หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/77

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๐

สามศอกมีเศษ หูหางสรรพรูปงาม แลคล้องในวัน ค่ำ จึงมีพระราชโองการตรัศสั่งให้พระยาตนาว แลพฤฒิบาศ แลขุนช้างชาวช้างทั้งหลาย ไปรับเสวตรคเชนทร ก็เสด็จพระราชดำเนินแต่เมืองนครสวรรค์มายังกรุงเทพมหานครบวรทวาราวดีศรีอยุทธยา แลรับเสวตรคเชนทรมาถึงกรุงเทพมหานครณวัน ค่ำ แลให้แห่ประดับประดาด้วยการมหรศพทั้งปวงด้วยมาเรือขนาน รับขึ้นไว้ณโรงใกล้พระราชวัง แลทรงพระกรุณาตรัศประสาทนามกรชื่อ พระอินทรไอยราวรรณวิสุทธราชกริณี แลให้พระมหาราชครู พระครูพฤฒิบาศ แลท้าวพระยาสามนตราชเสนาบดีมนตรีมุขลูกขุน ทำขวัญคำรบสามวัน แล้วแต่งเครื่องราชาภรณ์บวรอลงกฎรจนาด้วยกนกรัตนาไมยพระราชทานให้ประดับสำหรับเสวตรคเชนทรนั้น แลให้พระศรีสิทธิกรรมอยู่บริบาลนางพระยาช้างเผือกนั้น ส่วนนายอานซุยผู้บุตรขุนศิขรจารินซึ่งคล้องถูกนั้น พระราชทานให้ชื่อเปน ขุนคเชนทรไอยราวิสุทธิราชกริณี แลพระราชทานเจียดเงินเหลี่ยมเกลี้ยงเครื่องทองสำรับ แลเงินตราสองชั่ง ผ้าลายสรรพางค์ไม้ลายปูน แลเสื้อแพรสำรับ แลเม้ยเหง ภรรยาแห่งนายอานซุยนั้น พระราชทานให้ครอบเงินกลีบบัวหนักสิบตำลึง เครื่องสำรับ แลเงินตราชั่งหนึ่ง ผ้าท้องขาวเชิงชายเขียนสำรับหนึ่ง ขุนศิขรจารินนั้น พระราชทานให้เปนหลวงเสวตรกเรนทร แลพระราชทานเจียดเงินเหลี่ยมทองจำหลักหูช้าง แลเครื่องทองสำหรับเจียด เงินตราสองชั่ง ผ้าลายสรรพางค์ไม้ลายปูน แลเสื้อแพรพรรณสำรับ แลนายอานซุยผู้คล้องต้องนั้นว่า ช้างนี้ตาวิการ จะปล่อยเสีย จึงขุนศิขรจารินผู้ช่วยปรวดนั้นรู้ว่า ช้างเผือก แลมิให้ปล่อย