หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/94

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๕๗

เปนคน ๕๐๐๐๐ เศษ ให้ยกไปตีทัพพม่าซึ่งยกมาติดตามรามัญนั้น ครั้นถึงศุภวารดฤถีพิไชยฤกษ์ เจ้าพระยาโกษาแลนายทัพนายกองทั้งปวงก็กราบถวายบังคมลายกทัพบกทัพเรือแยกกันไปพร้อมทัพตำบลปากแพรก แล้วยกแยกกันไปตั้งรับตำบลท่ากระดานแลด่านกรามช้าง แม่ทัพใหญ่ตั้งตำบลปากน้ำลำกระเพิ่นใกล้เมืองกาญจนบุรี แลนายทัพนายกองทั้งปวงเร่งให้ตั้งค่ายคูประตูหอรบแลขุดสนามเพลาะปักขวากหนามตามทำนองศึก แล้วแต่งกองแล่นกองร้อยไปคอยเอาเหตุ แลกองเสือป่าแมวเซาคนเร็วม้าใช้เล็ดลอดไปซ่อนซุ่มสืบกองทัพข้าศึกตามกระบวนพิไชยสงครามพร้อมเสร็จทุกประการ.

ฝ่ายกองทัพพม่ารามัญยกล่วงด่านพระเจดีย์ ๓ องค์เข้ามาในแดน ทัพน่ายกเข้ามาตั้งค่ายณเมืองไชยโยคเปนหลายค่าย แม่ทัพใหญ่ตั้งค่ายตำบลท่าดินแดง แล้วให้กองทัพน่าเร่งยกเข้ามาตีกองทัพไทยซึ่งออกมาตั้งรับอยู่นั้น แลกองตระเวนทั้งสองฝ่ายพบกันเข้า ได้รบพุ่งกันบ้าง ส่วนสมเด็จพระนารายน์เปนเจ้าจึงมีพระราชโองการตรัศสั่งสมุหนายกให้มีท้องตราตอบขึ้นไปถึงกองทัพฝ่ายเหนือว่า เมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูนไชย ส่งหนังสืออ่อนน้อมรับผิดสารภาพโทษมาแก่เรา แล้วบอกเหตุการณ์มาโดยจริง อย่าให้กองทัพตีเอาเมืองทั้งสองก่อนเลย ให้นายทัพนายกองทั้งสองทัพยกกลับมาถึงแขวงเมืองนครสวรรค์ แล้วเดินทัพไปทางเมืองอุไทยธานี ตัดไปทางเมืองศรีสวัสดิ์ แลเมืองสังขล่า เมืองท้องผาภูม แล้วรีบไปโอบหลังล้อมค่ายพม่าข้าศึกซึ่งมาตั้งอยู่ณเมืองไชยโยค เร่งตีให้แตกฉานเสียโดยเร็วจงได้ ฝ่ายท้าวพระยานายทัพฝ่ายเหนือทั้งสองทัพได้แจ้งในท้องตราโปรดขึ้นมาดังนั้น ก็เลิกกองทัพกลับ