บ้วนฮ่วยเหลา/เล่ม ๑/ตอน ๑๔

จาก วิกิซอร์ซ
แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)

หน้า ๘๕–๙๑ สารบัญ



ฝ่ายเจงซันอ๋อง เมื่อขณะให้กระบี่ไปแก่เต็กเซงนั้น ยังเพงอ๋องให้คนมาเชิญไปกินโต๊ะ กลับมาบ้านเวลาพลบค่ำ ครั้นรุ่งขึ้นเช้า รำลึกขึ้นได้ถึงเต็กเซงว่า ไปทำการ จะเป็นประการใดหาแจ้งไม่ จึงให้หาเล่าบุน ลีจิ้น มาถามว่า เจ้าทั้งสองเราให้ไปตามดูเต็กเซงจะไปทำการเป็นประการใด ไยไม่เห็นเต็กเซงกลับมา เล่าบุน ลีจิ้น ก็เล่าความให้เจงซันอ๋องฟังตามซึ่งเต็กเซงไปลืมกระบี่เสีย แล้วก็เข้าไปอยู่บ้านพังหอง ข้าพเจ้าจึงได้เชิญกระบี่กลับมา เจงซันอ๋องจึงว่า ถ้ากระนั้น เต็กเซงก็คงตายด้วยฝีมือพังหองเป็นแน่ เราช่วยหาได้ไม่ นี่หากว่าเราให้เจ้าทั้งสองตามไป จึงได้เชิญกระบี่กลับมา ถ้าหาไม่ กระบี่ก็จะสูญเสีย พูดแล้วก็เอากระบี่ไว้คืนไว้ตามเดิม

ฝ่ายลีกีเอ๋ง เมื่อออกจากเมืองหลวงไปแล้ว ก็เดินไปตามทาง พบโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ก็เข้าไปซื้ออาหารกิน ฝ่ายพังฮี พังเฮง ทหารสองนายซึ่งไปตามลีกีเอ๋งนั้น ครั้นถึงโรงเตี๊ยมแลเข้าไปเห็นลีกีเอ๋งนั่งเสพสุราอยู่ พังฮี พังเฮง จึงพูดกับลีกีเอ๋งว่า เหตุใดเจ้าจึงปล่อยให้เต็กเซงหนีไป แล้วตัวก็หนีมาด้วยเล่า บัดนี้ พังหองให้เรามาตามจับตัวเจ้า จงไปเสียด้วยกันดี ๆ เถิด ลีกีเอ๋งจึงตอบว่า เดิมเราเป็นบ่าวของบิดามารดาเต็กเซง บิดามารดาเต็กเซงมีคุณกับเรามากนัก อนึ่ง เราคิดเห็นว่า เต็กเซงไม่มีความผิดสิ่งใด จึงปล่อยให้หนีไป แล้วเราจึงได้หนีมา ซึ่งเจ้าทั้งสองจะเอาตัวเราไปนั้น เราหาไปไม่ ถ้าจะเอาเราไปให้ได้ ก็จงเอาแต่ศีรษะเราไปเถิด พังฮี พังเฮง ได้ฟังดังนั้นก็เข้ายึดข้อมือลีกีเอ๋ง ลีกีเอ๋งสะบัดหลุดออก ได้สู้รบกัน พังฮี พังเฮง ทานกำลังลีกีเอ๋งไม่ได้ ก็ชวนลีกีเอ๋งกินโต๊ะเสพสุราสนทนากัน พังฮี พังเฮง จึงพูดกับลีกีเอ๋งว่า เรามาพบท่าน ก็ท่านไม่ยอมกลับไป เราก็จะบอกกับพังหองว่า หาพบท่านไม่ นี่ท่านจะไปอยู่เมืองไหน ลีกีเอ๋งบอกว่า เราจะไปเมืองซัวไซ ซึ่งท่านทั้งสองจะกลับไปอยู่กับพังหองต่อไปก็ไม่มีความสุข ด้วยพังหองเป็นคนกังฉินเที่ยวข่มขี่ข่มเหงราษฎรให้ได้ความเดือดร้อน นานไปก็คงต้องราชภัยเป็นอันแน่ ท่านทั้งสองจงไปอยู่ด้วยเราเถิด ต่อไปภายหน้าถ้าเห็นผู้ใดอยู่ในสัจธรรมจึงเข้าฝากตัวอยู่กับผู้นั้น พังฮี พังเฮง ได้ฟังเห็นชอบด้วย จึงว่า เราก็จะไปกับท่าน แต่บัดนี้ เราหามีเงินทองติดมาไม่ เราจะกลับไปเอาเงินทองมาเป็นเสบียงซื้อกินตามทางก่อน ท่านจงคอยเราอยู่ที่นี่เถิด ลีกีเอ๋งว่า ท่านจะไปกับเราแล้ว เงินทองที่จะซื้อกินเราติดมาก็พอซื้อสู่กันกินแล้ว อย่ากลับไปเลย จงไปด้วยกันทีเดียวเถิด พังฮี พังฮอง ก็ยอมไป ลีกีเอ๋งก็คิดเงินค่ากินให้เจ้าของโรงเตี๊ยม แล้วก็พากันออกเดินตรงไปเมืองซัวไซ ถึงเขาเทียนไกซัวซึ่งเป็นที่อยู่ของเตียเตง หลีหงี นายโจรนั้น แต่เตียเตง หลีหงี นายโจรนั้นไปต้องโทษเสียที่เมืองหลวงแล้ว พวกบริวารโจรเหล่านั้นก็เที่ยวตีชิงราษฎรเดินไปมามิได้ขาด พอแลเห็นลีกีเอ๋ง พังฮี พังเฮง เดินมา พวกโจรเหล่านั้นก็สกัดทางไว้ ลีกีเอ๋ง พังฮี พังเฮง ก็เข้ารบกับพวกโจรเป็นสามารถ พวกโจรทานกำลังลีกีเอ๋งไม่ได้ เจ็บป่วยล้มตายเป็นหลายคน จึงพากันเข้ามาคำนับถามว่า ท่านทั้งสามมีฝีมือเข้มแข็งนักหนา จะพากันไปข้างไหน พวกข้าพเจ้าเหล่านี้หานายมิได้ ท่านจงอยู่เป็นนายพวกข้าพเจ้าเถิด ลีกีเอ๋ง พังฮี พังเฮง ได้ฟังพวกโจรยอมยกให้เป็นนาย จึงปรึกษากันว่า ซึ่งเราจะไปเมืองซัวไซก็หามีธุระสิ่งใดไม่ บัดนี้ พวกโจรก็ยอมยกให้เราเป็นนาย จำเราจะอยู่กับพวกโจรที่นี่ก่อน แล้วจึงค่อยผัดผ่อนต่อภายหลัง เห็นจะดีกว่า ครั้นปรึกษาเห็นพร้อมกันแล้ว ลีกีเอ๋งจึงว่ากับพวกโจรว่า พวกเจ้าทั้งหลายยอมยกให้เราทั้งสามเป็นนาย เราก็จะอยู่ด้วย แต่เราจะต้องว่ากล่าวบังคับบัญชาพวดเจ้าตามผิดและชอบ ผู้ใดทำผิดก็จะลงโทษ ผู้ใดทำชอบก็จะให้บำเหน็จรางวัลตามความชอบ ซึ่งจะถือเปรียบแก่งแย่งว่าเพราะพวกเจ้ายกย่องขึ้นนั้นไม่ได้ ต้องยอมอยู่ในบังคับเราทั้งสามจึงจะได้ เราจะได้ตั้งใจทำนุบำรุงรักษาพวกเข้าให้มีความสุขสืบไป พวกโจรทั้งหลายยอมรับทำตามคำลีกีเอ๋งว่านั้นทุกประการ แล้วถามว่า ท่านทั้งสมชื่อไรแซ่ไร ขอให้ข้าพเจ้าทราบชื่อและแซ่บ้าง สามนายก็บอกชื่อและแซ่ให้พวกโจรแจ้ง แล้วก็อยู่บังคับพวกนั้นต่อไป

ฝ่ายนางเต็กไทเฮาอยู่ที่วังนำเชงเก๋ง ครั้นอยู่มาเวลาวันหนึ่ง เที่ยงคืนดึกสงัด นางฝันว่า กินขนมเปา พอกัดขนมเข้าไป ในไส้นั้นมีกระดูกสุกร กระดูกสุกรกระทบฟันโลหิตไหลมีกลิ่นหอมยิ่งนัก นางก็คายขนมออกมา เห็นโลหิตติดกระดูกสุกรและขนมอยู่ แต่ขนมที่กัดนั้นหาเป็นรอยไม่ บริบูรณ์เต็มอยู่ดังเก่า แล้วนางก็ตกใจตื่นขึ้น จึงคิดว่า ฝันเห็นโลหิตไหล คำโบราณว่า หาดีไม่ ก็มีความวิตกยิ่งนัก ครั้นรุ่งเช้า พอโลฮวยอ๋องพาภรรยาไปเยี่ยมนางเต็กไทเฮาผู้มารดา เห็นนางเต็กไทเฮาผู้มารดาไม่สบายเหมือนแต่ก่อน จึงถามว่า วันนี้ ข้าพเจ้าเห็นมารดาไม่สบาย มีเหตุการณ์สิ่งใดหรือ นางเต็กไทเฮาจึงบอกว่า มารดาหามีความสบายไม่ ด้วยฝันเห็นไปเมื่อคืนนี้ แล้วก็เล่าความฝันให้โลฮวยอ๋องผู้บุตรฟังทุกประการ โลฮวยอ๋องจึงตอบว่า มารดาอย่าวิตกเลย ข้าพเจ้าจะไปหาคนที่รู้ทำนายฝันมากถามดู ก็จะรู้ว่าดีและร้าย แล้วก็สั่งให้คนใช้ไปหาเปาบุ้นจิ้นกับฮันขีมา คนใช้รับคำสั่งแล้วก็คำนับลาไปแจ้งความกับเปาบุ้นจิ้น ฮันขี ว่า บัดนี้ โลฮวยอ๋องให้มาเชิญท่านทั้งสองไป เปาบุ้นจิ้นกับฮันขีแจ้งว่า โลฮวยอ๋องให้หา ก็รีบมาโดยเร็ว ฝ่ายโลฮวยอ๋องเห็นเปาบุ้นจิ้นกับฮันขีมาก็ดีใจ จึงบอกว่า นางเต็กไทเฮาราชมารดาฝันเห็นประหลาด จึงให้เชิญท่านทั้งสองมาให้ทำนายฝัน แล้วก็เล่าความฝันให้ขุนนางทั้งสองฟังทุกประการ เปาบุ้นจิ้นจึงว่า อันความฝันนั้นจะดีร้ายประการใดข้าพเจ้าหาทราบไม่ ข้าพเจ้าฝักใฝ่แต่ข้างชำระความ ขอท่านจงถามฮันขีดูเถิด โลฮวยอ๋องจึงถามฮันขีว่า ฝันดังนี้จะดีร้ายประการใด ฮันขีจึงทำนายฝันว่า ซึ่งฝันว่า กินขนมเปาพบกระดูกสุกร กระดูกสุกรกระทับฟันโลหิตไหลนั้น จะได้พบลูกหลาน ซึ่งกัดขนมเข้าไป ขนมหาแหว่งไม่นั้น ถ้าเดือนหงายพระจันทร์เต็มบริบูรณ์วันใด จะพบญาติวันนั้น ความฝันนี้ดีนัก โลฮวยอ๋องได้ฟังคำทำนายฝันก็มีความยินดี แล้วพูดว่า ท่านจงรอดูท่าเราก่อน เราจะไปทูลเต็กไทเฮา แต่เปาบุ้นจิ้นนั้นมีราชการชำระถ้อยความ จะกลับไปก่อนก็ตามเถิด เปาบุ้นจิ้นก็คำนับลากลับไป โลฮวยอ๋องก็เข้าไปแจ้งแก่นางเต็กไทเฮาตามคำฮันขีทำนายฝันนั้นทุกประการ




ตอน ๑๓ ขึ้น ตอน ๑๕