ข้ามไปเนื้อหา

นรชีวชาดก

จาก วิกิซอร์ซ

เรื่องนรชีวชาดก เป็นเรื่องเกี่ยวกับความกตัญญูของภิกษุที่เลี้ยงบิดามารดาทำให้ภิกษุทั้งหลายที่ไม่รู้ตำหนิแล้วไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์จึงตรัสเรียกภิกษุรูปนั้นมาถาม เมื่อรู้ว่าคฤหัสถ์ที่เลี้ยงนั้นเป็นบิดามารดา จึงประทานสาธุการพร้อมกับตรัสว่า พระองค์ไม่ห้ามภิกษุที่เลี้ยงบิดามารดา เพราะบัณฑิตในอดีตก็เคยทำมาก่อน จากนั้นพระองค์จึงนำอดีตนิทานมาแสดงว่า ในอดีตกาลพระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นคนจนในเมืองพาราณสี ได้ชื่อว่านรชีวะ ครั้นเจริญวัยขึ้นได้เลี้ยงบิดามารดาโดยชอบในกุศลกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการ ต่อมาบิดาเสียชีวิตลง เจ้านรชีวะจึงเลี้ยงแต่มารดา ต่อมาพระโพธิสัตว์ได้ไปทำนาอยู่กับพวกคนงานของเศรษฐีคนหนึ่ง เพื่อนำค่าข้างมาเป็นค่าเลี้ยงดูมารดา เมื่อถึงเวลาข้าวกล้าออกรวงจึงชวนมารดาไปดูนา เมื่อไปถึงแล้วจึงบอกให้มารดาพักอยู่บนโรงนา ส่วนตัวเองก็ไปเกี่ยวข้าวในนา ที่ใกล้โรงนามีจอมปลวกอยู่แห่งหนึ่ง ในจอมปลวกมีงูพิษอาศัยตัวหนึ่ง มันเลื้อยออกมาเพื่อไปหาอาหาร ได้ขึ้นไปบนโรงนาที่มารดาของเจ้านรชีวะพักอยู่ มารดาของเจ้านรชีวะเหยียดเท้าไปถูกมันจึงถูกงูกัด นางทนพิษไม่ไหวจึงร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครมาช่วย นางจึงเสียชีวิตในที่นั้น รุ่งเช้าเจ้านรชีวะมาที่โรงนาเพื่อเลี้ยงมารดาตามปรกติ เห็นมารดานิ่งเฉยจึงตรวจดูตามร่างกายบีบนวดที่เท้าเห็นรอยเขียวช้ำก็รู้ว่าถูกงูกัดจึงถือเอาไม้ค้อนจะไปตีงู เดินดูใกล้ๆ เห็นงูนอนอยู่ในกองฟ้ามีท่อนไม้ล้อมอยู่ จึงพูดกับงูว่า ถ้าข้าจะฆ่าเจ้าก็จะเสียศีล ขอให้เจ้าเลื้อยไปตามสบายเถิด เจ้าได้ชีวิตฉันใด ขอให้มารดาของข้าจงได้ชีวิตฉันนั้นเถิด ว่าแล้วก็กลับไปหามารดาร้องไห้คร่ำครวญอยู่ใกล้กับศพของมารดา พร้อมกับคำอ้อนวอนเทพยดาและมนุาย์ทั้งหลายให้มาช่วยเหลือ ท้าวสักกะ จึงแปลงเพศเป็นพราหมณ์ทำทีเป็นคนหลงทางมาที่โรงนาของเจ้านรชีวะ แล้วถามทางจะไปเมืองพาราณสี ก่อนจะจากไปจึงได้ถามว่าทำไมจึงร้องไห้ เมื่อเจ้านรชีวะบอกให้ทราบแล้วได้ทำทีเดินไป เจ้านรชีวะนึกขึ้นได้ว่า ธรรมดาพวกพราหมณ์จะรู้จักมนต์ดีจึงถามว่าท่านรู้จักมนต์ไหม ช่วยบอกยาที่จะช่วยให้แม่ฉันฟื้นด้วย พราหมณ์แปลงบอกว่ารู้จักมนต์ แต่ไม่รู้จักยาที่จะทำให้มีชีวิตคืน เจ้านรชีวะจึงถามต่อไปว่า ทำอย่างไรจึงจะได้ยา พราหมณ์บอกว่า ถ้าได้หัวใจมนุษย์มาทำยาจึงจะช่วยได้ เจ้านรชีวะจึงบอกว่าจะสละชีวิตของตนแก่มารดา ในขณะที่หาศาสตราเอามาเชือดหัวใจนั้น หมู่เทวดาได้โยนศาสตราลงมาตรงหน้าของเจ้านรชีวะๆ เมื่อจะเชือดเอาหัวใจจึงได้ตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตเพื่อจะได้นำสัตว์ให้ข้ามพ้นจากวัฏฏสงสาร เมื่อเชือดเอาหัวใจออกมาแล้วจึงทำพิธีตามที่พราหมณ์บอกคือเอาหัวใจให้เข้าไปในปากของมารดา ในขณะเดียวกันพราหมณ์ก็ร่ายมนต์ มารดาของเจ้านรชีวะก็ได้ชีวิตคืนมา เจ้านรชีวะเห็นมารดาฟื้นคืนมาก็ดีใจจึงได้กล่าวคำลามารดาแล้วตัวเองก็สิ้นชีวิต นางเห็นลูกชายตายอย่างนั้นก็สงสารลูกร้องไห้คร่ำครวญแล้วได้ตั้งสัจอธิษฐานขอชีวิตลูกชายคืน พอจบคำอธิษฐานเจ้านรชีวะก็ฟื้นคืนมาเหมือนนอนหลับแล้วตื่น คนทั้งสองก็มีปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ท้าวสักกะจึงได้ปรากฎตัวในอากาศได้ให้สาธุการแก่พระโพธิสัตว์ว่า อีกไม่นานท่านสัตบุรุษจะได้เป็นพระพุทธเจ้า แล้วให้โอวาทว่า ท่านเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยคุณมีความกตัญญูเป็นต้น ท่านเป็นเนื้อหน่อพระพุทธเจ้า โลกคือหมู่สัตว์นี้ ไม่มีผู้ต้านทาน ไม่มีที่ซ่อนเร้น ไม่มีสรณะที่พึ่ง ท่านจงเป็นที่พึ่งของสัตว์โลกนี้เถิด