คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขแดงที่ อ. ๔๑๑/๒๕๕๒
งานนี้ยังไม่เสร็จ ถ้าต้องการช่วยเหลือ โปรดดูหน้าช่วยเหลือ หรือทิ้งความเห็นไว้ที่หน้าพูดคุย |
(อุทธรณ์)
คดีหมายเลขดำที่ อ. ๙๒๐/๒๕๕๐ คดีหมายเลขแดงที่ อ. ๔๑๑/๒๕๕๒ |
นายพิชัย สุวรรณสุวิชากร | ผู้ฟ้องคดี | ||
ระหว่าง | |||
นางปานทอง เจริญอำนวยโชค | ผู้ร้องสอด | ||
ผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ | ผู้ถูกฟ้อง |
เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกําหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร (อุทธรณ์คําพิพากษา)
ผู้ฟ้องคดียื่นอุทธรณ์คําพิพากษา ในคดีหมายเลขดําที่ ๑๒๑/๒๕๔๙ หมายเลขแดงที่ ๑๗๖๒/๒๕๕๐ ของศาลปกครองชั้นต้น (ศาลปกครองกลาง) คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมคําฟองวา ผูฟองคดีอาศัยอยูบานเลขที่ ๓๒๖/๖๒ ซอยประชาอุทิศ ๘๗ ถนนประชาอุทิศ แขวงทุงครุ กรุงเทพมหานคร ไดรับความเดือดร้อนรําคาญจากการเลี้ยงแมวของผูรองสอดประมาณ ๓ ตัว ถึง ๔ ตัว ซึ่งอยูบานเลขที่ ๓๒๖/๑๓ ซอยเดียวกัน โดยปลอยปละละเลยใหแมวออกมาอยูตามทางสาธารณะ ซึ่งแมวบางตัวไดเขามากินอาหารและขับถ่ายของเสียสงกลิ่นเหม็นในบานของผูฟองคดีอันเปนการรบกวนความเปนอยูตามปกติสุขของผูฟองคดีและครอบครัว ผูฟองคดีไดรองเรียนตอผูวาราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกรุงเทพมหานคร และรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับกรณีดังกลาว และไดรองเรียนตอผูถูกฟองคดีเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๘ แตจนขณะนี้ ก็ยังมิไดมีการดําเนินการแกไขเหตุเดือดรอนรําคาญแตอยางใด ตอมา เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๔๙ ผูฟองคดีไดรับหนังสือแจงเกี่ยวกับกรณีที่ไดรองเรียน ซึ่งสรุปสาระสําคัญไดวา ปจจุบัน นางสาวฝนจิต เอี่ยมสกุลยง ไมไดทําการเลี้ยงแมว และเหตุรองเรียนไมเขาขายเหตุเดือดรอนรําคาญตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ผูรองสอดไดเลี้ยงแมว ๓ ตัว ถึง ๔ ตัว ในอาคาร แตไดควบคุมอยูในอาคารของผูรองสอดโดยไมไดปลอยปละละเลยแตอยางใด ผูฟองคดีเห็นวา หนังสือชี้แจงดังกลาวขัดแยงจากขอเท็จจริงเปนอยางยิ่ง และกรณีเปนการละเลยตอหนาที่ของเจาพนักงานทองถิ่นตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕
ขอใหศาลมีคําพิพากษาหรือคําสั่งใหผูถูกฟองคดีดําเนินการตามอํานาจหนาที่กับผูรองสอด โดยมิใหผูร้องสอดปลอยแมวออกมากอความเดือดรอนรําคาญแกผูฟองคดี
ผูรองสอดทําคําชี้แจงวา ผูรองสอดไดเลี้ยงแมวจํานวน ๓ ตัว แตอาจมีแมวซึ่งไมมีเจาของมากินอาหารดวยอีก ๑ ตัว ถึง ๒ ตัว การเลี้ยงแมวของผูรองสอดไดเลี้ยงไวในกรงขัง และเมื่อผูรองสอดไมอยูบานก็ปิดประตูบานตลอดเวลา ซึ่งในบางครั้งผูรองสอดอยูหนาบานก็นําแมวออกมาดวย โดยไมไดปลอยปละละเลยใหไปทําความเดือดรอนแกผูอื่นแตอยางใด ผูฟองคดีไดรองเรียนเกี่ยวกับกรณีนี้หลายครั้ง โดยมีเจาหนาที่ของสํานักงานเขตทุงครุมาตรวจสอบและแนะนําวิธีการเลี้ยงแมวมาโดยตลอดโดย กอนหนานี้ ผูฟองคดีไดรองเรียนการเลี้ยงแมวของนองสาวของผูรองสอด (นางสาวฝนจิต เอี่ยมสกุลยง) ในลักษณะอยางเดียวกัน แตไมเป็นความจริง เพราะนองสาวของผูรองสอดไดดูแลแมวเปนอยางดี ไมไดปลอยปละละเลยแตอยางใด และปจจุบันก็ไมไดเลี้ยงแมวแลว สวนกรณีผูฟองคดีไดรองเรียนถึงการเลี้ยงแมวของผูรองสอดนั้น เจาหนาที่จากสํานักงานเขตทุงครุไดมาทําการตรวจสอบอยางนอยเดือนละ ๓ ครั้ง ถึง ๔ ครั้ง และบางครั้งก็มีเจาหนาที่ของกองควบคุมโรคพิษสุนัขบามาจับแมวไมมีเจาของบาง ซึ่งครั้งสุดทายสํานักงานเขตก็ไดมีหนังสือขอความรวมมือในการควบคุมสัตวและแนะนําการควบคุมสัตวเลี้ยงดวย
ผูถูกฟองคดีใหการวา คดีนี้สืบเนื่องมาจากผูฟองคดีไดรับความเดือดรอนรําคาญจากการเลี้ยงแมว ๓ ตัว ถึง ๔ ตัว ในบริเวณซอยประชาอุทิศ ๘๗ แขวงทุงครุ เขตทุงครุ กรุงเทพมหานคร โดยในระยะแรกผูฟองคดีไดมีหนังสือรองเรียนวาอาคารเลขที่ ๓๒๖/๑๓ ของนางสาวฝนจิต เอี่ยมสกุลยง ไดปลอยปละละเลยในการเลี้ยงแมว ซึ่งปจจุบันนางสาวฝนจิตไมไดมีการเลี้ยงแมวแลว ตอมา ผูฟองคดีไดรองเรียนการเลี้ยงแมวของผูรองสอดวา ไดไปกอเหตุเดือดรอนรําคาญแกผูฟองคดี เมื่อผูถูกฟองคดีไดดําเนินการตรวจสอบขอเท็จจริงแลว ปรากฏวา ผูรองสอดไดเลี้ยงแมวประมาณ ๓ ตัว ถึง ๔ ตัว ซึ่งผูรองสอดแจงวา ไดปองกันไมใหแมวออกไปนอกอาคาร โดยทําการปดประตูดานหนาอาคารไวมิดชิด นอกจากนี้ ผูถูกฟองคดีไดตรวจสอบบานของประชาชนบริเวณใกลเคียง พบวา ไดมีการเลี้ยงแมวและสุนัข หรือไมไดจงใจเลี้ยง แตใหอาหารดวยใจเมตตาสัตว ในบางอาคารมีแมวเขา-ออกอาคาร หรือแมวอาจออกมาเดินบนถนน เปนปรากฏการณที่อาจพบไดในชุมชนทั่วไป อีกทั้งผูถูกฟองคดีไดสอบถามผูอยูอาศัยในบริเวณนั้น ก็ไมปรากฏวา มีผูใดไดรับความเดือดรอนจากแมวแตอยางใด ผูถูกฟองคดีไดพิจารณาแลวเห็นวา จากการตรวจสอบดังกลาว ไมเปนเหตุเดือดรอนรําคาญตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และไดบันทึกถึงกองสัตวแพทยสาธารณสุข เพื่อขอความรวมมือใหจัดสงเจาหนาที่มาดําเนินการจับแมวจรจัดหรือที่ไมมีเจาของ ทั้งนี้ ไดแจงผลการดําเนินการดังกลาวใหผูฟองคดีทราบดวยแลว ซึ่งเมื่อเจาหนาที่กองสัตวแพทยสาธารณสุขไปตรวจสอบ ไมพบผูฟองคดีและแมวจรจัด จึงประสานและสอบถามจากประชาชนที่พักอาศัยอยูบริเวณใกลเคียง ทราบวา ไมมีแมวจรจัด เจาหนาที่จึงใหคําแนะนําประชาชนในการดูแลสัตวเลี้ยงของตนมิใหกอเหตุเดือดรอนรําคาญ และนําสัตวเลี้ยงไปทําหมันพรอมทั้งฉีดวัคซีนปองกันโรคพิษสุนัขบาใหกับสัตวเลี้ยง ซึ่งผูถูกฟองคดีไดแจงใหผูฟองคดีทราบดวยแลว หลังจากนั้น ผูถูกฟองคดีไดมีบันทึกรายงานถึงปลัดกรุงเทพมหานคร เห็นควรยุติการพิจารณาเรื่องรองเรียนของผูฟองคดี และไดทําหนังสือขอความรวมมือกับผูรองสอดและเจาของหรือผูครอบครองอาคารในบริเวณซอยประชาอุทิศ ๘๗ เกี่ยวกับการควบคุมสัตวเลี้ยง ผูถูกฟองคดีเห็นวา ผูฟองคดีไมไดรับความเดือดรอนจริง แตเปนปญหาสวนตัวของผูฟองคดีกับผูรองสอดและนางสาวฝนจิต ซึ่งผูถูกฟองคดีไดดําเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยมิไดละเลยตอหนาที่หรือดําเนินการลาชาแตอยางใด
ผูฟองคดีคัดคานคําชี้แจงของผูรองสอดวา ผูรองสอดยังเลี้ยงแมวอยูบานเลขที่ ๓๒๖/๑๒ และบานเลขที่ ๓๒๖/๑๓ โดยไมไดเลี้ยงไวในกรงแตอยางใด แมวยังคงเดินเขา-ออกทั้งสองบานและออกมาเดินตามทางสาธารณะไมเปนเวลา โดยเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๔๙ เวลา ๘.๑๐ นาฬิกา แมว ๑ ตัวของผูรองสอดหมอบอยูในทองรถยนตกระบะ หมายเลขทะเบียน ณน ๘๗๖๙ กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยูหนาบานเลขที่ ๓๒๖/๑๓ และเมื่อเวลา ๙.๔๕ นาฬิกา ก็เห็นแมวตัวดังกลาวนั่งหมอบที่เกาอี้หนาบานของผูรองสอด อีกทั้ง ในตอนเย็นเวลา ๑๗.๔๐ นาฬิกา ก็เห็นแมวอีกตัวหนึ่งเดินออกจากบานของผูรองสอด เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๔๙ เวลาประมาณ ๕.๕๐ นาฬิกา ผูฟองคดีไดพบแมว ๑ ตัว ยืนอยูหนาบานเลขที่ ๓๒๖/๑๓ จากนั้นแมวไดไปยืนใตท้องรถยนตกระบะคันเดิม โดยไมมีผูควบคุม นอกจากนี้ ผูฟองคดีเห็นนางสาวฝนจิตเปดประตูใหแมวเขาไปในบาน ซึ่งแสดงวา นางสาวฝนจิตยังคงเลี้ยงแมวอยู ตอมา เมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๔๙ เวลา ๘.๓๕ นาฬิกา ไดพบเห็นแมว ๑ ตัว ยืนอยูหนาบานเลขที่ ๓๒๖/๑๓ และไปยืนที่รถยนตคันเดิม เมื่อเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา ยังมีแมวอีก ๒ ตัว หมอบอยูใตทองรถยนต และเมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๙ เวลา ๖ นาฬิกา ผูฟองคดีไดพบแมว ๑ ตัว ยืนอยูหนาบานเลขที่ ๓๒๖/๑๓ และแมวไดไปยืนที่รถยนตตามเดิมโดยไมมีผูควบคุมเชนเดียวกัน ดังนั้น แมวของผูรองสอดยังทําความเดือดรอนใหแกผูฟองคดีอยู ขอใหศาลสั่งใหผูถูกฟองคดีทําตามกฎหมาย ห้ามผูรองสอดและนางสาวฝนจิตปลอยแมวออกมาทําความเดือดรอนรําคาญแกผูฟองคดี
ผูถูกฟองคดีใหการเพิ่มเติม โดยขอยืนยันตามคําใหการ
ผูฟองคดีทําคําชี้แจงเพิ่มเติมวา นางสาวฝนจิต เอี่ยมสกุลยง ยังไมเลิกเลี้ยงแมว เพราะเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙ เวลา ๑๗.๒๐ นาฬิกา ผูฟองคดีพบแมวสีดํา ๑ ตัวนอนอยูหนาบานเลขที่ ๓๒๖/๑๓ นางสาวฝนจิตไดนั่งใชมือลูบคลําตัวแมวเลนไปมา และเวลา ๑๐.๒๐ นาฬิกา ผูฟองคดีก็เห็นเด็กหญิงอายุประมาณ ๑๓ ป ถึง ๑๔ ป ซึ่งเปนหลานสาวของนางสาวฝนจิตไดเปดประตูบานปลอยแมวสีดําดังกลาวออกมานอกบาน การที่ผูถูกฟองคดีอางวา ไดมีเจาหนาที่ไปตรวจสอบ และพบวาผูรองสอดเลี้ยงแมว ๓ ตัว ถึง ๔ ตัว อยูในอาคารเลขที่ ๓๒๖/๑๒ โดยปองกันมิใหออกมานอกอาคาร และการที่มีผูเลี้ยงแมวและสุนัข หรือไมจงใจเลี้ยง แตใหอาหารแมวดวยใจเมตตา และแมวเดินเขา-ออกอาคารเปนปรากฏการณที่อาจพบไดในชุมชนทั่วไป จึงไมมีผูใดไดรับความเดือดรอนนั้น ไมเปนความจริง เพราะในบานของผูรองสอดมีกรงเพียงกรงเดียว สามารถใสแมวไดเพียง ๑ ตัว แมวที่เหลืออีก ๒ ตัว ถึง ๓ ตัว ตองถูกปลอยออกมาอยูนอกกรง ซึ่งหากผูรองสอดไมปล่อยแมวออกมานอกบาน ผูฟองคดีก็คงไมเดือดรอน สวนบุคคลที่ใหถอยคําตอเจาหนาที่วา ไมไดรับความเดือดรอน บุคคลเหลานั้นใหถอยคําจริงหรือไม ไมอาจยืนยันได แตบุคคลดังกลาวมิใชผูอยูอาศัยอยู่ในบ้านของผูฟองคดี ผูฟองคดียังคงไดรับความเดือดรอนมาโดยตลอด ผูถูกฟองคดียังไมไดดําเนินการตามระเบียบกฎหมายแตอยางใด
ผู้ฟองคดีไดมีบันทึกชวยจํา วันที่ ๒๐ ถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๔๙ วันที่ ๑ ถึงวันที่ ๓ กุมภาพันธ ๒๕๔๙ วันที่ ๑๑ ถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ ๒๕๔๙ วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๔๙ วันที่ ๘ และวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๙ วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๕ ถึงวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๔๙ วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๑ ถึงวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๔ ถึงวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๓๐ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๔๙ วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๐ วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๐ วันที่ ๘ ถึงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๐ วันที่ ๒๑ และวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๐ วันที่ ๒๔ และวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๐ และหนังสือชี้แจงตอศาล ซึ่งมีขอความในทํานองเดียวกันวา วันเวลาใด ผูฟองคดีไดพบเห็นแมวสีอะไรหมอบอยูใตทองรถ หรือปนขึ้นไปบนตัวรถหรือหลังคารถ ของรถหมายเลขทะเบียนใด โดยรถคันดังกลาวจอดอยูที่ใด หรือพบผูรองสอดและนาวสาวฝนจิตเล่นหยอกลออยูกับแมว หรือพบเห็นแมวดังกลาวเดินเพนพานอยูที่ถนน หรือกําลังเดินขามถนน หรือบางครั้งพบแมวดังกลาวยืนอยูหนาบานของผูฟองคดี เพื่อเตรียมบุกรุกเขามาขโมยอาหาร อุจจาระ ปสสาวะ หรือทําขาวของในบานของผูฟองคดีเสียหาย หรือแพรเชื้อโรค เมื่อผูฟองคดีตะโกนไลแมว ก็วิ่งเขาบานของผูรองสอดหรือบ้านของนางสาวฝนจิต
ศาลปกครองชั้นตนไดมีคําสั่งใหมีการตรวจสอบสถานที่บริเวณที่เกิดขอพิพาท โดยมอบหมายใหพนักงานคดีปกครองไปตรวจสอบ ปรากฏขอเท็จจริงวา บุคคลที่อาศัยอยูบริเวณใกลเคียงบานของผูฟองคดีและผูรองสอดไดใหถอยคําในทํานองเดียวกันวา ปจจุบัน ผูรองสอดยังมีการเลี้ยงแมวอยู โดยมีกรงสําหรับขังแมวอยูในบาน และในบริเวณนี้ เจาของบานอีกหลายหลังก็ยังมีการเลี้ยงแมวอยูเชนกัน โดยทั่วไปก็จะเห็นแมวของผูรองสอดออกมานอกบานเปนบางครั้ง แตก็ไมไดทําความเดือดรอนแกบุคคลใด สวนผูฟองคดีใหถอยคําวา ขณะนี้ ผูฟองคดีก็ยังคงไดรับความเดือดรอนจากแมวของผูรองสอดอยู โดยแมวยังเขามาทําความรําคาญในบ้านของผูฟองคดีเปนบางครั้ง ผูฟองคดีมีความประสงคใหศาลมีคําสั่งใหผูถูกฟองคดีสั่งหามผูรองสอดเลี้ยงแมวโดยเด็ดขาด
ผูฟองคดียื่นคํารอง ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๐ ขอใหศาลกําหนดวิธีการชั่วคราวกอนการพิพากษา โดยมีคําสั่งหามผูรองสอดปลอยแมวออกนอกบานเลขที่ ๓๒๖/๑๒ และบานเลขที่ ๓๒๖/๑๓ อยางเด็ดขาด และใหผูถูกฟองคดีควบคุมดูแลมิใหแมวของผูรองสอดเขามารบกวนความปกติสุขของผูฟองคดี โดยอางวา เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๐ ผูฟองคดีไดพบเห็นแมวตัวใหญสีดําของผูรองสอดเขามาคุยเขี่ยสิ่งของในบริเวณหองครัวบานของผูฟองคดี ทําใหเครื่องครัวตกหลนลงพื้นเกิดความสกปรก ซึ่งเหตุการณดังกลาวเปนเพียงสวนหนึ่งที่แมวของผูรองสอดปลอยออกจากบานขาดการควบคุมดูแล และวิ่งเขามาในบานของผูฟองคดีทําความเสียหายเปนประจําไมนอยกวาสัปดาหละ ๓ ครั้ง ถึง ๔ ครั้ง ทําใหผูฟองคดีไดรับความเดือดรอนเสียหาย เครียด กังวลเกินกวาจะรับได ตองคอยระวังไลตลอดเวลา สวนการที่ผูรองสอดยอมรับวา ไดเลี้ยงแมว ๓ ตัว ในบานเลขที่ ๓๒๖/๑๒ นั้น ผูรองสอดไดเลี้ยงแมวอยูในบานเลขที่ ๓๒๖/๑๒ และบานเลขที่ ๓๒๖/๑๓ โดยไมไดเลี้ยงในกรงตามที่กลาวอาง ซึ่งแมวเดินเขา-ออกทั้งสองบานไมเปนเวลา ทั้งเชา กลางวัน และตอนเย็น และที่อางวาเลี้ยงเพียง ๓ ตัว นั้น ไมเปนความจริง เพราะผูรองสอดไดเลี้ยงแมวมากถึง ๔ ตัว โดยปลอยปละละเลยไมมีการควบคุม ทําใหแมวเดินเพนพานบนถนนสาธารณะ และบุกรุกเขาไปในบานของผูฟองคดี จนตองฟองเป็นคดีนี้ ซึ่งผูรองสอดเคยพูดกับพันตํารวจโทสุวัฒน องตอง วา “ถาเลี้ยงแมวไวในคอกหรือในกรงเหมือนติดคุก ฉันจะตองปลอยแมวออกนอกบาน ฉันเปนคนรักแมวและชอบเลี้ยงแมว”
ศาลปกครองชั้นตนพิจารณาแลวเห็นวา คดีนี้ขอเท็จจริงรับฟงไดวา เดิมผูฟองคดีเคยฟองผูถูกฟองคดีว่าละเลยตอหนาที่ในการแกปญหาที่ผูฟองคดีไดรับความเดือดรอนรําคาญจากแมวที่นางสาวฝนจิตเลี้ยงไว ซึ่งต่อมา ผูฟองคดีไดขอถอนฟอง และศาลอนุญาต ในคดีหมายเลขดําที่ ๑๒๕๔/๒๕๔๖ หมายเลขแดงที่ ๑๑๘๙/๒๕๔๖ ตอมา ผูฟองคดีไดฟองผูถูกฟองคดีในคดีนี้วาละเลยตอหนาที่ในการแกไขปญหาที่ผูฟองคดีไดรับจากแมวที่ผูรองสอดเลี้ยงไวอีก ซึ่งปรากฏขอเท็จจริงในสํานวนคดีนี้วา บานของผูฟองคดี (เลขที่ ๓๒๖/๖๒) ผูรองสอด (เลขที่ ๓๒๖/๑๒) และนางสาวฝนจิต (เลขที่ ๓๒๖/๑๓) เปนตึกแถว โดยบานของผูฟองคดีตั้งอยูเยื้องคนละฟากถนนกับบานของผูรองสอดและนางสาวฝนจิต กอนฟองคดีนี้ ผูฟองคดีไดรองเรียนเหตุแหงการฟองคดีนี้ตอปลัดกรุงเทพมหานครเปนหนังสือหลายครั้ง เชน หนังสือฉบับลงวันที่ ๒๓ และลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๔๘ และลงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๔๙ ซึ่งปลัดกรุงเทพมหานครมีบันทึกสั่งการใหผูถูกฟองคดีตรวจสอบดําเนินการ ผูถูกฟองคดีไดตรวจสอบสรุปขอเท็จจริงไดวา ปจจุบัน นางสาวฝนจิตไดเลิกเลี้ยงแมวแลว เนื่องจากไดใชบานเลขที่ดังกลาวเปนรานขายของชํา และบางสวนเปนที่เก็บขนมประเภทขบเคี้ยว สําหรับผูรองสอดเลี้ยงแมวที่บานเลขที่ดังกลาวประมาณ ๓ ตัว ถึง ๔ ตัว นอกจากนี้ ยังมีแมวที่ประชาชนในบริเวณดังกลาวเลี้ยง หรือไมจงใจเลี้ยง แตอาจใหอาหารดวยใจเมตตาสัตว อีกจํานวนหนึ่ง สําหรับการดูแลแมวของผูรองสอดนั้น ในกรณีผูรองสอดไมอยูบาน ก็จะปดประตูหน้าต่างบานใหแมวอยูเฉพาะในตัวบาน หากผูรองสอดอยูบาน เมื่อเปดประตูหนาตาง แมวก็อาจจะออกมานอกตัวบานไปตามถนนหรือบานเรือนของผูอื่นบาง เหมือนเชนแมวตัวอื่น ๆ ซึ่งอาจพบเห็นไดในชุมชนทั่วไป แตจากการตรวจสอบประชาชนที่มีบานอยูบริเวณใกล ไมปรากฏวามีใครไดรับความเดือดรอนจากแมว นอกจากผูฟองคดี ซึ่งเมื่อผูถูกฟองคดีไดตรวจสอบและพิจารณาขอเท็จจริงหลาย ๆ ประเด็น และหลาย ๆ ครั้ง ที่ผูฟองคดีไดรองเรียนผูรองสอดและนางสาวฝนจิตผานหลายหนวยงานตลอด ๓ ป ถึง ๔ ปที่ผานมา เห็นวา ผู้ฟ้องคดีไมไดรับความเดือดรอนจริง แตเปนปญหาเฉพาะตัวของผูฟองคดีเอง ผูถูกฟองคดีจึงเห็นวา ขอรองเรียนของผูฟองคดีไมเปนเหตุเดือดรอนรําคาญตามกฎหมายวาดวยการสาธารณสุข จึงพิจารณายุติเรื่อง โดยรายงานปลัดกรุงเทพมหานครและแจงผูฟองคดีเพื่อทราบ พรอมทั้งมีหนังสือขอความรวมมือประชาชนใหควบคุมดูแลสัตวเลี้ยงมิใหกออันตรายหรือเหตุรําคาญแกผูอื่น นอกจากนี้ ผูถูกฟองคดียังไดมีบันทึกขอความรวมมือจากผูอํานวยการกองสัตวแพทยสาธารณสุขจัดสงเจาหนาที่ดําเนินการจับแมวจรจัดหรือแมวที่ไมมีเจาของและดําเนินการตามอํานาจหนาที่ ซึ่งกองสัตวแพทยสาธารณสุขตรวจสอบแลว ไมพบแมวจรจัดในบริเวณที่มีการร้องเรียน จึงเพียงแตใหคําแนะนําประชาชนใหดูแลสัตวดวยตนเองดวยความรับผิดชอบ ไมกอเหตุเดือดรอนรําคาญ และนําไปทําหมันเพื่อควบคุมการแพรขยายพันธุ พรอมฉีดวัคซีนปองกันโรคพิษสุนัขบาเพื่อปองกันโรคสัตวติดคน นอกจากนี้ ผูฟองคดี ไดมีบันทึกชวยจําประจําวันที่ ๒๐ ถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๔๙ วันที่ ๑ ถึงวันที่ ๓ กุมภาพันธ ๒๕๔๙ วันที่ ๑๑ ถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ ๒๕๔๙ วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๔๙ วันที่ ๘ และวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๙ วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๕ ถึงวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๔๙ วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๑ ถึงวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๔ และวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๓๐ และวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๔๙ วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๔๙ วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๔๙ วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๐ วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๐ วันที่ ๘ ถึงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๐ วันที่ ๒๑ และวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๐ วันที่ ๒๔ และวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๐ และหนังสือชี้แจงตอศาลอีกจํานวนหนึ่ง ถึงพฤติการณของแมวที่ผูฟองคดีเขาใจวาเปนแมวของผูรองสอดและนางสาวฝนจิตในลักษณะเปนรายวัน รายชั่วโมง นาทีตอนาที โดยขอความจะมีลักษณะเหมือน ๆ กันวา วันเวลาใดพบเห็นแมวสีอะไร หมอบอยูใตทองรถหรือปนขึ้นไปบนตัวรถหรือหลังคารถของรถคันหมายเลขทะเบียนใด โดยรถคันดังกลาวจอดอยูที่ใด หรือพบเห็นผูรองสอดและนาวสาวฝนจิตเลนหยอกลออยูกับแมว หรือพบเห็นแมวดังกลาวเดินเพนพานอยูที่ถนน หรือกําลังเดินขามถนน หรือบางครั้งพบแมวดังกลาวยืนอยูหนาบานของผูฟองคดีเพื่อเตรียมบุกรุกเขามาขโมยอาหาร ถายอุจจาระ ปสสาวะ หรือทําขาวของในบานเสียหาย หรือแพรเชื้อโรค เมื่อผูฟองคดีตะโกนไลแมวก็วิ่ง เขาบานของผูรองสอดหรือบานของนางสาวฝนจิต แตขอเท็จจริงตามที่พนักงานคดีปกครองไดตรวจสอบสถานที่ สรุปไดวา ประชาชนที่อาศัยอยูบริเวณใกลเคียง รวม ๕ ราย ตางใหถอยคําตรงกันวา ผูรองสอดและประชาชนในบริเวณใกลเคียงหลายรายยังคงเลี้ยงแมวอยู ซึ่งแมวของผูรองสอดจะออกมานอกตัวบานบ้างเป็นบางครั้ง แตไมไดทําความเดือดรอนใหกับผูใด สวนผูฟองคดียังคงยืนยันวา ไดรับความเดือดรอนจากแมวของผูรองสอด เห็นไดวา ปญหาความเดือดรอนที่ผูฟองคดีอางวาเกิดขึ้นจากแมวของผูรองสอดนั้น หากมีขอเท็จจริงเปนเชนนั้น ก็มีลักษณะเปนความเดือดรอนรําคาญที่อาจเกิดขึ้นไดตามสภาพและธรรมชาติของสัตว และเกิดขึ้นเปนครั้งคราว กรณีไมเพียงพอที่จะถือวาเปนเหตุรําคาญตามกฎหมายวาดวยการสาธารณสุข ประกอบกับการที่ผูถูกฟองคดีไดตรวจสอบขอเท็จจริงเปนระยะในหลาย ๆ ประเด็นหลาย ๆ ครั้ง แลวเห็นวา กรณีการร้องเรียนไมถือเปนเหตุรําคาญตามกฎหมายวาดวยการสาธารณสุข เห็นควรใหยุติเรื่อง และมีบันทึกขอความร่วมมือใหกองสัตวแพทยสาธารณสุขตรวจสอบดําเนินการในสวนที่เกี่ยวของ และมีหนังสือขอความรวมมือประชาชนในการควบคุมดูแลสัตวเลี้ยงมิใหกอเหตุเดือดรอนรําคาญ ซึ่งกองสัตวแพทยสาธารณสุขก็ไดดําเนินการในสวนที่เกี่ยวของแลว และมีหนังสือแจงผูฟองคดีเพื่อทราบ จึงเปนการปฏิบัติหนาที่ตามที่กฎหมายกําหนดใหตองปฏิบัติแลว สําหรับคําขอใหศาลกําหนดวิธีการชั่วคราวกอนพิพากษานั้น เมื่อศาลไดวินิจฉัยในประเด็นพิพาทในเนื้อหาแหงคดีแลววา ผูถูกฟองคดีมิไดละเลยตอหนาที่ตามที่กฎหมายกําหนดใหตองปฏิบัติ กรณีจึงไมมีเหตุที่ศาลจะตองพิจารณาคําขอดังกลาวอีก ศาลปกครองชั้นตนจึงพิพากษายกฟอง
ผูฟองคดีอุทธรณวา การที่ผูรองสอดเลี้ยงแมวถึง ๔ ตัว เปนจํานวนเกินสมควร แตมีกรงเลี้ยงเพียงกรงเดียว ซึ่งทําใหแมวเขามาทําความเดือดรอนใหแกผูฟองคดี จึงเปนเหตุเดือดรอนรําคาญตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๒๕ (๒) และ (๔) และในระยะ ๓ ป ถึง ๔ ป ที่ผูฟองคดีไดรองเรียนเพื่อใหผูถูกฟองคดีไดรับทราบถึงเหตุเดือดรอนรําคาญตามมาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ และมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว แตผูถูกฟองคดีก็ไมไดระงับเหตุเดือดรอนรําคาญ ซึ่งศาลปกครองชั้นตนยังไมไดวินิจฉัยวา เหตุใดผูถูกฟองคดีจึงไมระงับเหตุเดือดรอนรําคาญใหแกผูฟองคดี ทั้งที่ผูรองสอดและนางสาวฝนจิตยังเลี้ยงแมว และกอเหตุเดือดรอนรําคาญใหแกผูฟองคดีทั้งกอนและหลังฟองคดี ขอใหศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับคําพิพากษาของศาลปกครองชั้นตน และพิพากษาตามคําขอทายฟองของผูฟองคดี
ผูถูกฟองคดีแกอุทธรณวา ผูถูกฟองคดีไดดําเนินการตรวจสอบบานผูรองสอด พบวา ไดเลี้ยงแมวประมาณ ๓ ตัว ถึง ๔ ตัว ซึ่งผูรองสอดไดปองกันไมใหเผลอออกไปนอกอาคาร โดยทําการปดประตูดานหนาอาคารไวมิดชิด และยังไดตรวจสอบบานของประชาชนบริเวณใกลเคียง พบวา ไดมีการเลี้ยงแมวและสุนัข หรือไมไดจงใจเลี้ยง แตใหอาคารดวยใจเมตตาสัตว ในบางอาคารมีแมวเขาออกอาคาร หรือแมวอาจออกมาเดินบนถนน เปนปรากฏการณที่อาจพบไดในชุมชนทั่วไป ทั้งไดสอบถามผูอยูอาศัยในบริเวณนั้น ก็ไมปรากฏวามีผูใดไดรับความเดือดรอนจากแมวแตอยางใด ผูถูกฟองคดีไดพิจารณาจากการตรวจสอบดังกลาว ไมเปนเหตุเดือดรําคาญตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ทั้งไดมีบันทึกถึงกองสัตวแพทยสาธารณสุข เพื่อขอความรวมมือใหจัดสงเจาหนาที่มาดําเนินการจับแมวจรจัดหรือที่ไมมีเจาของ ซึ่งเมื่อเจาหนาที่กองสัตวแพทยสาธารณสุขไปตรวจสอบ ไมพบแมวจรจัด เจาหนาที่จึงใหคําแนะนําประชาชนใหดูแลสัตวเลี้ยงของตนมิใหกอเหตุเดือดรอนรําคาญและนําสัตวเลี้ยงไปทําหมัน พรอมทั้งฉีดวัคซีนปองกันโรคพิษสุนัขบาใหกับสัตวเลี้ยง ทั้งไดทําหนังสือขอความรวมมือกับผูรองสอดและเจาของหรือผูครอบครองอาคารในบริเวณซอยประชาอุทิศ ๘๗ เกี่ยวกับการควบคุมสัตวเลี้ยง โดยไดแจงใหผูฟองคดีทราบแลว จะเห็นไดวา ผูถูกฟองคดีไดดําเนินการตรวจสอบขอเท็จจริงเปนระยะในหลายประเด็นหลายครั้ง เปนการปฏิบัติหนาที่ตามที่กฎหมายกําหนดใหตองปฏิบัติขอใหศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามคําพิพากษาของศาลปกครองชั้นตน
ผูรองสอดชี้แจงวา ที่ผูฟองคดีอางวาแมวของผูรองสอดไปขโมยของกินในบานของผูฟองคดี ที่จริงในซอยก็มีแมวอยูหลายบานเขาไปในบานผูฟองคดี บางทีก็ไมใชแมวของผูรองสอด มีอยูครั้งหนึ่ง ผูฟองคดีวางจานข้าวใกลประตูบาน แมวของผูรองสอดก็ไปกิน แลวสักพักก็อาเจียน พออยูตอมาไมนาน แมวตัวนั้นก็ตาย และถาผูฟองคดีไมวางจานขาว แมวคงไมไปกิน เพราะธรรมชาติของแมวจะอยูแตในบานของตัวเอง มีบางก็คือเดินอยูแถวหนาบาน แตผูฟองคดีก็ไลแมวของผูรองสอดอยูเปนประจําทั้ง ๆ ที่เดินอยูแถวหนาบานของผูฟองคดี ขนาดแมวบางตัวก็รูมาก พอเดินผานหนาบานผูฟองคดี ก็หลีกไปเดินฝงตรงขามบานผูฟองคดี ผูฟองคดีก็ยังไลไมเลิก
ผูฟองคดีทําคําชี้แจงวา คําชี้แจงของผูรองสอดที่วา แมวที่เขาไปขโมยของกินในบานของผูฟองคดีไมใชแมวของผูรองสอด เพราะในซอยมีแมวหลายบานนั้น ไมเปนความจริง เพราะแมวของผูรองสอดจองจะบุกรุกเข้าไปในบานกอความเดือดรอนรําคาญ ตองคอยตะโกนขับไล ซึ่งไมเคยมีแมวของบานอื่นเขาไปในบานของผูฟ้องคดีแมแตครั้งเดียว และคําชี้แจงของผูรองสอดที่วา ธรรมชาติของแมวจะอยูแตในบานของตนเอง แตผูฟองคดีก็ไลแมวของผูรองสอดประจํา ทั้ง ๆ ที่เดินอยูหนาบานนั้น เปนเท็จ ขัดแยงกับขอเท็จจริงซึ่งพบเห็น ซึ่งผูรองสอดเคยทะเลาะโตเถียงกับผูฟองคดีอยางรุนแรง โดยผูฟองคดีไดดําเนินคดีกับผูรองสอดในขอหาดูหมิ่น และผูร้องสอดรับสารภาพ พนักงานสอบสวนจึงปรับผูรองสอด
ศาลปกครองสูงสุดออกนั่งพิจารณาคดี โดยไดรับฟงสรุปขอเท็จจริงของตุลาการเจาของสํานวน และคําชี้แจงดวยวาจา ประกอบคําแถลงการณของตุลาการผูแถลงคดี
ศาลปกครองสูงสุดไดตรวจพิจารณาเอกสารทั้งหมดในสํานวนคดี กฎหมาย ระเบียบ ขอบังคับ ฯลฯ ที่เกี่ยวของประกอบแลว
ขอเท็จจริงรับฟงไดวา ผูฟองคดีพักอาศัยอยูบานเลขที่ ๓๒๖/๖๒ ซอยประชาอุทิศ ๘๗ ถนนประชาอุทิศ แขวงทุงครุ เขตทุงครุ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๘ ผูฟองคดีไดมีหนังสือรองเรียนตอผูถูกฟองคดีวาผูฟองคดีไดรับความเดือดรอนจากการเลี้ยงแมวของผูรองสอดและนองสาว ซึ่งอยูบานเลขที่ ๓๒๖/๑๒ และบานเลขที่ ๓๒๖/๑๓ ในซอยเดียวกัน โดยผูรองสอดปลอยปละละเลยใหแมวออกมาอยูตามทางสาธารณะ และเขามากอความรําคาญในบานของผูฟองคดี ตอมา ผูถูกฟองคดีไดมอบหมายใหเจาหนาที่ดําเนินการตรวจสอบขอเท็จจริงกรณีการรองเรียนดังกลาว พบวา ผูรองสอดเลี้ยงแมวประมาณ ๓ ตัว ถึง ๔ ตัว โดยทั่วไป ผูรองสอดจะควบคุมใหแมวอยูในบริเวณบานของผูรองสอด แตบางครั้งแมวไดออกมานอกบานบางเหมือนกัน นอกจากนี้ ยังมีแมวจรจัดหรือที่ผูอยูอาศัยใกลเคียงเลี้ยงไวดวยเชนกัน แตจากการสอบถามผูอยูอาศัยบริเวณนั้น ไมปรากฏวามีผูใดไดรับความเดือดรอนจากแมวนอกจากผูฟองคดี หลังจากนั้น ผูถูกฟองคดีไดรับความรวมมือจากกองสัตวแพทยสาธารณสุขจัดสงเจาหนาที่มาดําเนินการจับแมวจรจัดหรือไมมีเจาของ พร้อมใหคําแนะนํากับประชาชนในการดูแลสัตวเลี้ยงมิใหไปกอเหตุเดือดรอนรําคาญ นําสัตวเลี้ยงไปทําหมัน และฉีดวัคซีนปองกันโรคพิษสุนัขบา จากนั้น ผูถูกฟองคดีไดรายงานเกี่ยวกับกรณีการรองเรียนของผูฟองคดีต่อปลัดกรุงเทพมหานคร โดยเห็นควรยุติการพิจารณาเรื่องรองเรียน และไดทําหนังสือขอความรวมมือกับผูรองสอดและเจาของอาคารในบริเวณเดียวกันในการควบคุมสัตวเลี้ยงของตน แตผูฟองคดีชี้แจงตอศาลในลักษณะบันทึกชวยจําเปนรายวันวา แมวของผูรองสอดยังเขามากอเหตุเดือดรอนรําคาญในบริเวณบานของผูฟองคดี
คดีมีประเด็นที่ตองวินิจฉัยวา ผูถูกฟองคดีไดละเลยตอหนาที่ในการแกไขความเดือดรอนรําคาญใหแกผูฟองคดีตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ หรือไม
เห็นวา มาตรา ๒๕ (๒) และ (๔) แหงพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ไดกําหนดใหการเลี้ยงสัตวในที่หรือโดยวิธีใด หรือมีจํานวนเกินสมควร จนเปนเหตุใหเสื่อมหรืออาจเปนอันตรายตอสุขภาพ และการกระทําใด ๆ อันเปนเหตุใหเกิดกลิ่น หรือกรณีอื่นใด จนเปนเหตุใหเสื่อมหรืออาจเปนอันตรายตอสุขภาพ เปนเหตุรําคาญ ซึ่งหากมีเหตุรําคาญเกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นในที่หรือทางสาธารณะ มาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ไดใหอํานาจเจาพนักงานทองถิ่นมีอํานาจออกคําสั่งเปนหนังสือใหบุคคลซึ่งเปนตนเหตุ หรือเกี่ยวของกับการกอ หรืออาจกอใหเกิดเหตุรําคาญนั้น ระงับหรือปองกันเหตุรําคาญภายในเวลาอันสมควรตามที่ระบุไวในคําสั่ง และถาเห็นสมควร จะใหกระทําโดยวิธีใดเพื่อระงับหรือปองกันเหตุรําคาญนั้น หรือสมควรกําหนดวิธีการ เพื่อปองกันมิใหมีเหตุรําคาญเกิดขึ้นอีกในอนาคต ใหระบุไวในคําสั่งได และวรรคสอง บัญญัติวา ในกรณีที่ปรากฏแกเจาพนักงานทองถิ่นวา ไมมีการปฏิบัติตามคําสั่งของเจาพนักงานทองถิ่นตามวรรคหนึ่ง และเหตุรําคาญที่เกิดขึ้นอาจเกิดอันตรายอยางรายแรงตอสุขภาพ ใหเจาพนักงานทองถิ่นระงับเหตุรําคาญนั้น และอาจจัดการตามความจําเปน เพื่อปองกันมิใหเกิดเหตุรําคาญนั้นขึ้นอีก โดยบุคคลซึ่งเปนตนเหตุ หรือเกี่ยวของกับการกอ หรืออาจกอใหเกิดเหตุรําคาญ ตองเปนผูเสียคาใชจายสําหรับการจัดการนั้น ในกรณีมีเหตุรําคาญเกิดขึ้นในสถานที่เอกชน มาตรา ๒๘ วรรคหนึ่ง แหงพระราชบัญญัติเดียวกัน ไดใหเจาพนักงานทองถิ่น มีอํานาจออกคําสั่งเปนหนังสือใหเจาของหรือผูครอบครองสถานที่นั้นระงับเหตุรําคาญภายในเวลาอันสมควรตามที่ระบุไวในคําสั่ง และถาเห็นวาสมควรจะใหกระทําโดยวิธีใด เพื่อระงับเหตุรําคาญนั้น หรือสมควรกําหนดวิธีการ เพื่อปองกันมิใหมีเหตุรําคาญเกิดขึ้นในอนาคต ใหระบุไวในคําสั่งได ดังนั้น เหตุรําคาญตามมาตรา ๒๕ (๒) และ (๔) แหงพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ตองมีความร้ายถึงขนาดอันจะกอใหเกิดอันตรายอยางรายแรงตอสุขภาพของประชาชน หรือมีผลกระทบตอสภาวะความเปนอยูที่เหมาะสมกับการดํารงชีพของผูฟองคดีและผูอยูอาศัยขางเคียง
เมื่อขอเท็จจริงรับฟงไดวา ผูรองสอดเปนเจาของอาคารเลขที่ ๓๒๖/๑๓ ซอยประชาอุทิศ ๘๗ ถนนประชาอุทิศ แขวงทุงครุ เขตทุงครุ กรุงเทพมหานคร ไดเลี้ยงแมว ๓ ตัว ถึง ๔ ตัว ภายในอาคารของผูรองสอดโดยมีกรงสําหรับขังแมวไวภายในอาคาร และผูรองสอดไดปลอยแมวออกมานอกอาคารเปนครั้งคราวซึ่งเป็นวิสัยของสัตวที่อาจเดินผานบานของผูฟองคดีและบานขางเคียงได แมจะกอใหเกิดความรําคาญใจแกผูฟองคดี แตไมรายแรงถึงขนาดกอใหเกิดอันตรายอยางรายแรงตอสุขภาพ หรือมีผลกระทบตอสภาวะความเปนอยูที่เหมาะสมกับการดํารงชีพของผูฟองคดี เนื่องจากผูฟองคดียังสามารถดํารงชีวิตประจําวันไดตามปกติ อีกทั้ง ปรากฏขอเท็จจริงตามบันทึกขอความ ที่ กท ๘๘๐๔/๔๕๒๓ ลงวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๔๘ บันทึกขอความ ที่ กท ๐๗๐๕/๘๑๔ ลงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๔๘ และบันทึกขอความ ที่ กท ๘๘๐๔/๑๙๑ ลงวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๔๙ วา ผูถูกฟองคดีไดสงเจาหนาที่ออกไปตรวจสอบขอเท็จจริงในบริเวณอาคารของผูฟองคดีและบริเวณใกลเคียง โดยไดสอบถามประชาชนที่อยูอาศัยในบริเวณนั้น ไดความวา ไมมีผูใดไดรับความเดือดรอนรําคาญจากแมวของผูรองสอด และเมื่อกองสัตวแพทยสาธารณสุขไดสงเจาหนาที่ไปตรวจสอบบริเวณอาคารของผูฟองคดีและบริเวณใกลเคียง และไดสอบถามประชาชนที่พักอาศัยในบริเวณดังกลาว ก็ไมพบวามีแมวจรจัดในบริเวณดังกลาว กรณีจึงไมอาจถือไดวาการเลี้ยงแมวของผูรองสอดภายในอาคารของผูรองสอดมีลักษณะเปนเหตุใหเสื่อมหรืออาจเปนอันตรายตอสุขภาพ อันจะเปนเหตุรําคาญ ตามนัยมาตรา ๒๕ (๒) และ (๔) แหงพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกอบกับผูถูกฟองคดีไดมีบันทึกขอความรวมมือไปยังผูอํานวยการกองสัตวแพทยสาธารณสุข กรุงเทพมหานครใหจัดสงเจาหนาที่ไปดําเนินการจับแมวจรจัดหรือแมวไมมีเจาของ และขอความรวมมือจากประชาชนใหดูแลรับผิดชอบสัตวเลี้ยงของตัวเองไมใหกอเหตุเดือดรอนรําคาญแกผูอื่น ใหนําสัตวเลี้ยงไปทําหมัน พรอมกับใหฉีดวัคซีนปองกันโรคพิษสุนัขบา และมีหนังสือแจงใหผูฟองคดีทราบดวยแลว ตามมาตรา ๒๗ และมาตรา ๒๘ แหงพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ กรณีจึงถือไมไดวา ผูถูกฟองคดีละเลยตอหนาที่ตามที่พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ กําหนดใหตองปฏิบัติ อุทธรณของผูฟองคดีฟงไมขึ้น การที่ศาลปกครองชั้นตนพิพากษายกฟองของผูฟองคดี ศาลปกครองสูงสุดเห็นพองดวย
พิพากษายืน
- นายนพดล เฮงเจริญ ตุลาการเจ้าของสำนวน
- ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
- นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล
- ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด
- นายวิชัย ชื่นชมพูนุท
- ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
- นายวิษณุ วรัญญู
- ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
- นายวรวิทย์ กังศศิเทียม
- ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
- ตุลาการผู้แถลงคดี : นายจิรศักดิ์ จิรวดี
งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"