ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. ๔๔/๒๕๕๕
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. ๔๔/๒๕๕๕
เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. ๒๕๕๔
(ฉบับที่ ๒)
๑. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อให้การดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ผ่านสถาบันการเงินต่าง ๆ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น จึงเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. ๑๒/๒๕๕๕ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
๒. อำนาจตามกฎหมาย
อาศัยอำนาจตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย พ.ศ. ๒๕๕๕
๓. ขอบเขตการบังคับใช้
ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับสถาบันการเงินตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. ๑๒/๒๕๕๕ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
๔. เนื้อหา
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒ ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. ๑๒/๒๕๕๕ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๒ ผู้ที่อยู่ในข่ายได้รับความช่วยเหลือจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
(๑) เป็นบุคคลธรรมดาที่มีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน สถานที่ประกอบอาชีพ หรือสถานประกอบธุรกิจหรือการค้าของตนอยู่ในเขตพื้นที่อุทกภัย
(๒) เป็นผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่อยู่ในเขตพื้นที่อุทกภัย”
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๖ ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. ๑๒/๒๕๕๕ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๖ ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยแต่ละรายจะได้รับความช่วยเหลือเป็นระยะเวลาไม่เกิน ๕ ปี นับจากวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากสถาบันการเงิน โดยได้รับวงเงินช่วยเหลือ ดังนี้
(๑) ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ไม่เกิน ๓๐ ล้านบาท
(๒) บุคคลธรรมดา ไม่เกิน ๓ ล้านบาท”
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๐ (๖) ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. ๑๒/๒๕๕๕ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๒ ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. ๑๒/๒๕๕๕ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๑๒ สถาบันการเงินต้องตรวจสอบว่า
(๑) ผู้ที่ขอรับความช่วยเหลือตามประกาศนี้ ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ และอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังเกี่ยวกับเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอย่างแท้จริง
(๒) สถาบันการเงินได้พิจารณาแล้วว่า วงเงิน สัดส่วน ระยะเวลา และอัตราดอกเบี้ยที่ให้กู้ยืมแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด”
ข้อ ๕ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๗ ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. ๑๒/๒๕๕๕ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๑๗ เมื่อสถาบันการเงินมีเจตนาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งแห่งประกาศนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บเบี้ยปรับจากสถาบันการเงินในอัตราร้อยละ ๑๐ ต่อปี ตามจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติและตามระยะเวลาตั้งแต่วันที่มีการเบิกเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยจนถึงวันที่มีการชำระหนี้หรือตามระยะเวลาที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ แล้วแต่กรณี”
๕. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป[๑]
ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ประสาร ไตรรัตน์วรกุล
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๙/ตอนพิเศษ ๘๗ ง/หน้า ๕๐/๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕
งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"
Public domainPublic domainfalsefalse