ข้ามไปเนื้อหา

ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 148

จาก วิกิซอร์ซ
ประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ ๑๔๘
_______________


โดยที่กฎหมายว่าด้วยการกำหนดกิจการธนาคารแห่งประเทศไทยปัจจุบันยังไม่มีบทบัญญัติที่จะให้การดำเนินงานของธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถอำนวยประโยชน์ได้เพียงพอในทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ สมควรแก้ไขให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะปฏิวัติจึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ ๑  ให้ยกเลิกความใน (๔) ของมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช ๒๔๘๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมครั้งสุดท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“(๔) การซื้อขาย และรับช่วงซื้อลด ตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากกิจการอุตสาหกรรม กสิกรรม การเลี้ยงสัตว์ การทำป่าไม้ การประมง การทำเหมืองแร่ การทำนาเกลือ หรือการสาวไหมอันสุจริต หรือตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาให้เงินที่ออกเพื่อการส่งค่าบำรุงเข้ามูลภัณฑ์กันชนระหว่างประเทศซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศยอมให้ประเทศไทยถอนเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศเพื่อการนี้ได้

ตัวแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวในวรรคหนึ่ง ต้องมีลายมือชื่อของบุคคลที่พึงเชื่อถือได้สองคนเป็นอย่างน้อย ลายมือชื่อหนึ่งต้องเป็นของธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น และต้องถึงกำหนดใช้เงินไม่เกินสิบสองเดือนนับแต่วันซื้อหรือรับช่วงซื้อลดหรือภายในระยะเวลาเร็วหรือช้ากว่านั้นตามที่คณะกรรมการจะกำหนด แต่ต้องไม่เกินหกเดือนนับแต่วันซื้อหรือรับช่วงซื้อลด คณะกรรมการอาจกำหนดเงื่อนไขของการซื้อขายไว้ด้วยก็ได้”

ข้อ ๒  ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕

จอมพล ถ.  กิตติขจร

หัวหน้าคณะปฏิวัติ


งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"