หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/95

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๕๘

มาตามรับสั่ง แล้วเดินทัพไปโดยพระราชกำหนด เร่งกองน่ารีบยกไปโอบหลังทัพพม่าซึ่งมาตั้งอยู่ณเมืองไชยโยค แล้วแต่งกองโจรให้ไปซุ่มสกัดอยู่ที่ทางช่องแคบ ให้ม้าเร็วถือหนังสือบอกกำหนดวันเวลาสัญญาอาณัติไปถึงกองทัพฝ่ายใต้ให้ยกเข้าระดมตีทัพพม่าข้าศึกให้พร้อมกัน ครั้นถึงวันกำหนด นายทัพนายกองทั้งฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ก็ยกพลทหารเข้าระดมตีกระหนาบล้อมค่ายพม่าซึ่งมาตั้งอยู่ณเมืองไชยโยคทุก ๆ ค่ายพร้อมกัน ได้รบพุ่งกันเปนสามารถ ทัพพม่าตั้งรับต่อรบอยู่ได้ ๓ วัน รี้พลต้องสาตราวุธปืนใหญ่ปืนน้อยล้มตายแลบาดเจ็บลำบากเปนอันมาก เหลือกำลัง ต้านทานมิได้ ก็แตกฉานแหกค่ายหนีไปทุก ๆ ค่ายในกลางคืนเพลาประมาณยามเศษ ทัพไทยเข้าค่ายได้ ไล่ฆ่าพลพม่ารามัญล้มตายในค่ายนอกค่ายกลาดเกลื่อนไป แลจับได้เปนนั้นก็มาก แล้วไล่ติดตามไป พลพม่ารามัญแตกกระจัดพลัดพรายไปไม่เปนหมวดเปนกอง ต่างคนเอาตัวรอดรีบหนีไปทางช่องแคบ กองโจรทัพไทยซึ่งไปตั้งซุ่มอยู่นั้นก็ออกตีกระหนาบก้าวสกัดฆ่าฟันพม่ามอญล้มตายมากกว่าพัน จับได้เปนอิกก็มาก แล้วไล่ติดตามไปตีค่ายใหญ่แม่ทัพซึ่งตั้งอยู่ณท่าดินแดง ทัพพม่ารับอยู่ประมาณครู่หนึ่งก็แตกฉานทิ้งค่ายพ่ายหนี แลมังสุรราชาซึ่งเปนโบชุกแม่ทัพนั้นต้องปืนนกสับป่วยไป ทัพไทยได้ไชยชำนะ เก็บได้สาตราวุธแลได้ช้างม้าพม่ามอญเชลยเปนอันมาก เจ้าพระยาโกษาแม่ทัพใหญ่จึงเกณฑ์ให้กองอาสาหกเหล่า แลกองอาสาจาม กับทัพหัวเมือง พล ๑๐๐๐๐ เศษ ให้ยกติดตามข้าศึกไปจนถึงด่านพระเจดีย์ ๓ องค์ แล้วมีหนังสือบอกซึ่งมีไชยแก่พม่าปัจจามิตรเข้ามากราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงทราบ พระบาทบรมบพิตรพระพุทธเจ้า