ข้ามไปเนื้อหา

ทักษิณเล่านาทีรัฐประหาร 49 รับยอมจบเพราะคิดว่า ปฏิวัติแล้วจะทำอะไรฉลาด ๆ

จาก วิกิซอร์ซ
ทักษิณเล่านาทีรัฐประหาร 49 รับยอมจบเพราะคิดว่า ปฏิวัติแล้วจะทำอะไรฉลาด ๆ
วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 - 21:41 น.

โทนีเล่าย้อนนาทีรัฐประหาร 49 เคยต่อสายถึงสนธิ ซัดนึกว่า ปฏิวัติแล้วจะทำอะไรฉลาด ๆ

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม ทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี วู้ดซัม ได้ร่วมเสวนาในรายการ Care Talk x Care ClubHouse ตอน Roadmap to New Normal วางเส้นทางสู่วิถีใหม่

ทั้งนี้ ระหว่างร่วมเสวนานั้น ธีรัตถ์ รัตนเสวี พิธีกร ได้ถามคำถามจากทางบ้านว่า อีกไม่นานจะเป็นโอกาสครบ 15 ปีรัฐประหาร อยากให้โทนีช่วยเล่าบรรยากาศในวันนั้น

โทนีกล่าวว่า ตอนที่อยู่นิวยอร์ก ตอนเช้า ก็คือ หัวค่ำบ้านเรา ผมนั่งกินข้าวอยู่กับลูกของทรัมป์ โดนัลด์ อิวังกา อีริก เพราะเขาสนใจจะลงทุนในไทย เขากลับไป ก็ปฏิวัติเลย แต่วันนั้น ก่อนนอน ก็ประชุม ครม. ผมตั้งคำถามกับ เสธ.ทบ. เขาก็ตอบแบบกวน ๆ ผมว่าก็ไม่ค่อยจะดี เลยสั่งให้ ดร.ชิดชัย (ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ) กับหมอพรหมินทร์ (นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช) ให้ไปเอาร่างสถานการณ์ฉุกเฉินออกมา ผมเซ็นทิ้งไว้ด้วย ปรากฏว่า พอเอาไปอ่าน มิ่งขวัญโดนจี้ อ่านได้ครึ่งเดียวก็จบ ก็มีการเข้าเฝ้าฯ ก็เลยทำให้เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้

"วันรุ่งขึ้น ผมจะขึ้นเครื่องบินกลับ เขาไม่ให้ขึ้น เขากลัวผมกลับเข้าไทย ถ้าผมกลับ เสร็จผมแน่ ผมโดนลอบยิงตั้งหลายครั้งยังไม่ตาย ไม่กลัว พอเข้าไม่ได้ ก็โทรหาเพื่อนผม ก็ว่า เครื่องบินไอ ยูนี่จะไปไหนก็บินไปได้เลย ก็เลยลองดูว่า ยังไม่ไปไหน พอผมบอกจะไปลงอังกฤษ ก็ไปได้ ก็ค้นใหญ่เลย ก็ไม่มีปัญหาอะไร"

โทนีกล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ก็มีการบุกไปตรวจไปค้นที่นั่นที่นี่ เลยโทรไปหาเลขา คมช. ว่า นี่ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง จะบุกกันแบบนี้เลยหรอ เขาจะบุกเข้าบ้านผม ผมก็บอกว่า ถ้าบุกเข้าบ้านผม ผมก็ยิงเลยนะ ผมก็มีทหารในบ้าน ก็เลยหยุด ไม่ได้เข้าไป ผมเป็นลูกผู้ชายอะ จบเป็นจบ

"บางคนถามผมว่า ทำไมไม่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ต้องเข้าใจว่า รัฐบาลพลัดถิ่นสมัยนี้กับสมัยก่อนไม่เหมือนกัน ผมไม่อยากให้เยิ่นเย้อ นึกว่า ปฏิวัติแล้วจะทำอะไรที่ฉลาด ๆ แต่กลายเป็นว่า ก็โง่จนถึงทุกวันนี้"

ก่อนที่โทนีจะทิ้งท้ายว่า ตอนแรกผมจะกลับ ผมยังโทรบอกสนธิว่า ท่าน ผบ. ผมลูกผู้ชาย จบเป็นจบ แต่อย่ากลั่นแกล้งผมทางการเมือง ผมไม่มียอม ท่านยังครับผม ๆ อยู่เลย

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (1) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"