ว่า มีผู้เอาพระแสงไปฝังไว้ ขอพระราชทานขุดเอา พระราชโองการตรัศว่า เอาเถิด พระยาจักรีแลข้าหลวงผู้ได้เปนพนักงานกุมพระองค์ไตรภูวนาทิตยวงษ์นั้นก็ช่วยกันกุมพระไตรภูวนาทิตยวงษ์ พระสุรินทรภักดีแลข้าหลวงซึ่งได้เปนพนักงานกุมพระอินทราชานั้นก็ช่วยกันกุมพระอินทราชา ฝ่ายพระองค์ทอง ผู้เปนพระอนุชา ก็เข้าช่วยชิงพระไตรภูวนาทิตยวงษ์แลทุบตีข้าหลวงผู้กุมพระไตรภูวนาทิตยวงษ์ ข้าหลวงก็กุมเอาพระองค์ทองนั้นด้วย แล้วก็เอาพระไตรภูวนาทิตยวงษ์แลพระองค์ทองนั้นสำเร็จโทษในที่นั้น แต่พระอินทรราชาธิราชนั้น ทรงพระกรุณายกโทษไว้ เพราะว่ามิเข้าด้วยพระไตรภูวนาทิตยวงษ์ จึงพระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็เสด็จลงเรือพระที่นั่ง เอาพระอินทราชาลงเรือพระที่นั่งมาด้วย แลเรือเสนาบดีมุขมนตรีทั้งปวงก็เข้าขนวนโดยเสด็จซ้ายขวาน่าหลัง เสด็จพระราชดำเนินเข้ามายังพระราชวังบวรสถานมงคล จึงมีพระราชโองการตรัศสั่งให้ตำรวจนอกตำรวจในไปเอาข้าพระไตรภูวนาทิตยวงษ์ซึ่งร่วมคิดด้วยพระไตรภูวนาทิตยวงษ์นั้นมาถาม เมื่อถามหลวงกระลาโหม ข้าหลวงเดิมพระไตรภูวนาทิตยวงษ์ ให้การว่า พระศรีภูริปรีชา พระยาพัทลุง หลวงจ่าหลวง ขุนศรีเทพบาล หมื่นทิณ นายบุญ