หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/85

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๘

ด้วยเครื่องสรรพยุทธไปเอาเมืองลอง ก็ได้แสนเมืองลองแลสกรรจ์อพยพคุมลงมาถวายยังทัพหลวงณเมืองพระพิศณุโลก ทรงพระกรุณาตรัศให้ขุนราชเสนา หมื่นอินทศรแม่น ไปฟังข่าวพระยานครราชสิมา แลพระราชสุภาวดี พระสุพรรณบุรี ซึ่งยกทัพไปเอาเมืองตังนั้น แลได้สังฆราชาเขมราช แลเมืองตัง หมื่นจิตร กับไพร่หกสิบแปดคน มายังทัพหลวงณเมืองพิศณุโลก ถึงณวันจันทร์ เดือน ๓ แรม ๒ ค่ำ พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระเจ้าช้างเผือกก็เสด็จพระราชดำเนินกรีธาพลแต่เมืองพระพิศณุโลกไปยังเมืองศุโขไทย แลเสด็จอยู่พระตำหนักตำบลธานี จึงมีพระราชโองการตรัศสั่งให้พระยาเกียรติ์เปนนายทัพน่า เชียรโยธาเปนปีกขวา ขุนรามโยธาเปนปีกซ้าย สมิงสามแหลกเปนเกียกกาย พลรบ ๕๐๐ สรรพด้วยเครื่องสรรพยุทธทัพหนึ่ง แลให้พระยากำแพงเพ็ชรเปนนายกองทัพใหญ่ ขุนเมืองเปนปีกขวา บุญราชาเปนปีกซ้าย หลวงอินทแสนแสงเปนเกียกกาย แลช้างม้าไพร่พลพันหนึ่งสรรพด้วยเครื่องสาตราวุธทั้งปวง แลให้ทัพทั้งสองทัพยกไปเมืองรามตี แลผู้อยู่รักษาเมืองนั้นชื่อ โลกกำเกียว ครั้นรู้ก็พาสกรรจ์อพยพหนีไปจากเมืองรามตี จึงขุน แลสมิง แลจ่าทั้งปวง ๑๕ คนนี้เปนนายหมวด แลลูกหลานนายหมวด ๑๕ คน ออกมาหาพระยากำแพงเพ็ชรว่า จะขอเปนข้าสู่พระราชสมภารแลกินน้ำสบถ แล้วก็ให้ผมไว้เปนสำคัญตามประเพณีละว้าซึ่งสัญญานั้น แล้วถวายอพยพทั้งปวง ๑๔๙๓ คน ขอเปนข้าขัณฑสิมากรุงเทพมหานครศรีอยุทธยา จึงพระยากำแพงเพ็ชรก็ให้ผ้าเสื้อเปนรางวัลแก่นายหมวด ลูกหลานนายหมวด ผู้มีความสวามิภักดินั้นถ้วนทุกคน แล้วพระยากำแพงเพ็ชรบอก