หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/83

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๖

ครั้นถึงวัน ค่ำ ก็เสด็จด้วยเรือพระที่นั่งสมรรถไชยไปโดยทางชลมารค สิบสี่เวนก็ถึงเมืองพระพิศณุโลก แลตั้งตำหนักตำบลช่องตา แลถวายสักการบูชาพระชินราช พระชินสีห์ แลถวายพุทธสมโภชด้วยการมหรศพสามวัน ฝ่ายพระยาท้ายน้ำ แลพระยารามเดโช พระยาพิจิตร บอกหนังสือมาถึงสมุหนายกให้กราบทูลพระกรุณาว่า ได้ยกทัพไปถึงตำบลฆ้องไชย แสนสุรินทรไมตรีผู้นำทางนั้นหนี จึงมีพระราชโองการตรัศสั่งให้มีตราตอบไปถึงนายทัพนายกองให้ติดตามเอาตัวแสนสุรินทรไมตรีนั้นจงได้ อนึ่ง พระยาแสนหลวงณเมืองเชียงใหม่แต่งหนังสือให้แสนสุรินทรไมตรีถือมาฬ่อลวงแล้วหลีกหนีนั้น เมืองนครแลเมืองเถินไซ้ขึ้นแก่เมืองเชียงใหม่ จะไว้เมืองนครแลเมืองเถินนั้นมิได้ จึงตรัศให้พระยากระลาโหมเปนนายกอง หลวงธรรมไตรโลกเปนยุกรบัตร พระยาเสนาภิมุขเปนเกียกกาย สมิงพระรามเปนกองน่า พระมฤทเปนกองหลัง เมืองนนท์ราชธานีเปนปีกขวา พระวิจารณ์มนตรีเปนปีกซ้าย แลกองแล่นพล ๕๐๐๐ เศษ ปืนใหญ่ ปืนนกสับ ช้างเครื่อง แลม้าสรรพด้วยเครื่องสาตรวุธ เปนทัพหนึ่ง แลให้พระยานครราชสิมาเปนนายกอง เมืองอินทบุรีเปนยุกรบัตร พระสุพรรณบุรีเปนเกียกกาย พระกุยบุรีเปนกองน่า พระกลางบรรพตเปนกองหลัง พระพลเปนปีกขวา พระมหาดไทยเปนปีกซ้าย พล ๒๐๐๐ ปืนใหญ่ ปืนนกสับ ช้างเครื่อง ๖ ช้าง ม้า ๘ ม้า เปนทัพหนึ่ง ให้พระยายมราชเปนนายกอง หลวงรามสรเดชเปนยุกรบัตร พระไชยนาทเปนเกียกกาย พระอนันตกะยูสอเปนกองน่า พระศรีมหาราชาเปนปีกขวา ขุนโจมจัตุรงค์เปนปีกซ้าย พลพันหนึ่ง ปืนใหญ่ ปืน