ข่าวอสัญกรรมนายควง อภัยวงศ์
หน้านี้ขาดแหล่งที่มาของเนื้อหา ถ้าเป็นไปได้ ควรเป็นเอกสารต้นฉบับที่สแกนมาอัปโหลดไว้ที่วิกิมีเดียคอมมอนส์แล้วจัดทำแบบพิสูจน์อักษร หรือถ้าไม่สามารถอัปโหลดต้นฉบับเช่นนั้นได้ อย่างน้อยก็ควรระบุแหล่งที่มาที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงของเนื้อหาได้ |
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ลงข่าวเกี่ยวกับการถึงแก่อสัญกรรมของ พันตรีควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี ๔ สมัย ไว้ ในฉบับวันอาทิตย์ที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๑
อสัญกรรมนายกรัฐมนตรีควง อภัยวงศ์
นายกรัฐมนตรีของไทยท่านหนึ่ง ซึ่งได้อุทิศเวลาเกือบตลอดชีวิตเพื่อจรรโลงไว้ซึ่งระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขคือพันตรีควง อภัยวงศ์ ซึ่งได้ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ ๑๕ เดือนนี้ นับได้ว่าเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญทางการเมืองและรัฐบุรุษท่านหนึ่ง ซึ่งได้มีส่วนรับผิดชอบต่อการบริหารประเทศชาติมาตั้งแต่สมัยก่อนสงคราม ระหว่างสงครามและแม้แต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่แล้ว โดยเฉพาะครั้งหลังสุด อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในหลายรัฐบาลท่านนี้ยังได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เข้าสมัครแข่งขันเลือกตั้งเมื่อปี ๒๕๐๐ และชนะการเลือกตั้งในที่สุด
ชีวิตการเมืองของพันตรีควง อภัยวงศ์ เริ่มต้นเมื่อ ๓๖ ปีมาแล้ว ที่ได้ร่วมปฏิวัตินำเอาระบอบประชาธิปไตยมาใช้เมื่อปี ๒๔๗๕ จากนั้นมา พันตรีควง อภัยวงศ์ก็ได้เข้าร่วมรัฐบาลเกือบจะทุกรัฐบาล จนในที่สุดเข้ารับตำแหน่งสูงสุดคือดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างสงครามโลก ซึ่งเป็นหัวต่อหัวเลี้ยวสำคัญของประเทศชาติเมื่อวิถีทางการเมืองได้เปลี่ยนไป อดีตนายกรัฐมนตรีท่านนี้ได้ลาออก แล้วกลายเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านคนสำคัญในรัฐสภาตลอดมา โดยเฉพาะภาระหน้าที่ของฝ่ายค้านคนสำคัญในรัฐสภาตลอดมา โดยเฉพาะภาระหน้าที่ของฝ่ายค้านในรัฐสภาเยี่ยงประเทศประชาธิปไตยทั้งหลาย ท่านได้แสดงให้เห็นถึงวิถีทางการเมืองที่ต้องเล่นการเมืองด้วยความสุจริตใจ และรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ดังนั้นนอกจากเป็นการสร้างแบบอย่างที่ดีของระบอบประชาธิปไตยด้วยแล้ว ในทางส่วนตัวไม่เคยมีข้อด่างพร้อยใดที่จะถูกโจมตีได้ เมื่อปรากฏว่าแนวนโยบายของรัฐบาลที่ท่านรับผิดชอบอยู่ได้ถูกคัดค้าน และแพ้คะแนนเสียงจากสมาชิกรัฐสภาไปก็ลาออกตามมารยาททางการเมือง
พันตรีควง อภัยวงศ์ มีแนวความคิดแบบเสรีนิยม ก่อนหน้าที่จะถึงแก่อสัญกรรมไม่นานนัก ท่านยังให้ความคิดเห็นต่อภาวะบ้านเมืองของไทยเราที่ถูกคุกคามจากภัยคอมมิวนิสต์ เคยเตือนถึงความรับผิดชอบอย่างสูงต่อรัฐบาล และเจ้าหน้าที่บริหารโดยเฉพาะท่านได้เคยแสดงความเห็นต่อสาธารณะว่าเมืองไทยจะไปรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายที่จะสมัครสมานสามัคคีต่อกัน รวมทั้งการปราบปรามคอรัปชั่นให้หมดไป นอกจากนี้ยังคิดหวังว่าจะได้กลับมารับใช้ประเทศชาติในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งในบั้นปลายของชีวิต หากได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้น แต่ท่านได้ถึงอสัญกรรมเสียก่อนเมื่อตอนเช้าของวันที่ ๑๕ นี้
การสูญเสียของพันตรีควง อภัยวงศ์ อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ที่มีส่วนสร้างความเจริญให้กับประเทศชาติและเป็นรัฐบุรุษคนสำคัญคนหนึ่งของไทยเราครั้งนี้ จึงนับว่าเป็นการสูญเสียนำความเศร้าสลดมาสู่ชาวไทยอีกครั้งหนึ่งเช่นเดียวกับรัฐบุรุษที่ประกอบคุณงามความดีบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติมาแล้วในอดีต