ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ฉบับที่ 18
เล่ม ๑๒๓ ตอนที่ ๙๘ ก
๒๔ กันยายน ๒๕๔๙
ราชกิจจานุเบกษา
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระบบการบริหารงานตำรวจ เพื่อให้มีความเป็นอิสระ เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ยิ่งขึ้น และมิให้อิทธิพลทางการเมืองก้าวก่ายการดำเนินกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น อันจะก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนโดยส่วนรวมยิ่งขึ้น สมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีประกาศ ดังต่อไปนี้
ข้อ๑นับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้ ก.ตร. ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบด้วยบุคคล ดังต่อไปนี้
(๑)ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ
(๒)จเรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนด จำนวน ๒ คน
(๓)กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน ๖ คน ซึ่งได้รับการสรรหาจากประธานและกรรมการตาม (๒)
ให้ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เป็นกรรมการและเลขานุการ ก.ตร. และรองผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ก.ตร.
ข้อ๒ในการดำเนินการของ ก.ตร. ตามข้อ ๑ มิให้นำความในมาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ และมาตรา ๕๗ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการทำความตกลงและการให้ความเห็นชอบ มาใช้บังคับ
ข้อ๓การใดที่ ก.ตร. ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ดำเนินการไปแล้วก่อนวันที่ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับนี้ใช้บังคับ แต่การดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ และมีผลกระทบต่อการบริหารงานบุคคล และอยู่ในอำนาจของ ก.ตร. ให้ ก.ตร. ตามข้อ ๑ พิจารณาดำเนินการตามควรแต่กรณี
ข้อ๔ให้ ก.ตร. ซึ่งดำรงอยู่ในตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ พ้นจากตำแหน่ง
ข้อ๕ให้ดำเนินการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ให้แล้วเสร็จในหนึ่งปีนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
ข้อ๖เมื่อได้มีการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ หรือเมื่อครบกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ประกาศฉบับนี้เป็นอันยกเลิก
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
พลเอก สนธิ บุณยรัตกลิน
หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (2) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"