ประกาศกระแสพระบรมราชโองการตั้งราชเลขาธิการและตั้งอธิบดีศาลฎีกา (ดั่น บุนนาค)
ประกาศกระแสพระบรมราชโองการตั้งราชเลขาธิการ
และตั้งอธิบดีศาลฎีกา[1]
มีพระบรมราชโองการ[2] ดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า บัดนี้ พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงปราจิณกิติบดี ราชเลขานุการ สิ้นพระชนม์ลง ตำแหน่งราชเลขานุการยังว่างอยู่ ทรงพระราชดำริห์ว่า ราชการในกรมราชเลขานุการมีมาก ซึ่งนับว่าเปนงานสำคัญ และเปนความลับ อีกทั้งมีกิจการจุกจิกต่าง ๆ เปนอันมาก ผู้ที่จะเปนราชเลขานุการต้องเปนผู้ที่ได้คุ้นแก่งานในกรมนี้ เปนผู้อำนวย จึงจะเปนระเบียบเรียบร้อยไปได้ ทรงพระราชดำริห์ว่า มหาเสวกเอก พระยาจักรปาณีศรีศิลวิสุทธิ์[3] อธิบดีศาลฎีกา เคยรับราชการในกรมราชเลขานุการมาแต่ก่อน และได้มีน่าที่ราชการติดต่อกับกรมนี้เรื่อยมา สมควรจะรับราชการในน่าที่นี้ได้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มหาเสวกเอก พระยาจักรปาณีศรีศิลวิสุทธิ์ อธิบดีศาลฎีกา เปนราชเลขาธิการ ซึ่งเป็นนามตำแหน่งที่โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนใช้แทนราชเลขานุการตั้งแต่นี้ไป
ส่วนตำแหน่งอธิบดีศาลฎีกานั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ มหาอำมาตย์โท พระยากฤติกานุกรณ์กิจ กรรมการศาลฎีกา[4] เปนอธิบดีศาลฎีกา ตั้งแต่บัดนี้เปนต้นไป
ประกาศมา ณ วันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๖๒
เชิงอรรถ
[แก้ไข]
งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"