ข้ามไปเนื้อหา

คำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ 3/2563

จาก วิกิซอร์ซ
คำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
ที่ ๓/๒๕๖๓
เรื่อง ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม อาคาร หรือสถานที่

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ นั้น

เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน และมิให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๓ และข้อ ๔ ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ ประกอบมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และข้อ ๕ แห่งประกาศตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง จึงออกคำสั่งไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อห้ามใช้เส้นทางคมนาคมดังต่อไปนี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

(๑) ถนนพญาไท จากแยกราชเทวี ถึงแยกสามย่าน
(๒) ถนนพระรามที่ ๑ จากแยกเฉลิมเผ่า ถึงแยกเจริญผล

ข้อห้ามใช้หรือเข้าไปในอาคารหรือสถานที่ดังต่อไปนี้ ระหว่างเวลา ๑๕.๐๐ ถึง ๐๒.๐๐ นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือใช้ในภารกิจของทางราชการ

(๑)สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติ และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชเทวี

(๒)ทางเชื่อมระหว่างตึก หรือทางเดินระหว่างอาคารสูง (Skywalk) ตั้งแต่บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ถึงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติ

(๓)สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) สถานีสามย่าน

ข้อมอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้ควบคุม กำกับ ดูแล สั่งการ และมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาในการปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามที่เห็นสมควร เพื่อมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เวลา ๑๗.๐๐ นาฬิกา เป็นต้นไป


  • สั่ง ณ วันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๓
  • พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข
  • ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
  • หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง

บรรณานุกรม

[แก้ไข]

งานนี้เป็นสาธารณสมบัติ เพราะเนื้อหาทั้งหมดเป็นข้อมูลข่าวสารที่เป็นสาธารณะ และหาผู้สร้างสรรค์แท้ ๆ ไม่ได้ ทำให้ขาดคุณสมบัติในการมีลิขสิทธิ์