ประกาศพระราชบัญญัติและพระราชกำหนดต่าง ๆ รัชกาลที่ 6/เล่ม 1/เรื่อง 6
มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ ให้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า เมื่อสมเด็จพระบรมชนกนารถ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังเสด็จดำรงพระชนม์อยู่โดยสวัสดิภาพ ได้พระราชทานกระแสพระราชดำริห์ดำรัสสั่งถึงการพระเมรุพระบรมศพของพระองค์ไว้ในพระราชหัดถเลขาฉบับ ๑ ว่า
“แต่ก่อนมาถ้าพระเจ้าแผ่นดินสวรรค์คตลง ก็ต้องปลูกพระเมรุใหญ่ซึ่งคนไม่เคยเห็นแล้วจะนึกเดาไม่ถูกว่าโตใหญ่เพียงใด เปลืองทั้งแรงคนแลเปลืองทั้งพระราชทรัพย์ ถ้าจะทำในเวลานี้ก็ดูไม่สมกับการที่เปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง ไม่เปนเกียรติยศยืนยาวไปได้เท่าใด ไม่เปนประโยชน์แก่คนทั้งปวง กลับเปนความเดือด ร้อน ถ้าเปนการศพท่านผู้ที่มีพระคุณหรือผู้มีบรรดาศักดิ์ใหญ่อันควรจะได้เกียรติยศ ฉันก็ไม่อาจจะลดทอนด้วยเกรงว่าคนจะเข้าใจว่าเพราะผู้นั้นประพฤติไม่ดีอย่างหนึ่งอย่างใดจึงไม่ทำการศพให้สมเกียรติยศซึ่งควรจะได้ แต่เมื่อถึงตัวฉันเองแล้วเห็นว่าไม่มีข้อขัดขวางอันใด เปนข้อคำที่จะพูดได้ถนัด จึงขอให้ยกเลิกงานพระเมรุใหญ่นั้นเสีย ปลูกแต่ที่เผาพอสมควรในท้องสนามหลวงแล้วแต่จะเห็นสมควรกันต่อไป” พระบรมราโชวาทซึ่งสมเด็จพระบรมชนกนารถพระราชทานไว้มีอยู่ดังนี้
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชปรารพถึงการพระเมรุที่จะทำถวายพระเพลิงพระบรมศพสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระบรมชนกนารถ จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้เรียกรายกะเกณฑ์การพระเมรุพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลก่อน ๆ ซึ่งใช้เปนแบบแผนสืบต่อมามาทอดพระเนตร ก็ได้ความว่า ต้องกะเกณฑ์ราษฎรนับด้วยหมื่นให้ไปเที่ยวเลือกคัดตัดลากไม้ซุงเสามาส่ง ตั้งแต่ไม้ขนาดยาวเส้น ๑ ลงมา เปนไม้หลายร้อยหลายพันต้น แลยังเกณฑ์แรงเกณฑ์สิ่งของเครื่องใช้อย่างอื่น ๆ มาทำพระเมรุ แลเครื่องแห่อีกเปนอันมาก พระเมรุที่ทำนั้น เมื่อสิ้นงานพระบรมศพแล้ว ก็รื้อทิ้งเสียเปล่า มีสิ่งของน้อยนักที่จะเปนประโยชน์อย่างอื่นต่อไปได้ จึงทรงพระราชดำริห์เห็นว่า กระแสพระราชดำริห์แลพระราชประสงค์ของสมเด็จพระบรมชนถนารถที่พระราชทานไว้นั้นเปนการชอบประกอบด้วยพระกรุณาแก่คนทั้งหลาย ทรงมุ่งหมายแต่ในสิ่งซึ่งจะเปนถาวรประโยชน์ แลให้เปนความศุขสำราญแก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเปนใหญ่ยิ่งกว่านิยมในคติที่ถือกันมาว่าเปนพระเกียรติยศอันหาสาระประโยชน์มิได้ ควรที่คนทั้งหลายจะคิดเห็นพระเดชพระคุณในข้อนี้เปนข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคารพต่อพระราชประสงค์แห่งสมเด็จพระบรมชนกนารถ ซึ่งพระองค์ทรงพระราชดำริห์เห็นว่าชอบแลสมควรอย่างยิ่งดังกล่าวมาแล้ว จึงได้ทรงพระราชดำริห์ในที่ประชุมเสนาบดีกะการพระเมรุที่จะถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระบรมชนกาธิราชดังนี้ คือ
จะโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมจัดแต่งพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแลทั่วไปในบริเวณนั้นแทนพระเมรุที่ประดิษฐานพระบรมศพ เมื่อขึ้นเดือนมีนาคมจะได้เชิญพระบรมศพเสด็จจากมุขตวันตกมาประดิษฐานเหนือพระเบญจาทองคำท่ามกลางพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลแลพระราชทานพระบรมราชานุญาตแก่พระบรมวงษานุวงษ ข้าทูลลอองธุลีพระบาท ตลอดจนอาณาประชาราษฎร ให้มีโอกาศเข้ามาบำเพ็ญการกุศลสนองพระเดชพระคุณได้ตามความประสงค์ทั่วน่า แลที่ท้องสนามหลวงนั้นจะได้ปลูกพระเมรุมาศเปนที่ถวายพระเพลิง มีพระที่นั่งทรงธรรม ที่พักพระบรมวงษานุวงษ์ ข้าราชการ แลบรรดาผู้มีตำแหน่งในงานนั้น แต่ไม่มีมโหรศพเครื่องสนุกสนาน เช่นโขนลครดอกไม้เพลิงเปนต้น อย่างหนึ่งอย่างใด เมื่อถึงกลางเดือนมีนาคม ร.ศ. ๑๒๙ นี้ จะได้เชิญพระบรมศพแห่จากพระบรมมหาราชวังไปยังพระเมรุมาศ พระสงฆ์เจริญศราทธพรตแล้ว จะได้ถวายพระเพลิงพระบรมศพในเย็นวันนั้น รุ่งขึ้นแห่พระบรมอัฐิกลับคืนเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง ประดิษฐานไว้ณะพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่อไปจนสิ้นสัตมวารแล้ว จึงจะได้เชิญพระบรมอัฐิไปประทับณะพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท
เพราะว่างานพระเมรุครั้งนี้จะเปนการแปลกกับแบบแผนงานพระเมรุพระบรมศพซึ่งได้เคยทำมาแต่ก่อน ผู้ใดไม่ทราบความจริงจะเข้าใจผิดไปต่าง ๆ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศเหตุแห่งการที่เปลี่ยนแปลงนี้ให้ทราบทั่วกัน ส่วนรายการโดยเลอียดแลกำหนดวันงานนั้น เจ้ากระทรวงจะได้มีบัตรหมายตามกระบวนราชการต่อไปภายหลัง ๚
ประกาศมาณวันที่ ๖ เดือนธันวาคม รัตนโกสินทร์ศ๑ก ๑๒๙