ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๔๔

จาก วิกิซอร์ซ

ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๔๔ เรื่องจดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศส ซึ่งเข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยา ตอนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภาคที่ ๕

พิมพ์แจกในงานปลงศพ นางแย้ม สุวงศ, นางเง็กเน้ย ตั้งเจริญ นางจีนพากย์บริวัตร ( กิมจี๊ สุวงศ ) และนางสาวระเบียบ สุวงศ ที่วัดสระเกศ วันที่ ๒๒ มีนาคม พระพุทธศักราช ๒๔๗๐

พิมพ์ที่โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร

คำนำ นายร้อยตำรวจเอก หลวงจีนพากย์บริวัตร (โซคึนจือ สุวงศ) ปรารภการปลวงศพ นางแย้ม สุวงศ ผู้เปนมารดา นางเง้กเน้ย ตั้งเจริญ ผู้เปนพี่ นางจีนพากย์บริวัตร (กิมจี๊ สุวงศ) ผู้เปนภรรยา แลนางสาวระเบียบ สุวงศ ผู้เปนบุตรี ซึ่งจะทำในเดือนมีนาคมศกนี้ ใคร่พิมพ์หนังสือแจกสักเรื่องหนึ่ง จึงมอบให้พระยารามบัณฑิตสิทธิเศรณีผู้บุตรมาขอหนังสือที่ราชบัณฑิตยสภา กรรมการจึงเลือกคำแปลจดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศสซึ่งเข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยาภาคที่ ๕ ให้พิมพ์ตามประสงค์ คำแปลจดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศสซึ่งเข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยาภาคที่ ๕ นี้นับเปนประชุมพงศาวดารภาคที่ ๔๔ ได้ขอคัดภาษาฝรั่งเศสมาจากประเทศฝรั่งเศสใน พ.ศ. ๒๔๖๓ หนังสือเหล่านี้ปรากฎว่ามีอยู่ ๔ แห่ง คือ ที่กระทรวงว่าการเมืองขึ้นแห่ง ๑ เปนรายการแลจดหมายเหตุต่างๆ ที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้รับจากประเทศสยาม ที่กระทรวงทหารเรือแห่ง ๑ เปนสำเนาจดหมายแลคำสั่งต่าง ๆ ที่ได้ส่งมายังประเทศสยาม ที่กระทรวงต่างประเทศแห่ง๑ เปนสำเนาหนังสือสัญญาแลรายงานสำคัญที่คณะทูตานุทูตฝรั่งเศส ซึ่งเข้ามาเมืองไทยในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ทำเสนอเสนาบดีกระทรวงต่างประเทศไว้


ข ที่หอสมุดสำหรับนครแห่ง ๑ เปนเรื่องเบ็ดเตล็ดที่เกี่ยวกับเมืองไทยในเวลานั้น มีทั้งต้นฉบับแลสำเนาจดหมายเหตุที่เก็บอยู่ตามกระทรวงต่าง ๆ การขอคัดในคราวนั้นได้มา ๓ แห่ง ที่กระทรวงทหารเรือยังไม่ได้มาหวังใจว่าคงจะได้มาในภายน่า จดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศสที่เข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยานี้ ว่าโดยรูปเรื่องที่เกี่ยวกับพงศาวดารก็คล้ายกับจดหมายเหตุคณะบาดหลวงฝรั่งเศส ผิดกันแต่ความมุ่งหมายของคณะ คือพวกบาดหลวงมุ่งหมายในการสอนสาสนามาก มีเหตุการอันใดเกี่ยวแก่การสาสนาก็จดลงโดยพิสดาร พวกพ่อค้าผู้มุ่งมากอยู่ในการค้าขายก็จดรายละเอียดไปในทางค้าขาย ส่วนประวัติของบ้านเมืองใครรู้เห็นอย่างไรก็จดอย่างนั้น ข้อความจึงตรงกันบ้าง แผกเพี้ยนกันบ้าง เพราะเปนธรรมดาของคนภายนอกจะล่วงรู้การบ้านเมืองภายในให้ละเอียดนั้นยาก แต่จดหมายเหตุที่คนในสมัยนั้นจดไว้ถึงแม้จะไม่แจ่มแจ้งทีเดียวก็ยังเปนหนังสือที่ช่วยความรู้ ในพงศาวดารสมัยนั้น เพราะเปนเรื่องที่ได้ยินแก่หูรู้ด้วยตาใกล้ความจริงมีมาก ราชบัณฑิตยสภา วันที่ ๑๔ มีนาคม พระพุทธศักราช ๒๔๗๐ อุปนายก ค ประวัติกาลย่อของผู้มรณะ

๑ นางแย้ม สุวงศ [ เปนมารดานางเง็กเน้ย ตั้งเจริญ และ นายร้อยตำรวจเอก หลวงจีนพากย์บริวัตร (โซคึนจือ สุวงศ) ] เกิดวันจันทร แรมค่ำ ๑ เดือนยี่ ปีมะแม พ.ศ. ๒๓๙๐ ถึง มรณะกรรม วันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ อายุได้ ๘๐ ปี ๒ นางเง็กเน้ย ตั้งเจริญ เกิดวันจันทร ที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๐๖ ถึงมรณะกรรม วันศุกร ที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ อายุ ๖๑ ปี ๓ นางจีนพากย์บริวัตร (กิมจี๊ สุวงศ) เกิดวันพุธ ที่ ๑๑ ธันวาคม ปีมะแม พ.ศ. ๒๔๑๔ [ มีบุตรยังมีชีวิตอยู่ ๔ คน คือ พระยา รามบัณฑิตย์สิทธิเศรณี ( เซี้ยง สุวงศ ), นายร้อยเอก สิ่น สุวงศ, นายร้อยเอก ซิม สุวงศ, แลนางสาวละออ สุวงศ, ] ถึงมรณะกรรม วันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ อายุ ๓๙ ปี ๔ นางสาวระเบียบ สุวงศ เกิดวันศุกร ที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๔๔ [ เปนบุตรีหลวงจีนพากย์บริวัตร แลนางจีนพากย์บริวัตร ] ถึงมรณะกรรม วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ อายุ ๒๖ ปี



สารบาน จดหมายมองซิเออร์เวเรต์ว่าด้วยการทำงานกับคนไทย หน้า ๑ ว่าด้วยนิสสัยใจคอของคอนซตันซ์ " ๒ ว่าด้วยการค้าขายในเมืองไทย " ๔ ว่าด้วยรายได้ของพระเจ้าแผ่นดินแลข้าราชการ " ๕ ว่าด้วยสินค้าพริกไทกานพลูแลจันทน์เทศ " ๗ ว่าด้วยความประสงค์ของไทยที่เปนไมตรีกับฝรั่งเศส " ๑๐ ว่าด้วยเรื่องที่คอนซตันซ์กดขี่มองซิเออร์เดอรูอัง แลมองซิเออร์ชาล " ๑๒ ว่าด้วยความคิดมองซิเออร์เวเรต์จะทำการค้าขาย กับคอนซตันซ์ " ๒๒ ว่าด้วยคอนซตันซ์ให้ทำโทษมองซิเออร์เดอรูอัง " ๒๘ ว่าด้วยมองซิเออร์เวเรต์คิดแก้ไขมองซิเออร์เดอรูอัง " ๓๒ ว่าด้วยมองซิเออร์เวเรต์คิดจะไม่อยู่เมืองไทย " ๓๗ ว่าด้วยการค้าขายในเมืองแถบตวันออก " ๔๕ ว่าด้วยสินค้าที่ควรส่งมาจากฝรั่งเศส " ๔๘ ว่าด้วยคอนซตันซ์คอยให้ร้ายอยู่เสมอ " ๔๙ ว่าด้วยการค้าขายของพวกฮอลันดา " ๕๒ ว่าด้วยความคดโกงของคอนซตันซ์ " ๕๓ ว่าด้วยบุตรเจ้าเมืองมากาซาไปเล่าเรียนในประเทศฝรั่งเศส " ๕๗ ว่าด้วยความปั่นป่วนของพ่อค้าฮอลันดาแลอังกฤษ " ๕๙ ว่าด้วยมองซิเออร์เวเรต์ขอให้ส่งของมาจากฝรั่งเศส " ๖๐

( ๒ ) จดหมายมองซิเออร์เวเรต์ฝากของออกไปฝรั่งเศส หน้า ๖๓ จดหมายเหตุของบาดหลวงเดอชัวซีว่าด้วยการค้าขาย ในอินเดีย " ๖๔ ว่าด้วยอำนาจของพวกฮอลันดาในอินเดีย " ๖๔ ว่าด้วยสัญญาระหว่างพวกฮอลันดากับเปอเซีย " ๖๘ ว่าด้วยความคิดที่จะกำจัดพวกฮอลันดา " ๗๐ ว่าด้วยฝรั่งเศสคิดจะตั้งท่าเรือที่เมืองสงขลาแลเมืองไทร " ๗๑ ว่าด้วยตำนานเมืองสงขลา " ๗๕ ว่าด้วยทำเลค้าขายที่เมืองสงขลา " ๗๗ ว่าด้วยการค้าขายของชาวต่างประเทศเมื่อ ๑๐ ปีมาแล้ว" ๗๘ ว่าด้วยวิธีดำเนินการอันจะจัดที่สงขลา " ๘๐ จดหมายเหตุเรื่องมองซิเออร์เดอฟอแบงออกจากราชการ ของพระเจ้ากรุงสยาม " ๘๕ จดหมายมองซิเออร์คอนซตันซ์ชมเชยมองซิเออร์เดอลามา ช่างก่อสร้างคนใหม่ที่มาแทนมองซิเออร์ เดอฟอแบง " ๘๗ จดหมายมองซิเออร์เวเรต์ว่าด้วยความคิดที่จะตั้งค้าขาย ที่เกาะปูโลคอนดอ " ๙๑ ว่าด้วยความคิดที่จะแข่งค้าขายชาวต่างประเทศด้วยกัน" ๙๓ ว่าด้วยอากาศในเมืองไทย " ๙๕ ว่าด้วยราคาการก่อสร้างแลเตรียมอาวุธ " ๙๖

( ๓ ) ว่าด้วยความประพฤติระหว่างมองซิเออร์เวเรต์ หน้า กับมองซิเออร์คอนซตันซ์ " ๙๗ ข้อความบางตอนในจดหมายของคอนซตันซ์ " ๑๑๐ จดหมายเรื่องส่งของ " ๑๑๐ จดหมายเรื่องส่งบุตรเจ้าเมืองมากาซา " ๑๑๑ จดหมายเรื่องสินค้าพริกไทย " ๑๑๓ เรื่องเกาะภูเก็จเกี่ยวแก่ประเทศสยามอย่างไร " ๑๑๔ จดหมายบันทึกเรื่องวิธีการคณะบาดหลวง " ๑๑๙ สำเนาคำแปลตราตั้งของพระเจ้ากรุงกอลกอนตา เรื่องอนุญาตให้ฝรั่งเศสตั้งการค้าขาย " ๑๒๑ รายงานของต้นหนเรือมาซังเดอสยามเรื่องพวกฮอลันดา วิวาทกับอังกฤษ " ๑๒๒ คำให้การของต้นหนเรือมาซังเดอสยามเรื่องพวกฮอลันดา วิวาทกับอังกฤษ " ๑๒๔ บันทึกข้อความเรื่องจะให้ราชทูตไทยกลับจากประเทศ ฝรั่งเศส " ๑๒๙ สำเนาข้อดำริห์ที่จะจัดการให้บริษัทฝรั่งเศสฝ้ายอินเดีย ได้ทำการค้าขาย " ๑๓๓ ความดำริห์ที่บริษัทจะคิดวิธีค้าขายในอินเดียฝ่ายตวันออก " ๑๓๗ สำเนาพระราชสาส์นของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามมีไปถวาย สมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส " ๑๔๑

( ๔ ) สำเนาพระราชสาส์นสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามประทาน หน้า ไปยังโป๊ป " ๑๔๓ สำเนาจดหมายเจ้าพระยาพระคลังมีไปยังผู้อำนวยการ บริษัทฝรั่งเศสที่ทำการค้าขายในอินเดียทางตวันออก" ๑๔๔ คัดข้อความย่อจากหนังสือของราชทูตสยาม " ๑๔๖ ข้อสนทนาโตตอบระหว่างราชทูตสยามกับฝ่ายฝรั่งเศส " ๑๕๑ จดหมายบาดหลวงชาร์ดร้องขอให้รัฐบาลฝรั่งเศส ดำริห์หาคนที่มีไหวพริบส่งเข้ามาไว้ในเมืองไทย " ๑๕๘ จดหมายมาควิศเดอเซเนล์ถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์ แนะนำในเรื่องส่งบาดหลวงตาชาด์เข้ามากรุงสยาม " ๑๖๖ จดหมายมองซิเออร์ โวดรีคูร์ ยื่นรายงานการที่จะประจำเรือ เข้ามากรุงสยาม " ๑๖๗ จดหมายผู้อำนวยการบริษัทอินเดียบอกสั่งจ่ายเสบียง " ๑๗๐ จดหมายมองซิเออร์เดอลานยีบอกข่าวเหตุการณ์ ข้างเมืองไทยเมื่อเดอโชมองกลับแล้ว " ๑๗๐ จดหมายมองซิเออร์เดอโวดรีคูร์บอกเหตุการณ์ตั้งแต่ ออกจากเมืองเบรสต์จนถึงแหลมเคปออฟกุดโฮป " ๑๗๓ จดหมายออกญาวิชเยนทรถึงเสนาบดีฝรั่งเศส ตอบขอบใจ เรื่องได้รับของแลเรื่องให้บาดหลวงชาด์กลับไป จัดการที่ประเทศฝรั่งเศส " ๑๗๘


( ๕ ) จดหมายบาดหลวงตาชาด์บอกเรื่องการที่คอนซตันซ์ หน้า รับรอง " ๑๘๒ จดหมายบันทึกที่ให้บาดหลวงตาชาด์มาพูดกับฝ่าย กรุงสยามว่าด้วยทางพระราชไมตรี แลต้อนรับ ราชทูตสยาม " ๑๘๓ ว่าด้วยฝรั่งเศสส่งกองทหารให้มาประจำที่บางกอก " ๑๘๙ ว่าด้วยความศักดิสิทธิ์ของสาสนาคริสเตียน " ๑๙๑ สำเนาคำสั่งลับสำหรับบาดหลวงตาชาด์เรื่องให้ยกย่อง คอนซตันซ์ " ๑๙๔ เรื่องให้กองทหารฝรั่งเศสอยู่ประจำฉะเพาะที่บางกอก และจัดคนฝรั่งเศสได้รับราชการปกครองหัวเมือง" ๑๙๗ เรื่องให้ส่งทหารไปประจำตามเมืองท่าเมื่อจะทำสัญญา การค้าขาย " ๒๐๑ พระราชโองการของพระเจ้ากรุงสยามดำรัสสั่งให้นายพล เดฟาวปฏิบัติการในที่พักทหารที่บางกอก ๕ ข้อ " ๒๐๔ จดหมายมองซิเออร์ฟอลคอนเรื่องให้กองทหารฝรั่งเศส ทำสัตย์สาบาลแลกำหนดข้อบังคับที่ทหารฝรั่งเศส จะต้องประพฤติ " ๒๐๘ ร่างข้อสัญญสาเรื่องตั้งกองทหารซึ่งฝรั่งเศสทำกับไทย " ๒๑๘ ข้อสัญญาลับ " ๒๒๒


จดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศส ซึ่งเข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยา ตอนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ต่อจากภาคที่ ๔ ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๔๓)

จดหมายมองซิเออร์เวเรต์ ซึ่งได้รับมาจากเรือเลอคอช อันได้แล่นไปมาถึงท่าเรือเมืองหลุยเมื่อวันที่ ๒๒ เดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๖๘๗ ( พ.ศ. ๒๒๓๐ ) ข้าพเจ้าต้องขออภัยในการที่ได้เขียนจดหมายมายังท่านโดยรีบด่วนในเวลาที่ท่านราชทูตฝรั่งเศสจะกลับจากเมืองไทย แต่ในเมืองนี้มักทำงานกันอย่างล่าช้าที่สุด เพราะฉนั้นถ้าจะทำอะไรก็ต้องทำในเวลาที่สุดซึ่งจวนจะหมดเวลาอยู่แล้ว การที่ไทยทำการเช่นนี้ก็เพื่อประสงค์จะให้การทั้งหลายได้เปนไปตามใจของเขา และการเหล่านี้เมื่อเปนไปตามความมุ่งหมายของไทยแล้ว ก็มิได้อยู่ในคลองยุติธรรมหรือด้วยน้ำใจสุจริตเลย ข้อนี้ท่านคงจะรู้สึกได้เมื่ออ่านหนังสือสัญญาฉบับหลังที่ท่านราชทูตได้ตกลงทำเมื่อเร็ว ๆ นี้ ถ้าข้าพเจ้าได้มีเวลามากกว่านี้ ข้าพเจ้าจะได้พยายามทำการตามหน้าที่โดยรายงานให้ท่านทราบอย่างละเอียด ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ดังข้าพเจ้าได้เห็นด้วยตาของตัวเอง เพราะตั้งแต่ข้าพเจ้าได้มาอยู่ในเมืองนี้ ๑


๒ ก็ได้พยายามแสวงหาความจริงและแสวงหาความรู้สำหรับจะได้ให้บริษัท มีประโยชน์มากที่สุดที่จะทำได้ และข้าพเจ้าก็ได้คอยปฏิบัติการตามคำแนะนำของท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศ ท่านบาดหลวงเยซวิตและมองซิเออร์เดอลามาร์ ผู้เปนเอนยินเนียซึ่งท่านราชทูตได้ทิ้งไว้ในเมืองไทย เพราะมองซิเออร์เดอลามาร์คนนี้เปนคนที่ฉลาดไหวพริบที่สุดและเปนคนซื่อ จะหาใครในโลกนี้ซื่อเท่ากับมองซิเออร์เดอลามาร์เปนไม่ได้ มองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นเปนคนที่จะได้พูดถึงบ่อย ๆ ในจดหมายฉบับนี้ และเปนคนที่เปนหัวหน้าอันเด็ดขาดของการทั้งปวงที่ทำกันในเมืองนี้ เพราะฉนั้นข้าพเจ้าจะได้กล่าวอธบายถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์แล้ว ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านคงจะไม่ขัดเคืองเปนแน่ มองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นเปนคนไม่สูงไม่ต่ำ รูปร่างหน้าตาดีพอใช้ได้สำหรับเมืองนี้ อายุอยู่ในราว ๓๕ หรือ ๓๖ ปี เปนคนไหวพริบ รูปกายภายนอกงดงาม แต่ข้าพเจ้าสงสัยว่าภายในใจจะไม่ตรงกับรูปภายนอก เพราะทุก ๆ วันคงคิดการหลายพันอย่างแต่ไม่ได้ทำการตามที่คิดไว้สักอย่างเดียว มอง ซิเออร์คอนซตันซ์เปนคนมักได้ฝ่ายสูง เปนคนชอบเงิน ชอบทำการแก้แค้น ชอบคนยอและชอบคนที่ลงหมอบคลาน นอกจากนี้ก็เปนคนดีที่สุดในโลกนี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์เปนชาติกริก ได้เคยทำการกับบริษัทอังกฤษอยู่ช้านานในหน้าที่กะลาสี ภายหลังได้ลาออกจากบริษัทอังกฤษจึงมารับจ้างทำงานอยู่กับมิศเตอร์ฮอยต์ชาวอังกฤษซึ่งเปน คนมีทรัพย์มากมาตั้งบ้านเรือนอยู่ในเมืองนี้ มิศเตอร์ฮอยต์ได้ใช้ให้

๓ มองซิเออร์คอนซตันซ์ไปเมืองจีนและเมืองตังเกี๋ยในกิจการส่วนตัวของเขา ครั้นภายหลังมิศเตอร์ฮอยต์ได้กลับไปเมืองอังกฤษ มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ตกค้างอยู่ในเมืองไทย จึงได้คิดอ่านเสือกไสตัวจนบัดนี้กลายเปนคนที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองนี้ ในชั้นต้นข้าพเจ้าออกหนักใจอยู่บ้าง ด้วยไม่ทราบว่าจะควรวางตัวกับมองซิเออร์คอนซตันซ์อย่างไร ข้าพเจ้าได้ไปหารือกับผู้ที่ได้ออกนามมาในตอนต้นนั้นแล้ว ว่าข้าพเจ้าควรจะทำท่าวางตัวอย่างไรท่านเหล่านั้นได้ตกลงว่า ข้าพเจ้าควรจะถ่อมตัวลงให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ที่สุดที่จะทำได้โดยอย่าให้เสียเกียรติยศของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงได้พูดกับท่านเหล่านั้นว่า ทำอย่างไร ๆ ข้าพเจ้ากับมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะต้องมีข้อขัดใจกัน เพราะเหตุว่าข้าพเจ้าจะต้องถือเอาประโยชน์ของบริษัทเปนใหญ่ และเมื่อมองซอเออร์คอนซตันซ์ไม่ได้เอาใจท่านราชทูตเลย ข้าพเจ้าก็หมดความหวังว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะให้ความยุติธรรมในการของข้าพเจ้า ถึงข้าพเจ้าจะพูดอย่างไรหรือปฏิบัติอย่างไรก็คงจะไม่สำเร็จเปนแน่ ท่านสังฆราชและท่านบาดหลวง จึงได้แนะนำห้ามไม่ให้ข้าพเจ้าตกใจในการต่าง ๆ ที่ได้เปนไปแล้ว ถ้าข้าพเจ้าได้ยอมทำดีต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์แล้ว ทำอย่างไร ๆ ข้าพเจ้าก็คงจะได้รับผลที่จะเปนประโยชน์ต่อบริษัท เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์มีนิสสัยถ้าเคยได้เปรียบใครลงสักครั้ง ๑ แล้วก็คงจะบีบคั้นคน ๆ นันเสมอไป ข้อนี้ได้เคยมีตัวอย่างปรากดแก่ตาโลกมาแล้ว คือมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้จับเอาหัวหน้าชาวอังกฤษไปใส่ขื่อคน ๑ โดยผู้นั้นก็มิได้มีความผิด

๔ อย่างใดเลย แต่ที่ถูกเอาไปใส่ขื่อนั้นก็เพราะชาวอังกฤษผู้นั้นจะต้องการกราบทูลกล่าวโทษมองซิเออร์คอนซตันซ์ต่อพระเจ้ากรุงสยามเท่านั้น การต่าง ๆ ที่เปนอยู่ดังนี้เปนเรื่องที่ข้าพเจ้ามิได้พอใจเลย ข้าพเจ้าจึงหยากนักที่จะให้มีใครมาทำการแทนข้าพเจ้าในเมืองนี้ หรือมิฉนั้นก็ให้ข้าพเจ้าได้ปิบัติการอย่างมองซิเออร์เดลานด์หรือมองซิเออร์ลูแวงก็ ยังดี แต่เมื่อมาถึงที่สุดเช่นนี้แล้ว ข้าพเจ้าก็จำจะต้องทนเอาและต้องเอาใจดีเข้าต่อไว้เท่านั้น ก่อนที่ข้าพเจ้าจะได้ชี้แจงถึงการงานของบริษัทนั้น จำเปนข้าพเจ้าจะต้องอธิบายถึงการค้าขายของเมืองนี้ให้ท่านทราบเสียก่อนคือ ในเมืองนี้ไม่มีสินค้าอย่างใดนอกจาก ดีบุก หนังโคกระบือและหนังกวางเท่านั้นและสินค้าเหล่านี้ไทยก็ได้ยกให้แก่พวกฮอลันดาเสียหมดแล้ว แต่เมื่อไทยได้ยอมให้พวกฮอลันดาได้ทำการต่าง ๆ ตั้งพันอย่าง พวกฮอลันดาก็ยังไม่พอใจ และพวกฮอลันดาก็คิดจะทำสงครามกับพระเจ้ากรุงสยามมา ๓ หรอื ๔ ปีแล้ว ซึ่งเปนการที่พวกไทยออกจะกลัวมาก นอกจากนี้ยังมีงาช้างซึ่งเปนสินค้า แต่สินค้างาช้างนี้เปนของผูกขาดของพระเจ้ากรุงสยามเสียแล้ว สินค้าอย่างอื่นก็มีไม้ฝางและไม้อย่างอื่น แต่สินค้าไม้นี้ก็ไม่ใคร่เปนประโยชน์เท่าไรนัก ส่วนสินค้าที่มาจากต่างประเทศนั้นเขาพูดกันว่า เมื่อก่อนหลายปีมาแล้วได้มีสินค้ามาจากเมืองจีนยี่ปุ่นและเมืองอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ตกเข้ามาในเมืองไทยมากหลายอย่าง แต่มาในเวลานี้ถ้าจะต้องการหาซื้อของแปลก ๆ เปนราคาสัก ๑๐๐ แฟรงก็เกือบจะหาซื้อไม่ได้ เหตุที่เปนเช่นนี้ก็เพราะพวกไทยได้ทำการกดขี่

๕ พวกพ่อค้า เมื่อพวกพ่อค้าพาสินค้าเข้ามาพวกไทยก็เอาไว้เสียและคิดราคาให้ตามชอบใจ จนที่สุดพวกพ่อค้าก็ไม่อาจจะเข้ามาค้าขายในเมืองนี้และพวกที่อยู่ในเมืองนี้ก็จำเปนต้องกลับออกไปหมด เมื่อท่านราชทูตฝรั่งเศสยังอยู่ในเมืองไทยก็ได้ซื้อของบ้างเล็กน้อยแต่ราคาแพงอย่าง ที่สุด และผู้ที่เอาของมาขายนั้นก็ต้องมาขายอย่างลับ ๆ ไม่กล้าเปิดเผย เพราะเหตุว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พยายามอย่างที่สุดที่จะอวดอ้างในความมั่งคั่งบริบูรณ์ของพระเจ้ากรุงสยาม จนที่สุดของที่จะแจกนั้นก็ต้องไปเบิกมาจากคลังของพระเจ้ากรุงสยามและคลังของพระราชินีจนหมดของในคลังหาอะไรไม่ได้อีกแล้ว ในที่นี้ขอให้ท่านทราบด้วยว่าฝ่ายพระราชินีก็ทรงทำการค้าขายฉะเพาะพระองค์เหมือนกัน แต่พะเอิญของในท้องพระคลังก็หมดเสียแล้ว จึงต้องเกณฑ์เอาของจากพวกขุนนางข้าราชการสำหรับจะได้เอาของเหล่านั้นมาแจกพนักงานข้าราชการที่ มาด้วยกับท่านราชทูต แต่ถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์จะอวดอ้างอย่างไรก็ไม่เห็นมีอะไรวิเศษหรือแปลกปลาดอย่างใดเลย และข้าพเจ้าเชื่อว่าพวกเรือรบฝรั่งเศสซึ่งมีเงินติดตัวมาสำหรับซื้อสินค้าต่าง ๆ เปนอันมากคงจะไม่ได้ซื้อของเปนราคาถึงสองหรือสามพันแฟรงเสียซ้ำ เพราะของต่าง ๆ ในเมืองนี้มีราคาแพงอย่างที่สุด ราษฎรพลเมืองในเมืองนี้เปนคนที่ยากจนอย่างสาหัส และถ้าบางคนมีความหมั่นเพียรจนมีเงินหรือมีของบ้างเล็กน้อย ก็ต้องเอาเงินหรือของนั้นซ่อนเสียด้วยเกรงจะต้องถูกกดขี่ เพราะท่านผู้ที่เปนผู้ใหญ่หรือเปนเจ้านายในเมืองนี้ เลี้ยงตัวอยู่ได้ก็ด้วยอาศรัยกำลังของพวกทาส ทาสเหล่านี้เปนคนที่พระเจ้าแผ่นดินพระราช

๖ ทานให้แก่เจ้านายแลข้าราชการผู้ใหญ่ และท่านผู้ใหญ่เหล่านี้ก็มักปล่อยทาสให้ไปทำมาหากินเสียครึ่ง ๑ ทาสเหล่านี้ก็เอาเงินมาให้แก่นายวันละอัฐหรือ ๒ อัฐทุกวันไป นี่และเปนผลประโยชน์รายได้ของผู้ที่มีตระกูลและบันดาศักดิ์ในเมืองนี้ เพราะท่านเหล่านี้จะหาเรือกสวนไร่นาหรือทรัพย์สมบัติอย่างใดก็ไม่ได้ และทรัพย์ที่มีอยู่ก็เปนทรัพย์ที่ท่านพวกนี้ลักขะโมยจากทาสและคนใช้ของตัวเท่านั้น ของที่บีบคั้นจากพวกทาสนั้นก็เปนของเล็กน้อยที่สุด เพราะฉนั้นเปนเรื่องที่น่าสงสารมาก การที่ไทยคิดชักชวนให้ท่านมาอยู่ในเมืองไทยนั้นก็ไม่มีประสงค์อย่างอื่นนอกจากจะคิดเอาเงินของท่านเท่านั้น และถ้าท่านได้ยอมให้เปนไปเช่นนั้น ข้าพ เจ้าก็เห็นว้าจะติเตียนพวกไทยไม่ได้ ในความดำริห์ของพวกไทยนั้น ก็คิดว่าจะเอาสินค้าที่มาจากเมืองจีนเมืองยี่ปุ่นและเมืองอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงอันไม่ใช่สินค้าของไทยนั้น ขายให้แก่ท่านโดยคิดเอากำไรมาก ๆ จากท่าน ความคิดนี้เปนความคิดของมองซิเออร์คอนซตันซ์ และถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์คิดว่าการนี้จะไม่สำเร็จก็คงจะไม่มาเปนเพื่อนกับข้าพเจ้าเปนแน่ ส่วนข้าพเจ้าก็คอยเอาใจอยู่ และทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เชื่ออยู่เสมอว่าความคิดอันนี้คงจะเปนการสำเร็จ เพราะข้าพเจ้าหวังใจว่าท่านคงจะคิดหาหนทางอย่างอื่นสำหรับที่จะทำประโยชน์ให้ดีกว่านี้ ได้เปนแน่ ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าได้มีจดหมายชี้แจงไปยังท่านมาควิศเดอเซเนเลด้วยฉบับ ๑ เหมือนกัน และข้าพเจ้าได้อธิบายให้ท่านมาควิศเดอเซเนเลเข้าใจว่า ถ้าจะลงทุนแต่เล็กน้อยเท่านั้ บริษัทก็คงจะได้ค้าขายพริกไท ลูกจันทน์เทศ และกานพลู เปนจำนวนมากเท่ากับพวกฮอลันดาเหมือนกัน ๗ ในส่วนพริกไทนั้น พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงรับรองว่าจะได้พระราชทานให้เราเปนจำนวนพระไทมาก แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าทำอย่างไร ๆ เราก็คงจะไม่ได้พริกไทนี้เปนแน่ เพราะข้าพเจ้าได้พยายามนักหนาที่จะไปดูไร่พริกไท แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คอยกีดกันไม่ยอมให้ข้าพเจ้าไปเลย ข้าพเจ้าได้ซื้อเรือเล็ก ๆ ไว้ลำ ๑ และได้ซื้อสินค้าต่าง ๆ ไว้สำหรับจะเอาไปจำหน่ายที่เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเปนอุบายปิดไม่ให้รู้ว่าข้าพเจ้าจะไปเมืองนครศรีธรรมราชด้วยความประสงค์อันใด มอง ซิเออร์คอนซตันซ์ก็รับรองอยู่ทุกวันว่าจะยอมให้ข้าพเจ้าไป แต่ก็ผลัด ๆ อยู่อย่างนี้ถึง ๓ เดือน ข้าพเจ้าจึงได้ไปชี้แจงต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่าที่ทำการเช่นนี้เปนการเสียหายต่อบริษัท มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ตอบข้าพเจ้าว่า ต้องนำความกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยามเสียก่อนข้าพ เจ้าจึงจะไปได้ ข้าพเจ้าจึงขอความกรุณาให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ช่วยกราบทูลให้ด้วย ครั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้หลอกให้ข้าพเจ้าขึ้นไปเมืองลพบุรีหลายเที่ยว มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้บอกข้าพเจ้าว่า พระเจ้ากรุงสยามทรงพระราชดำริห์เห็นว่ายังไม่เปนการสมควรที่ข้าพเจ้า จะไปเที่ยวเตร็จเตร่ในพระราชอาณาเขตร์ เพราะทรงเกรงว่าชาวประเทศอื่น ๆ จะเกิดสงสัยขึ้น ในเรื่องนต่อไปข้าพเจ้าจึงจะเล่าให้ท่านฟังโดยละเอียด แต่ที่ข้าพเจ้าได้เล่ามาเพียงนี้ก็เพื่อจะให้ท่านเห็นว่าพวกไทยไม่หยากให้ใครรู้ความจริงเลย และถ้าพวกไทยจะมีพริกไทจริง พริกไทนั้นก็คงจะไม่ใช่สำหรับพวกเรา ได้มีคนมาเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าพวกอังกฤษได้ไปตั้งห้างอยู่ที่เมืองปัตตานีแล้ว เมืองปัตตานีนี้ก็เปนเมืองที่อยู่ใกล้กับ

๘ เมืองนครศรีธรรมราช และข้าพเจ้าได้ทราบแน่ว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ก็หลอกลวงพวกอังกฤษเหมือนกับที่หลอกพวกเราเหมือนกัน ส่วนพริกไทที่เพาะปลูกกันในแถบเหล่านี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็สัญญาว่าจะให้กับพวกอังกฤษเช่นเดียวกับที่ได้สัญญาว่าจะให้แก่พวกเรา อีกประการ ๑ ท่านควรจะต้องทราบไว้ว่าพลเมืองพื้นเมืองนี้เปนคนที่เกียจคร้านและโกงอย่างที่สุด เพราะฉนั้นจะควรไว้ใจพวกนี้ไม่ได้เปนอันขาด พวกฮอลันดาซึ่งมีของทุกอย่างสำหรับล่อน้ำใจของคนไทยก็ยังทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน เพราะถูกหลอกและถูกดูหมิ่นอยู่ทุก ๆ วัน พริกไทซึ่งพวกฮอลันดาควรจะซื้อได้สัก ๑๐ ส่วนก็ซื้อได้เพียงส่วนเดียวเท่านั้น แต่ก่อน ๆ นี้พวกฮอลันดาเคยส่งเรือมาที่เมืองไทยประมาณ ๑๔-๑๕ ลำ แต่มาบัดนี้ก็มีเรือฮอลันดาแวะมาที่เมืองไทยเพียง ๒ หรือ ๓ ลำเท่านั้น แต่ถึงดังนั้นเรือฮอลันดาก็ต้องไปแวะที่เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อจะได้บรทุกสินค้าให้เต็มลำ เพราะที่เมืองไทยได้สินค้าบรรทุกไปเพียงครึ่งลำเท่านั้น เพราะเหตุฉนั้นถ้าบริษัทมีความประสงค์จะค้าพริกไทแล้ว ก็เปนการจำเปนที่บริษัทจะต้องจัดการเอาเอง คือว่าบริษัทจะต้องจัดการให้ปลูกพริกไทเอง และจะต้องเก็บเกี่ยวเอาเอง ฝ่ายพระเจ้ากรุงสยามก็จะโปรดพระราชทานเมืองสงขลาให้แก่บริษัทอยู่แล้ว ฉนั้นการที่บริษัทจะปลูกพริกไทเอาเองนั้นจึงไม่เปนการยากลำบากอะไร และการที่จะส่งผู้คนไปเพาะปลูกพริกไทนั้นก็คงจะไม่เปลืองเงินเท่าไรเลย ถ้าได้จัดการเช่นนี้แล้วทำอย่างไรบริษัทก็จะไม่ขาดพริกไทได้


๙ ในส่วนกานพลูและลูกจันทน์เทศนั้น ถ้าท่านจะไปตั้งอยู่ที่เกาะปูโลคอนดอแล้วก็พอจะทำได้ เพราะเกาะปูโลคอนดอนี้เปนเกาะที่ไม่มีผู้คนอยู่ และตั้งอยู่ตรงกับปากน้ำเมืองเขมร เกาะนี้มีเนื้อที่โดยรอบยาวประมาณ ๖ ไมล์ มีท่าเรืออยู่ ๒ แห่ง ท่า ๑ อยู่ข้างทิศเหนือ อีกท่า ๑ อยู่ข้างทิศใต้ ข้างด้านเมืองเขมรมีป่าไม้อย่างงาม ข้างด้านทิศตวันออกและทิศตวันออกเฉียงเหนือนั้น มีแม่น้ำเล็ก ๆ และมีภูเขาหลายลูกกับมีต้นมะพร้าวและต้นตานอย่างงามที่สุดในโลกนี้ ท่านสังฆราชได้บอกกับข้าพเจ้าว่ามีคนที่รู้จักกับท่านสังฆราชได้เคยไปเก็บลูกจันทน์เทศในเกาะนี้ แต่ถึงหากว่าจะไม่มีลูกจันทน์เทศในเกาะนี้ ก็คงจะเพาะปลูกได้โดยง่ายที่สุด เพราะเกาะนี้อยู่ในแนวเดียวกับเกาะที่พวกฮอลันดาไปหาลูกจันทน์เทศและกานพลู ต่างกันแต่เพียงเกาะเหล่านี้อยู่ต่างทิศคือทิศใต้และทิศเหนือเท่านั้น นอกกจากจะได้ปลูกลูกจันทน์เทศแล้ว บริษัทยังจะไดเปนใหญ่ในทะเลจีนยี่ปุ่นตังเกี๋ยและเมืองทั้งหลายในแถบเหล่านี้ เพราะถ้าจะไปเมืองเหล่านี้ก็จำเปนต้องผ่านเกาะปูโลคอนดอนี้เสียก่อน นอกจากนี้สินค้าเมืองเขมรเมืองลาวก็จะตกเแนของบริษัทหมด และสินค้าเมืองเขมรเมืองลาวนั้นก็มีมากกว่าสินค้าเมืองไทยกว่า ๑๐๐ เท่า แต่ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าได้มีจดหมายไปยังมาควิศเดอเซเนเลอธิบายไปอย่างละเอียดแล้ว ถ้าจะอธิบายมายังท่านอีกก็จะเปนเรื่องซ้ำกันรำคาญต่อท่าน เพราะฉนั้นในที่นี้ข้าพเจ้าจะได้เล่าถึงเหตุการณ์ทั้งปวงที่ได้มีขึ้นมาตั้งแต่ท่านราชทูตได้ออกจากเมืองไทยไปแล้ว ๒

๑๐ ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าท่านคงจะไม่พอใจในหนังสือสัญญาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำไว้กับท่านราชทูต แต่ถ้าจะพูดตามความจริงแล้ว การต่าง ๆ ที่ไทยยกให้ตามหนังสือสัญญานั้น ไม่ควรจะหวังว่าจะได้ตามนั้นแม้แต่ส่วนเดียว การที่ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้ก็เพราะข้าพเจ้ามีความรู้ความชำนาญถึงการต่าง ๆ ไม่ฉะเพาะแต่การของบริษัท แต่ทราบถึงการต่าง ๆ ของคนอื่นและบริษัทอื่นเหมือนกัน เช่นพวกอังกฤษเปนต้น ก็ถูกไทยหลอกเอาเหมือนกัน ได้เปนอันตกลงกันไว้ว่า เมื่อท่านราชทูตได้กลับไปประเทศฝรั่งเศสแล้ว ท่านสังฆราชจะได้เข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามทุก ๆ วัน เพื่อจะได้สั่งสอนพระเจ้ากรุงสยามให้ทรงเข้าพระทัยในการสาสนาต่อไป แต่ภายในปี ๑ ท่านสังฆราชก็ได้เข้าเฝ้า ๒ ครั้งเท่านั้น ในคราวแรกที่ท่านสังฆราชได้เข้าเฝ้าก็มิได้พูดกันถึงเรื่องอะไร นอกจากสนทนากันด้วยเรื่องพระอาทิตย์พระจันทร์และดาวเท่านั้น ในคราวที่เฝ้าครั้งที่ ๒ ก็ได้กราบทูลแต่ถึงข่าวต่าง ๆ เท่านั้น มิได้กล่าวถึงเรื่องสาสนาจนคำเดียว ดูเหมือนกับสาสนาในโลกนี้ไม่มีเสียแล้ว ส่วนพวกบาดหลวงคณะเยซวิตนั้น พวกไทยก็รับว่าจะให้อะไรต่ออะไรต่าง ๆ อันเปนสิ่งที่ดีที่พวกเยซวิตพอใจทั้งนั้น เช่นจะให้บ้านงาม ๆ สำหรับอยู่ดังนี้เปนต้น แต่ลงท้ายที่สุดพวกบาดหลวงเยซวิตก็ถูกไทยหลอกทั้งสิ้น และพวกบาดหลวงเยซวิตนี้ก็ต้องนับว่าเปนคนที่ฉลาดพอตัวอยู่แล้ว ได้มีพวกบาดหลวงเยซวิตไปยังประเทศจีน ๔ คน และบาดหลวงทั้ง ๔ คนนี้ก็นึกว่าตัวต้องตายกลางทเล เพราะเหตุว่าเรือก็ใช้ไม่ได้ และคนเรือก็เปนคนที่เลวทรามมาก เรือที่ใช้กันในเมืองนี้พวกไทยต่อเอาเองทั้งสิ้น

๑๑ และการที่ต่อเรือนั้นก็มิได้ออกค่าโสหุ้ยอย่างใดเลย เพราะเขาใช้วิธีเกณฑ์และบังคับคนของเขาให้เปนทั้งช่างไม้ ช่างเหล็ก และช่างต่าง ๆ ทุกอย่าง แต่ความจริงผู้ที่ถูกบังคับให้เปบช่างต่าง ๆ นั้น ก็หาได้มีความรู้ในวิชาช่างที่ตัวต้องทำไม่ เพราะฉนั้นเมื่อช่างเหล่านี้ได้ต่อเรือเสร็จแล้ว เรือที่ต่อใหม่นั้นก็ทนกำลังคลื่นลมไม่ได้ เมื่อเรือออกไปถึงทะเล พอถูกคลื่นกระทบเข้าเล็กน้อยก็แตกทำลายทีเดียว ถ้าหากว่าผู้ที่ไปในเรือนั้นพาเรือไปเข้าฝั่งได้ก็ต้องนับว่าเคราะห์ดีมาก เพราะข้าพเจ้าได้สังเกตดูในบรรดาคนที่ลงเรือเหล่านี้ออกไปทะเล น้อยนักที่จะกลับมาได้ ข้าพเจ้ามาใคร่ครวญดูว่า การที่เปนไปดังนี้เห็นจะเกี่ยวแก่การที่พระเปนเจ้าลงโทษเปนแน่ เพราะพวกไทยเกณฑ์กำลังผู้คนโดยไม่ได้ให้ค่าจ้างหรือบำเหน็จรางวัลอย่างใดเลย แม้ที่สุดแต่อาหารก็ไม่ให้รับประทาน ถ้าพวกที่ถูกเกณฑ์มาทำการงานไม่มีภรรยาคอยเอาเข้าปลาอาหารมาส่งแล้ว พวกนี้ก็คงต้องตายด้วยอดเข้าเปนแน่ เพราะฉนั้นท่านก็คงจะพอแลเห็นได้แล้ว ว่าการที่ไทยคิดอ่านจัดการต่าง ๆ นั้น ก็ประสงค์จะล่อลวงให้ท่านมายังเมืองไทยเท่านั้น การที่ไทยประสงค์จะให้ท่านมาตั้งการค้าขายในเมืองไทยนั้น ก็เพื่อประโยชน์ส่วนตัวและเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินด้วย เพราะไทยเข้าใจว่า ถ้าพวกฝรั่งเศสหรือพวกอังกฤษไม่มาอยู่ในเมืองไทยแล้ว พวกฮอลันดาก็คงจะคิดอ่านแก้แค้นในการที่ไทยได้ทำการล่อลวงพวกฮอลันดามาแล้ว แต่ข้อที่น่าพิศวงที่สุดนั้นก็คือ ในเวลานี้เปนเวลาที่ไทยหยากเปนไมตรีกับประเทศฝรั่งเศสนัก เหตุใดจึงยังคงหลอกลวงพวกเราอย่เสมอเล่า

๑๒ และความนับถือแลเชื่อถือพวกฝรั่งเศสนั้น ก็คงเชื่อถือมากกว่าพวกอังกฤษด้วย แต่การที่ไทยทำกับพวกเราเช่นนี้ ก็คงเปนเพราะเหตุที่พวกเราทำการโอนอ่อนเข้าหาไทย ไม่เหมือนกับคนชาติอื่น ๆ ซึ่งไม่ทำการอนุโลมผ่อนผันเลย ถ้าไทยจะต้องการสิ่งใดจากคนชาติอื่น ก็ต้องไปอ้อนวอนกราบไหว้จึงจะได้ เพราะฉนั้นคนชาติอื่นจึงมีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อข้าพเจ้าได้กลับมาถึงเรือลัวโซได้นั้น เปนเวลาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แก้หนังสือสัญญามาได้ ๒ วันแล้ว เพราะข้าพเจ้าได้ไปพลัดหายไป ดังท่านคงจะทราบอยู่แล้ว ซึ่งเปนการกระทำให้ท่านราชทูตมีความเสียใจมาก ดังท่านคงจะได้ทราบแล้วเหมือนกัน แต่เมื่อข้าพเจ้ากลับมาถึงเรือแล้ว ก็เปนอันหมดเวลาที่จะแก้ไขอะไรได้ ข้าพเจ้าจึงได้ลาท่านราชทูตกลับไปยังกรุงศรีอยุธยา ครั้นถึงวันสิ้นเดือนธันวาคมข้าพเจ้าจึงได้ออกจากกรุงศรีอยุธยาเพื่อไปเมืองลพบุรี และกำหนดจะให้ไปถึงเมืองลพบุรีในวันปีใหม่ เพื่อจะไปให้สินให้พรสำหรับวันปีใหม่แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์ แต่การที่ไปเมืองลพบุรีบ่อย ๆ เช่นนี้เปนการเปลืองโสหุ้ยมาก ครั้นตอนกลางคือข้าพเจ้าได้ไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ ข้าพเจ้าจึงได้อ้อนวอนขอให้มองซิเออร์คอนซตันซ์คืนเครื่องทองของมองซิเออร์เดอรูอัง ซึ่งมีราคาถึง ๕๐๐๐ ปอนด์ ( ฝรั่งเศส ) เครื่องทองอันนี้ข้าพเจ้าได้มอบไว้ให้กับมองซิเออร์คอนซตันซ์ตามคำสั่งของท่านราชทูตกว่า ๑ เดือนมาแล้ว มองซิเออร์เดอรูอังเองก็ไม่กล้าทวงของสิ่งนี้จากมองซิเออร์คอนซตันซ์ เพราะมองซิเออร์เดอรูอังได้รับความกดขี่จากมองซิเออร์คอนซตันซ์โดยไม่มีมูลอย่างใดเลย ใน

๑๓ เรื่องนี้ท่านราชทูตได้มีความเสียใจเปนอันมาก ถึงกับแนะนำให้มอง ซิเออร์เดอรูอังกลับไปเมืองฝรั่งเศสเสียดีกว่า มองซิเออร์เดอรูอังก็คิดหยากจะกลับไปประเทศฝรั่งเศส แต่พะเอิญยังไปไม่ได้ เพราะเหตุว่าทรัพย์สมบัติของมองซิเออร์เดอรูอังยังกระจายอยู่ในเมืองจีนเมืองยี่ปุ่น และเมืองอื่น ๆ ทั่วไป การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ทำกับมองซิเออร์เดอรูอังเช่นนี้ก็มิได้เกรงใจท่านราชทูตเลย ครั้นข้าพเจ้าไปขอของสิ่งนี้คืน มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้พูดกับมองซิเออร์เดอฟอแบง ว่าข้าพเจ้าไม่ไว้ใจมองซิเออร์คอนซตันซ์เสียเลย แต่ความจริงของสิ่งนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้ว่ายืมไปชั่ว ๒-๓ วันเท่านั้น ในเรื่องนี้ท่านควรจะต้องทราบไว้ ว่าเครื่องทองสิ่งนี้เดิมเปนของเมืองเปอเซีย มองซิ เออร์คอนซตันซ์ได้อ้อนวอนขอให้มองซิเออร์เดอรูอังสั่งมาจากเมืองเปอเซียโดยฉะเพาะ และการที่มองซิเออร์เดอรูอังได้สี่งเครื่องทองสิ่งนี้ ก็ต้องจ่ายเงินไปถึง ๑๐๐ เหรียญสเปนเศษ เพราะต้องให้คนคุมเดินมาทางบกโดยฉะเพาะ เมื่อเปนเช่นนี้ท่านก็คงจะเห็นได้ว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ทำการเช่นนี้เปนการไม่สมควรเลย เมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้คืนของสิ่งนี้ให้ข้าพเจ้าแล้ว อีก ๕ หรือ ๖ วันข้าพเจ้าก็ได้ล่องจากเมืองลพบุรี ฝ่ายมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นก็ล่องลงมาที่กรุงศรีอยุธยาเพื่อจะลงไปที่บางกอก เพราะพระเจ้ากรุงสยามได้มีรับสั่งให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ไปจัดป้อมคูประตูหอรบที่บางกอกให้แน่นหนาแขงแรงขึ้น เพราะทรงเกรงพวกฮอลันดาที่อยู่ที่บางกอก ภายหลังสัก ๓-๔ วันมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็บ่นว่าข้าพเจ้าไม่ไปหา พวกบาดหลวงได้ทราบตามความ

๑๔ ปรารภของมองซิเออร์คอนซตันซ์จึงมาบอกให้ข้าพเจ้าทราบ เวลานั้นข้าพเจ้าก็กำลังป่วยอยู่ แต่ถึงดังนั้นข้าพเจ้าก็ได้รีบไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์โดยทันที และได้ชี้แจงว่าการทข้าพเจ้ามาหาช้าไปนั้น ก็เพราะเหตุที่ข้าพเจ้ายังป่วยอยู่ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รับรองข้าพเจ้าอย่างดี เพราะพะเอิญในเวลานั้นได้เกิดการจลาจลขึ้น ซึ่งเปนเหตุเนื่องจากเรื่องที่มองซิเออร์เดอฟอแบงจะต้องการเอาพวกปอตุเกตมาหัดท่าทหาร ครั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กลับขึ้นไปเมืองลพบุรีแล้วสัก ๓-๔ วัน เกิดเสียงพูดกันขึ้นว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ถูกลงพระราชอาญา เพราะเหตุว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ไปรื้อทำลายพระเจดีย์ลง และข่าวนี้พวกปอตุเกตได้ลือกันออกเซ็งแซ่ แต่ข้าพเจ้ามาพิเคราะห์ดูคงจะไม่เปนข่าวที่จริง เพราะการเช่นนี้ไม่ใคร่มรใครเห็นได้ แต่ในเมืองนี้ก็เปนธรรมเนียมอยู่ ใครทำผิดแม้แต่เล็กน้อยพระเจ้าแผ่นดินก็ให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยน ๑๐๐ ที และเมื่อใช้ให้ใครทำงานอย่างไรก็คงให้ทำงานสิ่งนั้นอยู่นั่นเอง แต่ในพวกไทยถือกันว่า ถ้าพระเจ้าแผ่นดินโปรดใครจึงจะลงพระราชอาญาแก่ผู้นั้น และถ้ายิ่งพระเจ้าแผ่นดินลงพระราชอาญาด้วยพระหัตถ์เอง พวกไทยก็ถือกันว่าเปนสิ่งที่ประเสริฐนัก แต่การที่พระเจ้าแผ่นดินจะลงมือตีเองนั้นไม่ใคร่มีเลย ตามปรกตินั้นถ้าพระเจ้าแผ่นดินให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนใครแล้ว ผู้ที่ถูกลงพระราชอาญานั้นก็ไปเฆี่ยนคนที่อยู่ในอำนาจของตัวอีกต่อหนึ่ง เพราะฉนั้นถ้าพระเจ้าแผ่นดินได้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนคน ๆ ๑ คงจะมีคนถูกเฆี่ยนเปนลำดับลงมาตั้ง ๑๐๐ คน

๑๕ ในขณะนั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ป่วยลง จึงระลึกขึ้นมาได้ว่ามีชาวฝรั่งเศสคน ๑ ชื่อมองซิเออร์ชาล เปนช่างทำเหล็ก เคยทำราชการของพระเจ้ากรุงสยาม มองซิเออร์ชาลผู้นี้ได้มาอ้อนวอนต่อท่านราชทูตให้จัดการให้มองซิเออร์ชาลได้หยุดพักราชการสักคราว ๑ เพราะได้ทำการมาครบกำหนดที่สัญญาไว้แล้ว ทั้งไม่พอใจที่จะทำราชการต่อไป เพราะเหตุว่าไม่ได้รับผลประโยชน์เงินเดือนอย่างใดเลย ท่านราชทูตจึงได้สั่งให้ข้าพเจ้าจัดให้มองซิเออร์ชาลเข้าทำการในห้างของบริษัทข้าพเจ้าก็ได้จัดให้มองซิเออร์ชาลได้เข้าทำงานของบริษัทตามคำสั่งท่านราชทูต ฝ่ายมองซิเออร์คอนซตันซ์กำลังป่วยอยู่ก็มีใจหงุดหงิด จึงได้ขู่ว่าจะเอามองซิเออร์ชาลใส่คุก เพราะมีความผิดที่ออกจากราชการของพระเจ้ากรุงสยาม และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ทราบได้ดีว่า ที่มองซิเออร์ชาลออกจากราชการนั้นก็โดยคำสั่งของท่านราชทูต ส่วนตัวข้าพเจ้านั้นทราบอยู่ว่ายังจะต้องทำธุระติดต่อกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ และทราบอยู่ว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์คอยปองร้ายต่อบริษัทอยู่ ทั้งทราบอยู่ด้วยว่ามองซิเออร์ชาลผู้นี้เปนคนเคยได้อยู่กับพวกฮอลันดามาช้านาน และได้เคยอยู่ตามเกาะที่มีต้นกานพลูและต้นจันทน์เทศ ข้าพเจ้าจึงได้เอามองซิ เออร์ชาลไปซอ่นไว้จนกว่าเรื่องนี้จะสงบ และมองซิเออร์ชาลได้ซ่อนตัวอยู่ตั้ง ๒ หรือ ๓ เดือน ครั้นเรือของมองซิเออร์คอมบาลได้มาถึงเมืองไทย จากเมืองตีมอร์ตัวมองซิเออร์คอมบาลก็หาได้อยู่ในเมืองไทยไม่ และฝ่ายมองซิเออร์เดอรูอังก็มิได้มีคนแทน สินค้าในเรือลำนี้ก็เปนของมองซิเออร์เดอรูอัง

๑๖ โดยมาก ครั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทราบว่า เรือลำนี้ได้บรรทุกไม้จันทน์มา จึงได้ให้เจ้าพนักงานลงไปบังคับให้เรือลำนี้เสียค่าปากเรือ การเสียค่าปากเรือนี้ เรือทุก ๆ ลำต้องเสียก็จริงอยู่ แต่ตามหนังสือสัญญาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำกับราชทูตฝรั่งเศสนั้น พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงโปรดยกเว้นค่าปากเรือนี้ให้แก่ฝรั่งเศสแล้ว แต่การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์มาบังคับให้เรือฝรั่งเศสต้องเสียค่าปากเรือนั้น ยังไม่เพียงพอยังกลับมีคำสั่งห้ามไม่ให้ขายไม้จันทน์แม้แต่ท่อนเดียว โดยอ้างเหตุว่า พระเจ้ากรุงสยามจะต้องพระราชประสงค์ไม้จันทน์นี้ทั้งหมด มองซิเออร์เดอรูอังซึ่งเปนผู้ที่มีหุ้นอยู่ในไม้จันทน์รายนี้จึงได้ตอบไปว่า เรื่องที่จะให้เสียค่าปากเรือนั้นมองซิเออร์เดอรูอังพร้อมอยู่ที่จะเสียให้ และส่วนไม้จันทน์นั้น ก่อนที่จะได้ซื้อได้ขายกัน มองซิเออร์เดอรูอังจะได้แจ้งให้เจ้าพนักงานของพระเจ้ากรุงสยามทราบเสียก่อน ครั้นต่อมาประมาณ ๕ หรือ ๖ วัน ได้มีเจ้าพนักงานมาถามมองซิเออร์เดอรูอัง ว่าไม้จันทน์นั้นมีจำนวนมากน้อยเท่าไร และมองซิเออร์เดอรูอังจะขายเปนราคาอย่างไร มองซิเออร์เดอรูอังจึงตอบว่า ขออย่าได้วิตกเลยว่า มองซิเออร์เดอรูอังจะขายไม้จันทน์รายนี้ไปก่อนที่จะบอกให้เจ้าพนักงานของ พระเจ้ากรุงสยามได้ทราบล่วงหน้า แต่ไม้จันทน์จะมีจำนวนมากน้อยเท่าใดนั้น มองซิเออร์เดอรูอังหาทราบแน่ไม่ แต่กะประมาณดูคะเนว่าคงจะมีไม้อยู่ในราว ๕๐๐ หาบ ซึ่งเปนไม้ของมองซิเออร์คอมบาลบ้าง ของคนอื่นบ้าง ของมองซิเออร์เดอรูอังบ้าง แต่ส่วนราคาที่จะขายไม้นั้น มองซิเออร์เดอรูอังคิดว่าคงจะขายได้ราคาหาบละ ๕๓ ปอนด์ ๑๐ อัฐ

๑๗ ( ฝรั่งเศส ) เพราะไม้จันทน์นี้เปนไม้อย่างที่ดีที่สุด และได้ซื้อมาแพงกว่าธรรมดาอยู่แล้ว อีกประการหนึ่งสินค้าที่ได้ส่งไปที่เมืองตีมอร์นั้นก็จำหน่ายยังไม่ได้ถึงส่วน ๑ เลย ซึ่งเปนการทำให้ขาดทุนเปนอันมาก เพราะฉนั้นมองซิเออร์เดอรูอังอาจจะแสดงให้เห็นว่า ถึงจะขายไม้จ้นทน์ตามราคาที่ว่านี้ก็คงจะยังขาดทุนอยู่นั่นเอง ฝ่ายมองซิเออร์คอนซตันซ์เปนผู้ที่เกลียดมองซิเออร์เดอรูอัง ดังข้าพเจ้าได้กล่าวมาในตอนต้นนั้นแล้ว และดังใคร ๆ ก็อาจจะเปนพยานได้ทั่วไปนั้น จึงได้เอาโอกาสนี้สำหรับจะแก้แค้นแก่มองซิเออร์เดอรูอัง โดยมองซิเออร์คอนซตันซ์ใช้อำนาจมาขนเอาไม้จันทน์ไป และเอาสินค้าอื่น ๆ ไปทั้งหมดด้วย และกลับหาว่าธรรมดาราคาไม้จันทน์ก็เพียงหาบละ ๓๖ ปอนด์ ๑๐ อัฐ ( ฝรั่งเศส ) เท่านั้น แต่มองซิเออร์เดอรูอังมาโก่งเอาราคาแพงเกินไปถึงหาบละ ๑๘ ปอนด์ ( ฝรั่งเศส ) ถ้าจะคิดตามจำนวนไม้จันทน์ก็ต้องเปนราคาถึง ๑๐,๐๐๐ ปอนด์ ( ฝรั่งเศส ) ตามที่ข้าพเจ้าได้เล่ามาในเรื่องนี้ ก็เปนพยานให้เห็นปรากฎว่าพวกไทยถือและปฏิบัติตามหนังสือสัญญาอย่างไร การอื่น ๆ นอกจากเรื่องนี้ก็ดำเนินตามวิธีนี้ทั้งสิ้น ส่วนมองซิเออร์คอนซตันซ์จะคิดจัดการให้เรื่องต่างๆ ของตัวเปนผลสำเร็จ จึงได้ใช้ให้มองซิเออร์เดอฟอแบงเชิญข้าพเจ้าขึ้นไปที่เมืองลพบุรี เมื่อข้าพเจ้าได้ไปถึงเมืองลพบุรีแล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็รับรองดี และแสดงตัวว่าจะช่วยเหลือข้าพเจ้าทุกอย่าง เปนต้นว่าถ้าข้าพเจ้า ๓

๑๘ จะคิดทำการค้าขายในส่วนตัวของข้าพเจ้าเองแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็จะหาหนทางให้ข้าพเจ้าทุกอย่าง และจะได้คอยป้องกันมิให้ข้าพเจ้าได้รับความลำบากอย่างใดเลย การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แสดงความเอื้อเฟื้อต่าง ๆ เช่นนี้ข้าพเจ้าก็แสดงตัวขอบคุณเหมือนกัน ครั้นล่วงมาได้อีกหลายวันข้าพเจ้าก็ได้กลับไปถึงกรุงศรีอยุธยา พอมาถึงกรุงศรีอยุธยารุ่งขึ้นก็มีคนมาบอกข้าพเจ้าว่ามองซิเออร์เดอรูอังได้ถูกจับไปเสีย แล้ว ข้าพเจ้าก็เที่ยวสืบว่ามองซิเออร์เดอรูอังไปถูกขังอยู่ณะที่ใดแต่สืบไม่ใคร่ได้ความเลย จนภายหลังข้าพเจ้าได้เอาเงินออกแจกบ้างเล็กน้อยจึงได้ทราบว่ามองซิเออร์เดอรูอังถูกขังอยูณะที่ใด ครั้นตกเวลาค่ำข้าพเจ้าจึงได้ไปเยี่ยม มองซิเออร์เดอรูอังจึงเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าที่ต้องถูกจับและคุมขังคราวนี้ ก็เพราะไทยจะบังคับให้มองซิเออร์เดอรูอังใช้เงิน ๑๐,๐๐๐ปอนด์ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาเมื่อตอนต้นแล้ว และถ้ามองซิเออร์เดอรูอังไม่ใช้เงินรายนี้ก็เปนอันออกจากที่คุมขังไม่ได้ มองซิเออร์เดอรูอังจึงได้อ้อนวอนขอให้ข้าพเจ้าขึ้นไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ที่เมืองลพบุรี เพื่อไปชี้แจงให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟังว่า การที่ทำกันเช่นนี้ไม่เคยมีตัวอย่างในเมืองไทยเลย ในส่วนไม้จันทน์นั้นมองซิเออร์เดอรูอังไม่มีความผิดอย่างใด เพราะไม่ได้ขายไม้ให้แก่ผู้ใด การที่มองซิเออร์เดอรูอังได้คิดขายไม้ราคา ๕๐ ปอนด์เศษนั้น ก็เพราะเหตุว่าต้องซื้อแพงกว่าธรรมดา เพราะไม้จันทน์คราวนี้เปนไม้ท่อนใหญ่ผิดธรรมดา ถ้าหากว่ามองซิเออร์เดอรูอังได้คิดค่าโสหุ้ยอย่างละเอียดแล้ว ที่ขายไม้ตามราคานี้ก็คงจะยังขาดทุนอยู่นั่นเอง

๑๙ ข้าพเจ้าเกรงจะเสียเวลาจึงได้รีบขึ้นไปเมืองลพบุรี ครั้นไปถึงแล้วข้าพเจ้าก็ได้ไปหาท่านสังฆราช ๆ จึงได้บอกกับข้าพเจ้าว่า ความประสงค์ของข้าพเจ้าต้องการอย่างไรนั้น ท่านสังฆราชเข้าใจได้ดี แต่ท่านสังฆราชจะช่วยเหลืออย่างไรไม่ได้ เพราะได้ทราบมาเปนการแน่ ว่าการทีมองซิเออร์เดอรูอังต้องถูกจับไปคุมขังเช่นนี้ ก็โดยพระราชโองการของพระเจ้ากรุงสยาม ข้อนี้ยากที่ข้าพเจ้าจะเชื่อว่าเปนความจริงได้ แต่ท่านสังฆราชก็ยังคงยืนยันอยู่ว่าเปนความจริง เมื่อข้าพเจ้าได้ขึ้นมาถึงเพียงนี้แล้วจะกลับจากเมืองลพบุรีโดยไม่ไปชี้แจงเรื่องราวให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟังก็ไม่ควร ข้าพเจ้าจึงจำเปนต้องไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ และเล่าเรื่องมองซิเออร์เดอรูอังให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟัง มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ตอบข้าพเจ้าอย่างเดียวกับท่านสังฆราช ว่าเรื่องนี้เปนพระราชโองการของพระเจ้ากรุงสยามซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์จะขัดขืนไม่ได้ เปนอันขาด ข้าพเจ้าจึงได้ออกจากเมืองลพบุรีกลับลงไปหามองซิเออร์เดอรูอังที่กรุงศรีอยุธยา มองซิเออร์เดอรูอังจึงได้ตกลงยอมจะใช้เงินรายนี้แต่มองซิเออร์เดอรูอังไม่มีเงินจึงขอให้ข้าพเจ้าออกเงินแทนไปก่อน และให้ข้าพเจ้าเอาทองคำซึ่งมองซิเออร์เดอรูอังได้ฝากข้าพเจ้าไว้นั้นแทนเงิน ต่อไป ทองคำรายนี้มองซิเออร์เดอรูอังได้มาจากเมืองตีมอร์ เพราะในเกาะตีมอร์นี้ไม่มีอะไรนอกจากทองคำ ครั่งและไม้จันทน์เท่านั้น ข้าพเจ้าได้ออกเงินแทนมองซิเออร์เดอรูอังตามความประสงค์ มองซิเออร์เดอรูอังจึงออกจากคุกมาได้ ครั้นยมองซิเออร์เดอรูอังได้ชำระเงินราย ๑๐,๐๐๐ ปอนด์เสร็จแล้ว จึงได้ขึ้นไปยังเมืองลพบุรี เพื่อไปสืบเปนความลับ ๆ

๒๐ ว่าเรื่องนี้มีเหตุผลอย่างไร และเพื่อจะสืบให้ได้ความแน่ ว่าการที่มองซิ เออร์เดอรูอังต้องถูกจับขังคุกนั้น จะเปนด้วยพระราชโองการของพระเจ้ากรุงสยามหรืออย่างไร เมื่อมองซิเออร์เดอรูอังได้ขึ้นไปถึงเมืองลพบุรีแล้วจึงได้เข้าหาเจ้านายและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เพื่อสืบหาความจริงให้จงได้ เจ้านายและข้าราชการจึงได้บอกแก่มองซิเออร์เดอรูอังว่า การที่อ้างพระราชโองการสั่งขังมองซิเออร์เดอรูอังนั้นเปนความไม่จริงเลย เพราะในเรื่องนี้พระเจ้ากรุงสยามไม่ได้ทรงทราบ และไม่มีใครได้นำความกราบทูลเลย เจ้านายและข้าราชการได้พูดต่อไป ว่าการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เอาพระราชอำนาจและพระราชโองการมาอ้างเช่นนี้ เปนความผิดมาก และยิ่งมาทำแก่คนฝรั่งเศสเช่นนี้ยิ่งเปนความผิดมากขึ้น เพราะพระเจ้ากรุงสยามทรงโปรดปรานชาวฝรั่งเศสเปนอันมาก แต่อย่างไรก็ดีเจ้านายและข้าราชการจะได้ไต่สวนในเรื่องนี้ให้ได้ความจริง ต่อไป แต่ก็เชื่อว่าที่พระเจ้ากรุงสยามจะได้มีพระราชโองการเช่นนี้ เปนสิ่งที่คงจะเปนไปไม่ได้ มองซิเออร์เดอรูอังจึงได้กลับลงมาเล่าให้ข้าพเจ้าฟังตามที่ไปสืบมาได้ความเช่นนี้ และมาปรึกษาข้าพเจ้าว่าจะควรทำอย่างไรต่อไป ข้าพเจ้าจึงได้ตอบว่าถ้าข้าพเจ้าเปนตัวมองซิเออร์เดอรูอังแล้ว ข้าพเจ้าก็จะได้รีบออกจากเมืองไทยเสียโดยเร็วที่สุดที่จะไปได้ และเมื่อไปพ้นเมืองไทยแล้วจะได้ร้องขอให้ได้รับความยุติธรรมต่อไป แต่ในเมืองนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์มีอำนาจมากนัก เพราะฉนั้นไม่ควรจะทำอะไรในเมืองนี้ แต่เพราะความที่มองซิเออร์เดอรูอังจะต้องการเอาเงินรายนี้คืนให้จงได้ จึงได้ไปปรึกษาคนอื่นซึ่งได้แนะนำมาสมกับความต้องการ

๒๑ ของมองซิเออร์เดอรูอัง เพราะต่อมาอีกหลายวันมองซิเออร์เดอรูอังได้มาบอกกับข้าพเจ้าว่า ในการที่มองซิเออร์เดอรูอังได้ถูกจับกุมครั้งนี้ จะต้องจัดการให้เห็นเท็จและจริงให้จงได้ เพราะได้มีคนมาบอกแก่มองซิเออร์เดอรูอังเปนการแน่แล้ว ว่าในเรื่องนี้พระเจ้ากรุงสยามหาได้ทรงทราบเรื่องไม่เลย ข้าพเจ้าจึงได้ตอบมองซิเออร์เดอรูอังว่า จะทำอะไรก็ตามแต่ขอให้ระวังให้มาก ข้าพเจ้าเองนึกวิตกว่ามองซิเออร์เดอรูอังคงจะคิดการไม่สำเร็จเปนแน่ แต่อย่างไรก็ดีเมื่อมองซิเออร์เดอรูอังจะคิดการอย่างไรข้าพเจ้าก็พร้อมอยู่ที่จะช่วยมองซิเออร์เดอรูอังโดยเต็มกำลังที่จะช่วยได้ การที่ข้าพเจ้าเตรียมจะช่วยมองซิเออร์เดอรูอังนั้นเปนด้วยเหตุ ๒ ประการ คือประการ ๑ เพราะผู้ที่เปนหัวหน้าของข้าพเจ้าได้สั่งข้าพเจ้าไว้ให้คอยช่วยเหลือมองซิเออร์เดอรูอัง ประการที่ ๒ เพราะเหตุว่าพวกอังกฤษและปอตุเกตได้เยาะเย้ยประเทศฝรั่งเศสนัก และกล่าวว่าที่การเปนไปเช่นนี้ก็เนื่องจากผลที่ราชทูตของพระเจ้าแผ่นดินผู้เปนใหญ่ได้มาจัดการในเมืองนี้ ในระหว่างเวลาที่มองซิเออร์เดอรูอังขึ้นไปอยู่เมืองลพบุรีนั้น มอง ซิเออร์คอนซตันซ์ก็ลงมาอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา เพราะเหตุว่าประจวบกับเวลาที่มีเรือได้มาจากเมืองจีนเมืองยี่ปุ่นและเมืองมาเก๊า ในเวลานั้น ข้าพเจ้าจำเปนต้องพบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ทุก ๆ วันเพื่อทำธุระให้แก่บริษัท เพราะข้าพเจ้าจะซื้อสินค้าจนราคาอัฐเดียวโดยไม่ได้รับอนุญาตจากมองซิเออร์คอนซตันซ์เสียก่อนไม่ได้ ข้าพเจ้าจึงได้บอกกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ ว่ามองซิเออร์เดอรูอังได้ขึ้นมาอยู่ที่เมืองลพบุรีแล้ว การที่ข้าพเจ้าได้พูดเช่นนี้ก็มิได้คิดจะให้ร้ายต่อผู้ใด แต่คิดหวังจะเปนคนกลาง

๒๒ สำหรับเกลี่ยไกล่ให้เปนประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายเท่านั้น เพราะข้าพเจ้ารู้สึกว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ออกจะเสียใจที่ได้ทำร้ายแก่มอง ซิเออร์เดอรูอังถึงเพียงนี้ ทั้งข้าพเจ้าก็มีความวิตกว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทราบจากคนอื่นว่ามองซิเออร์เดอรูอังได้ขึ้นไปที่เมืองลพบุรีแล้ว ก็มาสงสัยว่าข้าพเจ้าเปนผู้ที่ได้จัดการในเรื่องนี้ก็จะเปนได้ ฝ่ายมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็มุ่งหมายจะคิดทำการค้าขายกับบริษัททั้งเชื่อใจว่าตัวคงมีความฉลาดพอที่จะเอาเปรียบจากเราให้จงได้ โดยไม่มีใครจะรู้สึกได้นั้น จึงได้มาแนะนำให้ข้าพเจ้าทำการค้าขายร่วมกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ และให้ข้าพเจ้ารับซื้อสินค้าในเรือที่มาจากเมืองจีนและเมืองอื่น ๆ ทั้งหมด ฝ่ายข้าพเจ้ามาตรองดูก็เห็นว่าจะเดินสายกลางไม่ได้เสียแล้ว ถ้าไม่ทำตามคำแนะนำของมองซิเออร์คอนซตันซ์ ก็เปนอันตกลงข้าพเจ้าจะทำอะไรไม่ได้เลย ข้าพเจ้าก็ตกลงยอมจะทำตามความต้องการของมองซิเออร์คอนซตันซ์ทุกอย่าง แต่ข้าพเจ้าได้บอกกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า ข้าพเจ้าจำเปนจะต้องฉวยโอกาสนี้รับซื้อไหมที่มาจากเมืองยี่ปุ่นเพราะเปนของที่ต้องห้าม แต่ข้าพเจ้าจะต้องรับซื้อไหมรายนี้ตามราคาไหมเมืองจีน หรือมิฉนั้นก็จะต้องรับซื้อโดยราคาถูกกว่าธรรมดา การที่ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์มิได้พอใจเลย เพราะที่ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร มองซิเออร์คอนซตันซ์เข้าใจได้ดีทีเดียว แต่ต่างคนต่างไม่กล้าพูดตรง ๆ ลงท้ายมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้อุบายให้คนไปเรียกหัวหน้าชาวอังกฤษมา ครั้นหัวหน้าชาวอังกฤษได้มา

๒๓ ถึงแล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้แนะนำว่า ถ้าหัวหน้าอังกฤษจะต้องการเข้าหุ้นกับมองซิเออร์คอนซตันซ์และตัวข้าพเจ้าแล้ว เราทั้ง ๓ คนจะได้รับซื้อสินค้าที่มาจากเมืองจีนทั้งหมด หัวหน้าอังกฤษก็ตกลงยอมตามคำแนะนำของมองซิเออร์คอนซตันซ์โดยทันที และการเรื่องนี้ก็เปนอันตกลงกันตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น แต่ในเรื่องนี้ท่านควรจะทราบไว้ว่าในสินค้าเหล่านี้มองซิเออร์คอนซตันซ์มีหุ้นส่วนเปนเจ้าของด้วยเปนอันมาก และไหมนั้นก็เปนไหมของมองซิเออร์คอนซตันซ์ ซึ่งเรืออังกฤษขนาดใหญ่ลำ ๑ ได้บรรทุกไหมจากเมืองจีนส่งไปเมืองยี่ปุ่นเมื่อปีกลายนี้ แล้วจึงได้ย้อนส่งไหมนั้นจากเมืองยี่ปุ่นมาเมืองไทย ไหมนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์กับนายเรืออังกฤษ ชื่อมองซิเออร์คอช เปนเจ้าของคนละครึ่ง มองซิเออร์คอชได้ไปซื้อไหมรายนี้จากชาวปอตุเกตเมืองมาเก๊าเปนราคา ๘๐ ปอนด์ ๕ และได้เอาสินค้าอย่างอื่นใช้แลกเปลี่ยนแทนเงิน ซึ่งทำให้เขาได้มีกำไรกว่า ๓๐ หรือ ๔๐ เปอเซนต์ ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าได้ทราบความจากนายเรืออังกฤษคนนั้นเอง เพราะลงปลายที่สุดนายเรืออังกฤษไม่พอใจในความประพฤติของมองซิเออร์คอนซตันซ์ ฝ่ายพวกบาดหลวงคณะเยซวิตซึ่งได้ลงเรือมาเก๊านั้นก็ได้บอกกับข้าพเจ้า ว่านายเรือซึ่งพวกบาดหลวงได้เดินสารไปนั้น ก็ได้เล่าความตรงกันกับที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้ว ส่วนสินค้าอย่างอื่น ๆ นั้นก็ได้ซื้อขายกันอย่างวิธีนี้เหมือนกัน คือว่าเมื่อเราได้ซื้อสินค้าไว้แล้ว เราต้องชำระด้วยเงินสด ด้วยเขาไม่ยอมรับสินค้าอย่างอื่นไว้แลกเปลี่ยนแม้แต่ราคาอัฐเดียว แต่ส่วนเขานั้น เวลาเขาซื้อสินค้าของเรา เขาก็

๒๔ เอาสินค้าอย่างอื่นมาแลกเปลี่ยนให้ หาได้ชำระด้วยเงินสดไม่ ซึ่งกระทำให้เขามีกำไรอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๔๐ เปอเซนต์ ดังข้าพเจ้าได้อธิบายมาแล้ว แต่การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กำไรถึงเท่านี้แล้วก็ยังหาเปนที่พอใจไม่ ไหมที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ลงทุนซื้อราคา ๘๐ ปอนด์ ๕ นั้นได้เอามาขายให้แก่เราโดยคิดราคาถึง ๘๔๓ ปอนด์ ๑๕ ซึ่งเปนราคาแพงกว่าธรรมดาหลายเท่า เพราะไหมที่ซื้อขายกันในเมืองไทยนั้น ไม่เคยขายกันเกินราคาหาบละ ๘๐ ปอนด์เลย และถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่คิดหากำไรเกินไปแล้ว เราก็พอจะซื้อได้โดยราคา ๖๓๖ ปอนด์ ซึ่งเปนราคาไหมที่ซื้อขายกันในเมื่องจีนอยู่แล้ว เพราะฉนั้นตามเรื่องราวที่ข้าพเจ้าได้เล่ามานี้ ท่านก็คงจะเห็นได้ง่ายว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ซึ่งเปนผู้ปกครองอุดหนุนบริษัท ทำทีเหมือนจะอุดหนุนหาประโยชน์ให้แก่บริษัท แต่ความจริงตัวของตัวเองกลับได้ประโยชน์มากกว่าเราหลายเท่าเพราะตามที่ซื้อขายสินค้ากันคราวนี้เปนเงินประมาณ ๖๒๐,๐๐๐ ปอนด์ ซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กำไรกว่า ๒๐,๐๐๐ แฟรง ก่อนที่เราจะมีกำไรเสียอิก นี่และมองซิเออร์คอนซตันซ์คิดจะทำกับท่านราชทูตเช่นนี้เหมือนกันคือว่าคิดจะให้ท่านราชทูตส่งของและเงินมาเปนราคารวม๘๐๐,๐๐๐ปอนด์ให้แบ่งเปนสินค้าเสีย ๔๐๐,๐๐๐ นอกจากนั้นให้ส่งเปนเงินสด เพื่อจะคิดให้ท่านราชทูตรับสินค้าจากเมืองจีนเปนเงิน ๘๐๐,๐๐๐ แฟรง อันจะทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กำไรราว ๖๐ เปอเซนต์ และการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะได้กำไรเท่านี้ก็เปนการง่ายที่สุด เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์จะได้สินค้าเหล่านี้โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ๒๕ ถ้าหากว่าข้าพเจ้าได้เอาเงินไปซื้อสินค้าที่เมืองจีนเปนราคา ๔๐๐,๐๐๐ปอนด์ ก็คงจะหากำไรในเมืองฝรั่งเศสได้ไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐,๐๐๐ เพราะเหตุว่า ไหมอย่างดีที่สุดอันจะหาที่เปรียบในโลกนี้ไม่ได้ ซื้อขายกันเปนราคา ๖๓๗ ปอนด์ ซึ่งคิดเปนน้ำหนักตกปอนด์ละ ๑๐๐ อัฐ (ฝรั่งเศส)เท่านั้น และในเมืองฝรั่งเศสคงจะขายได้น้ำหนักปอนด์ ๑ เปนเงิน ๑๕ หรือ ๑๖ ปอนด์เปนแน่ เพราะไหมนี้เปนไหมที่ดีที่สุด ในโลกนี้จะหาไหมที่ดีกว่านี้ไม่ได้ ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าก็ตกลงต้องยอมให้เขาเถือเนื้อ ถึงพวกอังกฤษเองก็ต้องยอมเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ยอมแล้ว ก็เปนอันไม่ได้ทำการค้าขายเลยจนอัฐเดียว ทั้งข้าพเจ้าก็จะต้องแตกร้าวกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ด้วย ข้าพเจ้าจึงต้องทำเปนไม่รู้เท่า เพราะข้าพเจ้าเชื่อว่าเวลานี้เปนการจำเปนที่บริษัทจะต้องยกย่องมองซิเออร์คอนซตันซ์ไปก่อน จนกว่าเราจะได้เกาะปูโลคอนดอเปนของเราต่อไป และความจริงในเรื่องนี้ถ้าเราไม่ทำเช่นนี้ ก็ไม่มีสินค้าในเมืองนี้ที่จะค้าขายได้ด้วย การที่ข้าพเจ้ากล่าวดังนี้ ก็ขอให้ท่านเชื่อใจเถิดว่า ข้าพเจ้ามิได้มุ่งหมายอย่างอื่นนอกจากความมุ่งหมายอันบริสุทธิ์ต่อบริษัทเท่านั้น ข้าพเจ้าลืมเล่าให้ท่านฟังว่า สินค้าในเมืองจีนทั้งหมดก็ซื้อขายกันอย่างนี้ และคงจะได้กำไรไม่น้อยกว่าสินค้าไหมเท่าไรนัก ถ้าข้าพเจ้าได้ไปอยู่ที่เมืองจีนแล้ว ข้าพเจ้าจะได้จัดการให้พวกจีนทำเครื่องลายครามให้เปนรูปต่าง ๆ แปลก ๆ หลายพันอย่าง เช่นให้ทำเครื่องลายครามสำหรับประดับเพดาน หรือสำหรับปูพื้นเปนต้น อันจะงามกว่าหินอ่อนหลายเท่า และคงจะถูกกว่าหินอ่อนเปนแน่ ๔ ๒๖ ในเวลานั้นโดยเหตุที่ข้าพเจ้าปล่อยให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำอะไร ๆ ตามชอบใจทุกอย่าง มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้สนิทสนมกับข้าพเจ้านัก ข้าพเจ้าเห็นว่าเปนโอกาสอันดีจึงได้พูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ ในเรื่องของมองซิเออร์เดอรูอัง และเพื่อจะให้มีน้ำหนักขึ้นอีก ข้าพเจ้าจึงได้อ้อนวอนขอให้บาดหลวงเกอบียองช่วยข้าพเจ้าพูดกับมองซิเออร์ คอนซตันซ์ด้วย ข้าพเจ้าจึงได้ชี้แจงต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ ว่าบรรดาคนชาวต่างประเทศทุก ๆ ประเทศกำลังเยาะเย้ยเราอยู่ โดยเหตุที่ชาวฝรั่งเศสซึ่งอยู่ในความปกครองของบริษัท ได้ถูกกดขี่อย่างร้ายแรงนัก และการที่ท่านผู้อำนวยการของบริษัทที่เมืองซูหรัต ได้ส่งมองซิเออร์เดอรูอังมาเมืองไทยนั้น ก็เพราะเหตุว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงออกประกาศเมื่อวันที่ ๒๐ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๒ (พ.ศ.๒๒๒๔) จะทรงบำรุงอุดหนุนพวกพ่อค้าโดยฉะเพาะ เมื่อบาดหลวงเกอบียองกับตัวข้าพเจ้าได้ชี้แจงเหตุผลต่าง ๆ ให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟังโดยกิริยาและวาจาอย่างอ่อนน้อมที่สุดแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ลุกเปนไฟขึ้นทันที ด่าและโกรธมองซิเออร์เดอรูอังเปนอันมาก ยังมีบาดหลวงคณะเยซวิต เปนชาวเมืองแฟลนเดอร์อีกคน ๑ อยู่ในที่นั้นด้วย พลอยพูดขึ้นว่า ควรจะทำโทษคนพวกนี้เพื่อสั่งสอนเสียบ้าง ถ้าแม้ว่าคน ๆ นี้ไม่ได้เปนบาดหลวงแล้ว เมื่อออกมาแล้วข้าพเจ้าคงจะสั่งสอนให้รู้สึกตัวว่าไม่ควรจะเข้าไปเกี่ยวในกิจการของผู้อื่นเปนแน่ แต่ในขณะนี้ข้าพเจ้าแกล้งทำเปนไม่ได้ยินเสีย และแกล้งพูดเล้าโลมเอาใจต่าง ๆ บาดหลวงคนนี้จึงพูดกับข้าพเจ้าว่าควรจะอดใจเอาไว้ก่อน ไม่ช้าเขาหวังใจว่าเราคงจะได้รับความยุติธรรม และเรื่องของเราก็จะเปนผลสำเร็จตามความปราถนา ๒๗ รุ่งขึ้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ออกจากกรุงศรีอยุธยา เพื่อขึ้นไปเมืองลพบุรี เพราะได้มีคนบอกลงมาว่า มองซิเออร์เดอรูอังกำลังรังควานในเรื่องนี้ และเตรียมที่จะถวายเรื่องราวต่อพระเจ้ากรุงสยามอยู่แล้ว ถ้าแม้ว่ามองซิเออร์เดอรูอังได้ถวายเรื่องราวและเรื่องราวนั้นเข้าไปถึงพระเจ้ากรุงสยามแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะเสียคนเปนแน่ ข้าพเจ้าก็ได้ไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ตามเคย และได้ไปส่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ลงเรือด้วย บาดหลวงเกอบียองได้แนะนำกับข้าพเจ้าว่า ในเรื่องของมองซิเออรเดอรูอังนั้น อย่าให้ข้าพเจ้าพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์อีกเลย เพราะบาดหลวงเกอบียองหวังว่าจะได้พูดจาเกลี่ยไกล่กับมอง ซิเออร์คอนซตันซ์ และจะคิดจัดการให้มองซิเออร์คอนซตันซ์คืนเงินให้แก่เราให้จงได้ ข้าพเจ้าจึงได้บอกกับบาดหลวงเกอบียองว่า ข้าพเจ้าเองไม่หยากเลยที่จะแตกร้าวบาดหมางกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ แต่ข้าพเจ้าระยอมตายดีกว่าที่จะยอมทนให้พวกปอตุเกตเยาะเย้ยพวกเราอยู่เช่นนี้ เพราะพวกนี้เยาะว่า ราชทูตของพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหญ่จะปกปักรักษาปกครองคนของตัวแต่คนเดียวก็ไม่ได้ เพราะพวกปอตุเกตทราบอยู่เต็มใจว่า ท่านราชทูตได้เปนธุระในเรื่องพวกฝรั่งเศสมาก จนถึงกับอ้อนวอนขอให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เอื้อเฟื้อช่วยเหลือชนชาวฝรั่งเศส ให้มากกว่าชนชาติอื่น ๆ และการที่มองซิเออร์เดอรูอังได้ถูกทำโทษเช่นนี้ พวกนี้ก็ชอบใจยิ่งนัก เพราะมองซิเออร์เดอรูอังเปนคนที่มีคนชอบมาก


๒๘ ในขณะนั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์เห็นว่าข้าพเจ้าไม่พอใจในการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์โกรธมองซิเออร์เดอรูอังมากมายเช่นนี้ จึงคิดจะแกล้งข้าพเจ้าโดยให้คนมาบอกข้าพเจ้าว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์จะเอามองซิเออร์คอมบาลใส่ชื่อเสียมีกำหนด ๖ เดือน เพราะเหตุที่มองซิเออร์คอมบาลได้ออกจากเมืองไทย โดยมิได้บอกให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบ แต่ความจริงในเรื่องนี้ เมื่อมองซิเออร์คอมบาลจะออกจากเมืองไทยคราวใด ก็เคยบอกให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบเสมอทุกคราวไป โดยเหตุที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เคยเอาสินค้าบรรทุกลงเรือเสมอ ๆ เปนอันมากและข้างฝ่ายมองซิเออร์คอมบาลก็มิได้เอาค่าระวางเลย ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องการอะไร มองซิเออร์คอมบาลก็จัดการให้โดยมิได้คิดค่าป่วยการอย่างใดเลย ซึ่งเปนการให้มองซิเออร์คอนซตันซ์รับผลประโยชน์เปนอันมาก แต่ถึงมองซิเออร์คอมบาลจะเอื้อเฟื้อต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์เช่นนี้ ก็ไม่พ้นที่จะได้รับความกดขี่และความอยุติธรรมเปนรางวัล เพราะฉนั้นมองซิเออร์คอมบาลจึงได้ออกเรือไปเสียโดยมิได้ไปถามมองซิเออร์ คอนซตันซ์ว่าจะมีธุระอะไรบ้างดังที่เคยทำมาแต่ก่อน ๆ นอกจากนี้ได้ทราบว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะคิดทำการอย่างร้ายกาจอันน่ากลัวอย่างยิ่งแก่ชาวฝรั่งเศสทุก ๆ คน จนที่สุดชาวฝรั่งเศสที่ได้ออกจากเมืองไทยไปแล้ว ก็จะต้องได้รับความเดือดร้อนจากมองซิเออร์คอนซตันซ์ด้วย ฝ่ายพวกบาดหลวงถึงจะไม่ลั่นวาจาว่ากระไรก็มิได้มีความพอใจเลย เพราะพวกบาดหลวงทั้งคณะก็ได้ถูกบีบคั้นดุจเปนทาส และในข้อนี้ท่านคงจะได้ทราบจากทางอื่นทุกแห่งเหมือนกัน ทั้งท่านก็คงจะเห็นดังข้าพเจ้า

๒๙ ได้อธิบายในตอนต้นแล้ว ว่าบริษัทได้ถูกขะโมย แต่ข้าพเจ้ามิได้พูดว่ากระไรจนคำเดียว จนที่สุดสิ่งใดที่ทำให้ข้าพเจ้าเสียใจนัก กลับทำให้พวกศัตรูของชาติเรายินดีมากขึ้น ครั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ขึ้นไปถึงเมืองลพบุรีแล้ว จึงได้ความว่ามองซิเออร์เดอรูอังได้เตรียมจะถวายเรื่องราวต่อพระเจ้ากรุงสยาม พอทราบเท่านั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็เข้าไปในพระราชวัง และแกล้งทำอุบายว่าได้ไปเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามกราบทูลในเรื่องนี้โดยตลอดแล้ว แล้วมองซิเออรคอนซตันซ์จึงเล่าให้พวกบาดหลวงฟังว่า พระเจ้ากรุงสยามได้มีรับสั่งให้ไล่มองซิเออร์เดอรูอังออกจากพระราชอาณาเขตร์ทันที แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กราบทูลขอพระมหากรุณาผ่อนให้มองซิเออร์เดอรูอังอยู่ในพระราชอาณาเขตร์อีก ๓ เดือน เพราะการงานของมองซิเออร์เดอรูอังยังติดพันกันอยู่ และได้กราบทูลว่าพ่อค้าอย่างมองซิเออร์เดอรูอังจะจัดการเรื่องที่ติดค้างให้สำเร็จก่อน ๓ เดือนไม่ได้ การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มาแกล้งอุบายพูดเช่นนี้ ก็เพื่อจะทำให้เห็นว่าตัวเปนคนตั้งอยู่ในความยุติธรรม แต่การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำโดยอ้างพระราชโองการมาแล้วนั้น ยังนับว่าเบากว่าที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำต่อไป เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้คนไปจับตัวมองซิเออร์เดอรูอังมา เมื่อได้ตัวมาแล้วก็สั่งให้เอาเชือกผูกคอ ให้เอาเชือกมัดมือและให้เอาตรวนใส่เท้ามองซิเออร์เดอรูอัง แล้วมองซิเออร์เดอรูอังไปตระเวนตลอดเมืองลพ บุรีในเวลากลางวันแสก ๆ เมื่อได้ตะเวนเสร็จแล้วจึงได้สั่งให้เอาตัวมอง ซิเออร์เดอรูอังไปจำขังไว้ที่บางกอก ซึ่งเปนหมู่บ้านเล็ก ๆ ไกลประมาณ

๓๐ ๑๐ ไมล์ การที่เปนเช่นนี้ก็พอจะเห็นได้ชัดว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำโดยลำพังของตัว พระเจ้ากรุงสยามหาได้ทรงทราบเรื่องไม่เลย คนใช้ของมองซิเออร์เดอรูอังคน ๑ ได้รีบมาบอกให้ข้าพเจ้าทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ข้าพเจ้าจึงรีบไปหารือท่านบาดหลวง เพราะในเวลานั้นไม่มีใครนอกจากท่านคณะบาดหลวงเท่านั้น ข้าพเจ้าจึงได้บอกกับบาดหลวงว่า ข้าพเจ้าคิดจะแย่งเอาตัวมองซิเออร์เดอรูอังกลับมาเสีย และเมื่อได้ตัวมาแล้วก็จะขอให้เขาฟ้องกล่าวโทษมองซิเออร์เดอรูอังตามกระบิลเมืองต่อไป ถ้ามองซิเออร์เดอรูอังมีความผิด ข้าพเจ้าก็จะส่งตัวคืนให้ ท่านบาดหลวงไม่เห็นชอบตามความคิดของข้าพเจ้า โดยอ้างว่าจะทำให้พระเจ้ากรุงสยามกริ้ว จึงเปนอันตกลงให้ข้าพจ้าทำใจเย็ย ๆ รอฟังไปดูก่อน แต่ข้าพเจ้าก็ต้องการทราบเรื่องของมองซิเออร์เดอรูอัง จึงได้ลงเรือไปแต่คนเดียว และได้พบกับมองซิเออร์เดอรูอังใกล้กับพระราชวัง พวกที่คุมมองซิเออร์เดอรูอังเห็นข้าพเจ้าไปจึงได้ร้องตะโกนห้ามฝีพายเรือข้าพเจ้าไม่ให้เข้าใกล้ ข้าพเจ้าก็ได้ตั้งใจแล้วว่าจะไม่ทำการร้ายแรงอย่างใด จึงได้ถามเรื่องจากมองซิเออร์เดอรูอังแต่ไกล พอทราบความตามที่ต้องการแล้วข้าพเจ้าก็กลับมา มองซิเออร์เดอรูอังได้บอกกับข้าพเจ้าว่า คนที่คุมตัวมองซิเออร์เดอรูอังมานั้น ได้รับคำสั่งให้คุมตัวมองซิเออร์เดอรูอังอย่างแน่นหนา อย่าให้ข้าพเจ้าไปแย่งชิงเอาตัวมาได้ เพราะเกรงว่าข้าพเจ้าจะพาตัวมอง ซิเออร์เดอรูอังพร้อมทั้งโซ่ตรวนเครื่องจองจำไปเฝ้าพระเจ้ากรุงสยาม ภายหลังสัก ๒-๓ วัน มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กลับมาที่กรุงศรีอยุธยาอีก เพราะธุระที่มาทำครั้งก่อนยังคั่งค้างอยู่ แต่มองซิเออร์

๓๑ คอนซตันซ์ได้ทำแก่พวกเราอย่างร้ายแรงนัก ข้าพเจ้าจึงมิได้ไปหาตามเคย เปนแต่ข้าพเจ้าได้พ?ดกับบาดหลวงเกอบียองว่า ข้าพเจ้าจะอดทนให้การเปนไปอย่างนี้ไม่ได้ และขอให้บาดหลวงเกอบียองลองเอาใจของข้าพเจ้าไปใส่ใจของตัวจะเห็นได้ว่าเปนอย่างไรบ้าง ข้าพเจ้าจึงได้พูดกับบาดหลวงเกอบียองต่อไปว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ทำเช่นนี้ก็เพื่อประสงค์จะอวดอำนาจ และเพื่อจะทำให้พวกอังกฤษพอใจ เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้ทำกับพวกอังกฤษอย่างร้ายแรงเหมือนกัน และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็หลอกลวงพวกอังกฤษเช่นเดียวกับที่หลอกหลวงพวกเรา โดยสัญญาจะให้พริกไทในเมืองไทยทั้งหมดแก่อังกฤษ และสัญญาอะไรต่ออะไรต่าง ๆ อันน่าฟังทั้งนั้น ทั้งในเวลานั้นก็ประจวบกับเวลาที่ได้ข่าวมาว่าบริษัทอังกฤษจะต้องการทราบเหตุผลในเรื่องที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำแก่หัวหน้าของเขาด้วย เมื่อข้าพเจ้าได้ยกเหตุผลชี้แจงให้บาดหลวงเกอบียองฟังโดยละเอียดแล้ว จึงเปนอันตกลงกันว่าบาดหลวงเกอบียองจะได้ไปบอกกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ส่งตัวมองซิเออร์เดอรูอังมาให้ข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะได้กลับจากเมืองไทยเพราะหมดหนทางที่จะทำอย่างอื่นได้แล้ว มิฉนั้นการงานของเราก็พลอยเสียหายไปหมด และการที่ข้าพเจ้าคิดจะกลับไปนั้น ก็เพราะเหตุว่าทนความเยาะเย้ยของชาวต่างประเทศไม่ได้แล้ว ความคิดของข้าพเจ้าในเรื่องนี้ก็คือว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ให้ความยุติธรรมแก่ข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าก็จะได้ออกจากกรุงศรีอยุธยาไปยังเกาะปูโลคอนดอ เพื่อคอยลมมรสุมไปยังฝั่งคอรอมันเดลต่อไป

๓๒ เมื่อไปถึงเกาะปูโลคอนดอแล้ว ข้าพเจ้าจะได้อุบายทำเปนทีไปยิงเนื้อยิงสัตว์และตกปลา แต่ความจริงข้าพเจ้าจะได้ทำแผ่นที่เกาะนั้น ทั้งทำแผนที่ท่าเรือและหยั่งน้ำให้รู้ร่องน้ำลึกตื้นเท่าไร กับสืบสวนตรวจตราการทั้งปวงในเกาะนั้นด้วย เมื่อบาดหลวงเกอบียองได้ไปพูดกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ตามที่ได้ตกลงกันไว้นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์กหาเชื่อไม่ กลับเห็นไปว่าข้าพเจ้าหลอกเพื่อจะให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ส่งตัวมองซิเออร์เดอรูอังมา ให้ข้าพเจ้าเท่านั้น และบาดหลวงเกอบียองจะพูดอย่างไร ๆ มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็หาเชื่อไม่ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้เลยล่องไปที่บางกอกโดยมิได้ให้คำตอบแก่ข้าพเจ้าว่าอย่างใด ข้างฝ่ายข้าพเจ้าก็จะต้องการให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เห็นเหมือนกันว่า ข้าพเจ้าเปนคนพูดจริง เพราะฉนั้นพอมองซิเออร์คอนซตันซ์ล่องลงไปบางกอกแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้ให้เตรียมเรือยาว ๒ ลำ เพื่อจะได้พาผู้คนที่อยู่ในห้างไปด้วยทั้งหมด เพราะเกรงว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะทำร้ายคนเหล่านี้ เช่นเดียวกับที่ได้เคยทำร้ายแก่หัวหน้าห้างอังกฤษ แก่มองซิเออร์เดอรูอังและคนอื่น ๆ มาแล้วฝ่ายพวกไทยที่จะต้องพายเรือของเรา เห็นว่าพวกเราถืออาวุธด้วยกันทุกคนก็เกิดกลัวขึ้น จึงต่างคนต่างกระโดดน้ำหนีไปหมด ทิ้งเราไว้ในเรือจะหาคนพายเรือสักคนเดียวก็ไม่มี ซึ่งกระทำให้ข้าพเจ้าลำบากใจเปนอันมาก แต่เรื่องนี้เปนเรื่องที่โด่งดังอื้อฉาวแล้ว จะถอยหลังเพราะติดขัดเพียงเท่านี้ก็ออกนึกอายอยู่บ้าง ข้าพเจ้าจึงได้ตกลงใจจะเดินบกไปให้จงได้แต่มีชาวปอตุเกตคน ๑ ไม่ยอมไป เพราะเดินทางบกเปนการลำบากมาก

๓๓ ด้วยบางแห่งต้องข้ามห้วยข้ามคลอง บางทีก็ต้องจมโคลนจนถึงบั้นเอวก็มี แต่ถึงหนทางจะกันดารสักปานใด พวกเราก็ได้เดินบกไปถึงเมืองลพบุรีภายใน ๒๔ ชั่วโมง ครั้นไปถึงเมืองลพบุรีแล้ว ข้าพเจ้าจึงตรงไปยังประตูพระราชวัง เพื่อไปขอความกรุณาให้ข้าพเจ้าเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามให้จงได้ ผู้บังคับกองทหารซึ่งประจำการอยู่นั้น ได้ออกมาถามข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้ามีกิจอะไร ข้าพเจ้าจึงตอบว่า ข้าพเจ้าหวังจะรับเกียรติยศที่จะได้เข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสยาม เพื่อกราบทูลขอพระราชทานพระราชานุญาตกราบถวายบังคมลากลับไปรายงานให้หัวหน้าของข้าพเจ้าทราบถึงเหตุการณ์ ต่าง ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในเมืองนี้ ฝ่ายผู้บังคับกองคิดจะช่วยเหลือมองซิเออร์คอนซตันซ์ เพราะพวกนี้จะทำการสิ่งใดก็รู้ถึงกันหมด จึงถามข้าพเจ้าว่ามีเรื่องราวอย่างไรที่จะต้องเข้าไปกราบทูล ข้าพเจ้าจึงได้ตอบผู้บังคับการกองทหารว่าเรื่องที่ข้าพเจ้าจะไปรายงานนั้น เปนเรื่องที่ใคร ๆ จะแก้ไขไม่ได้นอกจากพระเจ้ากรุงสยามและหัวหน้าของข้าพเจ้าเท่านั้น เพราะฉนั้นถ้าข้าพเจ้าจะเล่าให้ผู้บังคับกองฟังก็ป่วยการเสียเวลาเปล่า ๆ ผู้บังคับกองจึงได้ตอบข้าพเจ้าว่า เวลานี้จะเข้าไปกราบทูลพระเจ้ากรุงสยามยังไม่ได้ข้าพเจ้าจึงจำเปนต้องกลับและได้เลยไปรับประทานอาหารที่โรงเรียนสามเณ ซึ่งในเวลานั้นมีแต่มองซิเออร์เลอแคลอยู่คนเดียวเท่านั้น อีกสักครู่ ๑ พระยาพระคลังได้ให้คนมาตามมองซิเออร์เลอแคลให้ไปหาและให้พาข้าพเจ้า ไปด้วย แต่พะเอิญเวลานั้นคนที่ข้าพเจ้าพาไปด้วยได้ไปรับประทานอาหารกันหมด ทั้งตัวข้าพเจ้าก็ไม่ไว้ใจพระยาพระคลังเท่าไรนักด้วย ข้าพเจ้า ๕

๓๔ จึงขอให้มองซิเออร์เลอแคลล่วงหน้าไปเสียก่อน เมื่อข้าพเจ้ารวบรวมคนของข้าพเจ้าได้เมื่อไร ข้าพเจ้าจึงจะตามไปภายหลัง ข้าพจ้าได้ให้พระยาพระคลังคอยข้าพเจ้าช้าอยู่สักหน่อย เพราะคนของข้าพเจ้ายังกลับมาไม่หมด ครั้นข้าพเจ้ารวบรวมผู้คนได้หมดแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้ไปหาพระยาพระคลัง พระยาพระคลังจึงได้ถามข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้าไม่ทราบดอกหรือว่าในเรื่องชนิดนี้จะต้องพูดกับพระยาพระคลังเสียก่อน แล้วพระยาพระคลังจึงจะได้นำความกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยามต่อไป ข้าพเจ้าจึงได้ตอบพระยาพระคลังว่า ข้าพเจ้าเข้าใจดีทีเดียว แต่พระยาพระคลังไปทำกับมองซิเออร์เดอรูอังอย่างร้ายแรงเช่นนี้ ข้าพเจ้าจึงไม่พูดด้วยกับพระยาพระคลัง พระยาพระคลังจึงตอบข้าพเจ้าว่า มองซิเออร์เดอรูอังเปนผู้ร้ายแต่ข้าพเจ้าหาได้เปนผู้ร้ายเหมือนกับมองซิเออร์เดอรูอังไม่ ข้าพเจ้าจึงได้ชี้แจงให้พระยาพระคลังฟังว่า มองซิเออร์เดอรูอังมิได้เปนคนร้ายยิ่งกว่าข้าพเจ้าเลย และทั้งมองซิเออร์เดอรูอังและตัวข้าพเจ้าก็มิได้เปนผู้ร้ายทั้งสองคน พระยาพระคลังจึงถามว่า ข้าพเจ้าจะต้องการอย่างไร ข้าพเจ้าก็ได้ตอบพระยาพระคลังอย่างเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้พูดกับผู้บังคับกองทหารที่ประตูพระราชวัง เมื่อได้พูดจาโต้ตอบกันอยู่ช้านาน แต่พูดกันอย่างเรียบร้อยทั้งสองฝ่าย ข้าพเจ้าก็ลาพระยาพระคลังกลับไปที่พัก และพระยาพระคลังก็รับรองกับข้าพเจ้าว่า จะได้นำความกราบทูลให้ทรงทราบตามความประสงค์ของข้าพเจ้า และเมื่อมีพระกระแสอย่างใด พระยาพระคลังจะได้ให้คนมาบอกให้ข้าพเจ้าทราบที่กรุงศรีอยุธยา และข้าพเจ้าก็ได้รับรองว่า ถ้ามีพระกระแสมาประการใด ข้าพเจ้าก็จะได้ปฏิบัติ

๓๕ ตามทุกประการ เพราะข้าพเจ้ามีความนับถือว่าพระเจ้ากรุงสยามเปนผู้ที่มีพระทัยดี ครั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กลับจากบางกอกมาถึงกรุงศรีอยุธยาแล้ว ข้าพเจ้าก็หาได้ไปหาไม่ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้เรียกขุนนางข้าราชการไปประชุมกันเปนการใหญ่โต เพื่อจะคิดอ่านหาทางแก้ตัวในข้อหาของข้าพเจ้า ในขณะนั้นพะเอิญข้าพเจ้าได้รับจดหมายจากมองซิเออร์เดลเดอเตอร์ฉบับ ๑ ร้องมาว่า มองซิเออร์คอนูเอลได้ถูกกดขี่ที่เมืองตะนาวศรี ข้าพเจ้าจึงได้เอาหนังสือฉบับนั้นส่งเข้าไปยังที่ประชุม และ ขอร้องให้ข้าพเจ้าได้รับความยุติธรรม ทประชุมในคราวนี้มิได้ตกลงอย่างไร นอกจากหาเรื่องกล่าวโทษข้าพเจ้าเปนเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หลายพันอย่าง ซึ่งกระทำให้ข้าพเจ้ามีความสงสารพวกนั้นมากกว่าที่จะทำให้ข้าพเจ้ากลัว ครั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์กลับขึ้นไปถึงเมืองลพบุรี ก็กลับหาว่าการที่ข้าพเจ้าได้ไปทำที่เมืองลพบุรีนั้น เปนการหมิ่นพระเดชานุภาพ การเช่นนี้เปนวิธีของมองซิเออร์คอนซตันซ์ เมื่อตัวทำผิดแล้วก็คงจะหาความผิดใส่คนอื่นต่อไป เมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กลับขึ้นไปถึงเมืองลพบุรีแล้ว ข้าพเจ้าก็รอคอยคำตอบของพระยาพระคลัง ครั้นเห็นว่าพระยาพระคลังไม่ตอบข้าพเจ้าดังนัดไว้แล้ว ข้าพเจ้าจึงได้มีจดหมายโดยใช้ถ้อยคำอย่างอ่อนน้อมไปยังพระยาพระคลังฉบับ ๑ แต่ในจดหมายฉบับนี้ข้าพเจ้าได้เอาความที่เปนจริงกล่าวแทรกลงไปด้วย จึงได้ทำให้พระยาพระคลังโกรธหนักยิ่งกว่าเก่าขึ้นไปอีก ครั้นพระยาพระคลังเห็นว่าจะเอา

๓๖ ชนะข้าพเจ้าไม่ได้แล้ว เพราะข้าพเจ้าไม่กลัว ถึงพระยาพระคลังจะเอาข้าพเจ้าใส่คือคาหรือจะด่าว่าข้าพเจ้าอย่างไรข้าพเจ้าก็ไม่กลัว พระยาพระคลังจึงได้เดินวิธีใหม่ โดยให้คนมาพูดจาเกลี่ยไกล่ข้าพเจ้าอย่างสุภาพเรียบร้อยข้าพเจ้าจึงยอมหมด พระยาคลังจะคิดอย่างไรจะทำอย่างไร ข้าพเจ้าก็ยอมทุกอย่าง ขอแต่ให้ส่งตัวมองซิเออร์เดอรูอังมาให้ข้าพเจ้าเท่านั้น เพราะในเวลานั้นมองซิเออร์เดอรูอังก็ยังต้องจำตรวนอยู่ ทั้งขาก็ถูกหนีบในระหว่างไม้ ๒ อัน จะพลิกตัวหรือไปนั่งที่อื่นไม่ได้ทั้งกลางวันกลางคืน มองซิเออร์เดอฟอแบงได้ให้คนมาตามข้าพเจ้าขึ้นไปยังเมืองลพบุรีและรับรองจะให้เรื่องของข้าพเจ้าเปนผลสำเร็จ ข้าพเจ้าก็ได้รีบขึ้นไปเมืองลพบุรีทันที ครั้นไปถึงแล้วมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ไม่ยอมจัดการอย่างไร ข้าพเจ้าก็เตรียมตัวจะกลับ แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บังคับให้ข้าพเจ้าไปหาให้จงได้ ข้าพเจ้าได้ไปหาตามความประสงค์ ซึ่ง เปนการให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เสียใจมาก เพราะเรื่องนี้เปนเรื่องที่โด่งดังอื้อฉาวมาก และใคร ๆ ก็รู้ว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ทำการไม่ถูก ครั้นข้าพเจ้าได้พบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์และได้พูดกันตัวต่อตัวได้แล้ว ข้าพเจ้าจึงขอให้ไล่คนออกไปให้หมด เพราะคนพวกนี้ก็ล้วยแล้วแต่เปนคนช่างประจบสอพลอทั้งนั้น และข้าพเจ้าเชื่อว่าถ้าเราได้ทำธุระกันฉะเพาะสองต่อสองแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะพอใจข้าพเจ้าเปนอันมาก ข้าพเจ้าก็ได้ไปหาท่านสังฆราชและได้กล่าวโทษมิชันนารีของท่านสังฆราชผู้ ๑ เพราะมิชันนารีคนนี้เปนคนที่อยู่ใกล้ชิดกับมองซิเออร์

๓๗ คอนซตันซ์เสมอ และเปนคนทำให้พวกมิชันนารีทั้งหลายรำคาญด้วย ความจริงพวกมิชันนารีเหล่านี้เปนคนที่ซื่อมาก และพวกบาดหลวงคณะเยซวิตก็คอยรักษาเกียรติยศของประเทศฝรั่งเศสอยู่เสมอ การที่ข้าพเจ้าได้ขึ้นไปเมืองลพบุรีครั้งนี้ มองซิเออร์เดอฟอแบงก็ได้จัดการช่วยพูดจาหวังจะให้ได้เสร็จเรื่องไป ครั้นพูดไปพูดมาก็ทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์รู้สึกตัวว่าตัวทำผิด มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้แค้นมองซิเออร์เดอฟอแบงนัก และตั้งแต่นั้นมาองซิเออร์คอนซตันซ์ก็แกล้งมองซิเออร์เดอฟอแบงหลายพันอย่าง เพราะนิสสัยของมองซิเออร์คอนซตันซ์เปนคนที่อาฆาตพยาบาท จะหาใครในโลกนี้เหมือนมองซิเออร์คอนซตันซ์เปนไม่ได้แล้ว ข้าพเจ้าก็รู้สึกอยู่ว่าในทุกวันนี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์เปนคนที่พระเจ้าแผ่นดินโปรดปรานมากกว่าคนอื่น ๆ และข้าพเจ้าก็เชื่อว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์คิดเห็นว่าข้าพเจ้าเผลอเวลาใด ข้าพเจ้าก็คงจะถูกแทงทางข้างหลังเปนแน่ แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์คงคิดผิด เพราะข้าพเจ้ารู้จักนิสสัยมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ดีทีเดียว ข้าพเจ้าจึงจำเปนต้องระวังตัวอยู่ทุกเมื่อ ในเรื่องนี้เมื่อข้าพเจ้าได้เทียวขึ้นไปเมืองลพบุรีสัก ๒-๓ ครั้งแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ส่งตัวมองซิเออร์เดอรูอังมาให้ข้าพเจ้า และได้สัญญากับข้าพเจ้าว่าจะได้คืนเงินค่าไม้จันทน์ให้แก่มองซิเออร์เดอรูอังด้วย ตั้งแต่ได้เกิดเรื่องนี้มา ในส่วนกิริยาวาจาของมองซิเออร์คอนซตันซ์ ที่เกี่ยวแก่ตัวข้าพเจ้า เปนสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่มีข้อที่จะติได้ แต่ในข้อที่เกี่ยวด้วยผลประโยชน์ส่วนตัวแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงยังปฏิบัติตาม

๓๘ ที่เคยอย่เสมอ ส่วนเรือที่ข้าพเจ้าได้เตรียมไว้สำหรับจะกลับจากเมืองไทยนั้น เปนอันหมดโอกาสที่ข้าพเจ้าจะไปยังเกาะปูโลคอนดอได้แล้ว ข้าพเจ้าจึงได้เอาเรือนี้ขึ้นตั้งหน้าสำหรับขออนุญาตต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ ที่จะไปตรวจดูพริกไทที่เมืองนครศรีธรรมราชต่อไป การที่ข้าพเจ้าขออนุญาตไปเมืองนครศรีธรรมราชนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์มิได้พอใจเลย แต่ก็ไม่กล้าห้ามไม่ให้ข้าพเจ้าไป มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้บอกกับข้าพเจ้าว่ามีความยินดีที่จะให้ข้าพเจ้าไป แต่ขอให้ข้าพเจ้ารอสักหน่อยเถิดจึงค่อยไป ข้าพเจ้าก็ได้รออยู่และได้เทียวไปเทียวมาหลายครั้งหลายหน มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ผัดเพี้ยนเรื่อยไปจนล่วงเวลาไปได้ ๓ เดือน ข้าพเจ้าก็ได้ไปชี้แจงต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า การที่ทำให้เสียเวลาเช่นนี้ เปนการทำให้บริษัทได้รับความเสียหายมาก มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้บอกกับข้าพเจ้าว่า ในเรื่องนี้จะต้องกราบทูลพระเจ้ากรุงสยามให้ทรงทราบเสียก่อนจึงจะได้ ตามการที่เปนเช่นนี้ก็พอจะเห็นได้ว่าพริกไทคงจะมีจริง แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะต้องการกักไว้สำหรับขายให้พวกอังกฤษเปนแน่ พวกบาดหลวงคณะเยซวิตได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เมื่อเรือที่พวกบาดหลวงได้เดินสารมา ได้แวะเข้าไปที่ฝั่งเมืองเขมรนั้น พวกบาดหลวงได้พบกับคนที่ได้เคยไปค้าขายกับเมืองนครศรีธรรมราช คนเหล่านี้ได้เล่าให้พวกบาดหลวงฟังว่า ปีนี้พริกไทมากพอบรรทุกเรือได้ถึง ๒ ลำ ข้อนี้คงเปนความจริง เพราะได้ทราบว่าพวกอังกฤษได้ไปตั้งห้างที่เมืองปัตตานีแล้ว


๓๙ ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าจะจัดการให้ดีกว่านี้ไม่ได้ เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ยอมให้ข้าพเจ้าไปดังนี้ ข้าพเจ้าจีงได้จัดให้มองซิเออร์รากีเอมไปแทน แต่มองซิเออร์รากีเอมได้ไปทำอย่างไรจนถึงกับคนนำร่องได้เสียคน จึงเปนอันต้องงดไปไม่ได้ ดังท่านจะได้เห็นตามรายงานที่ข้าพเจ้าได้ส่งมาให้ท่านแล้ว ข้าพเจ้าเองก็มิได้ไว้ใจในคนนำร่องคนนั้นอยู่แล้ว ข้าพเจ้าจึงได้จัดหาคนนำร้องหนุ่ม ๆ คนหนึ่ง ซึ่งเปนคนมากับเรือของราชทูตและได้เลยอยู่ในเมืองไทยต่อไป แต่คนนำร่องคนนี้หนุ่มเกินไปข้าพเจ้าจึงไม่กล้าที่จะมอบเรือให้ทีเดียว การที่ต้องทำงานใหญ่โตและต้องอาศรัยคนชาวต่างประเทศนั้นเปนการน่าอัดใจเต็มที และคนนำร่องหนุ่มที่ว่านี้ก็พะเอิญเปนคนชาติอังกฤษเสียด้วย ข้าพเจ้าจะได้มีจดหมายไปยังผู้อำนวยการมาแตง ขอให้ส่งเรือเซนต์หลุยมาในปีหน้าแต่ต้นปี และจะได้ขอให้มองซิเออร์มาแตงสั่งนายเรือให้แวะตามชายฝั่งทะเลทุก ๆ แห่ง และให้รายงานให้ทราบว่าที่ท่าเรือแห่งใดจะมีพริกไทบ้าง ข้าพเจ้าเชื่อว่าคงจะไปพบตำบลที่ปลูกพริกไทเปนแน่ ถ้าแม้ว่าข้าพเจ้าได้มีเรือสักลำ ๑ แล้ว ข้าพเจ้าก็จะได้อุบายว่าจะไปเกาะบอนีโอเพื่อจะไปซื้อเพ็ชร์ แต่ข้าพเจ้าจะได้แวะตรวจที่เกาะปูโลคอนดอเสียก่อนจึงจะเลยไปเกาะบอนีโอ แล้วจากเกาะบอนีโอข้าพเจ้าจะได้เลียบตามฝั่งแหลมมะลายู ตรวจตราในเรื่องพริกไทให้ตลอดทาง และเมื่อไปถึงเมืองสงขลาจะได้ตรวจตราการทั้งปวงในเมืองนั้นโดยละเอียด และข้าพเจ้าเชื่อว่าในเรื่องพริกไทนี้ก็คงจะไม่ใช่การใหญ่โตเหลือเกิน ดังไทยจะต้องการให้เราเชื่อดอก ๔๐ โดยเหตุที่ข้าพเจ้าได้ตรึกตรองและปฏิบัติการอยู่ทุก ๆ วัน เพื่อให้เปนประโยชน์แก่บริษัทนั้น ข้าพเจ้าจึงได้เกิดมีความคิดในเรื่องเมืองสงขลาขึ้นอย่าง ๑ ซึ่งข้าพเจ้าได้นำไปหารือต่อท่านสังฆราชและท่านบาดหลวงคณะเยซวิตแล้ว และท่านเหล่านี้ก็เห็นชอบด้วย ความคิดของข้าพเจ้าอันนี้ก็คือ ในระดูมาสุมที่ลมพัดมาจากทิศเหนือ ซึ่งเปนเวลาที่เหมาะสำหรับเดินเรือไปยุโรปนั้น ในเวลานั้นมีสายน้ำไหลเชี่ยวจากทิศตวันออกไปทิศตวันตก อันเปนเหตุทำให้เรือแวะเข้าไปตามฝั่งแหลมมะลายูไม่ได้ ข้อนี้บรรดาคนทั้งหลายที่ได้เคยมาเมืองนี้แล้ว อาจจะรับรองว่าเปนความจริงทุกคน เพราะคนเหล่านี้ได้รับคำแนะนำมาทุกคน ว่าถ้าถูกเคราะห์ร้ายลมตีเข้าหาฝั่งแล้ว ก็ต้องนับว่าเปนการเสียเที่ยวจะไปไหนไม่ได้อีก เพราะเหตุฉนี้ข้าพเจ้าจึงมีความเห็นว่า ถ้าท่านจะต้องการตั้งห้างที่เมืองสงขลาแล้ว ก็จะต้องให้เรือออกเดินก่อนระดูมรสุมถึง ๒ เดือน เพื่อไปคอยลมที่จะพัดมาจากทิศเหนือ และการทีจะคอยลมนั้นจะต้องเอาเรือไปทอดไว้ที่ท่าเมืองไทย หรือที่ฝั่งเมืองเขมร แต่การที่จะเอาเรือไปทอดคอยลมเช่นนี้ ก็จะทำให้โสหุ้ยเพิ่มขนมาก ทั้งเปนการเหน็จเหนื่อยลำบากต่อลูกเรือ เพราะต้องเดินทางช้าออกไปถึง ๒ เดือน และในเวลาที่เปลี่ยนมรสุมนั้นก็อาจจะมีลมพายุอย่างร้ายแรงซึ่งจะทำให้เรือแตกทำลายก็ได้ ส่วนที่เกาะปูโลคอนดอนั้นเปนทำเลที่ดีกว่ามาก เพราะลมและสายน้ำก็เหมาะแก่การเดินเรือทุกอย่าง


๔๑ การที่ข้าพเจ้าออกความเห็นเช่นนี้ บางทีท่านจะหาว่าข้าพเจ้ารบกวนท่าน และหาว่าข้าพเจ้ามีน้ำใจโหดร้ายก็จะเปนได้ แต่ข้าพเจ้าจะต้องขอยืนยันต่อท่านว่า ข้าพเจ้าเปนผู้ที่รู้จักเมืองนี้ได้ดีทีเดียว และถ้าในเมืองนี้มีของดีแล้ว ของดีนั้นก็คงจะไม่ตกไปถึงมือท่านเปนแน่ ข้าพเจ้าก็อ้อนวอนต่อพระเปนเจ้าขอให้ข้าพเจ้าคิดผิดเถิด แต่ข้าพเจ้าก็เชื่อใจว่าตามที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาทั้งนี้เปนเรื่องที่จริงทั้งสิ้น ถึงแม้ว่า จะมีใครหาว่าข้าพเจ้าเปนคนชั่วที่สุด และในโลกนี้จะไม่มีใครชั่วยิ่งกว่าข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าก็อดไม่ได้ที่จะต้องบอกให้ท่านทราบว่า พวกฝรั่งเศสในเมืองนี้ได้ถูกบีบคั้นกดขี่อย่างสาหัส มองซิเออร์เดอฟอแบงนั้นจึงถูกกดขี่บ้างก็ยังไม่ได้ถูกร้ายแรงเท่ากับมองซิเออร์เดอรูอัง แต่ก็จวนอยู่แล้วเหมือนกัน และถ้าข้าพเจ้าไม่คอยห้ามมองซิเออร์เดอฟอแบงมิให้กราบทูลขอรับความยุติธรรมจากพระเจ้ากรุงสยามแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะทำกับมองซิเออร์เดอฟอแบง อย่างที่ทำกับมองซิเออร์เดอรูอังมาแล้ว หรือบางทีจะทำร้ายแรงยิ่งกว่าทำมองซีเออร์เดอรูอังเสียอีกก็จะเปนได้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อท่านเหล่านี้ได้ถูกบังคับกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงเช่นนี้ ก็เปนเรื่องที่จะลืมไม่ได้เปนอันขาดตลอดถึงวันตาย ท่านสังฆราชและท่านบาดหลวงคณะเยซวิตก็เปนพยานว่ามองซิเออร์เดอฟอแบงมิได้มีความผิดอย่างใดเลย แต่ถึงดังนั้นไทยก็ไล่และเนรเทศมองซิเออร์เดอฟอแบงให้ออกจากพระราชอาณาเขตร์สยามดุจมองซิเออร์เดอฟอแบงเปนคนเลวทรามต่ำช้าที่สุด และการที่ไทยขับไล่ ๖

๔๒ มองซิเออร์เดอฟอแบงออกจากพระราชอาณาเขตร์นั้นก็ให้เวลาเพียง ๔๐ ชั่วโมงเท่านั้น ฝ่ายมองซิเออร์คอมบาลก็ถูกขู่ว่าจะต้องติดขื่อมีกำหนดถึง ๖ เดือน ฝ่ายมองซิเออร์ชาลก็ถูกขู่ว่าจะต้องติดคุกมีกำหนด ๑ ปี จนมองซิเออร์ชาลต้องหนีเข้าไปซ่อนอยู่ในป่าถึง ๓ เดือน จนกว่ามอง ซิเออร์คอนซตันซ์จะหายโกรธ ยังมีชาวฝรั่งเศสอีกคน ๑ ซึ่งเคยเปนคนรักษาพระราชอุทธยานของพระเจ้ากรุงสยาม ได้ตายด้วยความเสียใจ เพราะเหตุว่าไทยได้ขู่ว่าจะเอาไม้ตี เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ ผู้รักษาพระราชอุทธยานคนนี้ไม่ได้รับผลประโยชน์อย่างใดเลย จนไม่มีอะไรจะซื้ออาหารรับประทาน ทนไม่ไหวจึงขอลาออก ไทยก็โกรธและว่าจะทำโทษเฆี่ยนดังนี้ ขอให้ท่านทราบเถิดว่าบรรดาชาวฝรั่งเศสที่อยู่ในเมืองไทยทั้งคนที่ท่านราชทูตได้ปล่อยไว้ที่นี่และคนที่เรียกมาสำหรับทำราชการ ของพระเจ้ากรุงสยาม ถึงจะได้รับความเดือดร้อนสักปานใดก็ไม่กล้าลาออกเพราะกลัวจะต้องถูกเฆี่ยนนับตั้งพันที การที่ไทยทำการกดขี่ข่มเหงเช่นนี้ เมื่อนึกขึ้นมาทีไรก็เท่ากับมีอะไรมาแทงหัวใจเหมือนกัน ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าถ้าพระเจ้าแผ่นดินของเราได้ทรงทราบ ว่าไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินของพระองค์ได้มาถูกทรมานอย่างแสนสาหัสยิ่งกว่าทาสดังนี้ พระองค์คงจะหักโซ่ตรวนอันกระทำความทรมานให้แก่ชาวฝรั่งเศสให้หมดสิ้นเปนแน่ ข้าพเจ้าได้เล่าให้ท่านฟังถึงการเรื่อง ๑ ซึ่งเปนพยานให้เห็นในความดีของพวกฝรั่งเศส แต่ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าก็หาได้เกี่ยวข้องอย่างใดด้วยไม่ คือว่ามองซิเออร์เดอรูอังกับมองซิเออร์ชาลได้ถูกฆ่าตายในเวลาที่ออกไป


๔๓ รบกับพวกแขกมากาซา ซึ่งก่อการจลาจลคิดประทุษฐร้ายต่อพระเจ้ากรุงสยาม และในคราวที่รบกันครั้งนี้ชาวฝรั่งเศสนอกจากคน ๒ คนนี้ยังได้ตายไปอีกคน ๑ คือคนเป่าแตรซึ่งท่านราชทูตได้มอบไว้ให้กับมอง ซิเออร์มีลังได้ตายเหมือนกัน แต่ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าไม่จำเปนจะต้องเล่าให้ยืดยาว เพราะเปนเรื่องที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เปนธุระเล่าให้ท่านฟังถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดรบกันในคราวนี้อย่างละเอียดอยู่แล้ว ในการที่เกี่ยวด้วยเรื่องการค้าขายซึ่งทำกันในเมืองไทยนั้น ในเดือนมีนาคม คงมีเรือเข้ามาประมาณ ๑๐ ลำหรือ ๑๒ ลำ เรือเหล่านี้มาจากเมืองจีนบ้างเมืองยี่ปุ่นบ้าง แต่เปนเรือของพระเจ้ากรุงสยามเกือบทุกลำ จะมีเรือที่เปนของพวกปอตุเกตชาวเมืองมาเก๊าสัก ๒ หรือ ๓ ลำเท่านั้น เมื่อปีนี้มีเรือพิเศษเข้ามาลำ ๑ เปนเรือของชาวอังกฤษ คือเรือลำนี้ได้ออกจากเมืองไทยเมื่อปีกลายนี้ ได้ไปเมืองจีนแล้วย้อนกลับมาเมืองไทยอีก นอกจากนี้ยังมีเรือเล็ก ๆ มาจากเมืองกวางตุ้งอีก ๒ ลำ เมืองกวางตุ้งนี้เปนท่าเรืออยู่ชายทะเลเมืองจีน เรือต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแต่บรรทุกเครื่องลายครามสำหรับจำหน่ายแก่คนในเมืองไทย นอกจากนี้พวกปอตุเกตได้บรรทุกไหมดิบบ้าง ผ้าแพรขาวบ้างแพรสีต่าง ๆ บ้าง แพรสีต่าง ๆ นั้นบางพับก็มีดอกไม้ทอง แต่ดอกไม้ทองนั้นก็ทำด้วยกระดาษปิดทองทั้งนั้น นอกจากไหมและผ้าแพรนั้นพวกปอตุเกตยังบรรทุกกะทะเหล็กสำหรับทำกับข้าวบ้าง ไม้เมืองจีนบ้าง โกฐน้ำเต้าบ้าง น้ำตาลบ้าง ทองคำบ้าง ในสินค้าต่าง ๆ ที่บรรทุกเข้ามาในเมืองไทยนั้น


๔๔ คงจะได้กำไรราว ๒๕ ถึง ๓๐ เปอเซนต์ทุกอย่าง และสินค้าที่ดีที่สมควรจะเอาไปจำหน่ายในประเทศฝรั่งเศสได้ ก็คงจะได้กำไรอย่างน้อย ๑๕๐ เปอเซนต์ ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงเรื่องไหมมาครั้ง ๑ แล้ว แต่ส่วนผ้าแพรนั้นค่าแรงคนทำงานในเมืองจีนคงจะเปนราคาถูกมาก เพราะผ้าแพรที่ทออย่างดีและมีน้ำหนักพับ ๑ ถึง ๑๘ หรือ ๒๐ ออนซ์ ก็เปนราคาเพียง ๖ หรือ ๗ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) เท่านั้น ผ้าแพรเหล่านี้พับ ๑ คงเปนเนื้อผ้ายาว ๗ หลาเท่านั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์กับข้าพเจ้าได้ซอผ้าแพรไว้ โดยลงทุนซื้อเพียงราคา ๑๐ ปอนด์ ๑๕ อัฐ (ฝรั่งเศส) ผ้าแพรนี้ ข้าพเจ้าได้บอกมองซิเออร์คอนซตันซ์ไว้ว่าข้าพเจ้าจะต้องการส่งไปประเทศฝรั่งเศสเพื่อให้ท่านดูเปนตัวอย่าง แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์หาฟังไม่ กลับเอาไปขายเสียโดยมิได้บอกให้ข้าพเจ้าทราบเลย ของอื่น ๆ ที่ได้ซื้อด้วยกันเช่นไม้เมืองจีน โกฐน้ำเต้า น้ำตาลนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็เอาไปขายเสียโดยไม่ได้บอกให้ข้าพเจ้าทราบเหมือนกัน แต่สำหรับของเหล่านี้ข้าพเจ้าไม่ได้ว่ากระไรเพราะเปนของที่เสียได้ง่าย สินค้าต่าง ๆ ดังข้าพเจ้าได้พรรณามานี้เปนสินค้าที่ซื้อขายกันในเมืองนี้ และข้าพเจ้าก็ได้เลือกซื้อแต่ฉะเพาะของที่ดีทั้งนั้น แต่ถึงกระนั้นก็ได้สิ้นเงินไปเพียง ๑๐๘,๐๐๐ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) เท่านั้น แต่ในเรื่องการค้าขายนี้มอง ซิเออร์คอนซตันซ์ได้บอกไว้กับท่านราชทูตว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ยังรอสินค้าที่จะเข้ามาจากเมืองเหล่านี้เปนราคาถึง๓,๐๐๐,๐๐๐การที่มีสินค้าเพียงเท่านี้คงไม่ใช่เพราะพวกจีนไม่รู้จักค้าขาย และข้าพเจ้าเชื่อว่า

๔๕ พอที่จะหาสินค้าได้ทุกอย่าง เพราะพวกจีนไม่ใช่บุคคลที่กลัวแก่ความเหน็ดเหนื่อย ทั้งเปนคนที่โกงอย่างที่สุด และข้าพเจ้าเชื่อว่าถ้ามีโอกาสแล้ว พวกจีนก็คงยอมวิ่งไปจนสุดโลกสำหรับที่จะไปโกงเอาเพียง ๕ อัฐเท่านั้น การที่พวกจีนโกงเช่นนี้ก็ไม่ได้ปิดบังอย่างไรหามิได้ และถ้าจับได้พวกจีนก็หัวเราะเสียเท่านั้นเอง ข้าพเจ้าลืมบอกให้ท่านทราบว่า การค้าขายในเมืองจีนเปิดให้คนทั้งหลายค้าขายได้ทั่วไป และถ้าใครยอมเสีย ๑๐ เปอเซนต์แล้วก็ทำ การค้าขายได้ทุกคน ส่วนสินค้าเมืองยี่ปุ่นนั้นไม่มีตกเข้ามาเลยนอกจากมาในเรือของพระเจ้ากรุงสยามเท่านั้น ในเมืองยี่ปุ่นก็ไม่มีสินค้าอะไรนอกจากเครื่องลายครามเนื้อหยาบ เครื่องเงินเครื่องทองและทองแดงเท่านั้น สินค้าเหล่านี้มีกำไรน้อยไม่เหมือนสินค้าเมืองจีน แต่เหตุที่มีคนนิยมหยากไปค้าขายที่เมืองยี่ปุ่นนักนั้น ก็เพราะเหตุว่าสินค้าทุก ๆ อย่างที่เอาไปขายในเมืองยี่ปุ่นมีกำไรมาก แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้เกิดห้ามไม่ให้ค้าผ้าด้ายและผ้าไหมต่าง ๆ ซึ่งทำให้การค้าขายในเมืองยี่ปุ่นเสียหายเปนอันมาก และเมื่อพ่อค้าในเมืองไทยซื้อสินค้าของเราแล้ว ก็นำสินค้านั้น ๆ ไปจำหน่ายที่เมืองยี่ปุ่นทั้งสิ้น พวกยี่ปุ่นไม่ยอมให้คนที่ถือสาสนา คริศเตียนเข้าไปในเมืองยี่ปุ่นเลยเปนอันขาด จนที่สุดถ้าพ่อค้าคนใดเปนคริศเตียนแล้ว พวกยี่ปุ่นก็ไม่ยอมทำธุระด้วย ชาวต่างประเทศที่เข้าไปค้าขายในเมืองยี่ปุ่นนั้นก็มีแต่พวกฮอลันดาชาติเดียวเท่านั้น แต่เขาพูดกันว่าพวกฮอลันดาต้องละสาสนาของตัว และต้องเหยียบย่ำไม้กางเขนเสียก่อนจึงจะเข้าไปค้าขายได้ แต่ทำอย่างไรข้าพเจ้าก็ไม่เชื่อว่าพวกฮอลันดาจะเปนชาติสุนัขทำได้ถึงเพียงนั้น ๔๖ ในเมืองตังเกี๋ยนั้นราคาไหมยังกลับถูกกว่าในเมืองจีนอีก แต่เนื้อไหมไม่สู้ดีเท่ากับไหมเมืองจีน ในเมืองตังเกี๋ยยังมีผ้าแพรต่าง ๆ ราคาแพงมาก และมีชมดเชียงกับทองคำด้วย เขาพูดกันว่าการค้าขายในเมืองตังเกี๋ยกลับได้กำไรมากกว่าไปค้าขายในเมืองจีนเสียอีก และข้าพเจ้าได้ส่งสินค้าไปยังเมืองตังเกี๋ยเปนราคา ๙,๐๐๐ หรือ ๑๐,๐๐๐ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) แล้ว แต่ในข้อนี้ต่อปีหน้าข้าพเจ้าจึงจะได้รายงานให้ท่านทราบโดยละเอียดได้ ที่เมืองมานีลานั้นก็พอจะทำการค้าขายได้ดี แต่คนทั้งหลายจะข้าไปค้าขายในเมืองมานีลาไม่ได้ เว้นแต่พวกปอตุเกตแลพวกแขกมัวจึงจะเข้าไปได้ เขาพูดกันว่าพระเจ้ากรุงสะเปญไม่ได้เปนธุระกับพวกที่อยู่ในเมืองมานีลานี้เลย เพราะเหตุที่พวกนี้ไม่ได้ถือสาสนาโรมันคาธอลิก ข้าพเจ้าได้ตรึกตรองถึงการค้าขายในเมืองติมอร์ ซึ่งจะทำให้เรามีกำไรเปนอันมาก คือว่าในเวลานี้ผู้รักษาเกาะติมอร์แทนพวกปอตุเกตนั้นได้เกิดขบถต่อปอตุเกต จนถึงกับไม่ยอมทำการค้าขายกับพวกปอตุเกตแต่กลับมีความรักใคร่ชอบพวกฝรั่งเศส เพราะฉนั้นถ้าได้ทำสัญญากับผู้รักษาเกาะติมอร์แล้วก็คงจะได้ง่าย สัญญานั้นก็คือข้างฝ่ายเราจะยอมส่งของเครื่องพาชนะที่เขาจะต้องการทุก ๆ ปี กล่าวคือ ผ้าดิบซึ่งมาจากฝั่งคอรอมันเดลบ้าง ดินปืนบ้าง กระสุนปืนบ้าง แต่ดินปืนกับกระสุนปืนนั้นจะต้องส่งเปนจำนวนน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เปนของต้องห้ามไปได้ นอกจากนี้ผู้รักษาเกาะติมอร์คงจะต้องการของเครื่องดื่มบ้าง หมวกบ้าง

๔๗ และผ้าสำหรับตัดเสื้อบ้าง ข้างฝ่ายผู้รักษาเกาะติมอร์จะได้สัญญายกทองคำและไม้จ้นทน์ให้แก่เรา ถ้าเรื่องนี้ได้จัดการสำเร็จไปได้ ก็คงจะทำให้บริษัทได้กำไรกว่าปีละ ๑๐๐,๐๐๐ แฟรงทุก ๆ ปี และเปนเรื่องที่ไม่ยากเท่าไรนักด้วย เพราะถ้าจะส่งเรือเล็ก ๆ ไป ๒ หรือ ๓ ลำ ทุก ๆ ปีก็พอแล้ว และเรือนี้ก็คงจะค้าขายเพิ่มต้นทุนขึ้นอีกเท่าตัวเปนแน่แต่เปนข้อน่าปลาดว่าเหตุใดในเมืองไทยจึงได้นิยมไม้จันทน์กันนัก ถ้าเรามีแต่ไม้จันทน์ฉะเพาะแต่เราฝ่ายเดียวแล้ว เราก็เอาไปขายเมืองจีนได้ง่าย ไม้จันทน์ก็มีในเมืองไทยเหมือนกันแต่เปนไม้ไม่สู้จะดี สู้ไม้จันทน์ทางเกาะติมอร์ไม่ได้ การค้าขายทางเกาะบอนิโอก็ดีเหมือนกัน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เองมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บอกแก่ข้าพเจ้าว่า การค้าขายทางเกาะบอนีโอไม่ดีใช้ไม่ได้ แต่ที่มองซิเออร์คอนซตันซ์พูดเช่นนี้ บางทีจะเปนด้วยเหตุที่มองซิเออร์คอนซตันซ์รักข้าพเจ้ามากนัก จนถึงกับไม่หยากให้ข้าพเจ้าไปห่างก็เปนได้ อีกนัยหนึ่งก็คือมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ต้องการให้ข้าพเจ้าไปเมืองนครศรีธรรมราชและเมืองสงขลา เพราะเกรงว่าข้าพเจ้าจะไปทำการค้าขายติดต่อกันขึ้นได้ สินค้าที่ส่งเข้าไปเกาะบอนีโอนั้น มีแต่ผ้าดิบซึ่งมาจากฝั่งคอรอมันเดล เครื่องลายครามเนื้อหยาบและกะทะเหล็กสำหรับทำครัว และของที่จะได้จากเกาะบอนิโอนั้นก็มีทองคำและเพ็ชร์ แต่เพ็ชร์นี้เปนเพ็ชร์ที่ดีที่สุด ทางฝ่ายทิศตวันออกจะหาเพ็ชร์ที่ดีเท่ากับเพ็ชร์เกาะบอนิโอไม่ได้ ถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์จะพูดว่าการค้าขายกับบอนีโอเปนการที่ไม่ดีหากำไรไม่ได้ก็จริง แต่ข้าพเจ้าทราบ

๔๘ แน่ว่า ในปีนี้เองมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ค้าขายกับเกาะบอนีโอและได้มีกำไรถึง ๒๐๐ เปอเซนต์ และฝ่ายพระเจ้ากรุงสยามก็ได้ไปตั้งห้างที่เกาะบอนีโอนั้นแล้ว ทำเลที่ดีที่สุดในเกาะบอนีโอนี้เปนเมืองที่เรียกกันว่าบันดามาซิน ซึ่งอยู่ข้างฝั่งทิศใต้ของเกาะ เมื่อเราได้แวะไปที่เกาะบอนิโอนั้น พวกชาวเกาะได้รับรองเราเปนอย่างดี เพราะพวกนี้กลัวและเกลียดพวกฮอลันดานัก ในเมืองต่าง ๆ อันอยู่ใกล้เคียงกับเมืองไทยนั้น ยังมีเมืองอีกหลายเมืองที่พอจะทำการค้าขายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ซึ่งจะทำให้ได้กำไรเปนอันมาก ทั้งจะหาทองคำก็ได้ด้วยเปนอันมาก เมืองเหล่านี้คือเมืองญวน เมืองเขมร เมืองลาวและเมืองมอญ ในเมืองเหล่านี้ล้วนแต่เปนแห่งที่มีทองคำทั้งนั้น และทองคำในเมืองเหล่านี้ก็ซื้อขายกันเปนราคาเพียง ๘ หนักเงินเท่านั้น ถ้าจะคิดตามน้ำหนักที่ใช้กันในเมืองฝรั่งเศสก็เพียง ๓๒ ออนซ์ และถ้าจะคิดเปนราคาเงินก็ตกอยู่ในราว ๕๔ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) เท่านั้น นอกจากนี้ยังจะได้กำไรจากสินค้าต่าง ๆ ที่ส่งเข้าไปจำหน่ายในเมืองเหล่านี้อีกเปนอันมาก ตามที่ข้าพเจ้าได้บรรยายมานี้ เปนสินค้าที่พอจะทำการค้าขายในแถบเหล่านี้ได้เพียงเท่านี้เอง ในส่วนสินค้าที่จะบรรทุกมาจากประเทศฝรั่งเศสนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่จำเปนจะต้อวมีอะไรกี่มากน้อย ผ้าต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้าเอามาด้วยนั้นเปนผ้าเนื้อดีเกินไปไม่เหมาะแก่เมืองเหล่านี้ ถ้าจะเอาผ้ามาจำหน่ายในเมืองเหล่านี้แล้ว จะต้องเปนผ้าเนื้อหยาบสีต่าง ๆ ทุกสี และต้องมีผ้าเซีช

๔๙ สีต่าง ๆ เหมือนกัน นอกจากนั้นจะต้องเปนผ้ากระจุกกระจิกเช่นผ้าริบินและผ้าต่าง ๆ เว้นแต่ผ้าแพร ต้องมีหมวกต่าง ๆ ถุงเท้าแพรอย่างที่เนื้อละเอียด เครื่องอาหารของรับประทานต่าง ๆ และของที่สำคัญ ที่สุดที่จะจำหน่ายได้ดีก็คือเครองดื่มต่าง ๆ เมื่อปีนี้เองได้มีเรือของ พระเจ้ากรุงอังกฤเข้ามาในเมืองไทยลำ ๑ ไม่ได้บรรทุกของอย่างอื่นนอกจากเครื่องรับประทานและเครื่องดื่มเท่านั้น และของที่เรือลำนี้ได้บรรทุกมา ข้าพเจ้าเชื่อว่าคงจะจำหน่ายโดยมรกำไรไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ หรือ ๔๐๐ เปอเซนต์เปนแน่ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บ่นอยู่ทุก ๆ วัน ว่าเขาได้เอื้อเฟื้อต่อเราทุกอย่างแต่เราก็หาได้รู้จักบุญคุณเข้าไม่ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ เอาจดหมายมาให้ข้าพเจ้าดูฉบับ ๑ บอกว่าเปนลายพระราชหัตถ์ของพระเจ้ากรุงอังกฤษมีมาถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์ และเล่าว่าในพระราชหัตถ์พระเจ้ากรุงอังกฤษฉบับนี้ทรงถือว่าเปนเพื่อนของมองซิเออร์คอนซตันซ์ แต่จดหมายฉบับนี้เขียนเปนภาษาอังกฤษ เพราะฉนั้นจึงไม่ทราบว่าจะมีข้อความอย่างใด นอกจากที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เล่าให้ฟังเท่านั้น ข้าพเจ้าจะได้เล่าให้ท่านฟังว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พูดกับข้าพเจ้าว่าอย่างไรบ้าง คือมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บ่นว่า ท่านไม่ได้มีจดหมายมาถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์บ้างเลย แต่ฝ่ายบริษัทอังกฤษได้หาโอกาสที่ จะมีจดหมายมาถึงเสมอ ๆ ข้าพเจ้าจึงได้ตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า กิจการที่เกี่ยวด้วยเมืองไทยนั้นเปนหน้าที่ของมองซิเออร์มาแตงเปนผู้ ๗

๕๐ อำนวยการ ส่วนตัวท่านนั้นมิได้มาเกี่ยวข้องในการเหล่านี้ด้วยเลย แตต่อไปสังเกตดูตามเหตุผลก็เชื่อว่าบริษัทฝรั่งเศสคงจะมาตั้งห้างใหญ่โต ยิ่งกว่าเดี๋ยวนี้มาก และมเอบริษัทฝรั่งเศสได้มาตั้งห้างและการค้าขายใหญ่โตแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะไม่มีข้อที่จะขัดใจหรือติเตียนบริษัทได้ และมองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะรู้สึกได้ว่า พวกฝรั่งเศสทำการงานมีอัธยาศัยดีเท่ากับชาวประเทศอื่น ๆ เหมือนกัน แต่การที่ข้าพเจ้าได้อธิบายเช่นนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ยังหาพอใจไม่ ยังไปพูดกับท่านสังฆราชพูดกับพวกบาดหลวงคณะเยซวิตและพูดกับมองซิเออร์เดอฟอแบงเช่นเดียวกับที่ได้พูดบ่นกับข้าพเจ้ามาแล้ว และยังพูดต่อไปอีกว่าเปนการหน้าอายมากที่บริษัทได้ส่งคนมายังเมืองไทย แต่หาได้ส่งของมาถวายพระเจ้ากรุงสยามและฝากมาให้พระยาพระคลังด้วยไม่การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์พูดบ่นไปเช่นนี้ก็ไม่มีประสงค์อย่างอื่นนอกจากหยากจะได้ชามอ่างแก้ว ๑ ใบกับหีบแก้ว ๑ ใบซึ่งปิดลายทองเท่านั้น ของ ๒ สิ่งนี้เปนของที่น้องชายช้าพเจ้าได้ให้ข้าพเจ้าเมื่อเวลาข้าพเจ้าจะออกจากประเทศฝรั่งเศส ลงท้ายที่สุดได้มีคนมาแนะนำข้าพเจ้าโดยมากกว่าของ ๒ สิ่งนี้ควรจะถวายพระเจ้ากรุงสยามเสียสิ่ง ๑ อีกสิ่ง ๑ นั้นก็ควรจะให้พระยาพระคลังเสีย ข้าพเจ้าก็เลยต้องเอาของนี้ถวายพระเจ้ากรุงสยามและให้พระยาพระคลังตามที่เขาแนะนำ เพราะฉนั้นเมื่อท่านจะให้อะไรแก่ข้าพเจ้าก็แล้วแต่ท่านจะเห็นควรเถิด ข้าพเจ้าได้มีจดหมายไปถึงมองซิเออร์เลอเบรีงฉบับ ๑ เพื่อขอให้เขาไปถามน้องข้าพเจ้าถึงเรื่องของ ๒ สิ่งนี้แล้ว และเมื่อมองซิเออร์เลอเบรีงได้ความอย่างไรก็จะได้ไป

๕๑ รายงานให้ท่านทราบต่อไป ความจริงที่ข้าพเจ้าได้เอาของ ๒ สิ่งนี้ถวายพระเจ้ากรุงสยามและให้พระยาพระคลังนั้นก็ไม่ได้ถวายหรือให้โดย เต็มใจเลย เพราะข้าพเจ้าไม่ได้รับคำสั่งจากท่าน แต่เมื่อข้าพเจ้าไปหารือใครคนนั้รก็คงแนะนำให้ข้าพเจ้าถวายของนี้ทุกคน ถ้าต่อไปท่านมีความประสงค์จะทำการค้าขายหรือทำการอย่างใดในเมืองนี้แล้ว ท่านจะต้องเอามองซิเออร์คอนซตันซ์ไว้เปนพวกเดียวกันจึงจะได้ และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ชอบแต่ของที่มีคนเขาให้เท่านั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าเวลานี้เปนเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับจัดการไปตั้งที่เกาะปูโลคอนดอ เพราะในเวลานี้ที่เมืองเขมรเกิดมีเจ้าแผ่นดินขึ้น ๒ องค์และต่างคนต่างกำลังรบกันอยู่ ไม่ช้ามิองค์ใดก็องค์หนึ่งคงจะได้ราชสมบัติเขมรต่อไป และท่านสังฆราชก็ได้รับรองแก่ข้าพเจ้า ว่าเจ้าแผ่นดินผู้ที่จะได้ราชสมบัติเขมร จะยอมยกผลประโยชน์แผ่นดินทั้งหมด ให้แก่ผู้ที่จะยอมให้เงินแก่เจ้าแผ่นดินองค์นั้น ๒๕,๐๐๐ หรือ ๓๐,๐๐๐แฟรง เมืองเขมรนี้เปนเมืองที่มีราคามากกว่าเมืองนี้ (ไทย) กว่า ๑๐๐ เท่า และคงจะทำให้ท่านได้ประโยชน์ได้นับด้วยจำนวนล้าน ๆ เปนแน่ พวกบาดหลวงได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้พวกลาดหลวงต้องเดินตัดป่าผ่าดงในเมืองเขมร เพราะเหตุว่าเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ กำลังรบกันอยู่ พวกบาดหลวงจึงได้ไปพบพริกไทอย่างงามที่สุดในโลกนี้จะหาที่ไหนสู้ไม่ได้ อนึ่งขอให้ท่านเข้าใจว่าเปนธรรมเนียมในเมืองนี้ที่จะต้องให้ของกันเสมอ และถ้าจะทำธุระอย่างใดแม้แต่เล็กน้อย ก็ต้องมีของกำนัลให้จึงจะทำการนั้น ๆ ได้ ข้าพเจ้าจึงเห็นว่าเปนการจำเปนที่จะเตรียมเหรียญ

๕๒ ไว้สำหรับที่จะให้กันในเมืองนี้ และเหรียญนั้นจะทำเปนรูปเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเปนเรื่องสำคัญ ๆ ในรัชกาลของพระเจ้าแผ่นดินของเราก็ได้ และให้เปนรูปลายดุลเด่นซึ่งแสดงเรื่องในตัวเองใครเห็นต้องเข้าใจจึงจะดี ถ้าได้มีเหรียญชนิดนี้แล้ว ผู้ที่จะได้รับเหรียญนี้ก็จะพอใจ ทั้งจะเปนการแสดงพระเกียรติยศและอภินิหารของพระเจ้าหลุยผู้เปนใหญ่ให้ปรากฎตลอดจนสุดโลกด้วย และการที่จะทำเหรียญชนิดนี้ก็เกือบจะไม่ต้องลงทุนของบริษัทเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อได้ให้ของกันแล้วอย่างไร ๆ ก็คงจะได้ของอื่น ๆ ตอบแทน แม้ที่สุดจะไม่ได้ของอะไรกลับคืนอย่างน้อยก็คงจะต้องได้รับความเอื้อเฟื้อต่าง ๆ นอกจากเหรียญรูปต่าง ๆ แล้ว จะเปนสมุดรูปภาพแสดงเรื่องของพระราชวงศ์ฝรั่งเศส และแสดงเรื่องต่าง ๆ ของประเทศฝรั่งเศสก็ใช้ได้ทั้งสิ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้าพเจ้าได้ไปหามองซิเออร์คอนซตันซ์ ๆ จึงได้บอกแก่ข้าพเจ้าว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้เองพวกฮอลันดาได้มาขอร้องจะขอรับซื้อไหม ทองแดง ดีบุก ตะกั่ว และสินค้าทั้งปวงทุกอย่างอันมีในพระราชอาณาจักร์และซึ่งจะมาจากต่างประเทศ จะขอรับซื้อแต่ฝ่ายเดียวทั้งหมดตามราคาที่จะได้กำหนดกันไว้ต่อไป และถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ต้องการแล้ว พวกฮอลันดาจะได้ชำระเงินล่วงหน้าให้ ๖ เดือน แต่การที่พวกฮอลันดาได้มาขอร้องเช่นนี้ มองซิเออร์คอนซตันซ์หายอมไม่ เพราะรู้สึกว่าเปนกลอุบายของพวกฮอลันดา และการที่พวกฮอลันดาคิดทำการเช่นนี้ก็เพื่อจะกีดกันชาวต่างประเทศอื่น ๆ จะได้เข้ามาค้าขายไม่ได้เท่านั้น ข้าพเจ้าลืมบอกไปว่า พวกฮอลันดาก็ขอรับซื้อพริกไทไว้เหมือนกัน และ

๕๓ ถ้าเรื่องนี้เปนการสำเร็จแล้ว พวกฮอลันดาก็จะให้เงินแก่มองซิเออร์คอนซตันซ์เปนเงิน ๑๐๐,๐๐๐ แฟรง มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงบอกแก่ข้าพเจ้าว่า พวกฮอลันดาก็คงจะรับซื้อสินค้าอย่างว่านี้สัก ๒ ปี ๓ ปี และเมื่อชนชาวต่างประเทศอื่น ๆ ได้ออกจากเมืองไทยหมดแล้ว พวกฮอลันดาก็คงจะมาร้องว่าการที่ค้าขายเช่นนี้ขาดทุนจะทำต่อไปอีกไม่ได้ แล้วพวกฮอลันดาก็คงจะทอดทิ้งเสียเท่านั้น ในคราวที่ได้สนทนากันครั้งนี้มอง ซิเออร์คอนซตันซ์ได้พูดกับข้าพเจ้าว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ดำริห์จะจัดการให้กรุงศรีอยุธยาได้เปนบ้านเมืองเหมือนเช่นเมืองบันดำ แต่การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ดำริห์เช่นนี้ก็ดำเนินวิธีไม่ถูกเลย เพราะเหตุว่าที่เมืองบันดำนั้นราษฎรพลเมืองและพ่อค้าได้ทำการทุกอย่างได้โดยสดวกมาก เมื่อพ่อค้าได้นำเรือเข้าไปในเมืองบันดำ ก็ต้องเสียเพียงค่าปากเรือก็เปนอันหมดเรื่องกัน และเมื่อใคร ๆ จะทำการอย่างไร ก็ทำได้ตามชอบใจทุกอย่าง แต่การที่ข้าพเจ้าได้เล่าเรื่องนี้ให้ท่านฟังนั้น ไม่ประสงค์จะให้ท่านทราบแต่ฉะเพาะเรื่องนี้ดอก แต่ต้องการให้ท่านทราบว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์มิได้ปฏิบัติการตามพระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงสยามนายของเขาเลย เพราะพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงสัญญาแก่เราว่า ถ้าเราจะต้องการมาตั้งอยู่ในพระราชอาณาเขตร์ให้เปนปึกแผ่นมีหลักฐานแล้ว ก็จะได้ทรงขับไล่ชนชาวประเทศอื่น ๆ ให้ออกไปนอกพระราชอาณาเขตร์ให้หมด มองซิเออร์คอนซตันซ์เปนคนมีนิสสัยพูดจาไม่ระวังตัวเลย และบางทีเรื่องที่เสียหายแก่ตัวเองก็เอามาพูดด้วยเหมือนกันก็มี เพราะฉนั้น

๕๔ เมื่อจะพูดอะไรกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ ก็ต้องเลือกพูดฉะเพาะเรื่องที่มีคนทราบทั่วโลกแล้วจึงจะได้ การที่ข้าพเจ้ากล้าออกความเห็นต่าง ๆ เช่นนี้ ข้าพเจ้าขอท่านได้โปรดให้อภัยแก่ข้าพเจ้าด้วย แต่เปนการจำเปนที่ท่านจะต้องทราบว่าในเมืองนี้ท่านไม่มีคนใดที่จะเปนศัตรูอย่างร้ายกาจต่อท่านยิ่งกว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ และท่านควรจะต้องทราบว่าพระเจ้ากรุงสยามนั้นทรงลำเอียงรักใคร่พวกฝรั่งเศสมาก และถ้าไม่มีมองซิเออร์คอนซตันซ์คอยกีดขวางอยู่แล้ว เราจะขออะไรพระเจ้ากรุงสยามก็คงพระราชทานให้ทุกอย่าง แต่ต้องนับว่าเปรการเคราะห์ดี ที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ยังจะต้องการอาศรัยเรามากกว่าทเราจะต้องการอาศรัยมองซิเออร์คอนซตันซ์ และในทุกวันนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็น่ากลัวจะต้องตามทั้งบุตร์และภรรยา และการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องเสียชีวิตตนก็คงต้องเปนวัน ๑ มิช้าก็คงเร็วเพราะฉนั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์จงจำเปนต้องหาที่พึ่งไว้ เมื่อการเปนอยู่ดังนี้จึงเปนเหตุกระทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ต้องฟังเสียงพวกเราบ้าง แต่อย่างไรก็ตามขอให้ท่านระวังให้มาก อย่าไว้ใจมองซิเออร์คอนซตันซ์ให้มากนัก และขออย่าตามใจให้มากนัก ทั้งต้องคอยระวังอย่าให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เปนโสดได้ แต่ให้เขาต้องอาศรัยเราอยู่เสมอจึงจะได้ ถ้าแม้ว่าท่านจะคิดเอาเกาะปูโลคอนดอจริง ๆ แล้ว ข้าพเจ้าเชื่อว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะไม่มีหนทางที่จะกีดขวางป้องกันได้ ข้าพเจ้าลืมบอกท่านไปว่าเมือเร็ว ๆ นี้พวกแขกมลายูได้ไปเที่ยวอยู่ตามเกาะเหล่านี้แต่ภายหลังพวกฮอลันดาได้ขับไล่พวกแขกมลายูออกจากเกาะเหล่านี้

๕๕ หมดแล้ว การที่พวกฮอลันดายอมลงทุนขับไล่พวกแขกมลายูออกจากเกาะเช่นนี้ก็เพราะคงจะเห็นประโยชน์อยู่แล้ว มีคนพูดกันว่าการที่มีลูกจันทน์เทศในเกาะเหล่านี้ ก็คือพวกแขกมลายูนั้นเองเปนผู้นำเอาเข้าไป ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเขียนจดหมายฉบับนี้มายังท่านนั้น มอง ซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้ทำการตามเคยอีกแล้ว คือข้าพเจ้าได้เล่าให้ท่านฟังแล้ว ว่าสินค้าที่เราได้ลงทุนซื้อพร้อมกับมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แบ่งขายไปเสียบ้างแล้ว โดยมิได้บอกให้ข้าพเจ้าทราบเลย ในเวลานั้นข้าพเจ้าไม่ได้เข้าใจเลยว่าเหตุใดมองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ทำเช่นนั้น แต่มาบัดนี้ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์จะคิดโกงเราถึง ๒ ชั้น เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เอาแต่ไหมออกขายซึ่งทำให้เขาได้กำไรเปนอันมากเท่านั้น ส่วนโกฐน้ำเต้าและสารส้มนั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บอกแก่ข้าพเจ้าว่าได้ขายไปเสียแล้ว การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์บอกข้าพเจ้าเช่นนี้ ก็ประสงค์จะกีดกันมิให้ข้าพเจ้าส่งของเหล่านี้ไปยังเมืองซูรัต เพราะโกฐน้ำเต้า กับสารส้มเปนสินค้าที่จำหน่ายได้ดีมาก มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงคิดจะกักสินค้า ๒ อย่างนี้กับสินค้าอื่น ๆ ส่งไปจำหน่ายเปนของส่วนตัวของตัวเอง และการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์คิดเช่นนี้ ก็เพราะเหตุว่าบริษัทที่เมืองซูรัตใจดีนัก คิดค่าระวางแก่มองซิเออร์คอนซตันซ์แต่เล็กน้อยเท่านั้น แต่จะอย่างไรก็ตามถ้าเราได้ส่งโกฐน้ำเต้ากับสารส้มไปเปนน้ำหนักประมาณ ๒๐๐ หาบแล้ว บริษัทก็คงจะได้กำไรอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๓,๐๐๐ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) เมื่อปีกลายนี้ มองซิเออร์คอนซตันซ

๕๖ ก็ได้ทำแก่เราเช่นนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว ในคราวนั้นข้าพเจ้าได้ร้องอย่างแขงแรงต่อท่านราชทูต คือเวลานั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์มีสารส้มซึ่งเขาได้ข่มขืนบรรทุกลงในเรือของเราจงได้ และกลับห้ามมิให้เราเอาไม้ยี่ปุ่นซึ่งเรามีอยู่ที่ห้างประมาณ ๓๐๐ หรือ ๔๐๐ หาบ บรรทุกลงเรือของเราและไม้รายนี้ข้าพเจ้าพึ่งได้ส่งไปในปีนี้เอง นี่แหละนิสสัยมองซิเออร์คอนซตันซ์เปนเช่นนี้ ถ้าเรายิ่งทำใจดีและยิ่งเอื้อเฟื้อต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ ๆ ก็ยิ่งทำเราหนักขึ้นทุกทีดังนี้ ข้าพเจ้าเชื่อใจได้แน่ว่าถ้าเราลองคิดดูให้ละเอียดแล้วก็คงจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้มาอยู่ในเมืองไทย มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กีดกันทำให้เราขาดประโยชน์ไปกว่า ๓๐,๐๐๐ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) กระจกเงาที่ท่านได้ส่งมานั้น จนบัดนี้ก็ยังขายไม่ได้ เพราะเหตุว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่ยอมให้เราเอาออกขาย ทั้งผู้คนในเมืองนี้ก็เปนคนที่ยากจนด้วย และฝ่ายพวกบาดหลวงคณะเยซวิตก็ไม่ยอมให้ข้าพเจ้าส่งกระจกเงาเหล่านี้ไปยังฝั่งคอรอมันเดล เพราะพวกบาดหลวงได้รับรองว่าจะได้รับเอาไปจำหน่ายที่เมืองจีนต่อไป ส่วนกะละ ปังหานั้น ราคาในเมืองนี้ตกต่ำลงเปนอันมาก แต่ก่อนนี้กะละปังหาที่พอจะขายได้เปนราคา ๑๐๐ เหรียญเมืองสเปนนั้น มาบัดนี้จะขายเปนราคาสัก ๒๐ เหรียญก็เกือบจะไม่ได้ แต่กะละปังหานี้ที่เมืองจีนและเมืองยี่ปุ่นนิยมกันมาก แต่ต้องการกะละปังหาที่เปนก้อนใหญ่หนักราวครึ่งออนซ์หรือกะละปังหาอย่างดีที่งามที่สุด ถ้าได้กะละปังกาชนิดนี้แล้ว พวกจีนและยี่ปุ่นก็ให้ราคาถึงก้อนละ ๕๐ แฟรง เพราะเหตุฉนั้นข้าพเจ้า

๕๗ จึงจำเปนต้องส่งกะละปังหาไปยังมองซิเออร์มาแตงผู้อำนวยการ เพราะได้ทราบว่าในแถบเหล่านี้จำหน่ายกะละปังหาได้ดีกว่าทางนี้ ในชั้นเดิมมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้สัญญาว่าจะรับซื้อไว้ แต่มาภายหลังก็ได้กลับคำเสียแล้ว ข้าพเจ้าจะต้องการส่งผ้าต่าง ไ ไปยังเมืองปอนดิเชรีเหมือนกัน แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ห้ามข้าพเจ้าไว้ โดยบอกว่าพวกอังกฤษจวนจะกลับไปอยู่แล้ว และผ้าเหล่านี้คงจะขายได้กำไรมากในไม่ช้านัก ถ้าข้าพเจ้าขายผ้าเหล่านี้ไม่ได้แล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็จะรับซื้อไว้เสียเอง ถ้าแม้ว่าเรื่องผ้านี้ไม่ได้เปนไปอย่างกะละปังหาแล้ว ข้าพเจ้าก็จะมีความยินดีที่จะได้ส่งเงินที่เหลือไปยังท่านโดยเรือลำแรกที่จะได้ออกจากเมืองนี้ และข้าพเจ้าจะได้พยายามคอยป้องกันมิให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำตามที่เขาคิดไว้ได้ มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ส่งเจ้า ๒ องค์ บุตร์ของเจ้าเมืองมากาซาไปยังประเทศฝรั่งเศส แต่เรื่องนี้เปนเรื่องยืดยาวและไม่เปนประโยชน์ข้าพเจ้าจึงไม่รายงานมาให้ท่านทราบ เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มีจดหมายเล่าเรื่องพวกแขกมากาซามายังท่านโดยละเอียดแล้ว แต่เมืองมากาซานี้เปนเมืองที่เต็มไปด้วยความล่อลวง ล้วนแล้วไปด้วยการร้ายกาจต่าง ๆ และข้าพเจ้าทราบอยู่ว่าพระเจ้าแผ่นดินของเรามีน้ำพระทัยดีนัก ข้าพเจ้าจึงเห็นเปนการจำเปนที่จะต้องบอกให้ท่านทราบถึงนิสสัยใจคอของพวกแขกเหล่านี้ เพราะข้าพเจ้าเกรงว่า เมื่อเจ้าแขก ๘

๕๘ ๒ คนนี้เติบโตขึ้นแล้วก็จะทิ้งนิสสัยไม่ได้ และไม่ควรจะยอมให้เจ้าแขกนี้ได้เข้าใกล้ชิดพระองค์พระเจ้าแผ่นดินของเราได้ เพราะพวกแขกในเมืองนี้มีธรรมเนียมอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้เขาฆ่าบุตร์ภรรยาของเขาทั้งหมด เมื่อได้ฆ่าบุตร์ภรรยาแล้วก็วิ่งออกจากบ้าน พบใครก็ฆ่าเสียหมด จนกว่าจะมีใครฆ่าตัวเองตาย ในเวลาที่พวกนี้ทำการเช่นนี้ก็มิได้หนีความตายอย่างใด แต่มีประสงค์อย่างเดียวขอให้ได้ฆ่าคนอื่นไว้และขอให้คนอื่นมาฆ่าตัวเท่านั้นเปนแล้วกัน ในเรื่องนี้บรรดาผู้ที่รู้จักพวกแขกชาตินี้ก็เล่าอย่างนี้เปนเสียงเดียวกันหมด และก็มีตัวอย่างในคราวที่เจ้ามากาซาได้ถูกฆ่านั้นแล้ว ในจดหมายที่ข้าพเจ้าได้เขียนไปถึงท่านมาควิสเดอเซเนเลนั้น ข้าพเจ้าหาได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไม่ เพราะข้าพเจ้าเชื่อว่าถ้าท่านได้แนะนำในเรื่องนี้ คงจะมีน้ำหนักมากกว่าข้าพเจ้าเปนแน่ หัวหน้าพวกฮอลันดาซึ่งได้ออกจากเมืองไทยภายหลังท่านราชทูต (ฝรั่งเศส) สักหน่อย บัดนี้ได้กลับมายังเมืองไทยอีกแล้ว แต่เดิมได้คาดกันไว้ว่า ถ้าหัวหน้าของพวกฮอลันดากลับมาถึงเมืองไทยเมื่อใดก็คงจะมาทำสงครามกับไทยเปนแน่ ครั้นหัวหน้าพวกฮอลันดาได้กลับมาจริงก็หาได้ทำสงครามดังคาดไม่ กลับนำของต่าง ๆ มาถวายพระเจ้ากรุงสยามและให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เปนอันมาก เวลาที่มองซิเออร์คอนซตันซ์พูดกับข้าพเจ้าถึงเรื่องพวกฮอลันดา ก็ติเตียนพวกฮอลันดาอย่างร้ายแรงมาก แต่เมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์พบกับพวกฮอลันดา ข้าพเจ้าสังเกตเห็นดูรักชอบสนิทสนมกันมาก

๕๙ พวกอังกฤษในเวลานี้กำลังรบกันเอง ซึ่งกระทำให้การงานติดขัดไปหมด อันจะแก้ไขให้เรียบร้อยเปนการยากอย่างที่สุด ได้มีคำสั่งมาจากประเทศอังกฤษ ให้คอยจับพวกพ่อค้าเถื่อนซึ่งไม่ใช่คนของบริษัทอังกฤษและในขณะเดียวกันที่คำสั่งอันนี้มาถึง ก็มีเรือมาจากประเทศอังกฤษลำ ๑ ซึ่งมีคนของบริษัทอังกฤษครึ่ง ๑ ไม่ใช่ครึ่ง ๑ และยังมีเรือมาจากเมืองมาคราศอีกลำ ๑ ซึ่งเปนเรือของบริษัทอังกฤษ เรือลำนี้มีหน้าที่จะมาเลิกถอนห้างอังกฤษในเมืองไทย ฝ่ายหัวหน้าห้างอังกฤษก็ไม่ยอมรับรู้ในการที่เรืออังกฤษจะมาจัดการเลิกถอนห้าง เพราะฉนั้นทั้งฝ่ายพวกห้างอังกฤษและฝ่ายเรืออังกฤษจึงต่างหาโอกาสแกล้งซึ่งกัน และกัน พวกอังกฤษที่อยู่ในเมืองไทยนั้น ได้พร้อมกันไปจับนายเรืออังกฤษบนเรือของบริษัทอังกฤษ โดยหาว่านายเรือคนนี้พูดจาเสียดสีพระเจ้ากรุงสยามและเสนาบดีไทย มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บอกกับข้าพเจ้าว่า พวกอังกฤษมีเรืออยู่ที่เมืองมาคราศถึง ๕ หรือ ๖ ลำ สำหรับจะไปทำสงครามกับพวกแขกมัว เพราะพวกอังกฤษได้เห็นเสียแล้ว ว่าจะไปค้าขายที่เมืองซูรัตอีกต่อไปไม่ได้ โดยเหตุที่พวกอังกฤษหมดทุนและไม่มีใครเชื่อหน้า แล้ว พวกอังกฤษเปนหนี้อยู่ถึง ๑๒ หรือ ๑๓ ล้าน และพวกซูรัตก็ไม่ยอมให้พวกอังกฤษออกจากเมืองจนกว่าจะได้ใช้หนี้รายนี้ให้หมด เพราะฉนั้นพวกอังกฤษจึงเตรียมจะแย่งเรือซึ่งอยู่ในท่าเรือเมืองซูรัตทั้งหมดและคิดจะแย่งเรือที่จะไปประเทศอเมริกาด้วย


๖๐ ในวันนั้นเองมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังต่อไปว่า พวกฮอลันดาได้ไปยึดเมืองมาซูลีปาตำไว้แล้ว และได้ให้เวลาสำหรับพวกอังกฤษจะได้ออกจากเมืองเพียง ๑๕ วันเท่านั้น ครั้นหัวหน้าพวกฮอลันดาได้มาหามองซิเออร์คอนซตันซ์ หัวหน้าฮอลันดาก็ปฏิเสธว่าข่าวนี้เปนข่าวไม่จริง เมื่อได้โต้เถียงกันอยู่ช้านานและมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เอาหนังสือให้ดูหลายฉบับ ซึ่งเปนหนังสือเล่ามาในเรื่องนี้หัวหน้าฮอลันดาจึงได้รับว่าเปนเรื่องจริง ได้มีคนเล่าให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ฟังว่า พวกฮอลันดาได้ลงมือปลูกสร้างป้อมและบ้านเรือนอย่างงดงามที่เมืองมาซูลีปาตำนั้นแล้ว ขอท่านได้โปรดส่งสินค้าใหม่ ๆ ที่มีราคาในประเทศฝรั่งเศส เพื่อจะได้เอาสินค้าเหล่านี้ไว้แลกเปลี่ยนกับสินค้าที่เราจะได้รับซื้อไว้ต่อไป และข้าพเจ้าหยากจะได้คำสั่งจากท่านด้วย ว่าถ้าไทยทำความอยุติธรรมแก่เรา ข้าพเจ้าจะควรดำเนินการอย่างไร เพื่อจะได้เปนหนทางสำหรับทำการต่าง ๆ ให้เปนหลักถาน ในเวลาที่พระเจ้ากรุงสยามจะได้พระราชทานสิทธิ์ต่าง ๆ ให้แก่บริษัทต่อไป ถ้าได้คำสั่งเช่นนี้มาแล้วก็จะเปนประโยชน์เปนอันมาก เพราะเหตุว่าผู้ที่ตั้งใจจะทำการให้บริษัทจริง ๆ ถ้าไม่มีหนทางจะดำเนินในเวลาที่เกิดเรื่องขึ้นแล้วก็มักจะชักให้ท้อใจ แลในห้างนั้นก็ไม่มีคำสั่งหรือหลักถานอย่างใด ว่าเราควรจะปฏิบัติการอย่างไรเช่นนี้ อนึ่งขอท่านได้โปรดส่งของต่าง ๆ มายังข้าพเจ้าด้วย คือ หมวกต่าง ๆ ผ้าแพรถ้ายิ่งได้อย่างเนื้อละเอียดก็ยิ่งดี สุราบรรจุขวดและของ

๖๑ ต่าง ๆ อย่างอื่นซึ่งเปนขอกระจุกกระจิกที่จำเปนจะต้องใช้ เพราะของเหล่านี้จะทำให้บริษัทได้กำไร ทั้งเปนประโยชน์แก่เจ้าพนักงานของบริษัทด้วย เพราะในเวลานี้ของต่าง ๆ เหล่านี้เราจำเปนต้องซื้อจากพวกอังกฤษละฮอลันดาทุกอย่าง และพวกอังกฤษกับฮอลันดาก็เอาของเหล่านี้มาขายให้แก่เราโดยคิดราคาแพงกว่า ๒๐ เท่า แต่ของที่สำคัญที่เราจำเปนจะต้องใช้นั้นก็คือ กระดาษ ปากกา มีดพับ และเครื่องทำหมึก เพราะที่เมืองนี้ถ้าซื้อกระดาษเขียนหนังสือ ๒ โหลเปนราคา ๑ แฟรงได้ต้องนับว่าเคราะห์ดีอย่างที่สุด ของอื่น ๆ ก็เปนเช่นเดียวกันกับกระดาษ และของเหล่านี้เปนสิ่งที่เราจำเปนต้องใช้จะลดเว้นไม่ได้เลย ถ้าแม้ว่าผ้าต่าง ๆ และกะละปังหาที่ข้าพเจ้าได้เอามาด้วยได้เปลี่ยนเปนของเครื่องใช้ดังว่ามานั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็คงจะจำหน่ายของเหล่านี้โดยให้บริษัทได้กำไรเปนอันมาก และเรืออังกฤษซึ่งได้รับสินค้าของบริษัทอังกฤษมาจำหน่ายในเมืองนี้นั้น ได้ขายสุราต่าง ๆ เปนเงินกว่า ๑๐,๐๐๐แฟรง และสุรานี้ก็ได้ลงทุนซื้อไม่ถึง ๒,๐๐๐ แฟรงเสียซ้ำ ข้าพเจ้าลืมรายงานให้ท่านทราบ ว่าข้าพเจ้าได้ส่งแผนที่ไปให้ท่านมาควิสเดอเซเนเลแผ่น ๑ ซึ่งเปนแผนที่ฝั่งชายทะเลเมืองเขมร และได้จดเกาะปูโลคอนดอไว้อย่างชัดเจน ถ้าข้าพเจ้าได้มีเวลาก็จะได้ทำแผนที่ให้ใหญ่และละเอียดกว่านี้ ละจะได้ส่งไปให้ท่านฉบับ ๑ ด้วย แต่ข้าพเจ้าไม่ได้มีเวลาเลยเพราะต้องทำธุระหลายพันอย่างอันซับซ้อนกันมาก จนที่สุดจดหมายฉบับนี้ก็ต้องเขียนต่อในเวลาที่ล่องลงไปบางกอก การที่ข้าพเจ้าต้องลงไปที่บางกอกนั้นก็เพื่อจะได้จัดการให้เรือเซนต์หลุย

๖๒ ได้ออกไปได้ และเรือลำนี้จะได้ออกเร็วกว่าเมื่อปีกลายนี้ถึง ๓ เดือน เพราะเมื่อปีกลายนี้นายเรือได้บอกกับข้าพเจ้าว่า วิตกว่าจะเสียเที่ยวเปล่าเพราะเหตุที่ต้องออกเรือล่าช้าไป การที่ข้าพเจ้าได้ให้เรือลำนี้กลับในคราวนี้ก็ไม่ได้เปนไปตามที่ข้าพเจ้าได้หวังไว้ เพราะที่เมืองนี้จะทำอะไรตามชอบใจนักไม่ได้ ส่วนสินค้าที่ได้ส่งมาจากเมืองปอนดีเชรีนั้น ข้าพเจ้ายังจำหน่ายไม่ได้เลยแม้แต่ราคาอัฐเดียว ครั้นข้าพเจ้าได้ไปร้องต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ ๆ ก็รับรองว่าจะได้จัดการให้ข้าพเจ้าเปนที่พอใจทุกอย่าง ข้าพเจ้าจะได้พยายามจำหน่ายสินค้าเหล่านี้ให้มีกำไรมากที่สุดที่จะได้ และข้าพเจ้าจะได้เลือกหาซื้อสินค้าที่จะจำหน่ายในประเทศฝรั่งเศสได้ เมื่อมีเรือออกเมื่อไรข้าพเจ้าจะได้ส่งสินค้าเหล่านี้ไปยังท่านต่อไป ข้าพเจ้าไม่ทราบว่ามองซิเออร์ซายโยจะได้ส่งแผนที่เมืองจีนกับ แผนที่เมืองบาตาเวียให้ท่านแล้วหรือยัง เพราะแผนที่ทั้ง ๒ ฉบับนี้ข้าพเจ้าได้มอบให้มองซิเออร์ซายโยนำไปให้ท่าน ถ้าหากว่าท่านจะยังไม่ได้รับแผนที่ ๒ ฉบับนี้จากมองซิเออ์ซายโย ก็ขอท่านได้โปรดเรียกเอาด้วยเพราะแผนที่ทั้ง ๒ ฉบับนี้ไม่ควรจะให้หายได้ พวกบาดหลวงคณะเยซวิตได้พบแผนที่บ้านเมืองเหล่านี้ ซึ่งเปนแผนที่ที่ดีและละเอียดกว่าที่เรามีอยู่แล้วเปนอันมาก และแผนที่เหล่านี้ถึงจะมีเงินก็หาซื้อไม่ได้ ข้าพเจ้าจะได้จัดการคัดลอกแผนที่เหล่านี้ไว้ และปีหน้าจะได้ส่งไปให้ท่านต่อไป ขอท่านได้รับความนับถือจากบ่าวผู้นับถือและนบนอบ ( เซ็น ) เวเรด์


๖๓ เขียนที่กรุงศรีอยุธยา ลงวันที่ ๕ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ ) เดิมข้าพเจ้าได้กะไว้ว่าจดหมายฉบับนี้และห่อของต่าง ๆ นั้น จะได้ส่งไปทางเมืองปอนดิเชรี แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รับรองกับข้าพเจ้าว่าจะได้จัดการส่งหนังสือและห่อของไปทางเมืองตะนาวศรี และจะได้จัดการให้เราได้บรรทุกสินค้าของเราลงเรือ เลอคอช ซึ่งได้มาถึงเมืองตะนาวศรีนั้นแล้ว แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าจะเชื่อถ้อยคำของมองซิเออร์คอนซตันซ์นักไม่ได้ ข้าพเจ้าจึงได้เรียกพวกเจ้าพนักงานมาประชุมปรึกษาจึงเห็นพร้อมกันว่า การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์คิดถ่วงให้ชักช้าดังนี้ ก็เพื่อจะกันมิให้หนังสือของเราไปถึงประเทศฝรั่งเศสได้ เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์เกรงว่าการต่าง ๆ ที่เปนไปในเมืองนี้จะทราบไปถึงประเทศฝรั่งเศส เพราะฉนั้นจึงเปนอันตกลงกันว่าเราไม่ควรจะไว้ใจใคร แต่ควรจะไว้ใจตัวของเราเองดีกว่า จึงได้จัดการให้มองซิเออร์เดอโบมองเดินทางไปทางเมืองปอนดิเชรี เพราะมองซิเออร์เดอโบมองได้รับรองว่าไม่เปนการขัดข้องอย่างไร เมื่อไปถึงเมืองปอนดิเชรีแล้วมองซิเออร์เดอโบมองก็จะเลยไปเมืองซูรัตได้ง่ายเหมือนกัน ข้าพเจ้าลืมบอกให้ท่านทราบว่า ข้าพเจ้าได้ส่งหีบไม้สลักลายโปร่งมายังท่าน ๑ หีบ หีบใบนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ให้แก่ข้าพเจ้า และได้ให้เครื่องลายครามหลายชิ้นกับผ้า ๑๖ พับ แต่ผ้าพวกนั้นเราจะต้องการเอาไว้ใช้ในเมืองนี้ ข้าพเจ้าจึงหาได้ส่งไปให้ท่านไม่ แล้วจึงจะได้คิดราคากันต่อไป

๖๔ บาดหลวงเดอชัวซี จดหมายเหตุถึงการค้าขายในอินเดีย ฝ่ายตวันออก ค.ศ. ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ ) ด้วยข้าพเจ้าได้สนทนากับมองซิเออร์คอนซตันซ์หลายครั้ง ถึงวิธีที่จะจัดการให้บริษัทฝรั่งเศสในอินเดีย ได้ตั้งทำการค้าขายในอินเดียให้เปนหลักถานต่อไป และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็เชื่อใจแน่ว่าถ้าบริษัทฝรั่งเศสได้มาตั้งการค้าขายในอินเดียแล้ว ก็คงจะทำให้การค้าขายของประเทศฮอลันดาได้ฉิบหายลงเปนแน่ เพราะฉนั้นในที่นี้ข้าพเจ้าจะได้เขียนจดหมายบันทึกไว้ถึงข้อความที่ข้าพเจ้าได้ทราบมาจากมองซิเออร์คอนซตันซ์เมื่อวานนี้ ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศและพนักงานผู้น้อยของบริษัทบางคน ก็ได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังอันเปนสิ่งที่ดีในเรื่องนี้เหมือนกัน ในขณะนี้ข้อที่จะประกาศสงครามกับพวกฮอลันดานั้นยังไม่เปนการ จำเปนอย่างใด แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าเปนการสมควรที่จะเตรียมการไว้สำหรับทำให้พวกฮอลันดาได้ฉิบหายในฝ่ายอินเดียให้จงได้ เมื่อถึงเวลาสมควรเมื่อใดจะได้ทำให้พวกฮอลันดาได้ฉิบหายลงทีเดียว และการที่จะทำเช่นนี้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะทรงจัดการได้โดยง่ายที่สุด และเกือบจะไม่ต้องเสียโสหุ้ยอย่างใดด้วย ในชั้นต้นจะต้องทำให้พวกฮอลันดารู้สึกเสียก่อน ว่าตัวไม่ได้มีอำนาจในฝ่ายอินเดียเท่าไรนัก จริงอยู่พวกฮอลันดามีเรืออยู่ในฝ่ายอินเดียเปนอันมาก และมีกองทหารประจำอยู่ในที่ต่าง ๆ กว่า ๕๐ แห่ง


๖๕ แต่การที่พวกฮอลันดามีทหารประจำอยู่ในที่ต่าง ๆ นั้นเอง เปนการที่กระทำให้พวกฮอลันดามีกำลังน้อย เพราะกองทหารเหล่านี้เที่ยวกระจาย อยูในที่ต่าง ๆ อันห่างไกลกัน และถ้าจะยกกองทหารไปตีที่เหล่านี้พวกฮอลัดาก็จะต้องแตกทุก ๆ แห่ง ในทวีปอินเดียทั้งหมดนั้นพวกฮอลันดามีทหารประจำการอยู่เพียง ๑๒,๐๐๐ คนเท่านั้น และมีคนพื้นเมืองซึ่งพอจะเรียกเปนทหารได้ประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ คน แต่ในกองทหารประจำการ ๑๒,๐๐๐ คนนั้น มีทหารที่เปนชาติฮอลันดาจริง ๆ น้อยที่สุดเพราะโดยมากทหารเหล่านี้มักเปนชาติฝรั่งเศสบ้าง ชาวเมืองแฟลนเดอร์ชาติเยอรมันบ้าง และคนเหล่านี้ก็ได้รับความกดขี่จากพวกฮอลันดาจนมีความเบื่อหน่ายอย่างที่สุด ถ้ามีโอกาสขึ้นเมื่อใดคนเหล่านี้ก็เตรียมที่จะหนีจากกองทหารอยู่ทุกเมื่อ ผู้ที่จะคงจงรักภักดีอยู่กับพวกฮอลันดานั้นก็คงเหลือแต่ชั้นนายทหารเท่านั้น เมื่อครั้งมองซิเออร์เดอลาเฮได้มา ยังเมืองอินเดียนั้น พวกฮอลันดาก็สทกสท้านกลัวไปทุกแห่ง และถ้าครั้งมองซิเออร์เดอลาเฮได้รับคำสั่งให้มาทำสงครามแล้ว เมื่อยกทัพไปตีแห่งใดก็คงได้ชัยชนะทันทีทุกแห่ง แต่ถึงดังนั้นพวกฮอลันดาก็ยังได้ส่งพวกฝรั่งเศสที่อยู่ในเมืองบาตาเวียไปอยู่ที่เกาะโมลัศจนหมดสิ้นอิกประการ ๑ ป้อมของพวกฮอลันดาก็ใช้ได้สำหรับต่อสู้กับคนพื้นเมืองเท่านั้น แต่ถ้าจะมาสู้รบกับทหารลูกศิษย์ของมองซิเออร์เดอโวบังแล้ว ป้อมเหล่านั้นก็จะทนทานไม่ได้เปนอันขาด ป้อมอันมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองบาตาเวียนั้นก็เปนป้อมธรรมดาใช้เสาไม้ปัก พอยิงปืนใหญ่นัดใดป้อมนั้นก็ไหวกระเทือนไปหมด ๙ ๖๖ การี่พวกฮอลันดาไปตั้งอยู่ที่เกาะโมลัศนั้นก็ไม่ใช่เปนการ ใหญ่โตอะไร บรรดาเจ้าแผ่นดินฝ่ายอินเดียทุกองค์มีวามกลัวพวกฮอลันดาเปนอันมาก คนทางฝ่ายทิศตวันออกเห็นกันว่าพวกฮอลันดาเปนผู้ที่มาแย่งชิงบ้านเมือง และพวกฮอลันดาก็เอาเจ้าแผ่นดินอินเดียใส่คุกไว้ก็หลายองค์ การที่พวกฮอลันดาได้ทำร้ายแก่เจ้าแผ่นดินเมืองบันดำในคราวหลังที่สุดนี้ เปนเหตุทำให้บรรดาเจ้านายฝ่ายทิศตวันออกคิดขบถต่อพวกฮอลันดาทั้งนั้น ในส่วนทางเมืองตังเกี๋ยนั้นพวกฮอลันก็คาดว่าตัวคงจะต้องถูกไล่ออกจากเมือง และที่อยู่ต่อไปได้ก็ต้องเอาเงินให้เขาจึงมิได้ถูกไล่ ฝ่ายพระเจ้ากรุงสยามนั้นเล่า ก็มิได้พอพระทัยในพวกฮอลันดาเลยและเจ้าแผ่นดินเมืองเขมร เมืองยะโฮ เมืองซำบี เมืองไทร และเมืองปัตตานีซึ่งเปนเมืองขึ้นของไทยนั้นก็รอรับคำสั่งอยู่ เมื่อคำสั่งมาถึงเมื่อไร เมืองเหล่านี้ก็จะได้จัดเรือรบมีศัสตราวุธครบมือส่งไปเมืองไทยเปนอันมาก ฝ่ายพระราชินีเมืองอาเชมนั้นก็ได้แต่งทูตเข้ามาเฝ้าพระเจ้ากรุงสยาม เพื่อกราบทูลชักชวนให้ช่วยกันต่อสู้พวกฮอลันดา และเจ้าแผ่นดินเกาะโมลัศนั้นก็เกือบจะทนความกดขี่บีบคั้นของพวกฮอลันดา ไม่ไหวอยู่แล้ว เพราะเหตุฉนั้นเมื่อเจ้านายทั้งหลายเหล่านี้ซึ่งล้วนแต่มีอำนาจและมีกำลังทุกองค์ได้รับความอุดหนุนจากฝรั่งเศส และฝรั่งเศสเปนหัวหน้าจัดการต่าง ๆ ให้เจ้านายเหล่านี้แล้ว เจ้านายเหล่านี้ก็คงจะคิดทำการต่อสู้อำนาจของพวกฮอลันดาอย่างแข็งแรงได้ทีเดียว


๖๗ อนึ่งถึงแม้ว่าบริษัทฮอลันดาได้ทำการค้าขายมีกำไรมากมายก็จริงอยู่ แต่กำไรนี้ก็ไม่ได้เต็มที่ และจำนวนกำไรที่ขาดไปนั้นก็เปนจำนวนมากอยู่ การที่เปนเช่นนี้ก็เพราะเหตุเจ้าพนักงานรอง ๆ ของบริษัทนั้นเองได้ลักขะโมยและฉ้อโกงบริษัท เขาพูกดันว่าที่ห้างฮอลันดาในกรุงศรีอยุธยาแห่งเดียว พวกเจ้าพนักงานของบรษัทได้โกงบริษัทอยู่เสมอเปนนิตย์ไม่ต่ำกว่า ๓๐ เปอเซนต์ ยังควรจะต้องสังเกตอีกอย่าง ๑ ว่า ที่พวกฮอลันดาทำผลประโยชน์ได้มากที่สุดก็เกาะโมลัศแห่งเดียวเท่านั้น เพราะเกาะเหล่านี้มีดอกกานพลูและลูกจันทน์เทศ ในส่วนเกาะลังกานั้นรายจ่ายมากกว่ารายได้ เพราะเหตุที่ต้องมีกองทหารไว้ณะที่นั้นมากสำหรับคอยรบกับเจ้าแผ่นดินเมืองแคนดี เพราะเจ้าแผ่นดินเมืองแคนดีได้ทำสงครามต่อสู้กับพวกฮวลันดามิได้เว้นเลย และอบเชยซึ่งมีอยู่ในเกาะลังกานั้นก็จกราคาไม่แพงเหมือนแต่ก่อนเสียแล้ว พวกฮอลันดาได้พยายามนักหนาที่จะรวบเอาพริกไทซึ่งมีตามชายทะเลเกาะมาลาบาไว้แต่ฝ่ายเดียว และถ้าคนพื้นเมืองได้เอาพริกไทบรรทุกลงเรือแล้ว พวกฮอลันดาก็จับเรือริบพริกไทไว้โดยไม่เลือกหน้า การที่พวกฮอลันดาได้ไปเมืองบันดำนั้น ก็ต้องนับว่าสมประสงค์ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว และพวกฮอลันดาก็หมดความกลัวเกรงใคร ๆ แล้ว เว้นแต่ยังกลัวอยู่ว่าพวกฝรั่งเศสจะไปตั้งการค้าขายในเมืองไทยและจะเอาพริกไทในเมืองไทยเสียหมดเท่านั้น และพริกไทนี้ก็ได้ลงมือเพาะปลูกในเมืองไทยเสียหมดเท่านั้น ถ้าพวกฮอลันดาได้พริกไทในเมืองไทยไว้อีกแห่ง ๑ ด้วยแล้ว พวกฮอลันดาก็จะโก่งราคาพริกไท

๖๘ ให้แพงเท่าไรก็ได้ตามชอบใจ ดุจเดียวกับที่พวกฮอลันดาได้ทำให้ราคาเครื่องเทศต่าง ๆ แพงขึ้นเช่นนั้น ถ้าพวกฮอลันดาได้ทำเช่นนี้ได้จริงแล้ว ก็จะต้องถือว่าพวกฮอลันดาเปนผู้ที่จะมีอำนาจมากที่สุด เพราะถึงพวกฮอลันดาจะปิดสินค้ากานพลูและอบเชยไก็ไม่เปนการประหลาดอะไร ด้วยกานพลูและอบเชยเปนสิ่งที่ไม่จำเปนเท่าไรนัก แต่พริกไทนั้นเปนสิ่งที่จำเปนที่คนทุกชาติทุกภาษาจำเปนต้องใช้ด้วยกันทั่วหน้า ตั้งแต่พวกฮอลันดาได้ไปยึดเมืองบันดำไว้ก็ได้ข่าวมาว่าพริกไทได้ตกเข้าไปในเมือง ซูรัตและเมืองต่าง ๆ ในอินเดียเปนอันมาก เพราะฉนั้นสินค้าทั้งหลายของพวกฮอลันดาไม่สำคัญเท่ากับสินค้าพริกไท ดังข้าพเจ้าได้อธิบายมาแล้ว ส่วนการค้าขายของพวกฮอลันดาในเมืองยี่ปุ่นนั้น เดี๋ยวนี้ก็ฝืดเคืองค้าขายไม่ดีดังแต่ก่อน เพราะเจ้าพนักงานของพระเจ้ากรุงยี่ปุ่นเปนผู้ตีราคาสินค้าที่พวกฮอลันดานำเข้าไปทุกอย่าง และบังคับให้ขายตามราคานั้น ถ้าไม่ยอมขายพวกฮอลันดาก็ต้องพาสินค้าเหล่านั้นกลับไป และพวกยี่ปุ่นก็ห้ามมิให้พวกฮอลันดาขายสินค้าใหแก่บุคคลด้วย ในเมืองต่าง ๆ ฝ่ายอินเดียทุกแห่งพวกฮอลันดาก็มิได้รับความสดวกยิ่งกว่าพวกฝรั่งเศสหรือพวกอังกฤษอย่างใด และในการที่พวกฮอ ลันดาไปค้าขายในเมืองเปอเซียนั้นก็ต้องขาดทุนเปนอันมาก เมื่อหลายปีล่วงมาแล้วพวกฮอลันดาได้ทำสัญญากับพระเจ้ากรุงเปอเซีย บังคับให้พระเจ้ากรุงเปอเซียส่งไหมให้แก่ฮอลันดาปีละ ๖๐๐ หีบทุก ๆ ปีตามราคาที่กำหนดไว้ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เองที่เมืองเบงกอลก็เกิดทำไหมขึ้น ซึ่ง

๖๙ เปนไหมดีเท่ากับไหมเปอเซียและราคาก็ถูกกว่าด้วย พวกอังกฤษจึงได้นำไหมเมืองเบงกอลส่งปจำหน่ายที่ยุโรปเนอันมาก และขายราคาถูกกว่าพวกฮอลันดาด้วย เมื่อการเปนดังนี้พวกฮอลันดาจึงคิดจะเลิกสัญญาที่ทำไว้กับพระเจ้ากรุงเปอเซีย แต่พระเจ้ากรุงเปอเซียก็หายอมที่จะเลิกสัญญานั้นไม่ พวกฮอลันดาจึงคิดจะเอากำลังไปบังคับพระเจ้ากรุงเปอเซีย เพราะฉนั้นเมื่อ ๑๘ เดือนที่ล่วงมาแล้ว พวกฮอลันดาจึงได้ส่งเรือรบไปที่เมืองออมหรือบันดาบาสี ๖ ลำสำหรับไปขู่พวกเปอเซีย แล้วคิดจะพาเรือรบเหล่านี้กลับไปเมืองซูรัตเพื่อไปบังคับเจ้าเมืองของพระเจ้า โมกูลให้เอาหัวหน้ามาชำระ ด้วยพวกฮอลันดาหาความต่าง ๆ ใส่พวกหัวหน้า และเขาพูดกันว่าพวกฮอลันดาคิดจะเอาเรือรบไปเมืองเบงกอลต่อไป โดยเชื่อใจว่าเมื่อตัวไปถึงไหนใคร ๆ ก็ต้องยอมอ่อนน้อมทั้งสิ้น พอเรือรบฮอลันดาได้ไปถึงเมืองบันดาบาสี พวกฮอลันดาก็จัดเจ้าพนักงานให้ขึ้นไปเฝ้าพระเจ้ากรุงเปอเซียขอร้องความหลายข้อ คือ ๑ ให้เลิกถอนสัญญาเรื่องไหม ๒ ให้พระเจ้ากรุงเปอเซียฆ่าอาตามาลโดเลอรรคมหาเสนาบดีเปอเซียเสีย หรือมิฉนั้นก็ให้พระเจ้ากรุงเปอเซียส่งตัวอรรคมหาเสนาบดีมาให้พวกฮอลันดา ๓ ให้พระเจ้ากรุงเปอเซียยกเว้นไม่เก็บภาษีแก่พวกฮอลันดาที่เมืองบันดาบาสี ๔ พวกฮอลันดาได้ขาดทุนในการค้าไหมเท่าไร ให้พระเจ้ากรุงเปอเซียรับใช้ให้พวกฮอลันดาให้หมด ๕ ให้พระเจ้ากรุงเปอเซียใช้ค่าเสียหายและค่าโสหุ้ยที่ได้จัดเรือรบ ๖ ลำนั้นด้วย ในข้อต่าง ๆ ที่พวกฮอลันดาขอร้องดังนี้ พระเจ้ากรุงเปอเซียได้ตอบโดยให้จับบรรดาพวกฮอลันดาทุกคนซึ่งอยู่ในเมือง

๗๐ เปอเซีย และให้ริบสรรพสิ่งของทั้งปวที่มีอยู่ในห้างฮอลันดารวมสามแห่งด้วย เรือรบฮอลันดาได้จอดอยู่หน้าบ้านเมืองบันดาบาสีอยู่ช้านาน และเพื่อจะไม่ต้องถอยหลังกลับเรือรบเหล่านี้จึงได้ถอยไปจอดอย่ที่เกาะแห่ง ๑ ซึ่งเปนเกาะขึ้นอยู่แก่เมืองเปอเซีย แต่ที่เกาะนี้อากาศร้อนเหลือที่จะทนได้พวกลูกเรือจึงได้ตายไปกว่าครึ่ง ๑ และจนบัดนี้ก็ยังไม่ได้ข่าวว่าพวกฮอลันดาได้เลิกถอนเรือรบกลับไปแล้วหรือยัง ฝ่ายหัวหน้าของห้างฮอลันดาที่เมืองซูรัตเกรงว่าเรืรบเหล่านี้จะไปที่เมืองซูรัต จึงได้ลอบหนีไปอยู่ที่เมืองซัวลิศ ครั้นเห็นว่าเรือรบไม่มาจึงได้ย้อนกลับไปเมืองซูรัตอีกแต่เจ้าเมืองซูรัตก็ได้เก็บภาษีจากหัวหน้าห้างฮอลันดาเสียอย่างแรงด้วย ตามเหตุการณ์ที่ได้บรรยายมานี้ก็พอจะแลเห็นได้ว่า ผลประโยชน์ที่พวกฮอลันดาได้มากที่สุดก็ได้จากเกาะโมลัศเท่านั้นเอง ส่วนลูกจันทน์เทศและดอกกานพลูนั้นพวกฮอลันดาก็ได้ตั้งราคาไว้แล้ว เพราะ ฉนั้นเมื่อของ ๒ อย่างนี้เพียงพอแกความต้องการของพวกฮอลันดาแล้ว เหลืออีกเท่าไรพวกฮอลันดาก็เผาไฟเสียหมด และที่เผาไฟเสียนั้นก็เปนจำนวนมากพอที่จะบรรทุกเรือได้หลายลำ ยังไม่ใช่แต่เท่านี้พวกฮอลันดายังได้ให้เงินแก่พวกเจ้าเมืองเล็ก ปีละ ๓๕,๐๐๐ หรือ ๒๐,๐๐๐ แฟรงทุก ๆ ปี สำหรับให้เจ้าเมืองเหล่านี้คอยเผาต้นจันทน์เทศและต้นกานพลูซึ่งเกิดในเมืองของเขาให้หมดสิ้น ถ้าแม้ว่าเกาะโมลัศได้หลุดพ้นมือพวกฮอลันดา หรือถ้าพวกฝรั่งเศสหรือพวกอังกฤษได้ไปตั้งมั่นตามเกาะเหล่านี้ได้แล้ว ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบริษัทฮอลันดาจะต้องล้ม และบรรดาเมืองขึ้นของฮอลันดา

๗๑ ซึ่งได้รับเงินบำรุงของบริษัทก็จะต้องหมดกำลังลงไปกว่าครึ่ง ๑ เปนแน่ เพราะฉนั้นตามที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้ว การที่จะไล่ให้พวกฮอลันดาออกจากเกาะเหล่านี้ไม่เปนการยากลำบากอย่างไรเลย เพราะป้อมที่พวกฮอลันดามีอยู่เพียง ๔ หรือ ๕ ป้อมเท่านั้น และป้อมเหล่านี้ก็ไม่ได้แขงแรงแน่นหนาอย่างไรเลย ทั้งบรรดาเจ้านายซึ่งอยู่ตามเกาะและบ้านเมืองใกล้เคียง ก็คอยหาแต่ช่องโอกาสที่จะสละให้พ้นความกดขี่ของพวกฮอลันดาอยู่แล้ว และพวกราษฎรพลเมืองเองก็มีความเบื่อหน่ายในการบังคับบัญชาของพวกฮอลันดาอยู่แล้วเหมือนกัน เพราะพวกฮอ ลันดาบังคับให้ราษฎรพลเมืองซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัว และเสบียงอาหารจากบริษัท ราคาของเหล่านี้บริษัทก็คิดเอาตามชอบใจ ทั้งพวกฮอลันดายังบังคับให้ราษฎรพลเมืองปลูกต้นจันทน์เทศและต้นกานพลู แต่เมื่อปลูกมีผลแล้วราษฎรพลเมืองผู้เปนเจ้าของจะเอาไปซื้อขายก็ไม่ได้ ถึงแม้ว่าราษฎรได้ส่งลูกจันทน์เทศและกานพลูให้พอแก่ความต้องการของบริษัทแล้วก็ดี เหลืออยู่อีกเท่าไรจะเอาไปซื้อไปขายก็ไม่ได้เหมือนกัน ตามข้อความที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้วนั้นก็พอจะเห็นได้ว่า การที่จะทำให้การค้าขายของพวกฮอลันดาได้ฉิบหาย หรืออย่างต่ำจะทำเพียงให้การค้าขายของพวกฮอลันดาในฝ่ายอินเดียติดขัดไปต่าง ๆ นั้นไม่เปนการยากอะไรเลย เพราะมาบัดนี้ก็เกิดมีช่องโอกาสอันเหมาะแล้ว ที่พระเจ้ากรุงสยามได้พระราชทานเมืองสงขลาให้แก่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และเมืองสงขลานี้ก็เปนแห่งที่จะตั้งการค้าขายได้ ซึ่งต่อไปจะเปนทำเลค้าขายอย่างใหญ่โตก็ได้ เมืองสงขลานี้ตั้งอยู่ ๙ ดีกรีของแลติจูดเหนือ เปน

๗๒ ทำเลที่เหมาะดีมาก และภูมิพื้นประเทศก็เปนที่กำบังต่อข้าศึกอยู่ในตัวแล้ว ถ้าจะทำท่าเรืออย่างดีที่เมืองนี้ก็ทำได้ง่ายโดยไม่ต้องลงทุนท่าไรนัก เพราะเรือขนาดกลางก็เข้าออกได้อย่างสบาย และเมื่อเข้าไปจอดแล้วก็อยู่ในที่กำบังคลื่นลมทุกฤดู เว้นแต่ฤดูที่ลมพัดมาจากทิศ ตวันออกเฉียงเหนือจะจอดเรือในที่นี้ไม่ได้ แต่ก็ไม่เปนการประหลาดอะไรเพราะเมื่อถึงฤดูที่ลมพัดมาจากทิศนี้แล้วเรือต่าง ๆ จะถอยไปจอดที่เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเปนเมืองห่างไกลออกไปเพียง ๒๐ ไมล็ก็ได้ ทั้งท่าเรือเมืองนครศรีธรรมราชเปนท่าเรือที่ดีพ้นอันตรายทุกอย่างด้วย บรรดาเรือต่าง ๆ ที่ผ่านช่องมลากาก็ต้องผ่านเมืองสงขลาทุกลำ เพราะฉนั้นถ้าได้มีเรือไว้สัก ๒ หรือ ๓ ลำ ก็จะได้ทำการค้าขายติดต่อกับเมืองจีน เมืองยี่ปุ่น เมืองมานีลา และเมืองบอนิโอได้อย่างสดวก ถ้าหากว่าจะเกิดการสงครามขึ้นเล่า เมื่อเรือกลับมาจากเมืองจีนแล้วก็อาจจะส่งเรือเหล่านี้ไปที่เกาะปูโลคำบีก็ได้ เกาะปูโลคำบีนั้นเปนเกาะที่ไม่มีผู้คนอยู่ใกล้กับฝั่งเมืองเขมร และถึงจะไม่มีผู้คนก็จริงอยู่แต่เปนทำเลที่อุดมไปด้วยน้ำฟืนและปลา ได้มีคน ๆ ๑ ซึ่งเปนคนพูดอะไรพอจะเชื่อได้ ได้บอกกับสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศว่า ผู้นั้นได้แวะขึ้นไปบนเกาะเหล่านี้ ได้มีแขกมลายูพาเขาเข้าไปเที่ยวในป่า เขาได้ไปเก็บลูกจันทน์เทศในป่านั้นเปนอันมาก และได้นำลูกจันทน์เทศไปขายที่เมืองมาเก๊าได้อย่างดีที่สุดในข้อนี้อาจจะมีคนสงสัยคัดค้านได้ว่า ถ้าตามเกาะเหล่านี้มีลูกจันทน์เทศจริงแล้วเหตุใดพวกฮอลันดาจึงไม่ทราบเล่า ถ้าพวกฮอลันดาได้ทราบว่ามีจริง พวกฮอลันดามิได้เอาเกาะเหล่านี้เสียหมดแล้วหรือ ในปัญหา

๗๓ ข้อนี้ก็พอจะตอบได้ว่า การที่พวกฮอลันดายังไม่ได้ไปยึดเกาะเหล่านี้ไว้นั้น ก็เพราะเหตุเมื่อเร็ว ๆ นี้เองพวกญวนได้ไปตั้งอยู่ที่เกาะเหล่านี้และพวกญวนก็หายอมออกจากเกาะนั้นไม่ ฝ่ายพวกฮอลันดาก็ไม่หยากเกี่ยวข้องทำธุระกับพวกญวน เพราะพวกญวนได้เคยกดขี่บีบคั้นพวกฮอลันดามาแล้ว อีกประการ ๑ ต้นจันทน์เทศที่มีอยู่ตามเกาะเหล่านี้ก็มีจำนวนน้อยจึงไม่ใคร่จะมีใครเปนธุระด้วยนัก และการที่จะปลูกต้นจันทน์เทศในที่อื่นนั้น พวกชาวอินเดียก็ไม่ฉลาดพอที่จะคิดถึงกาลข้างหน้า มองซิเออร์วาเชต์ก็ได้บอกกับข้าพเจ้าว่า ในเมืองญวนมีอบเชยเปนอันมาก ซึ่งเปนอบเชยอย่างดีและขายกันราคาถูก ๆ ด้วย อบเชยนี้พวกญวนเคยส่งไปจำหน่ายที่เมืองจีนเสมอ ๆ ทางฝั่งชายทะเลเมืองไทยบางแห่งก็มีอบเชยอยู่ชนิด ๑ ซึ่งเปนอบเชยเนื้อหยาบกว่าอบเชยเมืองลังกา แต่อบเชยนี้ก็มีกลิ่นคล้าย ๆ กานพลูและคล้ายลูกจันทน์เทศ อบเชยชนิดนี้พวกพื้นเมืองและพวกปอตุเกตมักจะใช้สำหรับทำยาแทนอบเชยเกาะลังกา เพราะอบเชยที่มาจากเกาะลังการาคาแพงมาก แต่อบเชยไทยนั้นเกือบจะไม่มีราคาอะไรเลย เมื่อใครจะต้องการใช้ก็ไปตัดเอามาง่าย ๆ เมื่อจะสรุบรวมความแล้ว ตามข้อความที่ได้กล่าวมาทั้งนี้ก็อาจจะไปตั้งการค้าขายอย่างใหญ่โตที่เมืองสงขลาได้ทีเดียว อีกประการ ๑ ถ้าพวกฝรั่งเศสได้ไปตั้งอยู่ที่เมืองสงขลาแล้ว ก็ยังจะค้าขายพริกไทตามฝั่งแหลมมลายูได้ แต่ถ้าจะค้าพริกไทตามแถบ ๑๐

๗๔ เหล่านี้แล้ว ก็จะต้องคอยระวังพวกฮอลันดาให้มาก เมื่อปีกลายนี้ได้มีเรือมาจากเมืองมาเก๊าลำ ๑ ไปแวะที่เมืองยำบี พวกแขกมลายูได้ขึ้นปล้นเรือและจะฆ่าพวกปอตุเกตที่อยู่บนเรือนั้นให้หมด หากว่าพวกฮอลันดาได้ไปช่วยไว้ มิฉนั้นพวกปอตุเกตคงจะตายหมด การที่พวกฮอลันดาได้ขึ้นไปช่วยบนเรือนั้นก็เปน ๒ นัยอยู่ บางทีก็จะช่วยเพราะสงสารพวกปอตุเกตก็เปนได้ หรือบางทีอาจจะเปนอุบายของพวกฮอลันดาจะแสดงให้เห็นว่า การที่พวกแขกมลายูได้ขึ้นไปปล้นเรือนั้น พวกฮอลันดามิได้สมรู้เปนใจด้วยก็เปนได้ ในที่นี้จะต้องกล่าวความอีกข้อ๑ว่าพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงสัญญาว่าจะได้พระราชทานที่แห่ง ๑ ในเมืองไทรอันเปนเมืองขึ้นของประเทศสยามให้แก่บริษัทฝรั่งเศส เมืองไทรนี้อยู่ฝั่งชายทะเลเมืองภูเก็จ เพราะ ฉนั้นถ้าบริษัทฝรั่งเศสได้ไปตั้งอยู่ที่เมืองไทรแล้ว ก็อาจจะทำการค้าขายติดต่อกับพวกฝรั่งเศสที่อยู่ที่เมืองสงขลาได้ และการที่จะค้าขายติดต่อกันนี้จะเดินทางไปตามลำแม่น้ำก็ได้ ไม่จำเปนจะต้องอ้อมไปทางช่องซอนดาหรือช่องมลากาก็ได้ อีกประการ ๑ ตามสัญญาที่ได้ทำไว้นั้น บริษัทฝรั่งเศสจะได้ค้าพริกไททั้งหมดอันมีอยู่ในประเทศสยาม และพริกไทนี้ก็มีอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราชโดยมาก เพราะฉนั้นเมื่อบริษัทจะไปรับพริกไทก็ไม่ต้องไปไกล และไม่จำเปนจะต้องเปลืองโสหุ้ยสำหรับไปตั้งห้างที่เมืองนคร ศรีธรรมราชเลย


๗๕ ข้าพเจ้าลืมพูดในที่นี้ว่าพวกฮอลันดาได้ห้ามขาดมิให้ใครนำลูกจันทน์เทศและกานพลูออกจากเกาะโมลัศ ถ้าใครขัดขืนพวกฮอลันดาจะฆ่าให้หมด เมื่อพูดถึงการที่จะเพาะปลูกลูกจันทน์เทศและกานพลูในที่อื่นก็เปนสิ่งที่ทำไม่ได้ เพราะเหตุว่าพวกฮอลันดาได้จัดเรื่องสินค้าลูกจันทน์เทศและกานพลูไว้ เปนอันป้องกันมิให้ใครเพาะปลูกของสิ่งนี้ได้อีกต่อไป ในที่สุดนี้จะต้องกล่าวว่า ถ้าพวกฮอลันดายังคงมีอำนาจอยู่ในฝ่ายทิศตวันออกตราบใด การที่จะคิดแผ่สาสนาคริศเตียนในฝ่ายทิศ ตวันออกนั้นเปนอันทำไม่ได้เปนอันขาด เพราะพวกฮอลันดาเปนศัตรูอย่างร้ายกาจของสาสนาคริศเตียน และได้ขับไล่พวกที่ถือสาสนา คริศเตียนออกจากเมืองยี่ปุ่น เกาะโมลัศ เมืองมากาซา เมืองมลากา เมืองลังกา เมืองญวน และเมืองอื่น ๆ ซึ่งพวกฮอลันดามีอำนาจจนหมดสิ้นแล้ว ในที่นี้เปนการสมควรที่จะต้องเล่าตำนานของเมืองสงขลาสัก ๒-๓ คำ คือ เมื่อปี ค.ศ. ๑๖๔๒ ( พ.ศ. ๒๑๘๕ ) มีแขกมลายูคน ๑ ได้ไปตั้งตัวเปนใหญ่ที่เมืองสงขลา และได้ขบถต่อพระเจ้ากรุงสยาม แขกมลายูผู้นี้ได้ทำป้อมคูประตูหอรบอย่างแขงแรงแน่นหนา และในไม่ช้าก็ได้ชักชวนบรรดาพ่อค้าทั้งหลายให้ไปทำการค้าขายในเมืองสงขลาอย่างใหญ่โตมาก ฝ่ายไทยก็ยกกองทัพไปปราบหลายครั้งแต่ก็แพ้กลับมาทุกคราว พอสักหน่อยแขกมลายูคนนี้ก็ตั้งตัวเปนกษัตริย์ เรียกกันว่า

๗๖ พระเจ้าเมืองสงขลา และได้เปนพระเจ้าแผ่นดินอยู่จนถึงสิ้นพระชนม์บุตร์ของเจ้าแผ่นดินองค์นี้จึงได้ครอบครองเมืองสงขลาต่อไป ครั้นเมื่อ ๖ ปีที่ล่วงมาแล้ว พระเจ้ากรุงสยามได้ส่งกองทัพเรือซึ่งมีจำนวนเรือรบเปนอย่างมาก ให้มาตีเจ้าสงขลาอย่างสามารถ เจ้าสงขลาได้ต่อสู้อย่างสามารถ และไทยได้จับตัวไปได้ก็โดยที่ผู้รักษาป้อมแห่งหนึ่งได้คิดประทุษฐร้าย คือไทยได้ล่อลวงเกลี้ยกล่อมให้ผู้รักษาป้อมนี้เอาใจออกหากจากนายของตัวแล้ว ไทยจึงได้เข้าไปในป้อมแล้วได้เอาดอกไม้เพลิงโยนเข้าไปในเมือง เพลิงได้ติดลุกลามไหม้วังของเจ้าสงขลาจนหมดสิ้น ในระหว่างที่เกิดชุลมุนกันในเมืองช่วยกันดับเพลิงนั้น ไทยก็ได้ยกทัพเข้าไปในเมืองได้ ไทยจึงได้ทำลายป้อมคูประตูหอรบและบ้านเรือนจนเหลือแต่พื้นดิน เพราะเกรงจะมีคนอื่นมาตั้งมั่นคิดขบถอีก เมืองสงขลานี้เองที่พระเจ้ากรุงสยามจะถวายต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส แต่อาณาเขตร์พื้นที่ของเมืองนี้ใหญ่โตกว้างขวางมาก พวกอังกฤษก็ หยากได้เมืองนี้นัก และได้ขอต่อไทยหลายครั้งแล้ว ข้าพเจ้าพิเคราะห์ดูตามเหตุผลเห็นว่า ถ้าพวกฝรั่งเศสไม่เอาเมืองสงขลาแล้ว ก็น่ากลัวจะได้แก่พวกอังกฤษต่อไป พระเจ้ากรุงสยามทรงพระวิตกนักว่า พวกฮอลันดาจะไปตั้งที่เมืองสงขลาให้จงได้ แต่จะอย่างไรก็ตามถ้าบริษัทฝรั่งเศสคิดจะตั้งเปนหลักถานมั่นคง ในฝ่ายอินเดียแล้ว ก็เปนการจำเปนที่สุดที่บริษัทจะต้องมีแห่งหนึ่งแห่งใด ซึ่งจะตั้งอยู่โดยมั่งคงพ้นอันตรายได้ เพราะที่มั่นคงชนิดนี้พวกฮอลันดามีตั้ง ๕๐ แห่ง พวกปอตุเกตก็ยังตั้งมั่นอยู่ที่เมืองมาเก๊า ฝ่ายพวกอังกฤษก็มีเมืองมาคราศและเมืองบอมเบอยู่แล้ว ๗๗ ถ้าจะว่าไปแล้วจะหาที่ใดสำหรับทำการค้าขายกับเมืองจีน เมืองยี่ปุ่น เมืองตังเกี๋ย และเมืองไทย ที่จะเหมาะยิ่งกว่าเมืองสงขลาเปนไม่ได้ ที่จะคิดว่าห้างฝรั่งเศสที่กรุงศรีอยุธยาแห่งเดียวจะทำการค้าขายเหล่านี้ได้ ทั้งหมดเปนไม่ได้ และการเจริญของห้างเล็กน้อยเช่นนี้จะมีเพียงไรก็พอจะเอาเรื่องที่เกิดแก่ห้างอังกฤที่เมืองบันดำเปนตัวอย่างสำหรับเทียบเคียงก็ได้ คือที่เมืองบันดำนั้นพวกอังกฤษได้เปนใหญ่และเปนผู้ชี้ขาดในที่ประชุมราชการแผ่นดินของเจ้าแผ่นดินเมืองบันดำ พวกอังกฤษเปนผู้ที่บังคับบัญชาป้อมที่ดีและสำคัญในเมืองนั้นทุกแห่ง ห้างอังกฤษในเมืองบันดำก็มิได้ทำการค้าขายอย่างใด แต่ถึงดังนั้นจะหาห้างใดในอินเดียที่จะมั่งคั่งบริบูรณ์เท่ากับห้างอังกฤษในเมืองบันดำไม่ได้ และห้างอังกฤษที่ตั้งอยู่ในเมืองไทย เมืองตังเกี๋ย และในเกาะบางแห่งของประเทศจีน ก็สู้ห้างที่เมืองบันดำไม่ได้ แต่ถึงดังนี้พวกอังกฤษก็ถูกขับใล่ออกจากเมืองบันดำอย่างน่าอับอายที่สุด ถ้าแม้ว่าพวกอังกฤษได้คิดหาที่เหมาะ ๆ และทำป้อมอย่างแขงแรงแล้ว ไหนเลยพวกฮอลันดาจะกล้ามาขับไล่พวกอังกฤษดังนี้ได้ และการที่จะหาที่เหมาะสำหรับสร้างป้อมนั้น เจ้าเมืองบันดำก็ได้บอกให้พวกอังกฤษทำหลายครั้งด้วย แต่พวกอังกฤษก็หาทำไม่ อีกประการ ๑ จะต้องกล่าวความจริงว่า ถ้าบริษัทฝรั่งเศสมิได้ทำการโดยเต็มอำนาจแล้ว ทำอย่างไร ๆ ก็จะทำการค้าขายในเมืองไทยให้เจริญไม่ได้ ข้อนี้พระเจ้ากรุงสยามก็ได้พระราชทานอำนาจและสิทธิ์ให้บริษัทได้ทำการค้าขายอย่างสดวกทุกอย่างแล้ว เพราะพระเจ้า

๗๘ กรุงสยามมิได้ขัดความประสงค์ของท่านราชทูต (ฝรั่งเศส) เลย แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เพิ่มเติมข้อความลงไป ซึ่งทำให้สิทธิ์ที่พระเจ้ากรุงสยามได้พระราชทานไว้นั้น หมดน้ำหนักลงทันทีหาประโยชน์มิได้เลย ความจริงในเรื่องการค้าขานในเมืองไทยนั้นมีดังนี้ เมื่อ ๑๐ ปีที่ล่วงมาแล้ว บรรดาชาวต่างประเทศทุก ๆ ประเทศมีสิทธิ์ที่จะทำการค้าขายในเมืองไทยได้ทุกอย่าง มีแต่สินค้าบางอย่าง เช่นไม้ กลำพัก และรังนก ซึ่งยกให้พวกฮอลันดาผูกขาดไป ครั้นมาภายหลัง พระยาพระคลังซึ่งเปนน้องของราชทูตสยามที่ ๑ ได้ถึงแก่กรรมลง มองซิเออร์คอนซตันซ์คิดจะหาประโยชน์ส่วนตัว จึงได้กราบทูลแนะนำต่อพระเจ้ากรุงสยาม ให้ทรงทำการค้าขายเสียเอง จึงเปนอันตกบวว่าเมื่อพ่อค้าได้นำสินค้าเข้ามาเมืองไทย พระเจ้ากรุงสยามก็รับเอาสินค้าเหล่านั้นไว้ทั้งหมด และคิดราคาให้ถูก ๆ แล้วจึงเอา สินค้าเหล่านั้นกลับไปขายปลีกเปนราคาแพงอย่างที่สุด การที่ทำเช่นนี้ก็ได้ทำให้ผลประโยชน์รายได้ของพระเจ้ากรุงสยามเพิ่มพูลทวีขึ้นเปน อันมาก แต่ผลที่สุดก็ทำให้การค้าขายได้ฉิบหายไปหมด เพราะพวกพ่อค้าต่างประเทศก็กำลังจะยกออกจากเมืองไทยแล้ว และเรือค้าขายก็เข้ามาในเมืองไทยมีจำนวนน้อยกว่าก่อนเก่ามาก เพราะฉนั้นถ้าจะจัดการให้สินค้าได้กลับเข้ามาเมืองไทยอีกแล้ว ก็จะต้องให้พระเจ้ากรุงสยามหรือบริษัทฝรั่งเศส ตั้งห้างใหญ่ ๆ ที่เมืองสงขลาจึงจะได้


๗๙ ในข้อนี้ก็คงจะมีบางคนคัดค้านว่า พวกฝรั่งเศสไม่เคยทำการเจริญทางอินเดียเลย แต่เมื่อใครคัดค้านเช่นนี้แล้ว ก็ควรจะพิเคราะห์ดูว่าการที่พวกฝรั่งเศสทำการไม่าเหร็จนั้นจะเปนด้วยเหตุใด และเมื่อเห็นข้อใดที่บกพร่องหรือเสียหายมาแล้ว ก็ควรจะคิดแก้ไขเสียให้ดีคือ ในชั้นเดิมเมื่อบริษัทฝรั่งเศสไปตั้งอยู่ที่เกาะมาดากาศกาก็เจริญดีในเวลานั้นมองซิเออร์เดอซามาโก ซึ่งเปนเชื้อผู้ดีชาวเมืองบรีเต็นปกครองเกาะนั้นทั่วไป ด้วยมีคนอยู่ ๒-๓ คนเท่านั้น แต่ภายหลังมอง ซิเออร์เดอมอนเดอแวชได้ไปทำให้ฉิบหายหมด โดยที่ทำเกินอำนาจของตัวไป ในเวลานั้นก็มีที่ปนึกษาซึ่งวางระเบียบไว้ดีแล้ว แต่มองซิเออร์เดอมอนเดอแวชหาได้เชื่อฟังถ้อยคำของที่ปรึกษาไม่ กลับส่งอาวุธให้แก่คนพื้นเมือง และเข้าเปนพรรคพวกคนพื้นเมืองต่อสู้ฝรั่งเศสบ่อย ๆ โดยเหตุที่คิดจะหาประโยชน์ส่วนตัวให้มาก ครั้นภายหลังมองซิเออร์เดอลาเฮไปแทนมองซิเออร์เดอมอนเดอแวช ก็กลับร้ายยิ่งกว่าคนเก่าไปเสียอีก มองซิเออร์เดอลาเฮนั้นเปนคนดีมีวุฒิแต่ฉะเพาะการบนบก แต่มองซิเออร์เดอลาเฮต้องการจะเปนกะลาสีเรือด้วย จึงได้ทำลายล้างพวกนายทหารเรือที่ดี ๆ เสียหมด เพราะเหตุว่านายทหารเรือเหล่านี้มีความรู้มากกว่าตัว แล้วมองซิเออร์เดอลาเฮได้เอาเรือมอบให้คนโง่เขลาบังคับ และคนเหล่านี้ไม่มีความรู้อะไรก็เอาเรือเหล่านี้ไปจมและแตกจนหมดสิ้น มองซิเออร์เดอลาเฮได้พสกองทหารที่ดีออกจากเกาะมาดากาศกาหมด เหลือไว้แต่คนที่ไม่มีความรู้ความชำนาญสัก ๒-๓ คนเท่านั้น ครั้นมองซิเออร์เดอซามาโกได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว คน

๘๐ เหล่านี้ก็ลงมือรบกวนพวกชาวเกาะมาดากาศกา ลงท้ายที่สุดก็สู้พวกชาวเกาะไม่ได้ มองซิเออร์เดอลาเฮไดเลยไปตั้งอยู่ที่เมืองแตรงโกมาลี ซึ่งเปนเมืองอยู่ใเกาะลังกา และเปนเมืองที่มีทำเลเหมาะดีมาก แล้วมองซิเออร์เดอลาเฮจึงได้ทำสัญญากับเจ้าแผ่นดินเมืองแคนดี ซึ่งเปนสัญญาที่จะเปนปนะโยชน์ต่อพวกฝรั่งเศสเปนอันมาก และที่ทำสัญญาได้เช่นนี้ ก็เพราะเหตุว่าเจ้าเมืองแคนดียินดีเต็มใจที่จะได้พวกฝรั่งเศสไว้สำหรับคอยต่อสู้กับพวกฮอลันดา ครั้นมองซิเออร์เอลาเฮได้ไปตั้งอยู่ในเมืองนั้น ก็หาได้สร้างป้อมให้แขงแรงมั่นคงไม่ เปนแต่เอาดินขึ้นกองเปนเนินเล็ก ๆ แล้วให้คนรักษาอยู่ ๔๐ คนเท่านั้น คน ๔๐ นี้ไม่ช้าพวกฮอลันดาก็มาขับไล่ออกไปจนหมดสิ้น เมื่อการต่าง ๆ ได้จัดอย่างเลวทรามเช่นนี้ ก็ไม่ควรจะปลาดใจเลยว่าการทั้งหลายจะทำอย่างไรก็สำเร็จไปไม่ได้ แต่สิ่งที่น่าดูอย่างที่สุดนั้น ก็คือป้อมและวิธีป้องกันเกาะเซนต์ธอเม และในเกาะนี้ก็ได้รบกันอย่างวิธีกองโจรหลายคราว มองซิเออร์เดอลาเฮได้ยกกองทัพบุกเข้าไป หนทางถึง ๕ หรือ ๖ ไมล้ และมีม้าถึง ๔ หมื่นตัว แต่ทำไปทำมาก็ต้องถอยกลับเพราะขาดเสบียงอาหาร และเมื่อ ๖ เดือนก่อนนั้นถ้ามองซิเออร์เดอลาเฮจะต้องการซื้อสเบียงอาหารเปนราคาสัก ๓๐,๐๐๐ แฟรง ก็จะหาซื้อได้ง่าย และเวลานั้นเงินทองก็ยังบริบูรณ์อยู่ด้วย ถ้าจะต้องการรู้ให้แน่ว่า การที่จะตั้งห้างในเมืองอินเดียจะต้องทำอะไรบ้างนั้น ก็จะต้องตรวจดูว่าพวกฮอลันดาได้ทำอย่างไรบ้าง เพราะ


๘๑ เวลานี้พวกฮอลันดาเปนเจ้าแห่งอินเดีย ด้วยพวกฮอลันดาได้ทำให้พวกอังกฤษและปอตุเกตฉิบหายไปหมดแล้ว และจะต้องตรวจดูด้วยว่าวิธีที่พวกออลันดาได้จัดการปกครองบ้านเมืองนั้นได้ทำอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าเปนวิธีที่ดี คือ ๑ ป้อมของพวกฮอลันดาได้จัดอย่างเรียบร้อย มีเครื่องอาวุธยุทธภัณฑ์บริบูรณ์ทุกแห่ง ๒ บ้านเมืองก็จัดอย่างงดงาม ๓ ระเบียบทหารก็จัดการอย่างกวดขัน ๔ โรงพยาบาลก็จัดอย่างดี ๕ มีวัดมีโบสถ์งาม ๆ ๖ การสาสนาดูภายนอกก็แขงแรงดี ๗ ความยุติธรรมก็เที่ยงตรง ๘ พวกที่เปนหัวหน้าก็ทำเกียรติยศวางตัวเปนผู้ใหญ่ ๙ สำนักของเยเนราลเมืองบาตาเวียก็เปนสง่าผ่าเผย ๑๐ พวกฮอลันดาไม่ทำสนิทกับคนพื้นเมืองเลย ๑๑ ที่ปรึกษาราชการของเมืองบาตาเวียก็มี และที่ปรึกษานี้ก็เข้าใจว่าตัวเปนเจ้าใหญ่ยิ่งกว่าเจ้าแผ่นดินเมืองมากาซาเสียอีก ๑๒ อำนาจมิได้อยู่ในคน ๆ เดียว เพราะเกรงว่าจะทำเกินอำนาจไป เยเนราลแห่งเมืองบาตาเวียก็มีเสียงโหวตในที่ประชุมเพียง ๓ เสียงเท่านั้น ๑๓ ผู้ที่จะทำการเปนหัวหน้าก็ฉะเพาะผู้ที่มีวุฒิ และเมื่อผู้ใดได้ทำการของบริษัทแล้วก็คงจะไม่แก่เปล่า แต่คงจะต้องได้เลื่อนตำแหน่งเปนลำดับขึ้นไป ที่คนมาใหม่จากดยุโรปจะได้รับตำแหน่งสูง ๆ ในอินเดียนั้นเปนไม่มีเลย เพราะฉนั้นถ้าฝรั่งเศสจะไปตั้งที่เมืองสงขลาแล้ว ก็พอจะเอาวิธีของพวกฮอลันดาเปนหลักเกณฑ์ได้ คนที่จะเปนเจ้าเมืองนั้นจะต้องเปนคนดี ชำนาญในการสงครามและชำนาญในวิธีปกครองด้วย อำนาจนั้นก็ ๑๑

๘๒ จะตกอยู่ในเจ้าเมืองคนเดียวไม่ได้ และจะทำอะไรตามชอบใจเหนือที่ประชุมไม่ได้ เช่นมองซิเออร์คาตองซึ่งเปนหัวหน้าของบริษัทฝรั่งเศสที่เมืองซูรัตนั้นไม่หยากให้คณะที่ประชุมขัดฅอตัว จึงได้จัดการทำให้สมาชิกที่ประชุมกระจายออกไปหมด คือได้ส่งมองซิเออร์โกยัวไปเมืองมาซุลีปาตำ และให้มองซิเออร์โฟรเตต์กับมองซิเออร์ลาเบลไปเมืองเปอเซียดังนี้เปนตัวอย่างอยู่แล้ว อีกประการ ๑ ถ้าเกิดการล้มตายตำแหน่งว่างลงไปเมื่อใด จะต้องให้ที่ประชุมตั้งคนแทนได้แล้วจึงเสนอไปยังบริษัท เมื่อบริษัทเห็นชอบจะได้สั่งตั้งมาทีเดียว ส่วนหนังสือต่าง ๆ นั้นจะต้องให้เปิดอ่านกลางที่ประชุม ลูกจ้างคนทำงานของบริษัทนั้นต้องให้เลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งขึ้นตามลำดับ และเจ้าเมืองนั้นต้องขึ้นกับบริษัทและรับเงินเดือนจากบริษัทจึงจะได้ เพราะเจ้าเมืองซึ่งพระเจ้าแผ่นดินตั้งมานั้น ไม่ใคร่ได้รับความนับถือนบนอบจากพวกพ่อค้าเท่าที่ควร การที่มองซิเออร์เดอมองเดอเวก และมองซิเออร์เดอลาเฮทำการไม่สำเร็จนั้นก็เพราะขาดข้อนี้เปนสิ่งสำคัญ ในชั้นต้นจะต้องคิดทำแผนที่สร้างบ้านเมืองให้ใหญ่โตเสียก่อน และขึ้นชื่อว่าบริษัทแล้วไม่ควรให้ล้มสูญไปเลย ขอให้ตูเอาเมืองโกอาและเมืองบาตาเวียเปนตัวอย่าง ในชั้นต้นที่จะจัดการนั้น พ่อค้าคนใดไม่ว่าชาติใดภาษาใดหรือสาสนาใด เมื่อมาตั้งบ้านเรือนอยู่ในเมืองสงขลาแล้ ก็จะต้องปล่อยให้พ่อค้านั้น ๆ ทำการค้าขายโดยสดวกได้ทุกอย่าง ที่เมืองบาตาเวียแห่ง ๑ เมืองมาคราศแห่ง ๑ เมืองบอมเบแห่ง ๑ พวกฮอลันดาและอังกฤษ

๘๓ ได้จัดด้วยวิธีนี้ ถ้าได้จัดการดังนี้แล้วไม่ช้าพวกจีนก็จะได้มาทำการค้าขายที่เมืองสงขลา เพราะพวกจีนได้ถูกกดขี่บีบคั้นในเมืองไทยเมืองบาตาเวียและในอินเดียทั่วไปมามากแล้ว และพวกจีนก็ทราบได้ดีว่า ถ้าได้ตั้งบ้านเมืองขึ้นใหม่ที่แห่งใด ก็คงจะได้รับความสดวกและเอื้อเฟื้อทุกอย่าง ถึงพวกแขกมะหมัดซึ่งในประเทศอินเดียเรียกกันว่าพวกแขกมัวนั้น ก็คงจะมาตั้งทำมาค้าขายในเมืองสงขลาอย่างพวกจีนเหมือนกัน ถ้าพวกแขกมะหมัดได้มาที่สงขลาแล้ว ในชั้นแรกก็คงจะขอสร้างวัดและสร้างสุเหร่าขึ้นก่อน การที่พวกแขกมัวขอสร้างวัดสร้างสุเหร่านั้นพวกสะเปนและพวกปอตุเกตไม่ได้ยอมให้สร้างเปนอันขาด และถ้าพวกนี้มาขอสร้างสุเหร่าที่เมืองสงขลาพวกฝรั่งเศสก็ไม่ควรจะยอมเหมือนกัน แต่ถึงจะไม่ยอมมิใช่พวกแขกมัวจะไม่มาทำการค้าขายเมื่อไร ถ้าพวกนี้เห็นประโยชน์แล้วทำอย่างไร ๆ ก็ต้องมา เพราะพระเจ้าของพวกนี้ก็คือเงินนั้นเอง นอกจากพวกจีนและแขกมัวนั้น บรรดาชาติต่าง ๆ ในอินเดียก็คงจะมาค้าขายที่เมืองสงขลามากมายหลายชาติหลายภาษา เช่นไทย มอญ มลายู แขกยาวา เขมร ญวน และชาวตังเกี๋ยเปนต้นคงจะมารวมกันอยู่ที่เมืองสงขลาทั้งสิ้น และการที่จะปล่อยให้ถือสาสนาได้ตามอำเภอใจนั้น ก็เปนการที่พวกนี้คงจะพอใจ เว้นไว้แต่การถือสาสนาต่าง ๆ กันเช่นนี้ จะทำให้ลัทธิต่าง ๆ ในที่เปิดเผยไม่ได้อยู่เอง ในที่นี้จะต้องกล่าวสักหน่อยว่าในเมืองขึ้นของพวกปอตุเกตและพวกสะเปน บรรดาผู้รักษาเมืองได้รับสินบลด้วยเงิน ได้ยอมให้พวกที่ถือสาสนาต่าง ๆ ได้ทำพิธีเช่นมีแห่แหนและพิธีอย่างอื่นโดยแก้ตัวว่าเปนสงที่ไม่เกี่ยวแก่การสาสนา ๘๔ ที่เมืองสงขลานั้นก็ควรจะต้องตั้งด่านภาษี ในชั้นแรกก็จะต้องเก็บภาษีแต่เล็กน้อยก่อน แล้วจึงเก็บเพิ่มให้แรงขึ้นภายหลังเมื่อผู้คนเข้าไปอยู่ในเมืองแน่นหนาแล้วก็ได้ วิธีนี้เปนวิธีที่พวกอังกฤษได้เคยจัดที่เมืองมาคราศมาแล้วซึ่งเปนวิธีที่ดี เพราะเมื่อได้จ่ายค่าโสหุ้ยของกองทหารเสร็จแล้ว ยังคงมีกำไรอยู่อีกถึง ๑๐๐,๐๐๐ แฟรง ในส่วนที่เกี่ยวด้วยการสาสนานั้น พวกมิชันนารีฝรั่งเศสจะได้มีที่พักอาศรัยอันมั่นคง และจะได้สร้างโรงเรียนสามเณรให้ใหญ่ ซึ่งจะทำให้พวกมิชันนารีมีงานทำมาก เพราะจะต้องมีภาระคอยสั่งสอนคนต่างชาติอันมีอยู่หลายชาติหลายภาษานัก และเมื่อพวกมิชันนารีจะออกจากเมืองสงขลาไปตรวจการสาสนาในเมืองต่าง ๆ ก็ไปได้โดยง่าย ทั้งจะได้เปนโอกาสที่พวกมิชันนารีจะได้ไปเรียนภาษาต่าง ๆ ซึ่งจำเปนจะต้องรู้ไว้ด้วย ถ้าแม้ว่าจะเกิดการขัดข้องอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งเมืองสงขลาจะไม่เหมาะแล้ว พระเจ้ากรุงสยามซึ่งได้ทรงสัญญาไว้แล้วก็คงจะต้องพระราชทานที่แห่งอื่นให้แก่บริษัท เช่นเมืองนครศรีธรรมราชหรือเมืองมะริตหรือเมืองภูก็จ หรือที่สุดแห่งใดแห่งหนึ่งในลำน้ำเจ้าพระยาก็ได้




๘๕ มองซิเออร์คอนซตันซ์ เขียนที่กรุงศรีอยุธยา ลงวันที่ ๑ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ ) มองซิเออร์คอนซตันซ์แจ้งมาว่า พระเจ้ากรุงสยามทรงพอพระทัยมากในความประพฤติและความรู้ของมองซิเออร์เดอลามา ซึ่งมองซิเออร์เดอโชมองได้ถวายไว้สำหรับให้ก่อสร้างป้อมในเมืองไทย จึงได้มีรับสั่งให้มองซิเออร์คอนซตันซ์แจ้งมาให้มองเซนเยอร์ทราบ มองซิเออร์คอนซตันซ์มีความเสียใจมากที่จะชมเชยมองซิเออร์เดอฟอแบงซึ่งพระเจ้ากรุงสยามได้ขอไว้สำหรับทำราชการในเมืองไทย ให้เหมือนที่ได้ชมเชยมองซิเออร์เดอลามาไม่ได้ เมื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้จัดให้มองซิเออร์เดอฟอแบงไปบังคับกองทหารที่บางกอกนั้น พอมองซิเออร์เดอฟอแบงได้ไปถึงบางกอก ก็เลยไม่ถูกกับใครจนคนเดียว เมื่อมองซิเออร์เดอฟอแบงได้ฟ้องกล่าวโทษใคร ไทยก็ได้ถอนผู้นั้นออกตามใจมองซิเออร์เดอฟอแบง แต่ถึงดังนั้นก็คงต่างคนต่างฟ้องร้องกันไม่หยุดไม่หย่อนเลย จนที่สุดมองซิเออร์เดอฟอแบงก็เกิดความเบื่อหน่ายขึ้นเอง ส่วนข่าวคราวต่าง ๆ ซึ่งมองซิเออร์เดอฟอแบงไม่ควรจะเชื่อฟังนั้น มองซิเออร์เดอฟอแบงก็เชื่อ และหาได้ประพฤติตัวให้เขานับถือไม่ กลับยื่นใบลาโดยไม่มีเหตุผลอย่างใดเลย พระเจ้ากรุงสยามจึงได้มีดำรัสสั่งให้มองซิเออร์เดอฟอแบงชี้แจงว่า เหตุผลมีอย่างไรจึงต้องลาออกจากราชการ แต่มองซิเออร์เดอฟอแบงก็หายอมทำคำชี้แจงไม่ เจ้าพนักงานจึงได้บอกกับมองซิเออร์เดอฟอแบงว่า ใน

๘๖ เวลาที่อยู่ในพระราชอาณาเขตร์ของพระเจ้ากรุงสยามนั้น เปนการจำเปนที่จะต้องทำตามพระราชโองการ และถ้ามองซิเออร์เดอฟอแบงขัดพระราชโองการแล้ว มองซิเออร์เดอฟอแบงจะต้องออกไปให้พ้นพระราชอาณาเขตร์ภายใน ๒ วัน มองซิเออร์เดอฟอแบงไม่ยอมทำตามพระราชโองการ แต่จะต้องการออกไปให้พ้นพระราชอาณาเขตร์ภายใน ๒ วัน ซึ่งเปนการทำให้พระเจ้ากรุงสยามกริ้วเปนอันมาก มองซิเออร์คอนซตันซ์บอกมาว่า พระเจ้ากรุงสยามยังทรงเอาพระทัยใส่ในความเจริญของประเทศฝรั่งเศสอยู่เสมอ และทรงพอพระทัยในพระราชไมตรีของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสยิ่งนัก มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ฝากของไปกับบาดหลวงแวยู ซึ่งเปนของแปลก ๆ ฝากไปให้มองเซนเยอร์ มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงขอให้มองเซนเยอร์รับของเหล่านั้นไว้ และถ้ามองเซนเยอร์จะมีธุระสิ่งใดก็ขอให้ใช้มองซิเออร์คอนซตันซ์เถิด





๘๗ มองซิเออร์ฟอลคอน วันที่ ๑ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ ) ถึงท่านผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง

ด้วยข้าพเจ้ามีความยินดีเปนอันมากที่จะได้ทำตามพระราชโองการของพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า ซึ่งได้ดำรัสสั่งให้ข้าพเจ้ามีจดหมายมายังท่าน เพื่อแสดงให้ท่านทราบว่า พระเจ้ากรุงสยามทรงพอพระราชหฤทัยมาก ในความประพฤติและคุณวุฒิของมองซิเออร์เดอลามา ซึ่งท่านราชทูตฝรั่งเศสได้ถวายไว้ สำหรับให้ก่อสร้างป้อมในพระราชอาณาเขตร์ต่อไป ป้อมที่มองซิเออร์เดอลามาได้ลงมือก่อสร้างที่บางกอกนั้น ได้ทำให้พระเจ้ากรุงสยามเปนที่พอพระราชหฤทัยมาก เพราะฉนั้นเมื่อเสด็จพระราชดำเนินลงไปที่บางกอก จึงมีพระราชประสงค์จะขอบใจมองซิเออร์เดอลามาด้วยพระองค์เองต่อหน้าขุนนางข้าราชการ ผู้ใหญ่ซึ่งเฝ้าอยู่ณที่นั้น มองซิเออร์เดอลามาคนนี้ พระเจ้ากรุงสยามทรงใช้สรอยมิได้หยุดมือเลย จึงมีพระราชประสงค์จะแสดงให้ท่านทราบถึงความนับถือที่ทรงมีต่อประเทศฝรั่งเศส โดยที่มองซิเออร์เดอลามาคนเดียวไดแนะนำการต่าง ๆ อันกระทำให้เรารู้สึกถึงอำนาจและกำลังของประเทศฝรั่งเศสว่าจะมีสักปานใด เพราะที่ประเทศฝรั่งเศสมีเอนยินเนียที่มีวุฒิดี ๆ เปนอันมาก เอนยินเนียเหล่านี้อาจที่จะสร้างป้อมคูประตูหอรบอย่างแขงแรงสำหรับป้องกันประเทศฝรั่งเศสได้ ทั้งประเทศฝรั่งเศส


๘๘ ก็มีพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งทรงอำนาจที่จะสั่งการงานให้เปนไปตามพระทัยได้ทุกอย่างด้วย ข้าพเจ้ามีความเสียใจมากที่ไม่มีโอกาสและไม่มีเหตุผลจะชมเชยเชอวาเลียเดอฟอแบง เหมือนกับที่ชมเชยมองซิเออร์เดอลามาได้ เชอวาเลียเดอฟอแบงผู้นี้เราเองได้ขอไว้สำหรับให้อยู่ในประเทศสยาม เพราะเชื่อใจว่าเขาคงจะเปนคนที่จะทำราชการได้ดีคน ๑ แต่พอได้จัดให้เชอวาเลียเดอฟอแบงไปอยู่ที่บางกอกเพื่อให้เปนผู้บังคับกองทหารนั้น เชอวาเลียเดอฟอแบงก็เกิดแตกร้าวไม่ถูกกับใครเลย เมื่อเชอวาเลียเดอฟอแบงต้องการให้ทำโทษใครหรือให้ถอนใครออก เราก็ได้ทำโทษและถอนคนนั้น ๆ ออกตามใจเขาทุกครั้ง แต่ถึงดังนั้นก็คงยังมีการฟ้องร้องซึ่งกันและกันมิได้เว้นเลย จนที่สุดเชอวาเลียเดอฟอแบงก็เกิดความเบื่อหน่ายขึ้นเอง และข่าวลือต่าง ๆ ซึ่งเชอวาเลียเดอฟอแบงไม่ควรจะฟังเสียงนั้น เชอวาเลียเดอฟอแบงก็กลับเชื่อ และควรจะป้องกันมิให้เกิดเสียงลือขึ้นได้โดยประพฤติตัวให้เขานิยมนับถือนั้น เชอวาเลียเดอฟอแบงก็หาทำไม่ แต่กลับขอลาออกจากราชการโดยไม่มีมูลเหตุอย่างใดเลย ท่านก็คงจะรู้สึกได้ว่าการที่เชอวาเลียเดอฟอแบงขอลาออกเช่นนี้ จะทำให้พระเจ้ากรุงสยามกริ้วเพียงไร เพราะไม่สมกับที่พระเจ้ากรุงสยามทรงโปรดปรานรักใคร่และทรงพระเมตตาแก่เชอวาเลียเดอ ฟอแบงเลย พระเจ้ากรุงสยามจึงได้มีพระกระแสรับสั่งให้เชอวาเลียเดอฟอแบงเขียนรายงานชี้แจงเหตุผลว่าจะต้องลาออกจากราชการด้วยเหตุใดแต่เชอวาเลียเดอฟอแบงก็หายอมทำรายงานตามกระแสรับสั่งไม่ ครั้น

๘๙ เจ้าพนักงานไปชี้แจงต่อเชอวาเลียเดอฟอแบง ว่าในระหว่างที่ตัวยังอยู่ในพระราชอาณาจักร์สยาม เปนการจำเปนที่จะต้องปฏิบัติตามพระราชโองการ ถ้าไม่ปฏิบัติแต่ขัดขืนพระราชโองการแล้ว เชอวาเลียเดอฟอแบงจะต้องออกไปให้พ้นพระราชอาณาเขต์ภายใน ๒ วัน ถึงดังนี้เชอวาเลียเดอฟอแบงก็ยังขัดขืนพระราชโองการ และจะยอมออกไปให้พ้นพระราชอาณาเขตร์ตามคำพูดของเจ้าพนักงาน ซึ่งเชอวาเลียเดอฟอแบงได้กระทำดังนี้ กลับทำให้พระเจ้ากรุงสยามทรงกริ้วหนักขึ้นอีก การที่ข้าพเจ้าเขียนอธบายมายังท่านดังนี้ก็เพื่อจะให้ท่านทราบความจริงเท่านั้น มิได้มุ่งหมายจะให้เปนการเสียหายต่อเชอวาเลียเดอฟอแบงเลย เพราะในการที่เชอวาเลียเดอฟอแบงจะทำอย่างไรต่อไปนั้น เราเองได้จัดการอันเปนที่พอใจของเชอวาเลียเดอฟอแบงอยู่แล้ว ในส่วนตัวข้าพเจ้าเองนั้น ข้าพเจ้าขอรับรองต่อท่านว่าความดีความเจริญของประเทศฝรั่งเศส เปนสิ่งที่พวกเราทุกคนในประเทศสยามเอาใจใส่ยิ่งนัก และข้าพเจ้าเองจะมุ่งหมายอย่างอื่นไม่ได้อยู่เอง เพราะทราบอยู่เต็มใจว่าพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าพอพระทัยในพระราชไมตรีของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสยิ่งนัก และพอพระทัยในพระราชไมตรีที่มีในระหว่างพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ นั้นด้วย ข้าพเจ้าได้ขอให้บาดหลวงแวยูนำของต่าง ๆ ซึ่งเปนของแปลกในเมืองนี้ส่งไปให้ท่าน อันเปนของที่ข้าพเจ้าฝากมาให้ท่านเปนของส่วนตัวข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าขอท่านได้ ๑๒


๙๐ โปรดรับของเหล่านี้ไว้ และขอให้ท่านเชื่อเถิดว่าถ้าท่านจะมีธุระสิ่งใด ข้าพเจ้าจะมีความยินดีและเต็มใจที่จะทำให้ท่านทุกอย่าง ขอท่านได้รับความนับถือของข้าพเจ้า เขียนที่กรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ค.ศ.๑๖๘๐ ( พ.ศ.๒๒๒๙ ) ( เซ็น ) ฟอลคอน









๙๑ มองซิเออร์เวเรต์ ลงวันที่ ๕ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๒๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ ) ถึงมองเซนเยอร์

ด้วยข้าพเจ้าได้มีจดหมายมายังท่านฝากมาทางเมืองตังเกี๋ยฉบับ ๑ และข้าพเจ้าได้เรียนให้ท่านทราบในจดหมายฉบับนั้น ว่าถ้าท่านจะยอมออกทุนบ้างเล็กน้อยแล้ว บริษัทก็คงจะค้าเครื่องเทศมีจำนวนมากเท่ากับบริษัทฮอลันดาเหมือนกัน ในจดหมายฉบับนั้นข้าพเจ้าได้เรียนให้ท่านทราบว่าในแถบเหล่านี้มีเกาะอยู่หลายเกาะซึ่งไม่มีผู้คนอยู่ แต่เปนทำเลที่ดี เครื่องเทศขึ้นงอกงามและมีจำนวนมากด้วย การที่เครื่องเทศเปนง่ายและขึ้นงอกงามเร็วนั้น เมื่อพวกฮอลันดาได้เก็บเกี่ยวบรรทุกลงเรือพอต้องการแล้ว เหลืออยู่มากน้อยเท่าไรพวกฮอลันดาก็เอาไฟเผาเสียให้หมดสิ้นไปทุก ๆ ปี แต่ถึงดังนั้นพวกฮอลันดาก็หาทำลายต้นเครื่องเทศให้หมดได้ไม่ จึงได้รักษาไว้แต่พอความต้องการเท่านั้น เกาะปูโลคอนดอนั้นเปนเกาะที่ข้าพเจ้าเห็นว่าเหมาะที่สุดสำหรับที่พวกเราจะได้มาตั้งค้าขายต่อไป และท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศก็ได้รับรองต่อข้าพเจ้าว่า ที่เกาะนี้มีต้นจันทน์เทศอยู่แล้ว เพราะชาวปอตุเกตคน ๑ ซึ่งเปนเพื่อนของท่านสังฆราช ได้เคยไปเก็บลูกจันทน์เทศเปนน้ำหนักกว่า ๒๐ ปอนด์มาแล้ว เกาะนี้อยู่ในแลติจูดเดียวกับเกาะบันดา แต่เกาะปูโลคอนดออยู่ทางทิศเหนือและเกาะบันดาอยู่ทางทิศใต้เกาะบันดานี้เองเปนเกาะซึ่งพวกฮอลันดาเที่ยวหาเครื่องเทศไปจำหน่าย

๙๒ เกาะปูโลคอนดอนี้มีเนื้อที่วัดโดยรอบ ยาวประมาณ ๖ ไมล์ และเปนเกาะซึ่งตั้งอยู่ตรงกับปากน้ำเมืองเขมร ที่เกาะปูโลคอนดอนี้มีท่าเรือที่เปนท่าดี ๓ แห่ง มีลำคลองเล็ก ๆ หลายคลอง และมีแม่น้ำใหญ่ ๑ แม่น้ำ ทั้งต้นหมากรากไม้เขียวสดงดงามที่สุดจะหาแห่งใดในโลกนี้สู้ไม่ได้ บรรดาเรือต่าง ๆ ซึ่งมาจากเมืองจีน เมืองยี่ปุ่น เมืองตังเกี๋ย เมืองมาเก๊า เมืองมานีลา เมืองญวน ซึ่งต้องการทำการค้าขายในฝ่ายอินเดีย ต้องผ่านมาหน้าเกาะนี้และเฉียดเข้ามาใกล้ที่สุดทุกลำ และเรือค้าขายของพวกอังกฤษและฮอลันดาซึ่งมาจากเมืองอินเดียและจะไป ค้าขายทางทะเลจีน ก็ต้องผ่านเกาะนี้ทั้งไปและมาเหมือนกัน และถ้าเราได้ตั้งอยู่ที่เกาะนี้แล้ว ก็เท่ากับได้ช่องซอนดาและช่องมาลากาไว้ในอำนาจของเราเหมือนกัน อีกประการ ๑ ท่านจะต้องคิดดูด้วยว่า เราคงจะได้สินค้าเมืองเขมรและเมืองลาวเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งมีสินค้ามากนับว่าเปนการใหญ่อยู่จริงอยู่สินค้าเมืองเขมรและเมืองลาวก็คล้าย ๆ กับสินค้าในเมืองไทยแต่ในเมืองเขมรและเมืองลาวยังมีสินค้าที่แปลกกว่าของไทยหลายอย่าง เช่น ทองคำ กำยาน ชมดเชียง ทับทิม งาช้าง ไม้อีเกอล์วูดเปนต้นและยังมีสินค้าที่มีราคาอย่างอื่นอีกหลายอย่างด้วย ท่านจะคิดว่าอย่างไร ถ้ามีคน ๆ หนึ่งมาแนะนำแก่ท่าน ให้ลงทุนซื้อกานพลูเปนราคา ๕ อัฐ (ฝรั่งเศส) และจะได้กำไรตั้ง ๗๐๐ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) หรือมาแนะนำให้ท่านทำการให้พวกฮอลันดาต้องฉิบหายพินาศไปโดยไม่ต้องรบกันเลยดังนี้ และการที่จะทำให้เปนเช่นนี้ก็ไม่ต้อง

๙๓ ทำอะไรเลย ชั่วแต่ทำการค้าขายโดยไม่ต้องไปเอาของ ๆ ผู้ใด และซึ่งจะทำให้ท่านเปนใหญ่ในการสินค้าของทวีปยุโรปและอินเดียและในทะเลจีนด้วย ส่วนตัวข้าพเจ้าเองนั้นก็รู้สึกตัวอยู่ว่า ถ้าข้าพเจ้าอยู่แต่ในประเทศฝรั่งเศสและมิได้เห็นการงานด้วยตาของตัวเองดังข้าพเจ้าได้เห็นและทราบมาแล้ว ถ้าใครมาแนะนำแก่ข้าพเจ้าดังนี้ ข้าพเจ้าก็จะต้องลงความเห็นว่าผู้นั้นเปนบ้าเท่านั้นเอง เพราะฉนั้นขอท่านได้โปรดกรุณางดความเห็นเช่นนี้ไว้ก่อน และขอให้ท่านนักเสียเถิดว่า ถ้าท่านเหยียดเอาผู้นั้นเปนบ้าแล้ว จะเปนความคิดที่ผิดทีเดียว เพราะผู้ที่แนะนำมาเช่นนี้ เปนผู้ที่มีความรู้ความชำนาญจริง ๆ ท่านสังฆราชเดอเมเตโลโปลิศกับท่านบาดหลวงคณะเยซวิตทุกคน กับทั้งมองซิเออร์เดอลามาก็พร้อมกันมีความเห็นพ้องกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าอาจจะรับรองต่อท่านได้ว่า ถ้าข้าพเจ้าจะทำการสิ่งใดแม้แต่เปนเรื่องเล็กน้อย ข้าพเจ้าก็ต้องได้รับความเห็นของท่านเหล่านี้เสียก่อนทุก ๆ เรื่อง เพราะฉนั้นถ้าข้าพเจ้าทำดีหรือทำชั่ว ก็จะต้องติหรือชมท่านเหล่านี้จึงจะถูก แต่อย่างไรก็ตามเมื่อข้าพเจ้าได้ชี้แจงให้ท่านทราบถึงเรื่องเมืองเหล่านี้โดย ลเอียดแล้ว ท่านก็คงจะเห็นได้ว่าข้าพเจ้าคิดถูก และที่จะจัดการตามความเห็นของข้าพเจ้านั้นเปนการง่ายอย่างที่สุด พวกฮอลันดานั้นต้องนับว่ามีกำลังน้อยที่สุด เพราะเหตุว่ามุ่งหมายมากเกินไปอย่าง ๑ และอีกอย่าง ๑ มีที่ดินและบ้านเมืองที่จะต้องปกครองรักษามากเกินไปนัก จนที่สุดบ่าวของตัวเองพวกฮอลันดาก็สู้ไม่ได้ คือมีคน ๆ หนึ่งได้พาสมัคพรรคพวกหนีไปจากเมืองบาตาเวีย พวกฮอลันดา

๙๔ ได้จัดคนออกติดตามถึง ๑๑๐๐ คน แต่คนที่หนีนั้นได้สู้อย่างสามารถ จนที่สุดพวกที่ออกติดตามนั้นต้องแพ้ และเมื่อกลับเข้ามาถึงเมืองบาตาเวียก็เหลือเพียง ๘๐ คนเท่านั้น คือว่าต้องการรวบรัดเอาอะไรต่ออะไรเปนของตัวทั้งหมด ลงท้ายความโลภอันนี้กระทำให้พวกปอตุเกตและพวกฮอลันดาไม่ได้อะไรเลย ข้อนี้เปนเรื่องที่เราจะต้องระวังให้มาก ถ้าบริษัทฝรั่งเศสจะต้อวการมาตั้งห้างในเมืองนี้ และถ้ามีประสงค์จะทำให้พวกออลันดาฉิบหายแล้ว ก็ไม่เปนการยากอะไร ชั่วแต่บังคับให้พวกฮอลันดาส่งตัวชาวฝรั่งเศสมาให้เราเท่านั้นก็พอแล้ว เพราะกองทหารของพวกฮอลันดานั้นเปนคนชาวฝรั่งเศสเสีย ๓ ส่วนใน ๔ ส่วน และพวกฝรั่งเศสที่เปนทหารฮอลันดาก็คงจะยินดีเข้ามาหาบริษัทโดยไม่ต้องอ้อนวอนกันเลยทีเดียว เพราะพวกฝรั่งเศสเหล่านี้ได้รับความเดือดร้อนบีบคั้นจากพวกฮอลันดายิ่งกว่าทาสหรือสุนัขเสียอีก เมื่อการเปนดังนี้ข้าพเจ้าจึงเชื่อใจว่าพวกคนพื้นเมืองก็คงจะพร้อมกันช่วยกันไล่พวกฮอลันดาออกจากบ้านเมืองเปนแน่ และถ้าพวกฮอลันดาคิดจะต่อสู้พวกคนพื้นเมืองคงจะหลอกลวงจนพวกฮอลันดาอยู่ไม่ได้ทีเดียว ข้อความตามที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาทั้งนี้เปนความจริงทั้งสิ้น และผู้ที่รู้เรื่องของพวกฮอลันดาก็คงเล่าให้ท่านฟังเช่นนี้เหมือนกัน ส่วนพวกอังกฤษที่มาอยู่ในเมืองเหล่านี้นั้น คนพื้นเมืองไม่มีความนับถือเลย และเขาพูดกันว่าที่ฝั่งคอรอมันเดลและที่เมืองซูรัตนั้น เจ้าพนักงานไม่ยอมให้พวกอังกฤษออกจากเมืองเลย ถ้าคนใดมีประกันจึง


๙๕ จะออกไปได้ เพราะพวกอังกฤษเปนหนี้สินอยู่รอบตัวและไม่ใช้หนี้ด้วย ในส่วนพวกอังกฤษนั้นเราไม่ต้องวิตกหรือกลัวเกรงอย่างใด เว้นไว้แต่พระเจ้ากรุงอังกฤษซึ่งโปรดปรานอุดหนุนบริษัทอังกฤษจะมาขัดขวางเรา เท่านั้น แต่เราก็ไม่มีธุระอะไรที่เกี่ยวกับพวกอังกฤษเลย ที่จริงในเรื่องที่เกี่ยวด้วยพวกอังกฤษนั้น ท่านคงจะรู้สึกดีกว่าข้าพเจ้ามาก ข้าพเจ้าเปนแต่จะรับรองกับท่านได้อย่างเดียวเท่านั้นว่า ในเมืองนี้ไม่มีใครนับถือพวกอังกฤษเลย ฝ่ายพวกปอตุเกตซึ่งเปนคนโง่เขลา วางท่าทำภาคภูมินั้น พวกพื้นเมืองยังมีความเวทนาสงสารอยู่บ้าง แต่ในข้อนี้ไม่จำเปนที่ข้าพเจ้าจะต้องพูด นอกจากคน ๓ จำพวกนี้แล้ว ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะมีใครที่จะมาขัดขวางต่อการงานของเราได้ และฝ่ายพวกเจ้านายและพระเจ้าแผ่นดินทั้งหลายในเมืองเหล่านี้ ก็มีความหวังว่าพวกฝรั่งเศสคงจะได้มาตั้งอยู่ในแถบเหล่านี้ เพราะเจ้านายเหล่านี้มีความกลัวเกรงพวกฮอลันดานัก อนึ่งขอท่านอย่าได้วิตกเลยว่าความร้อนในเมืองเหล่านี้จะทำให้คนของท่านตายไปหมด ขอให้ท่านทราบเถิดว่าตั้งแต่เดือนมีนาคมตลอดจนถึงเดือนกันยายนเปนฤดูฝนและอากาศครึ้มอยู่เสมอ แดดก็ร้อนจริงแต่ในเวลาที่พระอาทิตย์เดินอ้อมทางทิศเหนือก็ไม่ร้อนเหลือเกินอะไร ในปลายฤดูสะปริงและฤดูออตัมอากาศร้อนจริงอยู่แต่ไม่ใช่ร้อนจนถึงกับจะ ทนไม่ได้ แต่ในฤดูหนาวนั้นพอสรวมเสื้อสักหลาดได้อย่างสบาย ๆ


๙๖ เนื้อสัตว์ที่เปนอาหารนั้นไม่สู้จะดีเหมือนที่ประเทศฝรั่งเศส และผลไม้นั้นมีตลอดปี และเปนผลไม้ที่พอใช้ได้ ในเรื่องการก่อสร้างนั้นขอให้ท่านทราบเถิด ว่าการก่อสร้างซึ่งในประเทศฝรั่งเศสจะต้องเสียเงินถึง ๖ หรือ ๗ ปอนด์นั้น ในเมืองนี้คิดเปนราคาเพียง ๔๐ อัฐเท่านั้น ปูน อิฐ ไม้ และค่าแรงคนทำงานเปนของที่มีราคาถูกอย่างที่สุด ถ้าจะต่อเรือในเมืองนี้ก็จะทำได้ดีและงามที่สุดจะหาที่เปรียบไม่ได้ เพราะในเมืองนี้มีไม้อย่างดีซึ่งจะหาไม้ในเมืองอินเดียและเมืองซูรัตมาเทียบไม่ได้ ด้วยไม้ในเมืองอินเดียสู้เมืองนี้ไม่ได้ ในเมืองนี้พวกไทยมีเรือซึ่งได้ต่อไว้และได้ใช้มาถึง ๗๐ หรือ๘๐ปีมาแล้วข้อนี้นายเรือๆ เซนต์หลุยได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าไม้กระดานบางแผ่นในเมืองนี้ยาวจนเกือบจะไม่น่าเชื่อ และไม้นั้นก็เปนไม้ที่แข็งอย่างที่สุด เกลี้ยงเกลาไม่มีตาหรือตำหนิอย่างใดเลย ส่วนเหล็กที่มีอยู่ในเมืองนี้เปนเหล็กเนื้ออ่อน จะทำตะปูไม่ได้แต่ถ้าจะทำของหยาบ ๆ ใหญ่ ๆ แล้ว เหล็กนี้เปนเหล็กที่ดีใช้ได้เพราะเปนเหล็กเหนียวไม่เปราะ สิ่งสำคัญที่ขาดในเมืองนี้ก็คือช่างไม้ หาไม่ได้ทีเดียว และเครื่องประกอบเรือเช่นเสาใบก็ไม่มีเหมือนกัน การหล่อปืนนั้น ถ้าจะหล่อในเมืองนี้ก็เปนราคาถูกกว่าหล่อในประเทศฝรั่งเศสมาก เพราะทองแดงซึ่งเปนทองแดงอย่างดีที่สุดนั้น ซื้อขายกันเปนราคาเพียงปอนด์ละ ๘ อัฐเท่านั้น ทองแดงนี้มาจากเมืองยี่ปุ่นและยังมีทองแดงซึ่งมาจากเมืองมอญยังถูกกว่านี้ก็มี


๙๗ เพราะเหตุฉนี้ ถ้าท่านจะลงทุนเพียง๒๐๐,๐๐๐หรือ๓๐๐,๐๐๐แฟรงแล้วบริษัทก็จะทำการได้โดยสดวก ไม่ต้องเกรงกลัวใครเลย และคงจะได้กำไรเปนอันมาก แต่ข้าพเจ้าขอบอกกล่าวให้ท่านทราบ ว่าถ้าไม่ได้ค้าเครื่องเทศแล้วก็จะทำการค้าขายอย่างอื่นไม่ได้ เพราะในเมืองนี้ไม่มีสินค้าอย่างใดเลย และถ้าปล่อยให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ทำการตามชอบใจแล้ว ก็ยิ่งจะไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์อวดอ้างว่า การงานทั้งปวงของบริษัทต้องผ่านมองซิเออร์คอนซตันซ์ทั้งสิ้น แต่ความจริงการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เปนธุระแก่การของบริษัทนั้น ก็เพื่อประโยชน์ของตัวเอง หาใช่เพื่อประโยชน์ของบริษัทไม่ ข้อนี้ข้าพเจ้าได้ชี้แจงไปยังท่านผู้อำนวยการของบริษัทแล้ว ด้วยข้าพเจ้ามีโอกาสทได้พบกับมองซิเออร์คอนซตันซ์บ่อย ๆ มอง ซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้บอกกับข้าพเจ้าว่า พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงพระราชดำริห์ไว้นานแล้ว ว่าจะพระราชทานเมืองตะนาวศรีให้แก่บริษัทซึ่งจะเปนการสดวกสำหรับการค้าขายของฝั่งคอรอมันเดลเปนอันมาก ทั้งสดวกสำหรับค้าขายติดต่อกับเมืองมอญด้วย เพราะเมืองมอญนั้นเปนเมืองที่มีสินค้าบริบูรณ์กว่าเมืองนี้มาก แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าเมืองตะนาวศรีก็ดี เมืองสงขลาก็ดี คงจะไม่เปนประโยชน์ต่อบริษัทเท่าไรนัก และถ้าบริษัทจะลงทุนทำการค้าขายจริง ๆ แล้ว ถ้าจะไปตั้งที่เกาะปูโลคอนดอหรือที่เกาะปรินซ์ซึ่งอยู่ในช่องซอนดาแล้ว บริษัทก็คงจะได้รับประโยชน์มากกว่าไปตั้งที่เมืองสงขลาหรือเมืองตะนาวศรีตั้ง ๑๐๐ เท่า เพราะที่ ๑๓

๙๘ เกาะนี้ที่บริษัทจะได้ค้ากานพลูและลูกจันทน์เทศ ซึ่งจะกระทำให้บริษัทได้กำไรนับเปนล้าน ๆ และในเกาะอีกแห่ง ๑ บริษัทจะได้ค้าพริกไทพอแก่ความต้องการทีเดียว ข้าพเจ้าขอรับรองว่าถ้าเราได้ไปตั้งอยู่ในเกาะ ๒ แห่งนี้แล้ว เราจะทำการสดวกทุกอย่างไม่ต้องพึ่งพาหรืออาศรัยผู้หนึ่งผู้ใดเลย ส่วนพริกไทที่ไทยสัญญาจะให้เรานั้น ข้าพเจ้าเชื่อว่าทำอย่างไร ๆ ก็ไม่มีพริกไทจริง เพราะข้าพเจ้าก็ได้พยายามนักหนาที่จะไปดูพริกไท แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คอยกันอยู่เสมอไม่ยอมให้ข้าพเจ้าไปเลย เพราะกลัวว่าข้าพเจ้าจะไปเห็นว่าไม่มีพริกไทจริง และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ไม่สู้ชอบข้าพเจ้านักด้วย เพราะข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้เดินสายตรงเท่าไรนัก โดยเหตุทั้งปวงเหล่านี้ ถ้าเราจะทำการค้าขายแล้ว เราจำต้องเอาสิ่งที่เราจะทำด้วยตัวของเราเองได้เปนหลักเกณฑ์จึงจะได้ แต่ส่วนที่เกาะปรินซ์นั้น ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเราจะได้พริกไทเปนจำนวนมากพอความต้องการของเรา และพริกไทที่ดีที่สุดก็มาจากแถบเหล่านี้ คือเมืองบันตัมและเกาะซูมาตรา อันเปนพริกไทจะหาที่ไหนในเมืองอินเดียสู้ไม่ได้ เขาพูดกันว่าพริกไทในเมืองไทยเปนพริกไทที่ไม่ดี เพราะเหตุว่าถูกน้ำถ้วมอยู่เสมอ ๆ แต่พริกไทในเมืองนี้ข้าพเจ้ายังไมได้เห็น เพราะฉนั้นข้าพเจ้าจะพูดให้แน่ลงไปว่าเปนพริกไทดีหรือไม่ดียังไม่ได้ ต่างว่าพริกไทในเมืองไทยจะมีจำนวนมากกว่าที่เราจะต้องการ สัก ๑๐๐ เท่าก็ดี พอไทยขัดใจต่อเราสักเล็กน้อย ไทยจะไม่ส่งพริกไทให้เราเสียก็ได้ ถ้าหากว่าเราจะขืนเอาพริกไทให้จงได้และจะตองใช้

๙๙ กำลังบ้าง ไทยก็คงจะทำลายต้นพริกไทเสียเท่านั้น เมื่อการเปนดังนี้เราก็จะต้องตั้งต้นใหม่ร่ำไป หรือมิฉนั้นเราก็จะต้องง้อไทยอยู่เสมอ และในระหว่างนั้นเราก็จะฉิบหายลงไปทุกที และโสหุ้ยที่เราได้จำหน่ายไปก็จะไม่ได้ผลอะไรกลับคืนมาเลย แต่ถ้าหากว่าเราได้ไปตั้งอยู่ตามเกาะที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้ว เราก็จะไม่ต้องง้อใครและไม่ต้องอาศรัยพึ่งพาใคร เพราะเกาะเหล่านี้เปนเกาะที่ไม่มีผู้มีคน เราเห็นการอย่างใดที่จะเปนประโยชน์ เราก็อาจจะทำได้ตามชอบใจของเราทุกอย่างดังนี้ ในเมืองไทยนั้น มิใช่ไทยรับจะให้อะไรต่ออะไรแก่เราเปล่า ๆ เมื่อไร ถ้าเราทำการไม่เปนที่พอใจของไทยแล้ว ไทยก็คงจะเรียกพวกอังกฤษคงจะคอยทำการขัดขวางเรอยู่เสมอ มองซิเออร์คอนซตันซ์คิดทำการอย่างไรนั้น ข้าพเจ้าเข้าใจได้ดีทีเดียว คือว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์คิดว่า พริกไทคงจะทำให้พระเจ้ากรุงสยามมีกำไรเท่านั้นล้าน แต่กำไรที่จะได้จากสินค้าในเมืองของตัวเองยังไม่พอใจ ยังคิดจะหากำไรในสินค้าที่มาจากเมืองจีน เมืองยี่ปุ่น เมืองตังเกี๋ย และเมืองอื่น ๆ ต่อไปอีก ดังมีตัวอย่างมาในปีนแล้วซึ่งมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้หากำไรได้ถึง ๕๐ หรือ ๖๐ เปอเซนต์ แต่ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าได้ชี้แจงไปยังท่านผู้อำนวยการของบริษัทอย่างลเอียดแล้ว การที่ข้าพเจ้าได้มีจดหมายมายังท่านและได้กล่าวถ้อยความต่าง ๆ โดยไม่ได้ยับยั้งเช่นนี้ ขอท่านได้โปรดให้อภัยแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด แต่ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวเช่นนี้ ก็เพราะข้าพเจ้าเสียใจนักที่ได้เห็นว่าเราดำเนินการ


๑๐๐ ไม่ถูก และในข้อนี้มิช้าก็เร็ว ท่านก็คงจะรู้สึกว่าข้าพเจ้าได้กล่าวล้วนแต่ความที่จริงทั้งสิ้น และท่านก็คงจะรู้สึกว่าน้ำใจของข้าพเจ้ามิได้มุ่งหมายอย่างอื่น นอกจากจะคิดมุ่งทำการให้เปนประโยชน์แก่นาย และแก่บ้านเกิดเมืองนอนของข้าพเจ้าเท่านั้น บางทีข้าพเจ้าจะนึกได้ว่าการที่จะปลูกต้นจันทน์เทศและต้นกานพลูนั้นจะเปนการยากอย่างที่สุด เพราะฉนั้นจึงควรที่ท่านจะต้องทราบไว้ว่าเพราะความที่ต้นจันทน์เทศและต้นกานพลูเปนง่ายนัก จนพวกฮอลันดาได้รับความลำบากอย่างที่สุดที่จะทำลายต้นเหล่านี้ และส่วนต้นจันทน์เทศและต้นกานพลูซึ่งรักษาไว้สำหรับเก็บผลนั้น พวกฮอลันดาได้รับความลำบากที่จะต้องระวังรักษาอย่างกวดขัน ด้วยกลัวว่าจะมีคนมาลักเอาไปปลูก เพราะปลูกต้นไม้อย่างนี้ได้ประโยชน์มากกว่าต้นไม้ อย่างอื่น เพราะของอย่างอื่นนั้นถ้าได้ราคาหาบละ ๒ หรือ ๓ อัฐ ของ ๒ สิ่งนี้คงได้ราคาถึง ๗๐๐ ปอนด์ เพราะลูกจันทน์เทศและกานพลูได้จำหน่ายออกไปทั่วโลกโดยราคายืนตัวอยู่แล้ว นอกจากการที่พวกออลันดาต้องพิทักษ์รักษาต้นกานพลูและต้นจันทน์เทศตลอดชายทะเลตามเกาะเหล่านี้แล้ว พวกฮอลันดายังเอาดอกกานพลูและลูกจันทน์เทศแช่น้ำเค็มเสียเพื่อป้องกันมิให้งอกได้อีกต่อไปด้วย แต่มีชาวฝรั่งเศสซึ่งอยู่ที่เมืองบาตาเวียคน ๑ ได้รับรองว่าจะส่งเมล็ดกานพลูและลูกจันทน์เทศมาให้ข้าพเจ้า ให้พอความต้องการของเรา และมิได้คิดเอาราคาอย่างใดเลย และชาวฝรั่งเศสผู้นั้นได้ยืนยันว่าในแถบเมืองเหล่านี้ ต้นไม้อย่างนี้ขึ้นงอกงามได้ทุกแห่ง ข้อนี้ก็น่าเชื่อว่าจะเปนความจริง ไม่ฉนั้นเหตุใด

๑๐๑ พวกฮอลันดาจึงจะต้องระวังนักหนาเล่า แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้าชาวฝรั่งเศสคนนี้จะส่งกานพลูและจันทน์เทศมาให้ตามที่รับปากไว้ไม่ได้ก็ดี เมื่อเราจะต้องการเมื่อใดก็เอาเงินให้แก่พวกแขกมลายูสัก ๒๐ หรือ ๓๐ เหรียญสะเปญ ก็เปนอันต้องได้เหมือนกัน เพราะพวกแขกมลายูคงจะยอมตายเสียก่อนที่จะไม่เอาสิ่งของเหล่านี้มาส่งแก่เรา เพราะพวกแขกมลายูเกลียดชังพวกฮอลันดานัก จึงคอยหาโอกาสที่จะคอยแก้แค้นอยู่ทุกเมื่อ โดยเหตุที่พวกฮอลันดากดขี่พวกแขกมลายูเหลือเกิน พวกบาดหลวงคณะเยซวิตทุกคน มีความเห็นพ้องกับข้าพเจ้าในเรื่องเกาะปูโลคอนดอนี้ พวกบาดหลวงจึงได้มีจดหมายไปยังบาดหลวงแวยู ขอให้บาดหลวงแวยูไปพูดกับบาดหลวงเดอลาเชซ เพื่อให้บาดหลวงเดอลาเชซกราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ขอพระราชานุญาตให้ไปตั้งที่เกาะปูโลคอนดอนี้ต่อไป การที่บาดหลวงตาชาได้ไปทำที่เมืองฝรั่งเศสนั้นกระทำให้พวกบาดหลวงเหล่านี้มีความเสียใจเปนอันมาก เพราะถูกคนเยาะเย้ยมาก ด้วยเหตุที่ไทยได้สัญญาจะให้อะไรต่ออะไรต่าง ๆ อันน่าดูน่าฟังมาก แต่มาถึงบัดนี้ก็ยังไม่เปนอะไรขึ้นได้เลย ก็คงอยู่เท่ากับวันที่พวกบาดหลวงได้มาถึงเมืองไทยเท่านั้นเอง เมื่อข้าพเจ้าได้พบกับท่านบาดหลวงเหล่านี้คราวใด ก็พูดกันถึงแต่เรื่องเกาะปูโลคอนดออย่างเดียวเท่านั้น และท่านบาดหลวงเหล่านี้ก็พอใจในเกาะปูโลคอนดอนัก จนถึงกับออกปากว่าถ้ามีโอกาสพูดแล้ว ก็จะได้แนะนำให้ท่านเอาเกาะปูโลคอนดอและเกาะปรินซ์เท่านั้น และถ้าได้ไปตั้งอยู่ในเกาะ ๒ แห่งนี้เปนหลักถานแล้ว ก็จะเพียงพอทุกอย่างสำหรับทำการค้าขายกับเมืองเหล่านี้ได้ทั่วไป

๑๐๒ ถ้าเราจะไปตั้งอยู่ในที่อื่นแล้ว กำลังเราก็จะน้อยลงไปทุกที เพราะต้องเปลืองโสหุ้ยมากขึ้น อีกประการ ๑ ถ้าเราได้ไปอยู่ที่เกาะปูโลคอนดอและเกาะปรินซ์แล้ว เจ้านายและราษฎรในเมืองไทยและเมืองใกล้เคียงก็คงจะไม่เกลียดเรา เพราะเราไม่ได้ไปเอาของ ๆ ใคร และเราก็ไม่ได้ไปรบกวนเขาอย่างใด แต่เรากลับจะได้ทำการค้าขายกับเขา และเมื่อเขาเกลียดพวกฮอลันดาเพียงไร เราก็คงจะได้รับประโยชน์ในส่วนนั้นมากขึ้นอีกเพียงนั้น ข้าพเจ้าได้เรียนท่านครั้ง ๑ แล้วว่าข้าพเจ้ามีความประสงค์จะไปเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อไปดูพริกไท และว่าข้าพเจ้ามีเรือเล็กอยู่ลำ ๑ ซึ่งได้เตรียมไว้สำหรับจะไปพร้อมอยู่แล้ว ครั้นเมื่อวานนี้ข้าพเจ้าได้บอกกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่าข้าพเจ้าหยากจะไปเกาะบอนีโอเรื่องที่ข้าพเจ้าจะไปเกาะบอนีโอนั้น เปนเรื่องที่พวกบาดหลวงคณะเยซวิตกับข้าพเจ้าคิดอุบายไว้ว่าข้าพเจ้าจะไปซื้อเพ็ชร์ แต่ความจริงข้าพเจ้าหามีความรู้ในเรื่องเพ็ชร์พลอยอย่างใดไม่ ข้าพเจ้าจึงได้บอกกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่าข้าพเจ้าจะต้องการไปซื้อเพ็ชร์ และทำการค้าขายส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกาะบอนีโอด้วย และข้าพเจ้าได้ยกเหตุผลอย่างอื่น ๆ ชี้แจงต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ เพื่อเปนข้อแก้ตัวมิให้เห็นในอุบายของข้าพเจ้า แต่มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็รู้สึกว่า การที่ข้าพเจ้าคิดทั้งนี้ก็เพื่อประสงค์จะไปดูพริกไทที่เมืองนครศรีธรรมราช ( และเรื่องพริกไทนี้ คงจะมีอะไรสักอย่าง ๑ เปนแน่ ) มองซิเออร์คอนซตันซ์จึงได้ตอบข้าพเจ้าว่า เกาะบอนีโอนั้นเปนเมืองที่ร้ายกาจอย่างที่สุด และไม่มีหนทางจะทำ

๑๐๓ การค้าขายได้เลย แต่การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์พูดดังนี้ ข้าพเจ้าทราบได้ดีว่า ความจริงนั้นเปนสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำอธิบายของมองซิเออร์คอนซตันซ์ เพราะในปีนี้เองพระเจ้ากรุงสยามได้จัดให้ไปทำการค้าขายกับเกาะบอนีโอและได้ทรงมีกำไรกว่า ๑๐๐ เปอเซนต์ และข้าพเจ้าทราบต่อไปด้วยว่า พระเจ้ากรุงสยามกำลังทรงพระราชดำริห์จะให้ออกไปตั้งห้างที่เกาะบอนีโอนี้ด้วยเสียซ้ำไป ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าไม่เปนการสมพระเกียรติยศของพระเจ้าแผ่นดินที่จะทำเช่นนี้เลย เพราะการค้าขายที่จะทำได้ในเกาะนี้ไม่เกินปีละ ๒๐,๐๐๐ ปอนด์เลย ครั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้พูดจาทุกอย่างที่จะกีดกันไม่ให้ข้าพเจ้าไปนั้นแล้ว มองซิ เออร์คอนซตันซ์จึงได้แนะนำว่า ถ้าข้าพเจ้าเห็นชอบด้วยแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์กับข้าพเจ้าจะได้พร้อมกันบรรทุกสินค้าลงเรือลำนี้เอง แล้วให้ส่งเรือลำนี้ไปค้าขายที่เกาะตีมอร์ต่อไป เวลานั้นข้าพเจ้ากำลังเอาใจมองซิเออร์คอนซตันซ์ทุกอย่าง เพราะเห็นว่ายังจะต้องอาศรัยเขาอยู่มากข้าพเจ้าจึงได้ยอมตามคำแนะนำของมองซิเออร์คอนซตันซ์ แต่ความจริงข้าพเจ้ามิได้เต็มใจเลย เพราะข้าพเจ้าได้นัดกับบาดหลวงคณะเยซวิตไว้แล้วว่าจะได้เลยไปที่เกาะปูโลคอนดอด้วย จนถึงกับหัวหน้าบาดหลวงจะไปกับข้าพเจ้า และจะอ้างเหตุว่าจะไปตรวจอะไรต่ออะไรที่เส้นกลางโลกและได้คิดกันไว้แล้วด้วย ว่าเมื่อใดไปแล้วจะได้ไปทำแผนที่ที่เกาะต่าง ๆ ในช่องซอนดา และทำแผนที่ท่าเรือต่าง ๆ และตรวจการทุก ๆ อย่าง เพื่อจะได้รายงานส่งไปให้ท่านทราบ เพื่อเปนหนทางที่ท่านจะได้ดำริห์ถึงการอันจะทำได้ง่าย และซึ่งจะเปนการทำให้บริษัท

๑๐๔ ตั้งตัวอยู่ได้ เพราะถ้าเราคงจะขืนตั้งอยู่ในเมืองไทย และทำแต่ตามความต้องการของมองซิเออร์คอนซตันซ์แล้ว ข้าพเจ้าอาจยืนยันได้ว่า ใน ๑๐ ปีข้างหน้าเราก็คงจะต้องขาดทุนเรื่อยไป หามีกำไรอย่างใดไม่เลยถ้ามีเรือพอที่จะเดินสารไปได้ ข้าพเจ้าก็คงจะคิดไปจัดการตามที่คิดไว้นั้นให้จงได้ ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านราชทูตคงจะได้เล่าให้ท่านฟังแล้ว ว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้คิดถึงเรื่องที่จะทำการค้าขายอย่างไร คือว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องการให้บริษัทส่งต้นทุนมาจากประเทศฝรั่งเศส เปนจำนวนทุนมาก คือจะให้ส่งเปนเนื้อเงินสดครึ่ง ๑ อีกครึ่ง ๑ นั้น ให้ส่งเปนสินค้า ส่วนมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นรับจะส่งสินค้าเมืองจีนให้แก่บริษัท ซึ่งจะกระทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้กำไรไม่ต่ำกว่า ๕๐ หรือ ๖๐ เปอเซนต์ และมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้อ้างเหตุผลต่อท่านราชทูตว่าบริษัทจะได้กำไรพอสมควร ซึ่งจะเปนกำไรที่จะต้องได้เปนแน่นอน ในเรองนี้ข้าพเจ้าได้ชี้แจงไปให้ท่านผู้อำนวยการของบริษัทเห็นแล้ว่า ถ้าได้จัดการตามคำแนะนำของมองซิเออร์คอนซตันซ์เช่นนี้แล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะได้กำไรจากบริษัทกว่า ๑๐๐ เปอเซนต์ ข้อนี้ข้าพเจ้าอาจจะยกเหตุมาอ้างเปนพยานได้โดยที่ข้าพเจ้าได้ส่งไหมไปยังประเทศฝรั่งเศส เปนพยานอยู่ในตัวแล้ว คือไหมนี้ข้าพเจ้าได้ซื้อไว้เปนราคา ๒,๐๐๐ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) และที่ประเทศฝรั่งเศสคงจะขายได้เปนราคาไม่ต่ำกว่า ๔๕,๐๐๐ หรือ ๔๖,๐๐๐ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) และตามราคาที่ข้าพเจ้าได้ซื้อไว้นั้น ก็แพงกว่าราคาที่ซื้อขายกันในเมืองจีนถึง ๓๕ เปอเซนต์แล้ว

๑๐๕ เมื่อข้าพเจ้าได้มาสอบสวนทราบถึงการค้าขายต่าง ๆ เช่นนี้แล้ว ข้าพเจ้าอาจรับรองต่อท่านได้ว่า สินค้าอย่างอื่น ๆ นอกจากสินค้าไหมก็เปนเช่นนี้เหมือนกัน ข้าพเจ้าได้รายงานให้ท่านผู้อำนวยการของบริษัททราบเหมือนกันถึงการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ทำการกดขี่ข่มเหงพวกฝรั่งเศสต่าง ๆ ถ้าข้าพเจ้าไม่เกรงว่าจะเปนเครื่องกวนใจท่านแล้ว ข้าพเจ้าก็จะได้เล่าให้ท่านฟังโดยลเอียด แต่ท่านผู้อำนวยการของบริษัทคงจะได้เล่าให้ท่านฟังถึงเรื่องเหล่านี้โดยตลอดแล้ว พวกฝรั่งเศสที่อยู่ในเมืองนี้โดยมากได้ถูกมองซิเออร์คอนซตันซ์กดขี่ข่มเหงดุจตัวเปนผู้ร้ายอย่างสำคัญ และที่จริงพวกฝรั่งเศสเหล่านี้ก็หามีความผิดอย่างใดไม่เลย บางคนก็ถูกขู่ว่าจะต้องติดคุก บางคนก็ถูกใส่ขื่อเสีย ๖ เดือน บางคนก็ถูกใส่ตรวนและเอาเชือกล่ามคอก็มี มองซิเออร์เดอฟอแบงนั้นได้ถูกขับไล่และเนรเทศออกจากพระอาณาเขตร์ และมองซิเออร์เดอฟอแบงกับคนอื่น ๆ ที่ถูกทำโทษนั้นก็หาได้ทำความผิดอย่างใดไม่เลย ที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ทำการเช่นนี้ก็ประสงค์อย่างเดียวแต่จะอวดอำนาจเท่านั้น เพราะมองซิเออร์คอนซตันซ์ทำท่าทางกิริยาเหมือนตัวเปนพระมหากษัตริย์ และตั้งตัวว่าเปนที่ ๒ ของพระเจ้าแผ่นดิน บรรดาคนทั้งหลายก็ยกย่องเรียกมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า เอกซเลนซี ซึ่งเปนการพอใจของมองซิเออร์คอนซตันซ์เปนอันมาก และถ้าใครไม่ยกย่องมองซิเออร์คอนซตันซ์ดังว่ามานี้แล้ว ผู้นั้นก็คงจะต้องถูกติดคุกกว่า ๖ เดือน มีชาวอังกฤษ ๑๔

๑๐๖ คน ๑ เปนนายเรือ ๆ อังกฤษจอดอยู่มราบางกอก ได้เรียกมองซิเออร์คอนซตันซ์ว่า คนชาติกริก พอความทราบถึงมองซิเออร์คอนซตันซ์ ๆ ก็ให้คนลงไปตามนายเรือคนนั้นที่บางกอกมาทำโทษเสีย และเพื่อจะรักษาเกียรติยศไว้นั้น มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็มีทหารประจำตัวอยู่กอง ๑ และมีทหารเฝ้ายามอยู่ที่ประตูบ้านเสมอทุกวันด้วย การที่ข้าพเจ้าได้บอกความเห็นต่าง ๆ และแนะนำมายังท่านเช่นนี้ขอท่านได้โปรดให้อภัยแก่ข้าพเจ้าด้วย แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าท่านจะทราบไม่ได้ว่า เหตุการณ์ในเมืองนี้มีอย่างไรบ้าง จึงจำเปนที่ข้าพเจ้าต้องเล่าและแนะนำเพื่อท่านจะได้ทราบไว้ เพราะถ้าท่านจะส่งคนให้มาอยู่ในเมืองนี้แล้ว คนเหล่านั้นจะต้องเปนผู้ดีและเปนคนที่สุภาพเรียบร้อยจึงจะได้ มิฉนั้นก็อย่าส่งคนมาเลยจะดีกว่า ในเรื่องมองซิเออร์เดอฟอแบงนั้น ในชั้นเดิมพวกเราก็วิตกว่ามองซิเออร์เดอฟอแบงจะเอาใจออกหากจากพวกเราเสียด้วย แต่ภายหลังมองซิเออร์เดอฟอแบงก็ได้รู้สึกตัวว่าผิดและมองซิเออร์เดอฟอแบงนี้เองคงจะได้เล่าควงมจริงต่าง ๆ ให้ท่านฟังต่อไป ข้าพเจ้าได้เปนปากเสียงอย่างใหญ่โตกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ ในข้อที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำการอยุติธรรมต่าง ๆ ต่อพวกฝรั่งเศส แต่มาบัดนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์กับข้าพเจ้าได้ปรองดองกันดีกว่าแต่ก่อน นี้แล้ว จนถึงกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ออกปากพูดกับพวกบาดหลวงว่าหยากจะเปนเพื่อนอย่างสนิทกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ได้ตอบว่า ถ้าจะเปนเพื่อนกับข้าพเจ้าก็ได้ไม่ขัดข้องอะไร แต่ความจริงถ้าการอย่าง


๑๐๗ ใดเกี่ยวแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวของมองซิเออร์คอนซตันซ์แล้ว มิใช่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะเห็นแก่ไมตรีที่มีกับข้าพเจ้าเมื่อไร แต่ก็คงจะหาประโยชน์ส่วนตัวเช่นที่เคยทำมาอยู่เสมอมิได้เว้นเลย เมื่อเร็ว ๆ นี้เองมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ได้เอาสินค้าซึ่งเราได้ลงทุนซื้อด้วยกัน ออกขายตามราคาที่พอใจของตัว และหาได้บอกกับข้าพเจ้าสักคำเดียวไม่ อนึ่งท่านควรจะต้องทราบไว้ว่า การค้าขายในเมืองจีนนั้นได้เปิดให้คนค้าขายได้ทั่วไป เจ้าพนักงานจีนเปนแต่เก็บ ๑๐ เปอเซนต์ในสินค้าทั้งปวงที่เข้าออกเท่านั้น จากเมืองจีนนั้นจะไปเกาะปูโลคอนดอภายใน ๑๕ วันก็ถึง และขากลับก็กินเวลาเท่ากัน ข้อลำบากในการเดินเรือก็มีอยู่ในมรสุม เพราะต้องคอยเวลามรสุมจึงจะไปมาได้ แต่ข้อนี้ข้าพเจ้าเชื่อว่าคงจะเปนด้วยคนพื้นเมืองเหล่านี้จะไม่เข้าใจวิธีเดิน เรือ และถ้าลมไม่พัดมาข้างท้ายเรือแล้ว พวกนี้ก็คงจะไม่สามารถแล่นใบไปได้ ในเมืองจีนนั้นมีสินค้าทุก ๆ ชนิด และสินค้าที่จะส่งไปจำหน่ายในประเทศฝรั่งเศสนั้น คงจะได้กำไรในราว ๑๓๐ ถึง ๑๔๐ เปอเซนต์ข้าพเจ้าเชื่อว่าสินค้าทางเมืองตังเกี๋ยคงจะได้กำไรอย่างนี้เหมือนกัน และในปีนี้ข้าพเจ้าได้ส่งสินค้าไปทดลองดูเปนราคา ๙,๐๐๐ ถึง ๑๐,๐๐๐ปอนด์ (ฝรั่งเศส) แล้ว พวกอังกฤษจะประกาศสงครามกับพวกแขกมัว ซึ่งจะกระทำให้การค้าขายทางเมืองซูรัตเสียหายเปนอันมาก เรื่องนี้ข้าพเจ้าได้ทราบมาจากมองซิเออร์คอนซตันซ์ และมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เล่าให้ข้าพเจ้า


๑๐๘ ฟังต่อไป ว่าพวกฮอลันดาได้ไปยึดเมืองมาซูลีปาตำไว้แล้ว และได้ให้เวลาแก่อังกฤษสำหรับยกออกจากเมืองเพียง ๑๕ วันเท่านั้น การที่พวกฮอลันดาทำแก่อังกฤษเช่นนี้ ก็ดำเนินวิธีอย่างเดียวกับเมื่อครั้งฮอลันดาไปยึดเมืองบันดำ และที่เปนเช่นนี้ก็อาจจะทำให้เกิดการเสียหายแก่เมืองปอนดีเชรีเปนอันมาก เพราะพวกนี้คงจะเปนใหญ่ในการสินค้าตลอดฝั่งคอรอมันเดล การที่ข้าพเจ้าได้มีจดหมายมายังท่านเช่นนี้ ขอท่านได้โปรดให้อภัยแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด และที่ข้าพเจ้ากล้าพูดออกความเห็นต่าง ๆ นั้น ก็เพราะข้าพเจ้าได้รับความแนะนำมาจากคนที่ฉลาดและที่มีความรู้ซึ่งมิได้มุ่งหมายอย่างอื่นนอกจากจะหาความดีความเจริญให้แก่บ้านเกิดเมืองนอนของเขาเท่านั้น ข้าพเจ้าต้องขอเรียนให้ท่านทราบว่า พวกบาดหลวงคณะเยซวิตเห็นว่าการที่จะไปตั้งที่เกาะปูโลคอนดอเปนการที่เหมาะด้วยประการทั้งปวง จนถึงกับได้มีจดหมายไปถึงบาดหลวงเดอลาเชซว่าถ้าท่านคิดจะอุดหนุนบริษัทแล้ว ก็ขอให้พวกบาดหลวงได้ไปอยู่ที่เกาะนี้เถิด ข้าพเจ้าลืมเรียนท่านไปว่า ข้าพเจ้าได้ส่งแผนที่เกาะปูโลคอนดอมายังท่าน ๑ แผ่น ซึ่งเปนแผนที่ที่พวกบาดหลวงเยซวิตรับรองว่าดีพวกบาดหลวงได้ให้ข้าพเจ้าดูแผนที่เมืองต่าง ๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งเปนแผนที่ดีกว่าแผนที่ที่บริษัทมีอยู่แล้ว ข้าพเจ้าจะต้องการซื้อแผนที่เหล่านี้ไว้แต่เจ้าของไม่ขาย ข้าพเจ้าจึงต้องจัดการคัดลอกไว้เสียก่อน ข้าพเจ้า


๑๐๙ ไม่ทราบว่าท่านบาดหลวงได้แผนที่เหล่านี้มาแต่ไหน ข้าพเจ้าได้ตอบแทนพวกบาดหลวงโดยเอาสำเนาแผนที่เมืองจีนให้ ๑ แผ่น ส่วนต้นฉบับนั้น ข้าพเจ้าได้ส่งไปให้ท่านผู้อำนวยการของบริษัทพร้อมกับแผนที่เมืองบาตาเวียด้วยแล้ว ( เซน ) เวเรต์ กรุงศรีอยุธยา วันที่ ๕ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ.๑๖๘๖(พ.ศ. ๒๒๒๙)









๑๑๐ ข้อความบางตอนในจดหมายของมองซิเออร์คอนซตันซ์ตินฟอลคอน อรรคมหาเสนาบดีของประเทศสยาม ซึ่งเขียนฝากไปกับเรือเซนต์หลุยและเรือเลอคอช ถึงมองซิเออร์ฟรังซัวมาแตง ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัทฝรั่งเศสที่เมืองปอนดีเชรี ข้อความเหล่านี้ได้แปลจากภาษาปอตุเกตเปนภาษาฝรั่งเศส คัดจากฉบับที่ฝากมากับเรือเลอคอช ซึ่งมาถึงท่าปอตหลุยเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม .ศ. ๑๖๘๗ ( พ.ศ. ๒๒๓๐ ) จดหมายลงวันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ )

ถ้าแม้ว่าในปีนี้บริษัทจะไม่ส่งเรือไปประเทศฝรั่งเศสแล้ว ก็ขอท่านได้โปรดเอาแต่ฉะเพาะของที่ข้าพเจ้าส่งมานี้บรรทุกลงเรือ คือใบชาไหมเมืองเบงกอลและไหมเมืองจีน บรรทุกลงเรือแต่ครึ่งเดียว และผ้าต่าง ๆ นอกจากนั้นขอท่านได้เก็บรักษาไว้จนกว่าจะได้มีโอกาสส่งได้ต่อไปเพราะข้าพเจ้าไม่หยากบรรทุกลงเรือลำเดียวซึ่งอาจจะฉิบหายลงไปได้ ทั้งไม่หยากทำให้เรือของบริษัทได้รับความลำบากด้วย ข้าพเจ้าขอบอกให้ท่านทราบว่า ใบชาที่ข้าพเจ้าส่งมานี้เปนใบชาอย่างดีที่สุด จะหาดีกว่านี้อีกเปนไม่ได้ และถ้าเวลาจะขายได้คอยหาโอกาสที่ดีสักหน่อยก็จะขายได้โดยราคาแพงมาก ได้มีชาวอังกฤษหลายคนบอกกับข้าพเจ้าว่า ใบชาชนิดนี้ขายได้ในประเทศอังกฤษน้ำหนัก ๑ ปอนด์เปนเงินถึง ๓ ปอนด์สเตอลิง เพราะฉนั้นเมื่อท่านจะมอบให้ใครขายใบชานี้แล้ว ขอได้โปรดกำชับให้เขาขายได้ราคาให้ดีด้วย ๑๑๑ จดหมายฉบับลงวันที่ ๒๖ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ )

ข้าพเจ้าขอโอกาสได้มีจดหมายมายังท่านกล่าวถึงเรื่องต่างๆ หลายเรื่อง แต่การที่ข้าพเจ้าจะได้พูดเรื่องอะไรต่อท่านนั้นก็โดยมีความไว้ใจท่าน เพราะเรื่องต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้าจะได้พูดมากับท่านนั้น เปนเรื่องที่เกี่ยวแก่พระมหากษัตริย์ซึ่งทรงโปรดปรานประเทศฝรั่งเศสนัก เพราะเหตุฉนั้นข้าพเจ้าจึงเชื่อว่า ท่านคงจะต้องการทราบเรื่องต่าง ๆ ให้ลเอียดขึ้นไป โดยข้าพเจ้าทราบอยู่เต็มใจว่าท่านเปนผู้ที่ใจดีหยากอนุเคราะห์แก่คนทั่วไป ความเชื่อใจอันนี้เองกระทำให้ข้าพเจ้ามีจดหมายมายงท่านในการส่วนตัวของข้าพเจ้าเองด้วย เพราะฉนั้นข้าพเจ้าขอบอกให้ท่านทราบว่า สินค้าต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้าได้ฝากมายังท่านโดยเรือเซนต์หลุยและเรือเลอคอชนั้น เปนสินค้าที่ข้าพเจ้าจะต้องการจำหน่ายสำหรับเปนทุนให้แก่บุตร์ของข้าพเจ้า ซึ่งในไม่ช้าจะได้ออกไปจุบมือท่าน สินค้าต่าง ๆ ดังที่ปรากฎอยู่ในบาญชีแล้วนั้น ขอท่านได้โปรดส่งในนามของข้าพเจ้า ไปยังท่านผู้อำนวยการของบริษัทที่ประเทศฝรั่งเศสเพื่อให้จัดการจำหน่ายขายต่อไป และขอท่านได้โปรดอ้อนวอนให้ท่านผู้อำนวยการของบริษัทได้รับบุตร์ข้าพเจ้า ๒ คนไว้ในงบของบริษัทด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายของบุตร์ข้าพเจ้านั้นก็ชักออกจากกำไรที่จะขายสินค้าต่าง ๆ เหล่านี้ได้ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดและให้สมนึกข้าพเจ้าแล้ว ก็ขอให้บริษัทได้เก็บรักษากำไรที่จะ

๑๑๒ ได้จากการจำหน่ายสินค้าไว้ จนกว่าข้าพเจ้าจะได้มีคำสั่งให้จัดการในเรื่องนี้อย่างไรต่อไป และข้าพเจ้าก็จะยอมเสียดอกเบี้ยให้แก่บริษัทตามอัตราที่บริษัทเคยเสียมาแล้ว แต่ในเรื่องนี้จะควรอย่างไรนั้น ข้าพเจ้าขอมอบธุระไว้ในท่านและท่านผู้อำนวยการของบริษัทที่ประเทศฝรั่งเศส แล้วแต่ท่านจะเห็นสมควรทุกประการ และเรื่องค่าระวางเรือกับค่าโสหุ้ยอย่างอื่น จะควรคิดเปนราคามากน้อยเท่าใดก็แล้วแต่ท่านจะเห็นควรทั้งสิ้น และเมื่อท่านได้จัดการไปประการใด ก็จะเปนสิ่งที่พอใจข้าพเจ้าทุกอย่าง ข้าพเจ้าได้จัดส่งเจ้า ๒ องค์บุตร์ของเจ้าเมืองมากาซาพร้อมกับของต่าง ๆ ด้วย เจ้า ๒ องค์นี้ข้าพเจ้าขอส่งไปถวายตัวไว้ต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และเมื่อจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแก่เจ้า ๒ องค์นี้ประการใดก็แล้วแต่จะทรงพระเมตตาทั้งสิ้น






๑๑๓ จดหมายอีกฉบับ ๑ ลงวันที่ ๒๖ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ )

ด้วยพริกไทได้ขึ้นงอกงามนักหนา และถ้าไม่เกิดเหตุเภทภัยอันไม่รู้ตัวขึ้นแล้ว ข้าพเจ้าหวังใจว่าภายใน ๒ ปีบริษัทคงจะได้พริกไทไม่ต่ำกว่า ๑๒,๐๐๐ หาบ และถ้าการที่บริษัทคิดจะค้าพริกไทไม่เปนผลสำเร็จดังได้คาดหมายไว้แล้ว ก็คงจะไม่ใช่ความผิดของพวกไทยเปนแน่ ข้าพเจ้าเองจะมีความยินดีเปนอันมาก ที่จะให้บริษัทมาตั้งห้างในประเทศนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อบริษัทจะได้คิดอ่านค้าพริกไท และทำการค้าขายกับเมืองจีนและเมืองยี่ปุ่นด้วย และในเรื่องการค้าขายเหล่านี้นั้น ข้าพเจ้าได้อธิบายชี้แจงให้ท่านราชทูตเข้าใจโดยลเอียดแล้ว ในปีนี้จะได้เห็นกันว่าบริษัทจะได้ตกลงอย่างไร แต่ข้าพเจ้าอดที่จะพูดไม่ได้ว่า ถ้าใครไม่ได้เพาะหว่านเสียก่อนแล้ว จะหวังเก็บเกี่ยวพืชผลไม่ได้อยู่เอง



๑๕

๑๑๔ เรื่อเกาะภูเก็จเกี่ยวกับประเทศสยามอย่างไร เขียนที่เมืองภูเก็จ เมื่อวันที่ ๒๖ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ ) ด้วยตามที่ท่านได้มีคำสั่งแก่ข้าพเจ้าว่า ถ้าข้าพเจ้าได้พบปะการสิ่งใดที่แปลกในบ้านเมืองต่าง ๆ ซึ่งข้าพเจ้ามีหน้าที่จะต้องไป ก็ได้รายงานให้ท่านทราบโดยลเอียดนั้น ข้าพเจ้ามีความประสงค์จะปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน เพราะฉนั้นข้าพเจ้าจึงหยากจะเล่าถึงเรื่องเมืองนี้ ซึ่งข้าพเจ้าได้มาอยู่ถึงปีหนึ่งแล้ว แต่ในระหว่างที่ข้าพเจ้าได้มาอยู่เมืองนี้นั้น ก็ยังไม่ได้พบสิ่งใดที่งามหรือที่ดีหรือที่แปลกพอที่จะรายงานให้ท่านทราบเลย แต่เพื่อจะป้องกันไม่ให้ท่านโทษข้าพเจ้าได้ ว่าข้าพเจ้าไม่ทำการตามหน้าที่ จึงเอาข้อความข้างบนนี้มากล่าวกลบเกลื่อนนั้นข้าพเจ้าจึงจะขอบอกให้ท่านทราบว่า เมืองภูเก็จซึ่งข้าพเจ้าอยู่ในบัดนี้นั้นเปนเกาะเล็ก ๆ วัดโดยรอบยาวประมาณ ๓๕ ไมล์ ตั้งอยู่ริมชายทะเลฝั่งตวันตกแหลมมาลากา ห่างจากฝั่งประมาณระยะทางปืนสั้น และอยู่ในระหว่าง ๖ และ ๘ ดีกรีของแลติจูตเหนือ ในเกาะนี้มีผู้คนน้อยที่สุดทั้งหมคงจะมีพลเมืองราว ๖๐๐๐ คน รวมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตามเกาะภูเก็จนี้เต็มไปด้วยป่าไม้ทึบ ซึ่งมีแต่เสือช้างแรตและสัตว์ร้ายอย่างอื่นอาศรัยอยู่เท่านั้น และแรตนั้นบางทีพวกเราก็ต้องรับประทานเปนอาหารต่างเนื้อโคก็มี เกาะภูเก็จนี้ไม่เปนเมือง แต่มีราษฎรพลเมืองตั้งอยู่เปนหมู่ ๆ และหมู่บ้านนั้นก็มีต่าง ๆ อยู่ชายป่าห่าง ๆ กัน แต่ถึงดังนั้นพวกราษฎรก็เรียกหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดว่าเมือง

๑๑๕ ในระหว่างเวลาที่มองซิเออร์เรอเนแชบอโนมารักษาราชการอยู่ในเมืองนี้ ก็ได้สร้างป้อมเล็ก ๆ ทำด้วยไม้กระดานป้อมหนึ่งซึ่งมีหอคอย ๔ หอ ซึ่งดูก็งดงามอยู่บ้าง พลเมืองในเกาะนี้เปนคนป่าคนดง หรือถ้าจะใช้คำให้ดรสักหน่อยก็เปนคนที่ไม่รู้จักกิริยาสุภาพ ซึ่งในประเทศสยามทั้งพระราชอาณาเขตร์ไม่มีที่ใดที่จะมีคนเลวทรามเช่นนี้เลย ชาวเกาะนี้ซึ่งเปนคนอาศรัยอยู่ตามป่าตามดง ไม่ทำการงานที่แปลกอย่างใดเลย ทั้งวิชาความรู้ก็ไม่ต้องเสาะแสวงหา การที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ก็เพียงแต่ตัดไม้ทำฟืน ทำนาและขุดดินเพื่อร่อนหาดีบุกเท่านั้น แร่ดีบุกนี้เปนสิ่งสำคัญของเมืองนี้ และที่ได้เกิดมีการค้าขาย และที่ชาวเมืองได้อยู่เลี้ยงชีพไปได้ก็โดยอาศรัยแร่ดีบุกนี้เอง เพราะพวกชาวเมืองขุดแร่ดีบุกได้ ก็เอาแร่นั้นไปแลกเปลี่ยนกับพ่อค้าซึ่งนำสินค้ามาจากภายนอกเพื่อเอามาแลกเปลี่ยนกับดีบุกนั้นเอง การค้าดีบุกนี้ได้กำไรมาก เพราะเหตุฉนั้นบริษัทค้าขายของฮอลันดา ซึ่งไปทุกหนทุกแห่งที่เห็นว่าจะหาผลประโยชน์ได้ จึงได้ตั้งห้างใหญ่ในเมืองนี้มาแต่เดิม แต่ได้เลิกห้างไปสัก ๑๔ หรือ ๑๕ ปีมาแล้ว เหตุที่ต้องเลิกห้างไปนั้นก็เพราะพวกฮอลันดาจะคิดเอาแต่กำไรฝ่ายเดียว พวกชาวเมืองกับพวกแขกมลายูซึ่งมาตั้งบ้านเรือนอยู่ในเมืองภูเก็จ จึงได้ช่วยกันฆ่าฟันพวกฮอลันดาตายเสียหมดสิ้น ตั้งแต่นั้นมาบริษัทฮอลันดาก็หาได้ส่งคนออกมาอีกไม่ เพื่อจะอธิบายถึงเรื่องแปลก ๆ ในเกาะภูเก็จนี้ให้หมดสิ้น ก็จำเปนจะต้องเล่าว่าอากาศในเมืองนี้เปนอากาศที่ไม่ดีอย่างยิ่ง และถ้าเปนคน

๑๑๖ ชาวต่างประเทศแล้วก็ยิ่งทนอากาศอย่างนี้ไม่ใคราจะได้เลย ที่ฝั่งซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะนี้มีประเภทอย่างเดียวกัน ผู้คนพลเมืองก็กลับมีน้อยกว่าที่เกาะภูเก็จ แต่ถึงดังนั้นก็ยังตั้งเปนเมืองเล็ก ๆ ๔ เมือง ซึ่งขึ้นกับเกาะภูเก็จนี้ทั้ง ๔ เมือง ๆ ๑ นั้น ผู้รักษาเมืองเปนชาวฝรั่งเศสชื่อ รีวาล เพื่อจะให้ท่านทราบว่า การสาสนาคริศเตียนในเมืองนี้เปนอย่างไรเจริญหรือซุดโทรมอย่างไรนั้น ข้าพเจ้าจะต้องบอกให้ท่านทราบว่า ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้มีนักพรตของสาสนามาอยู่ในเมืองนี้เลย เว้นแต่มิชันนารีชาวปอตุเกต ซึ่งได้เล่าเรียนในโรงเรียนของเราที่กรุงศรีอยุธยาคนเดียวเท่านั้น มิชันนารีคนนี้ได้มาอยู่ที่เมืองภูเก็จได้ ๓ ปี และได้กลับไปเสีย ๑๕ ปีมาแล้ว จำนวนคนที่ถือสาสนาคริศเตียนนั้นมีอยู่ในราว ๔ หรือ ๕ ครัวเรือนที่ยากจนอย่างที่สุด ถ้าจะนับจำนวนคนแล้วก็อยู่ในราว ๔๐ คนเท่านั้น จำพวกคนดำซึ่งถือสาสนาคริศเตียนซึ่งบางทีเรียกกันว่าพวกปอตุเกตนั้น เปนคนที่ได้อพยพมาจากบ้านเกิดเมืองนอนของตัว เที่ยวเตร็จเตร่หากินในเมืองโน้นบ้างเมืองนี้บ้าง บางคนก็หากินด้วยการลักขะโมย บางคนก็หากินด้วยการค้าขายดีบุกเพื่อแก้ความจนของตัว แต่ทุกคนได้มารวบรวมอยู่ในเมืองนี้ก็เพราะทำการทุจริตได้สดวกกว่าเมืองอื่น ๆ ในอินเดีย คนจำพวกนี้ก็มีบุตรหลานซึ่งบิดามารดาได้สั่งสอนให้ถือสาสนาคริศเตียน แต่นักพรตผู้ที่จะสั่งสอนเด็กเหล่านี้ให้เดินสู่ทางที่ดีหามีไม่ เด็กเหล่านี้จึงต้องเอาเยี่ยงอย่างอันชั่ว

๑๑๗ ร้ายของบิดามารดาต่อไป เพราะฉนั้นขอให้ท่านนึกดูเถิดว่าพวกคริศเตียนเหล่านี้จะเปนคริศเตียนสักเพียงไร และถ้าจะพูดไปแล้วคนจำพวกนี้ไม่สมควรที่จะเรียกว่าคริศเตียนเลย ฝ่ายพวกฮอลันดาซึ่งแต่ก่อนเคยมาตั้งห้างอยู่ในเมืองนี้ และพวกฝรั่งเศสซึ่งได้ละทิ้งพระเจ้าของตัวเพื่อไปเข้าทำการกับพวกฮอลันดา กับทั้งพวกปอตุเกตซึ่งมาอยู่ในเมืองนี้เพื่อทำการค้าขายนั้น ก็ต่างคนต่างทอดตัวเอาเยี่ยงอย่างอันชั่วร้ายของคนพื้นเมืองไปหมดทุกคน ต่างคนต่างเพาะลูกเพาะหลานไว้ในป่าในดง เมื่อลูกได้เกิดมาแล้วฝ่ายบิดาก็หาได้เปนธุระด้วยไม่ ทิ้งไว้ให้มารดาเลี้ยงลูกไปฝ่ายเดียว เมื่อตัวหมดกิจธุระของตัวแล้ว ต่างคนก็ต่างกลับไปบ้านเมืองของตัว ทิ้งลูกไว้ให้อยู่ในท่ามกลางสิ่งที่ชั่วร้าย เด็กเหล่านี้ได้รับความเลี้ยงดูจากคนป่าคนดงก็ไม่รู้ภาษาอะไร และที่ขึ้นชื่อว่าเปนคนนั้นก็เพราะพูดได้เท่านั้น เด็กเหล่านี้ก็หาได้เคยได้ยินพูดถึงสาสนาคริศเตียนซึ่งเปนสาสนาของบิดาผู้ชั่วร้ายไม่ แต่ถึงดังนั้นเด็กเหล่านี้ก็รู้ตัวว่าตัวเคยเปนคริศเตียนมาแล้ว และเหตุที่ตัวเปนเลือดเปนเนื้ออันผิดกฎหมายของคนคริศเตียน จึงกระทำให้ตัวมีน้ำใจโอนเข้าหาสาสนาคริศเตียนอยู่บ้าง ข้าพเจ้าจึงพนยายามนักหนาที่จะจัดการให้พวกนี้ได้เปนคริศเตียนดังเขามุ่งหมายไว้ และพระเปนเจ้าก็ได้ช่วยให้เรื่องนี้ได้เปนผลขึ้นบ้าง โดยได้ให้เด็กรับน้ำมนต์เข้ารีตบ้างแล้ว แต่จำนวนเด็กที่ได้เข้ารีดแล้วยังน้อยมาก เพราะนิสสัยและความประพฤติที่เคยมาแล้ว ตรงกันข้ามกับวิธีของสาสนา จึงกระทำให้พวกนี้หันเข้าหา


๑๑๘ สาสนาช้ามาก แต่ถึงดังนั้นข้าพเจ้าก็ยังหวังใจว่า เมื่อพระเปนเจ้าช่วยแล้วก็คงได้ค่อยเปนค่อยไปจนที่สุดก็จะเปนผลสำเร็จได้ ข้าพเจ้าจึงอาจจะหวังต่อไปข้างหน้าได้อีกว่า ถ้าเด็กเหล่านี้ได้หันเข้าหาพระเยซูคริศต์แล้ว ก็อาจจะเปนหนทางนำให้มารดาของเด็กเหล่านี้ได้หันเข้าหาสาสนาได้บ้าง ถ้าเปนเช่นนั้นได้จริงก็จะต้องเห็นได้ว่า พระเปนเจ้าได้ยอมให้พวกที่เปนคริศเตียนทำบาป ก็เพื่อประสงค์จะหาหนทางชักจูงให้ผู้คนที่ไม่เคยเปนคริศเตียนเลย ได้เปนคริศเตียนเสียเท่านั้นเอง ข้าพเจ้าได้เล่าให้ท่านฟังถึงเรื่องเมืองนี้เท่ากับที่ข้าพเจ้าได้เห็นมาแล้ว เพราะข้าพเจ้ายังไม่ได้พบสิ่งใดที่งามที่แปลกหรือที่หายากเลย เพราะในเมืองนี้ไม่ได้ทำอะไรกันเลย นอกจากขุดดินหาดีบุกซึ่งเขาขุดได้เปนจำนวนมาก ๆ และข้าพเจ้าเชื่อว่าคงจะมีบ่อดีบุกที่ดีกว่านี้อีก แต่จะต้องหาคนที่ชำนาญจึงจะค้นบ่อดีบุกดี ๆ ได้ นอกจากการขุดหาแร่ดีบุกนั้น ยังมีคนดำน้ำหาไข่มุกด์ปีหนึ่งได้มาก ๆ เหมือนกัน แต่เปนไข่มุกด์เมล็ดเล็ก ๆ และปีหนึ่ง ๆ คงจะมีคนพบอำพันราวปีละ ๔ ปอนด์ ๕ ปอนด์ การที่มีอำพันนั้นก็คือ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมตลอดถึงเดือนพฤศจิกายน มีลมพายุพัดอย่างแรงมาจากทะเล จึงได้พัดเอาอำพันขึ้นตามชายทะเล แลตามชายทะเลเหล่านี้มีเจ้าพนักงานของพระเจ้ากรุงสยามมาคอยประจำอยู่ สำหรับเก็บอำพันที่จะพัดขึ้นมาบนตลิ่ง และ


๑๑๙ จะคอยช้าไม่ได้ เพราะเกรงว่าพวกสัตว์ป่าเช่นกวางและหมูป่าจะมารับประทานเสีย เพราะฉนั้นพอคลื่นซัดอำพันขึ้นมาบนฝั่ง เจ้าพนักงานจึงต้องคอยเก็บทันที การที่มีดีบุกอำพันและไข่มุกด์ซึ่งหาได้ในเมืองนี้ ทั้งเปนเมืองที่อยู่ชายแดนด้วยนั้น จึงต้องนับว่าเมืองนี้เท่ากับเปนลูกกุญแจของประเทศสยาม และเปนเมืองที่สำคัญของพระเจ้ากรุงสยามเมือง ๑


จดหมายบันทึก ว่าด้วยวิธีจีดการคณะบาดหลวงของท่านสังฆราชเดลีโอโปลิศ ด้วยมองซิเออร์เดลีโอโปลิศได้เข้าไปถึงเมืองจีน ด้วยอาการกิริยาอันน่าพิศวง และก็รู้สึกอยู่ว่ามองซิเออร์เดลีโอโปลิศ จะต้องถึงแก่กรรม โดยที่เปนโรคอันบังเกิดขึ้นเมื่อได้ไปถึงเมืองจีนได้สัก ๒-๓ เดือน มองซิเออร์เดลีโอโปลิศจึงมีความปราถนาว่า ถ้าได้ทราบว่ามองซิเออร์เดลีโอโปลิศได้ถึงแก่กรรมลงเมื่อใด ก็ให้รายงานให้ท่านมาควิศเดอเซเนเลทราบ ถึงคณะบาดหลวงต่าง ๆ ที่มองซิเออร์เดลีโอโปลิศได้จัดไว้ ท่านสังฆราชผู้นี้ได้มีผลประโยชน์รายได้เกือบ ๗๐๐ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) แต่เมื่อมองซิเออร์เดลีโอโปลิศได้ถึงแก่กรรมลงแล้ว ผลประโยชน์รายนี้ก็สูญไปด้วย


๑๒๐ พระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดมีรับสั่งไว้กับท่านบาดหลวงเดอลาเชซว่า ถ้าคณะนักพรตซึ่งมีผลประโยชน์รายได้ปีละ ๑๐๐๐ แฟรง ซึ่งเปนจำนวนเท่ากับที่สังฆราชเดลีโอโปลิศได้อยู่ที่วัดเซนก็อวนนั้นว่างลงเวลาใด ก็ให้นำความกราบทูลให้ทรงทราบด้วย แต่ข้อหวังอันนี้กว่าจะได้ก็เห็นจะยังอีกนานนัก ท่านบาดหลวงดูซีนยี ก็มิได้นึกถึงการที่จะยกผลประโยชน์รายได้ของคฯะบาดหลวงให้แก่มิชันนารีคนใดคนหนึ่งเลย แต่จะอย่างไรก็ตามเปนการจำเปนที่จะต้องเลี้ยงดูบำรุงสังฆราชฝรั่งเศสถึง ๔ หรือ ๕ คน ทั้งจะต้องเลี้ยงดูพวกนักพรต และมิชันนารีผู้เปนลูกมือของสังฆราชเหล่านี้ และจะต้องใช้จ่ายค่าโสหุ้ยของคนเหล่านี้ซึ่งเปนการจำเปนที่เขาต้องจ่าย ในเวลาที่ไปทำการงานตามประเทศบ้านเมืองต่าง ๆ แต่ที่ ๆ สำคัญนั้นก็ในประเทศจีน เพราะในประเทศนี้ไม่เคยมีคณะบาดหลวงมาแต่เดิม เพราะฉนั้นท่านสังฆราชและนักพรตทั้งปวงซึ่งไปอยู่ในประเทศจีน จึงต้องมีโสหุ้ยใช้จ่ายเกินกว่ากำลังของตัวมาก ในชั้นต้นจะต้องสร้างบ้านขึ้นหลัง ๑ กับสร้างวัดเล็ก ๆ ขึ้นวัด ๑ และถ้าภายใน ๓ หรือ ๔ ปี จะส่งเงินให้ปีละ ๘๐๐๐ หรือ ๙๐๐๐ แฟรงแล้ว คณะบาดหลวงในประเทศจีนก็พอจะตั้งตัวได้ต่อไป มิชันนารีคน ๑ ที่ไปเมืองจีน จะต้องได้รับผลประโยชน์อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าปีละ ๓๐๐ ปอนด์ (ฝรั่งเศส)


๑๒๑ บาดหลวงผู้ที่เปนวิแกอาปอศโตลิก จะต้องรับผลประโยชน์ปีหนึ่งอย่างต่ำไม่น้อยกว่า ๓๐๐๐ ปอนด์ (ฝรั่งเศส) ซึ่งรวมทั้งพวกมิชันนารีบางคนด้วย และถ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะโปรดให้ตั้งคณะบาดหลวงในเมืองจีนแล้ว ก็จะเปนการกระทำให้พระองค์ได้รับพระเกียรติยศดีมาก เพราะในเมืองนั้นพวกนักพรตล้วนแต่เปนชาวเมืองสะเปนซึ่งมีความริษยาประเทศของเราทุกคน


สำเนาคำแปลตราตั้งของพระเจ้ากรุงกอลกอนดา ซึ่งทรงอนุญาตให้บริษัทฝรั่งเศสไปตั้งห้างค้าขายในดินแดนของพระเจ้ากอลกอนดา ในพระนามของพระเจ้าแผ่นดินผู้ซึ่งบังคับแสงสว่างในโลกนี้อันส่องรัศมีดุจดวงพระอาทิตย์ และผู้ซึ่งสืบตระกูลมาแต่นักพรต ฮามอน อันเปนตระกูลซึ่งมีคนนับถือทั่วโลก จึงมีพระราชโองการในพระเจ้าแผ่นดินว่า ให้บรรดาผู้ว่าราชการเมืองและผู้เปนหัวหน้าการทั้งปวง ทั้งในปัตยุบันและอนาคต ซึ่งปกครองรักษาท่าเรือเมืองมาซูลีปาตำ ได้กระทำตามคำสั่งนี้จงทุกประการ และให้บรรดาผู้ว่าราชการเมืองจงทราบไว้ว่า มองซิเออร์มาแตงผู้อำนวยการใหญ่และเปนผู้แทนประเทศฝรั่งเศสซึ่งเปนผู้ที่มีความกล้าหาญ และซึ่งเราได้ให้เกียรติยศ โดยพระราชทาน คาลาด คือเสื้อหลวง ๑ ตัวนั้น ได้รับอนุญาตจากเราให้ไปตั้งบ้านเรือนที่ท่าเรือเมืองมาซูลีปาตำได้ บรรดาคนทั้งหลายอันจะ ๑๖

๑๒๒ ได้ไปอยู่ในเมืองมาซูลีปาตำตามคำสั่งของท่านเยเนราลมาแตงนั้น จะได้รับสิทธิ์ต่าง ๆ เหมือนกับคนชาวประเทศอังกฤษทุกประการ ทั้งนี้ให้ได้รับความยุติธรรมในที่ทั้งปวงในเมืองมาซูลีปาตำและในเมืองอื่น ๆ ในอาณาเขตร์ของเราทั่วไป อันเปนถิ่นที่คนเหล่านี้จะมีความปราถนาไปตั้งบ้านเรือนอยู่ต่อไป ให้เจ้าพนักงานจัดกาที่ให้คนเหล่านี้อยู่ และให้เจ้าพนักงานปกครองบ้านเมืองโดยปรองดองกับคนพวกนี้ เพราะคนพวกนี้เปนคนที่มีชื่อ และให้เจ้าพนักงานจัดการให้คนเหล่านี้ได้อยู่สุขสบายให้เปนที่พอใจ ตามประกาศของเรานี้ทุกประการ ประกาศมาณวันที่ ๒๙ เดือนรายับปี ๑๐๙๗ ตรงกับศักราชฝรั่งเศสวันที่ ๒๒ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ ) คำอนุญาตนี้ เราพระเจ้าแผ่นดินผู้สืบตระกูลมาแต่ตระกูลฮามอนเปนผูอนุญาต


รายงานของ ยากเยนิเฟอร์ ต้นหนเรือชื่อ มาซังเดอสยาม ซึ่งพึ่งมาจากฝั่งตวันตกเกาะสุมาตรา ที่เมือง อินทร์บุรี ( Indra Buri ) มีห้างอังกฤษอยู่ห้าง ๑ มิศเตอร์เยนิเฟอร์ได้ทราบความมาว่า พวกอังกฤษได้ไปตั้งห้างที่เมือง เบนคูเลน ( Bencoolen ) อีกแห่ง ๑ แลที่ ๒ แห่งนี้เปนที่สำคัญที่สุดตามชายฝั่งทะเลสำหรับการค้าพริกไท


๑๒๓ แต่เมืองเบคูเลนนั้นเปนเมืองที่อากาศไม่ดี มิศเตอร์แรลฟอดหัวหน้าของพวกอังกฤษจึงได้ยกไปตั้งที่เมืองคูตาตงกา ( Cutatongga ) โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าแผ่นดินเมืองนั้นแล้ว แต่เมื่อมิศเตอร์แรลฟอดได้ยกไปตั้งสัก ๒-๓ วัน พวกฮอลันดาก็ไดเอาไฟเผาเมืองคูตาตงกาเสียหมดสิ้น มิศเตอร์แรลฟอด ได้อพยพจากเมืองคูตาตงกา คิดจะไปตั้งห้างที่เมืองปรีมัน ( Prieman ) ต่อไป แต่ในระหว่างที่เดินทางอยู่นั้น ก็พเอิญได้ตายลง มิศเตอร์ป๊อตซ์หาได้ดำเนินตามรอยมิศเตอร์แรลฟอดไม่ จึงได้ย้อยกลับมาอยู่ที่เมืองอินทร์บุรี เมื่อเรือของมิสเตอร์ป๊อตซ์จวนจะมาถึงเมืองอินทร์บุรี พวกฮอลันดาได้พยายามจะมาตีเรือมิศเตอร์ป๊อตซ์ มิศเตอร์เยนิเฟอร์ ได้ฟังคำประกาศยกพระเจ้ากรุงอังกฤษเปนใหญ่ในเวลาที่อ่านประกาศนั้น หัวหน้าของห้างอังกฤษที่ฝั่งตวันตกเกาะสุมาตรา ๑ ซุลต่าน ๑ และเจ้าแผ่นดินอื่น ๆ อิก ๗ องค์ได้พร้อมกันอยู่ณะที่นั้น และต่างคนต่างชักกระบี่ออกมาจากฝักเปนการเคารพ มิสเตอร์เยนิเฟอร์เล่าต่อไปว่า พวกฮอลันดาได้นำทหารหลายคนในนามของพระเจ้าแผ่นดินเมืองบันดำ ไปขึ้นที่เมืองเบนคูเลน แต่ก็หาได้ทำการขับไล่พวกอังกฤษให้ออกจากเมืองตามคำสั่งไม่



๑๒๔ คำให้การ ยากเยนิเฟอร์ ต้นหนเรือชื่อ มาซังเดอสยาม ซึ่งพึ่งมาถึงจากฝั่งตวันตกเกาะสุมาตรา ยากเยนิเฟอร์ ต้นหนและคนเก็บเงินในเรือชื่อมาซังเดอสยามซึ่งพึ่งมาถึงจากฝั่งตวันตกเกาะสุมาตรา ขอให้การโดยมิได้สาบาลตัวว่าในระหว่างที่เรือมาซังเดอสยามได้จอดอยู่ที่ริมฝั่งนั้น ข้าพเจ้าได้ไปยังเมืองอินทร์บุรี ซึ่งเปนเมืองที่พวกอังกฤษได้ไปตั้งห้างอยู่แห่ง ๑ ห้างอังกฤษนี้มีรั้วทำด้วยสาระเนียดล้อมโดยรอบ มีปืนใหญ่อยู่ ๑๒ กระบอก และมีทหารทั้งคนชาติขาวและชาติดำรักษาอยู่หลายคน ในระหว่างที่ข้าพเจ้าได้พักอยู่ในห้างนี้ ข้าพเจ้าได้รับพริกไทสำหรับบรรทุกลงเรือ และได้ทราบต่อไปว่าพวกอังกฤษได้ไปตั้งห้างอยู่ที่เมืองเบนคูเลนใกล้กับเมืองซีลาบาอิกแห่ง ๑ มีรั้วเสาระเนียดและปืนใหญ่รักษาอยู่เหมือนกัน ในบรรดาเมืองและที่ต่าง ๆ ตามฝั่งตวันตกเกาะสุมาตรานั้นที่ ๒ แห่งนี้เปนที่สำคัญกว่าแห่งอื่น ๆ สำหรับการค้าพริกไท แต่อากาศที่เมืองเบนคูเลนเปนอากาศไม่ดี ถึงกับพวกอังกฤษได้ล้มตายไปหลายคนมิศเตอร์แรลฟอดซึ่งเวลานั้นเปนหัวหน้าของพวกอังกฤษตามฝั่งนี้ จึงเห็นว่าจำเปนจะต้องตั้งห้างในที่อื่นซึ่งอยู่ข้างทิศใต้ลงไปอิกหน่อยโดย เข้าใจว่าในที่เหล่านี้อากาศจะดีกว่าที่เมืองเบนคูเลน เมื่อมิศเตอร์แรลฟอดได้มีความเห็นดังนั้นแล้ว จึงได้ลงเรือชื่อมาซังเดอสยามไปที่เมืองคูตาตงกา และได้ไปทำความตกลงกับเจ้าแผ่นดินเมืองนี้เจ้าแผ่นดินเมืองคูตาตงกา พร้อมด้วยข้าราชการซึ่งในเมืองนี้เรียกกันว่า รายา จึงได้กระทำสัตย์สาบาลต่อพระเจ้าอังกฤษนายของพวกเราซึ่ง

๑๒๕ ครองราชสมบัติอยู่ในเวลาปัตยุบันนี้ แล้วได้มอบเมืองให้แก่มิศเตอร์แรลฟอดต่อไป ในเวลาที่พวกรายากระทำสัตย์สาบาลนั้น ได้ทำพิธีต่อยหินทุบกองดิน และพิธีอย่างอื่นซึ่งเปนธรรมเนียมของเมืองนี้ แล้วมิศเตอร์แรลฟอดจึงได้ให้เงินแก่เจ้าแผ่นดินและพวกรายา และได้ให้ดินปืนกับปืนด้วย เมื่อเสร็จพิธีกระทำสัตย์สาบาลแล้ว มิศเตอร์แรลฟอดจึงได้ไปซื้อที่สำหรับจะสร้างห้างและสร้างป้อม แต่มาภายหลังสัก ๓-๔ วันพวกฮอลันดาได้คุมทหารชาวยุโรป ๓๐๐ คน คุมทหารแขกดำ ๗๐๐ คนมาเผาเมืองคูตาตงกาไหม้เสียหมดสิ้น และได้ฆ่าฟันผู้คนพลเมืองล้มตายเปนหลายคน ทั้งฆ่าบุตรของเจ้าแผ่นดินตายด้วย ส่วนน้องชายของเจ้าแผ่นดินนั้นพวกฮอลันดาได้จับตัวส่งไปคุมขังไว้ที่เคปออฟกุดโฮบ และในทุกวันนี้ก็ยังถูกคุมขังอยู่ที่เกาะแห่ง ๑ ครั้นเพลิงได้ไหม้เมืองคูตาตงกาเสียหมดสิ้นแล้ว มิศเตอร์แรลฟอดจึงเห็นว่าเมืองปรีมันเปนทำเลที่ดีอากาศก็ดี ถึงจะมีพริกไทน้อยก็จริง แต่เปนทำเลที่เหมาะสมควรจะตั้งกองทหารอังกฤษในที่นั้นได้ทิศเตอร์แรลฟอดจึงได้ออกเดินทางจะไปเมืองปรีมัน แต่ในระหว่างที่เดินทางนั้นก็พเอิญได้ล้มตายลง ครั้นมิศเตอร์แรลฟอดได้ตายไปแล้ว มิศเตอร์ป๊อตซ์ก็หายอมที่จะเดินทางไปเมืองปรีมันต่อไปไม่ จึงได้ย้อนกลับมาที่เมืองอินทร์บุรี มิศเตอร์เยนิเฟอร์ให้การต่อไปว่า เมื่อมิศเตอร์เยนิเฟอร์ได้ออกจากป้อมเซนต์ยอชแล้ว ได้เลยแวะไปที่เมืองปรีมันก่อน ตามคำสั่งของท่านเปรซิเดนและของที่ประชุมป้อมเซนต์ยอช เพราะเชื่อกันว่าที่เมือง

๑๒๖ ปรีมันคงจะมีกองทหารอังกฤษประจำอยู่ณะที่นั้น ครั้นไปถึงเมืองปรีมันก็หาได้มีกองทหารอังกฤษประจำอยู่ดังคาดไม่ มีแต่คอมมีซันเนอร์คน ๑ หัวหน้าคน ๑ กับทหารคนขาวและคนดำประมาณ ๓๐ คน ซึ่งพวกฮอลันดาได้จัดให้ไปประจำการอยู่ณะที่นั้น มิศเตอร์ปอ๊ตซ์จึงได้ขึ้นไปบนบกพร้อมด้วยคนประมาณ ๕๐ คน ถืออาวุธครบมือ และมิศเตอร์เยนิเฟอร์เปนผูบังคับคนทั้ง ๕๐ นี้ขึ้นไป ครั้นเดินไปถึงรั้วระเนียดก็เห็นประตูรั้วเปิดอยู่ มิศเตอร์ปอ๊ตซ์ มิศเตอร์เยนิเฟอร์กับคน ๕๐ คนจึงต่างคนถืออาวุธเดินเข้าไปในประตู ก็มิได้มีคนยามหรือผู้ใดมาขัดขวางไว้ ครั้นคนได้เดินผ่านประตูเข้าไปได้ประมาณ ๑๕ คนแล้ว ผู้บังคับการณะที่นั้นจึงได้เดินออกมาถามว่า ผู้ที่มานี้เปนมิตรหรือประการใด มิศเตอร์ปอ๊ตซ์จึงตอบว่าเปนมิตร ฝ่ายพวกทหารฮอลันดาซึ่งมากับผู้บังคับการ จึงได้มากระซิบที่หูทหารอังกฤษ ว่าปืนที่ทหารฮอลันดาถืออยู่นั้นหามีกระสุนไม่ และถ้าจะต้องเกิดรบกันขึ้นโดยผู้บังคับการขัดขวางพวกอังกฤษแล้ว พวกทหารฮอลันดาก็จะต้องยิงด้วยดินปืนเปล่าหามีลูกไม่ เพราะฉนั้นขอให้ทหารอังกฤษยิงแต่ดินปืนเปล่าบ้างอย่าบัญจุลูกเลย เพราะพวกทหารฮอลันดาก็ทำใจไว้ว่าจะยอมแพ้พวกอังกฤษอยู่แล้ว มิศเตอร์เยนิเฟอร์จึงได้พูดกับมิศเตอร์ปอ๊ตซ์ว่า ถ้ามิศเตอร์ปอ๊ตซ์อนุญาตแล้ว มิศเตอร์เยนิเฟอร์จะได้ตีค่ายฮอลันดาให้ได้ในเดี๋ยวนั้น แต่มิศเตอร์ปอ๊ตซ์หายอมไม่ โดยอ้างเหตุว่ายังไม่ได้รับคำสั่งให้มาทำการสงครามกับฮอลันดาอย่างใด


๑๒๗ มิศเตอร์เยินเฟอร์ให้การต่อไปว่า พวกฮอลันดาซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองอินทร์บุรีได้ว่าจ้างพวกทหารมลายูหลายคนให้ขึ้นไปปล้นเรืออังกฤษและได้ให้เงินค่าจ้างแก่พวกทหารมลายูคนละ ๑๐ เหรียญ พวกทหารมลายูจึงได้ขึ้นไปตีเรือในเวลากลางคืน และได้ฆ่าคนในเรือนั้นตาย ๒ คน การเรื่องนี้ก้ปรากฎแน่ว่าพวกฮอลันดาได้ตีพวกอังกฤษจริงเพราะพวกอังกฤษจังพวกแขกมลายูไว้ได้คน ๑ และแขกมลายูคนนี้ก็ได้รับสารภาพว่าพวกฮอลันดาได้บังคับให้ทำเช่นนั้น จนที่สุดพวกฮอลันดาได้ให้เงินเปนรางวัลแก่พวกแขกมลายูดังได้กล่าวมาในตอนต้น นั้นแล้ว มิศเตอร์เยนิเฟอร์ได้ให้การต่อไปว่า เมื่อเรือมาซังเดอสยามได้ทอดสมออยู่ริมฝั่งนั้น ได้มีเรือฮอลันดาลำ ๑ มีอาวุธและปืนครบบริบูรณ์ได้มายังเรืออังกฤษ ร้องกล่าวโทษว่าพวกอังกฤษได้ช่วยให้ผู้อยู่ในบังคับฮอลันดาได้ขบถต่อฮอลันดา ( พวกฮอลันดาเรียกคนพื้นเมืองว่าเปนคนในบังคับของตัว ) เพราะฉนั้นเรือฮอลันดาจึงห้ามมิให้คนในเรืออังกฤษขึ้นไปบนบกเปนอันขาด แม้แต่จะขึ้นไปเอาน้ำหรือไปเอาของสิ่งใด ๆ ก็ห้ามมิให้ขึ้นไป แต่การที่เรือฮอลันดามาห้ามเช่นนี้พวกอังกฤษก็หาตกใจไม่ คงขึ้นไปบนบกจนได้ มิศเตอร์เยนิเฟอร์ให้การต่อไปว่า เมื่อจะออกเรือจากป้อมเซนต์ยอชนั้น ท่านเปรสิเดนและที่ปรึกษาราชการได้มอบประกาศให้ไว้ ซึ่งเปนประกาศยกพระเจ้ากรุงอังกฤษซึ่งครองราชสมบัติอยู่ในเวลานั้น ให้เปนใหญ่ในที่ต่าง ๆ ซึ่งได้ตั้งห้างอังกฤษตมาฝั่งตวันตกเกาะสุมาตราทั่วไป

๑๒๘ เพราะฉนั้นมิศเตอร์เยนิเฟอร์จึงได้เห็นการอ่านประกาศที่เมืองอินทร์บุรี โดยมีพิธีสง่าน่าดูนัก ในเวลาที่อ่านประกาศนั้นบรรดาชาวอังกฤษทุกคนได้ถอดหมวกและถือกระบี่ไว้เพื่อแสดงความเคารพ ฝ่ายสุลต่านและรายาอีก ๗ คนได้ชักกระบี่ออกจากฝัก และราษฎรพลเมืองก็กระทำความเคารพดุจเดียวกันทุกคน เมื่อได้อ่านประกาศเสร็จแล้ว พวกอังกฤษที่อยู่ตามเรือต่าง ๆ และพวกทหารที่อยู่บนบกได้ยิงปืนเปนคำนับ และเรือมาซังเดอสยามซึ่งทอดสมออยู่ที่ท่าเรือนั้น ก็ได้ยิงปืนใหญ่เปนคำนับทุกกระบอก มิศเตอร์เยนิเฟอร์ให้การต่อไปว่า พวกฮอลันดาได้พาทหารขึ้นบกใกล้กับเมืองเบนคูเลนเปนอันมาก แต่ทหารเหล่านี้เปนคนชาติดำโดยมาก การที่พวกฮอลันดาพามหารมาดังนี้ก็โดยอ้างนามของเจ้าแผ่นดินเมืองบันดำ และอ้างว่าเจ้าแผ่นดินเมืองบันดำได้สั่งให้มาขับไล่พวกอังกฤษออกจากเมืองเบนคูเลนให้หมด พวกฮอลันดามาคราวนี้ด้วยเรือ ๔ ลำ เมื่ออังกฤษได้ทราบว่าพวกฮอลันดาได้พาทหารมาดังนี้พวกอังกฤษที่ป่วยอยู่จึงได้ออกจากที่พักพากันลงไปอยู่ในเรือ ฝ่ายมิศเตอร์บลูมหัวหน้าพวกอังกฤษนั้นคงอยู่บนบกสำหรับคอยต่อสู้พวกฮอลันดาต่อไป แต่ฝ่ายพลทหารชาติดำของฮอลันดาก็มิได้ทำการตามหน้าที่ หาได้มา รบรุกพวกอังกฤษไม่ ที่เปนเช่นนี้จะเปนด้วยพวกทหารดำกลัวไม่กล้ารบกับอังกฤษ หรือจะเปนด้วยพวกดำไม่หยากให้อังกฤษออกจากเมืองก็ทราบไม่ได้ เพราะพวกแขกยะวา แขกมะลายูและแขกอื่น ๆ ต้องการ

๑๒๙ ให้พวกอังกฤษได้ตั้งทำการค้าขายในเมืองเหล่านี้อยู่ด้วย ข้อนี้มิศเตอร์เยนิเฟอร์ทราบไม่ได้แน่ เปนแต่ได้ยินเขาพูดกันว่าเมื่อพวกอังกฤษเห็นพวกทหารดำของฮอลันดาชงักไม่รบแล้ว พวกอังกฤษก็ออกจากเรือกลับขึ้นมาอยู่บนบก และเอาปืนใหญ่เที่ยวจุกช่องไว้ด้วยเตรียมจะต่อสู้พวกฮอลันดาต่อไป หมดคำให้การแต่เพียงเท่านี้


บันทึกข้อความซึ่งขอให้ท่านมองเซนเยอร์ได้พิเคราะห์ และออกคำสั่งแล้วแต่จะเห็นควร เห็นกันว่าควรจะคิดอ่านจัดการทุกอย่างที่จะให้ราชทูตสยามได้ออก จากฝรั่งเศสในเดือนมกราคมให้ได้ การที่จะเร่งให้ราชทูตสยามได้ออกไปในเดือนมกราคมก็เพื่อประโยชน์ ๒ อย่าง คืออย่าง ๑ เพื่อให้ทันลมมรสุม มิฉนั้นถ้าถูกลมพัดมาผิดทางก็จะทำให้ชักช้าเสียเวลา การที่จะพาราชทูตสยามกลับไปถึงประเทศสยามนั้นจะเปนการติดขัด อีกอย่าง ๑ นั้นเมื่อได้ไปถึงประเทศสยามแล้วจะได้มาเวลาจัดการต่าง ๆ ให้มากสักหน่อย และจะได้มีเวลาจัดการให้เปนไปตามความดำริห์ของท่านมองเซนเยอร์ ที่ดำริห์ไว้จะให้เรือรบฝรั่งเศสเลยไปที่ฝั่งคอรอมันเดล เพื่อบริษัทจะได้มีโอกาสรับประโยชน์ต่าง ๆ ดังคาดไว้ได้ ๑๗


๑๓๐ พิเคราะห์ดูในการที่เรือรบของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ไปในที่ต่าง ๆ เช่นนี้จะทำให้บริษัทได้ประโยชน์เปนอันมาก และเรือรบเหล่านี้คงจะไม่ทำให้เสียพระเกียรติยศของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและไม่เสียเกียรติยศ ของประเทศฝรั่งเศส แต่ผู้ที่บังคับเรือรบเหล่านี้จะต้องประพฤติตัวอย่างดีจึงจะได้ และเชื่อกันต่อไปว่าควรจะเอาอำนาจของเรือรบเหล่านี้สำหรับจัดการพูดจาว่ากล่าวให้พวกฝรั่งเศสได้กลับเข้าไปอยู่ในเกาะเซนตอเม อย่างเดิม และให้คืนปืนใหญ่ให้แก่ฝรั่งเศสซึ่งมองซิเออร์เดอร์ลาเฮผู้ถึงแก่กรรมไปแล้วได้เอาไปทิ้งไว้ในที่นั้นด้วย ได้สังเกตดูตามใจความในจดหมายต่าง ๆ ที่บริษัทได้รับไว้นั้น เห็นว่าเจ้าแผ่นดินเมืองกอลกอนดาก็มีน้ำใจชอบพวกฝรั่งเศสอยู่บ้างแล้ว และการที่ชาวเมืองอันอยู่ห่างไกลมีความเกรงกลัวอาวุธของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ทั้งเกรงกลัวพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสด้วยนั้น ได้กระทำให้เจ้าแผ่นดินเมืองกอลกอนดาคร้ามพวกฝรั่งเศสอยู่บ้าง ถ้าท่านมองเซนเยอร์เห็นชอบด้วยตามความคิดนี้แล้ว ก็ควรจะมีจดหมายเสียแต่บัดนี้ไปถึงห้างที่เมืองปอนดีเชรีอันอยู่ที่ฝั่งคอรอมันเดล ให้ลงมือพูดจากับเจ้าแผ่นดินเมืองกอลกอนดาเสียแต่เดี๋ยวนี้ทีเดียว ในส่วนการที่จะเร่งรัดให้ราชทูตสยามได้กลับไปตามกำหนดได้นั้น มีข้อที่จะต้องทำอยู่ ๒ อย่าง คือ ๑ ต้องให้รีบทำของต่าง ๆ ซึ่งพระเจ้ากรุงสยามได้สั่งราชทูตให้มาทำนั้น แต่ในของที่พระเจ้ากรุงสยามจะต้องพระราชประสงค์นั้น จะมีสิ่งใดบ้างซึ่งควรจะเปนของที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะทำถวายเสียเองก็ควร

๑๓๑ จะรีบทำเสีย และเมื่อได้ทำของเหล่านี้เสร็จแล้ว ของต่าง ๆ ที่ยังคงเปนของพระเจ้ากรุงสยามรับสั่งให้ทำมีมากน้อยเท่าใด และมองเซนเยอร์จะเห็นว่าบริษัทจะควรทดรองเงินให้เท่าไร ก็ให้จัดการไปเสียให้เสร็จทีเดียว ในข้อที่จะให้บริษัททดรองเงินออกไปให้ก่อนนั้น จะต้องพิเคราะห์ดูว่า ๑ จำจะต้องเชื่อว่าไทยคงจะไม่คดโกงแต่คงจะใช้เงินรายนี้คืนให้แก่บริษัท เพราะท่านราชทูตสยามก็ได้รับรองไว้แล้ว ๒ ข้าพเจ้าเห็นว่าเปนการสมควรเพื่อประโยชน์ภายหน้า ที่บริษัทจะต้องทดรองเงินรายนี้ ถึงจะเปนเงินมากมายสักเพียงไรก็ควรจะทดรองให้ไปก่อน เพราะเหตุว่าเงินที่ทดรองนี้เองเท่ากับเปนทุนสำหรับทำการค้าขาย และบริษัทจะไม่ต้องส่งเงินออกไปมากนัก เพราะต่อไปจะได้ทำการค้าขายในเมืองไทยและจะได้ส่งสินค้าของประเทศฝรั่งเศสไปแลกเปลี่ยนกับสินค้าในอินเดียฝ่ายตวันออกซึ่งจะเปนประโยชน์ต่อบริษัทเปนอันมาก และในเวลานี้พระเจ้ากรุงจีนก็เปิดโอกาสให้บรรดาประเทศทั้งหลายได้ทำการค้าขาย ได้แล้ว จึงเห็นว่าเพื่อจะรักษาชื่อเสียงของชาติฝรั่งเศสจึงควรส่งเรือเล็ก ๆ ที่บริษัทมีอยู่ในอินเดียไปยังเมืองจีนสักลำ ๑ ๒ ข้อที่จะต้องพิเคราะห์ดูอีกข้อ ๑ นั้น ก็คือว่าการงานของบริษัทในเวลานี้เปนอย่างไร การที่เรือของบริษัทที่คอยให้มาจากฝั่งคอรอมันเดล ๒ ลำมาล่าช้าไปนั้น กระทำให้ผู้อำนวยการของบริษัทร้อนใจเปนอันมาก และกระทำให้พวกเจ้าพนักงานของบริษัทเสียหายด้วย เพราะบริษัทต้องใช้หนี้เปน

๑๓๒ เงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ ในเดือนตุลาคม โดยกำหนดว่าเรือ ๒ ลำนี้คงมาถึงแล้วเพราะเรือ ๒ ลำนี้ได้บรรทุกสินค้าต่าง ๆ ที่บริษัทได้รับจากเรือที่มาจากเมืองวุรัต ทั้งบรรดาสินค้าที่เหลือจำหน่ายตั้งแต่ปีกลายนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีสินค้าอยู่ในมือเท่าไรก็จำเปนจะต้องรีบจำหน่ายเสีย เพราะวิตกอยู่ว่าตามเสียงที่เล่าลือกันในพวกพ่อค้าว่าต่อไปจะเกิดห้ามไม่ให้ตัดผ้าขายปลีกนั้น อาจจะกระทำให้การขายสินค้าฝืดเคืองลงได้ แต่มีข้อที่ควรจะหวังใจได้ ว่าประกาศของท่านมองเซนเยอร์ก็คงจะแก้ไขในข้อขัดข้องต่าง ๆ เหล่านี้ได้ และท่านผู้อำนวยการคงจะคิดหาเงินฝ่อนใช้หนี้ไปได้บ้าง แต่ในระหว่างนี้เปนการจำเปนที่บริษัทจะต้องหาเงินหรือกู้เงินไว้ประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ หรือ ๕๐๐,๐๐๐ แฟรง สำหรับซื้อสินค้าบรรทุกลงเรือในปีนี้ เพราะเหตุฉนั้นการที่ไม่แน่นอนในและการขัดข้องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจึงทำให้ผู้อำนวยการของบริษัทหนักใจเปนอันมาก ถ้าแม้ว่าการงานของบริษัทได้ลงระเบียบ และผู้อำนวยการกระทำการค้าขายได้อย่างสดวกโดยไม่ต้องกลัวเกรงภัยภายในเพราะเชื่อว่าท่านมองเซนเยอร์คงจะอุดหนุนแล้ว ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้อำนวยการของบริษัทคงจะได้ทำการต่าง ๆ ให้สมกับที่ได้คาดไว้ และคงจะได้จัดการให้ตรงกับพระราชดำริห์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส เพื่อให้เปนประโยชน์ต่อแผ่นดินต่อไปเปนแน่ แต่เวลาที่จะจัดการต่าง ๆ นั้นก็เร่งอยู่แล้วและจำเปนที่ผู้อำนวยการจะต้องทราบ ว่าการที่จะยังอาศรัยเรือรบหลวงได้ต่อไปนั้น จะมีเวลาอยู่อีกมากน้อยเท่าใด ๑๓๓ เวลานี้ผู้อำนวยการของบริษัทวิตกอยู่ว่า เมื่อเรือ ๒ ลำได้กลับมาถึงแล้ว จะได้บรรทุกสินค้ามาจากเมืองไทยก็ดี หรือจะได้บรรทุกสินค้ามาจากฝั่งคอรอมันเดลก็ตาม แต่วิตกว่าบริษัทคงจะไม่ได้รับผลจากการอุดหนุนของท่านมองเซนเยอร์ เพราะเหตุว่ามีบุคคลหลายคนซึ่งเจ้าพนักงานของบริษัทไม่มีอำนาจจะว่ากล่าวได้ มีความประสงค์จะบรรทุกสินค้าลงในเรือ ๒ ลำนี้ทั้งขาไปและขามา การที่ผู้อำนวยการมีความวิตกเช่นนี้ก็โดยได้เคยมีตัวอย่างในคราวที่มองซิเออร์เดอโชมองได้เปน ทูตไปยังเมืองไทย ในครั้งนั้นบุคคลทุกชนิดไม่ว่าคนชั้นใดจนที่สุดเสมียนและคนสามัญ ก็ต่างคนต่างบรรทุกสินค้าลงเรือรบหลวงเปนของส่วนตัวทั้งสิ้น จนสินค้าได้มีจำหน่ายเหลือล้นถึงกับต้องส่งสินค้าของพระเจ้ากรุงสยามและสินค้าส่วนตัวราชทูตกลับคืนไปก็มี ในทสุดนี้เปนการสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องจัดการให้เกิดมีความเชื่อถือในผู้อำนวยการอย่างเดิม และจำเปนที่ผู้อำนวยการจะต้องเตรียมสินค้าไว้สำหรับบรรทุกสินค้าลงเรือเสียให้เสร็จโดยเร็ว


สำเนาข้อดำริห์ที่จะจัดการให้บริษัทฝรั่งเศสฝ่ายอินเดียตวันออก ได้ทำการค้าขาย บริษัทฝรั่งเศสฝ่ายอินเดียตวันออก ได้ตั้งเปนบริษัทขึ้น เมื่อปี ค.ศ. ๑๖๖๔ ( พ.ศ. ๒๒๐๗) โดยมีประกาศของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ลงวันที่ ๒๗ เดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๖๖๔ (พ.ศ. ๒๒๐๗) ซึ่งทรง

๑๓๔ พระราชทานสิทธิ์ต่าง ๆ และยกเว้นการต่าง ๆ อันเปนประโยชน์แก่ผู้ที่จะได้เข้าหุ้นในบริษัทนี้เปนอันมาก โดยที่คนทั่วไปหวังในความเจริญของบริษัท จึงได้มีบุคคลหลายจำพวก เปนคนทุกชั้นทุกชนิด ได้มาเข้าหุ้นตามในสมัค จนถึงได้ทุนเปนเงินถึง ๑๐,๗๐๖,๘๙๘ แฟรง เงินที่เข้าหุ้นกันนี้ กำหนดให้นำเงินมาส่งเปน ๓ คราว ๆ แรกให้ส่ง ๑ ส่วนในเวลาที่เข้าหุ้น อิก ๒ ส่วนนั้นให้ส่งภายใน ๒ ปี เฉลี่ยส่งส่วนละเท่า ๆ กันบางคนที่เข้าหุ้นก็ได้ส่งเงินครบตามจำนวน แต่บางคนก็หาได้ส่งครบตามที่สัญญาไว้ไม่ เพราะฉนั้นลงปลายทุนของบริษัทที่มีเงินอยู่ในมือก็เพียงแต่ ๓,๓๕๘,๙๖๖ แฟรงเท่านั้น และเท่าที่มีทุนอยู่เพียงนี้ บริษัทก็ได้จัดการค้าขายไปได้ตลอดจนถึงปี ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) ครั้นพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงทราบว่า ต้นทุนของบริษัทหาเพียงพอไม่ ทั้งต้นทุนที่มีอยู่ก็หดน้อยลงไปมาก เพราะเหตุที่ค้าขายขาดทุนนั้น จึงได้มีพระกระแสสั่งให้ตั้งกรรมการประชุม เพื่อตรวจบาญชีของบริษัท และให้กรรมการตรวจตราดูด้วย ว่าสิ่งใดที่ยังบกพร่องอยู่ก็ให้กรรมการปรึกษาหารือหาหนทางแก้ข้อบกพร่องนั้น ๆ ต่อไป กรรมการนี้ ได้ลงมือประชุมกันเมื่อวันที่ ๑๑ เดือนกันยายน ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๐๗) ผู้ที่เปนกรรมการนั้นคือ ผู้ที่มีหุ้นมากในบริษัท และกรรมการของแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงตั้งมาแทนพระองค์ ๔ นาย ที่ประชุมนี้ได้เลือกผู้ที่มีหุ้นส่วนให้เปนกรรมการรองสำหรับตรวจตราบาญชีต่าง ๆ และให้ทำบสญชีรายรับและรายจ่าย


๑๓๕ พร้อมกับผู้อำนวยการของบริษัท แต่การทำบาญชีนี้ก็คงให้ทำต่อหน้ากรรมการผู้แทนพระเจ้าแผ่นดิน บาญชีรายรับรายจ่ายนี้ ได้ทำเสร็จเมื่อวันที่ ๑๘ เดือนพฤศจิกายนในบนั้นเองจึงได้ทราบกันว่า เมื่อได้ใช้หนี้สินเสร็จแล้ว คงมีเงินสดเหลืออยู่เพียง ๑,๐๒๘,๓๘๗ แฟรงเท่านั้น เพราะฉนั้นการที่บริษัททำการค้าขายคราวนี้คงเหลือทุนแต่ส่วนเดียว อิก ๒ ส่วนนั้นเปนอันที่ผู้ถือหุ้นต้องขาดทุน ฝ่ายกรรมการผู้แทนพระเจ้าแผ่นดินเห็นว่า เมื่อบริษัทมีทุนน้อยเช่นนี้ ก็จะกระทำการค้าขายต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงสั่งให้ผู้ถือหุ้นออกเงินเกินกว่าทุนเดิมของตัวอีก ๑ ส่วนเศษ ๔ เพื่อเอาเงินรายนี้มาทำเปนต้นทุนขึ้นใหม่ แต่ถ้าผู้ใดไม่เต็มใจที่จะออกเงินรายนี้ บริษัทจะได้เอาเงินที่ยังเหลือนั้นเฉลี่ยคืนให้ และพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้ทรงเลือกให้คนใหม่ได้เข้าหุ้นแทนคนเก่าต่อไป ผู้ที่ยอมออกเงินอีก ๑ ส่วนเศษ ๔ นั้น มีจำนวนอยู่ ๗๐ คนและพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงเลือกผู้ที่จะเข้าหุ้น แทนหุ้นเก่าที่ต้องการถอนตัวออกและเอาเงินคืนนั้นรวม ๑๑ คน คนที่เข้าหุ้นใหม่ ๑๑ คนนี้ได้ออกเงินคืนให้ผู้ถือหุ้นเก่า ซึ่งต้องการถอนหุ้นนั้น รวมเปนเงิน ๗๒๘,๙๗๕ แฟรง และได้ออกเงินสดอีก ๗๒๘,๙๗๕ แฟรง สำหรับให้บริษัททำทุนค้าขายต่อไป เมื่อบริษัทได้ตั้งตัวขึ้นใหม่ได้เช่นนี้แล้ว พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็มีพระราชประสงค์จะทรงอุดหนุนบริษัทต่อไป จึงได้ทรงออกประกาศเมื่อ

๑๓๖ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๗) พระราชทานสิทธิ์ต่าง ๆ เท่ากับที่บริษัทเก่าได้เคยรับมาแล้ว และได้ทรงเพิ่มสิทธิ์พระราชทานให้อีกเปนบางอย่างด้วย ครั้นภายหลังพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงออกประกาศเมื่อวันที่ ๒๑ เดือนกุมภาพันธ์ ตั้งผู้ที่จะเปนผู้อำนวยการของบริษัทคือ ท่านมาควิศเดอเซเนเล ๑ มองซิเออร์เดอเฟรอมอง ๑ มองซิเออร์มอเรล ๑ มองซิเออร์ฟูเลต์ ๑ มองซิเออร์วิตรีลาวัล ๑ มองซิเออร์โปเดอแลง ๑ มองซิเออรืเดอลีล ๑ มองซิเออร์เดวิเออ ๑ มองซิเออร์ปารัง ๑ มองซีเออร์เซบอเรต์ ๑ มองซิเออร์ดูบูเล ๑ มองซิเออร์เลอเบลิง ๑ และมองซิเออร์ตาดีฟ ๑ ท่านผู้อำนวยการเหล่านี้มีหน้าที่สำหรับจัดระเบียบของบริษัททั่วไป เพราะฉนั้นจึงได้มีกำหนดประชุมอาทิตย์ละ ๒ วัน และถ้ามีการจำเปนก็ให้มีประชุมมากกว่าอาทิตย์ละ ๒ วันก็ได้ ข้อที่จะตกลงกันในที่ประชุมนั้นต้องเอาเสียงมากเปนใหญ่ คน ๑ ก็นับเปนเสียง ๑ และเมื่อได้ประชุมปรึกษาหารือตกลงกันว่าอย่างไร ก็ต้องจดข้อความลงไว้ในสมุดซึ่งมีไว้สำหรับโดยฉะเพาะทุกเรื่อง การต่าง ๆ ที่จะต้องทำนั้นได้แยกออกเปนหน้าที่ ๆ ต่างคนก็รับไปทำหน้าที่ของตัว และเมื่อถึงเวลาประชุมต่างคนก็นำการในหน้าที่ของตัวมาเสนอในที่ประชุม เมื่อผู้ใดได้รับหน้าที่ให้ไปทำการของบริษัทณะที่แห่งใด ผู้นั้รก็ได้รับอำนาจไปสิทธิ์ขาดและผู้นั้นมิต้องเกี่ยวแก่เงินอย่างไร เปนแต่สั่งให้คนเก็บเงินจ่ายเงินได้ตามที่ควร


๑๓๗ เมื่อแรกตั้งบริษัทขึ้นใหม่ครั้งนี้ ต้นทุนของบริษัทมีอยู่ ๑,๖๗๖,๙๘๒ แฟรง และยังมีสมบัติของบริษัทเก่ามาสมทบด้วย ซึ่งถ้านับเปนเงินก็คงอยู่ในราวเท่ากับจำนวนเงินสดที่มีอยู่ ต้นทุนที่มีอยู่เท่านี้ ได้ทำให้บริษัทค้าขายไปได้ตลอดจนทุกวันนี้ ในเวลานี้ยังทราบไม่ได้ว่าต้นทุนของบริษัทได้เพิ่มขึ้นหรือลดน้อยลงอย่างไร แต่ก็พอคาดคะเนได้ว่าคงจะไม่ลดน้อยลง เพราะเรือของบริษัทก็ยังอยู่ครบบริบูรณ์ หาได้ถูกอัปปางแตกจนลำเดียวไม่ เว้นแต่เรือ ๓ ลำซึ่งได้ออกจากเมืองสุรัตและฝั่งคอรอมันเดลตั้งแต่ปีกลายนี้ จะยังอยู่ดีหรือได้ถูกอัปปางแล้วก็ยังทราบไม่ได้


การดำริห์ที่บริษัทจะคิดวิธีค้าขายในอินเดียฝ่ายตวันออก จะต้องสังเกตไว้ว่า การค้าผ้าดอกในประเทศฝรั่งเศส เปนสิ่งที่ต้องห้าม เพราะฉนั้นควรจะส่งเรือไปเมืองสุรัตเพียงปีละ ๑ ลำทุก ๆ ปีเท่านั้น และเรือนั้นก็ไม่ควรจะเปนเรือใหญ่เกินกว่า ๔๐๐ ตัน หรืออย่างมากถ้าจะส่งเรือไปเพียงปีละ ๒ ลำและให้แวะในท่าเรือต่าง ๆ พร้อมกันก็ได้ เรือลำนี้จะต้องให้บรรทุกผ้าขาวอย่างเนื้อหยาบและอย่างกลาง ซึ่งเปนผ้าที่ทอในเมืองสุรัตและเมืองใกล้เคียง นอกจากผ้าขาวก็ควรจะบรรทุกผ้าไหมแท้บ้าง ผ้าด้ายแกมไหมบ้าง ผ้าไหมแซมทองบ้าง ๑๘

๑๓๘ และผ้าไหมเหล่านี้ต้องบรรทุกไปเปนจำนวนน้อย ๆ พอให้มีสินค้าต่าง ๆ ไว้เท่านั้น และถ้าจะบรรทุกเครื่องยาต่าง ๆ ลงในเรือ ๒ ลำนี้ตามแต่จะหาได้ก็ได้ ข้อมุ่งหมายของบริษัทที่จะไปทำการค้าขายนั้น ก็มุ่งหมายจะไปที่แม่น้ำเมืองเบงกอล เพื่อจะไปตั้งห้างใหญ่ ๆ ๒ ห้างในที่ ๆ เหมาะสมที่สุดแล้วจะได้ตั้งโรงงานในที่นั้นด้วย เวลานี้บริษัทมีห้างอยู่ที่ฝั่งคอรอมันเดลถึง ๒ ห้างแล้ว ห้าง ๑ ตั้งอยู่ที่เมืองมาซูลีปาตำ และอีกห้าง ๑ นั้นตั้งอยู่ที่เมืองปอนดีเชรี และถ้าที่ใดเปนที่เหมาะก็จะได้ตั้งห้างขึ้นอีก เพื่อจะได้รับสินค้าต่าง ๆ จากเมืองเบงกอลและจากฝั่งคอรอมันเดล อันเปนสินค้าที่จะจำหน่ายได้ดีในประเทศฝรั่งเศส เพราะได้มีคนมาบอกถึงสินค้าเหล่านี้แก่พนักงานของบริษัทอยู่ทุก ๆ ปี และเมื่อบริษัทได้จำหน่ายสินค้าในประเทศฝรั่งเศสแล้ว ก็จะได้คิดเพิ่มเรือให้มากขึ้นตามส่วนที่จำหน่ายสินค้าได้มากและน้อย ในเวลาที่เรือจะออกจากเมืองสุรัต เมืองเบงกอลและฝั่งคอรอมันเดล เพื่อกลับไปประเทศฝรั่งเศสนั้น บริษัทจะได้มอบเงินจำนวนมาก ๆ ไว้กับห้างที่เมืองทั้ง ๓ นี้ เพื่อจะได้เอาเงินนั้นจ้างให้ทำสินค้าเตรียมไว้ล่วงหน้า เมื่อเรือได้กลับจากประเทศฝรั่งเศสมาถึงเมืองสุรัต เมืองเบงกอลและฝั่งคอรอมันเดลเมื่อใด สินค้าที่จะบรรทุกเรือจะได้มีไว้พร้อม เรือจะได้ไม่ต้องคอยเสียเวลา


๑๓๙ นอกจากการที่บริษัทจะทำการค้าขายกับเมืองสุรัต เมืองเบงกอลและฝั่งคอรอมันเดลแล้ว บริษัทยังหวังใจว่าจะได้ไปตั้งห้างใหญ่ที่ประเทศสยามอีกแห่ง ๑ เพื่อรับดีบุกซึ่งเปนสินค้าที่จะจำหน่ายได้ดีที่ฝั่งคอรอมันเดล และจะได้รับพริกไทบรรทุกลงเรือ ซึ่งมาจากเมืองสุรัตและฝั่งคอรอมันเดล และการที่เอาพริกไทบรรทุกลงเรือนั้น ก็ไม่ต้องเสียค่าระวางอย่างไร เพราะจะเอาพริกไทนั้นบรรทุกปนไปกับสินค้าอย่างอื่นก็ได้ และกลับจะเปนประโยชน์ที่พริกไทจะได้กันมิให้สินค้าอย่างอื่นถูกความชื้นด้วย บริษัทยังหวังใจต่อไปว่า เมื่อได้ตั้งห้างในประเทศสยามแล้ว ก็คงจะได้รับสินค้าจากเมืองจีนยี่ปุ่นและเมืองอื่น ๆ ซึ่งส่งเข้าไปในเมืองไทยได้อิกด้วย เพื่อจะให้การของบริษัทตามห้างต่าง ๆ ในอินเดีย ได้ติดต่อถึงกันอยู่เสมอนั้น บริษัทคิดจะมีเรือขนาด ๑๕๐ ถึง ๒๐๐ ตัน สัก ๕ ลำหรือ ๖ ลำ ให้เดินติดต่ออยู่เสมอ และถ้าจำเปนแล้วจะได้เพิ่มเรือให้จำนวนมากกว่านี้ก็ได้ และเรือเหล่านี้จะได้บรรทุกสินค้าต่าง ๆ ที่สมควรส่งไปจากห้างนี้ถึงห้างโน้นเสมอไป เมื่อบริษัทจะจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ นั้น ก็ยังได้เปรียบสำคัญอยู่อิกอย่าง ๑ ที่ได้รับความยกเว้นไม่ต้อวเสียภาษี ๒ แฟรง ซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงตั้งอัตราเก็บภาษีขึ้นใหม่ด้วย ภาษีนี้เก็บจากผ้าทุก ๆ พับเพื่อป้องกันมิให้ผ้าของอังกฤษหรือฮอลันดาตกเข้าไปในประเทศฝรั่งเศสได้


๑๔๐ นอกจากการที่บริศัทได้เปรียบดังว่ามาแล้วนั้น พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสยังได้พระราชทานเงินเปนพิเศษให้แก่บริษัทอีก คือว่า เมื่อบริษัทได้บรรทุกสินค้าส่งออกไปประเทศอินเดียเปนจำนวนมากน้อยเท่าใด พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะพระราชทานเงินให้เปนพิเศษ คิดให้ตันละ ๕๐ แฟรง และเมื่อบริษัทได้บรรทุกสินค้าต่าง ๆ จากประเทศอินเดียส่งมาประเทศฝรั่งเศสเปนจำนวนมากน้อยเท่าใด ก็จะพระราชทานเงินพิเศษให้อีกตันละ ๗๕ แฟรง และเงินพิเศษรายนี้ บริษัทก็ได้รับพระราชทานเสมอมาแล้ว ถ้าแม้ว่าท่านมองเซนเยอร์มีความประสงค์จะเข้าหุ้นกับบริษัท ฝรั่งเศสด้วยแล้ว ข้าพเจ้าเห็นว่าเปนการสมควรที่จะเข้าหุ้นนับตั้งแต่วันที่ ๑ เดือนมกราคม ปีหน้า คือปี ค.ศ. ๑๖๘๘ (พ.ศ. ๒๒๓๐) เปนต้นไป เพราะบาญชีรายได้รายเสียของบริษัทจะได้ทำจนถึงวันที่ ๑ เดือนมกราคม และเมื่อได้มำบาญชีนี้เสร็จแล้ว ก็อาจเห็นตัวจริงได้ว่า บริษัทได้ค้าขายมีกำไรหรือขาดทุน และตัวเงินสดยังมีอยู่เท่าไร เมื่อได้ทราบทุนกำไรของบริษัทเช่นนนี้แล้ว ท่านมองเซนเยอร์ก็จะได้หมดหนักใจถึงหนี้เดิมของบริษัทเก่า เพราะบริษัทใหม่นี้ได้รับใช้หนี้แทนบริษัทเก่าทั้งสิ้น หนี้รายนี้บริษัทก็ได้ใช้ไปมากแล้ว และที่ยังคงเปนหนี้อยู่อีกบ้างนั้น บริษัทก็ได้จัดการใช้ในเร็ว ๆ นี้อยู่แล้ว เพราะเหตุว่าบริษัทได้รับเงินจากประเทศฝรั่งเศสและอินเดียมาพอแล้ว เพราะฉนั้นเมื่อต้นทุนของบริษัทได้รวมเปนก้อนเดียวแล้ว การที่ท่านมองเซนเยอร์จะเข้าหุ้นด้วยก็เปนการง่าย เพราะจะเข้าตามส่วนมากหรือน้อยก็จะได้บวกเปนทุน

๑๔๑ เพิ่มขึ้นก็ได้ เช่นจะเข้าหุ้น ๑ ในส่วน ๑๒ หรือ ๑ ในส่วน ๑๓ ก็ได้โดยไม่ต้องเปนห่วงถึงหนี้สินอย่างใดเลย เมื่อได้จัดการไปเช่นนี้แล้ว ท่านมองเซนเยอร์ก็จะทราบได้แน่ว่ารายได้รายเสียจะมากน้อยสักเท่าไร


สำเนาพระราชสาส์นของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยาม มีไปถวายสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส พระราชสาส์นของสมเด็จพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาผู้เปนใหญ่ ถวายมายังสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินผู้เปนใหญ่เปนประธานในแผ่นดินฝรั่งเศสและแผ่นดินนาวาร์ ซึ่งมีพระเกียรติยศอันรุ่งเรืองส่องแสงทั่วไปดุจดวงพระอาทิตย์ และซึ่งพระองค์ทรงรักษากฎหมายอันดีและบริสุทธิ์ โดยเหตุที่พระองค์ทรงรักษากฎหมายอันดี และทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมเช่นนี้ พระองค์จึงได้ทรงมีชัยชนะแก่ข้าศึกราชศัตรู จนพระเดชา นุภาพได้ลือทั่วทุกทิศานุทิศ ด้วยตามความในพระราชสาส์น ซึ่งพระองค์ผู้เปนใหญ่ได้พระราชทานมากับคอมฟรังซัวสังฆราช จนถึงพระราชอาณาเขตร์ของหม่อมฉันนี้ และเมื่อได้ทราบความตามพระราชสาส์นนั้นโดยถี่ถ้วนแล้ว พระหทัยของหม่อมฉันได้รู้สึกโสมนัสยินดียิ่งนัก จึงได้ไตร่ตรองหาหนทางสำหรับที่จะได้เปนพระราชไมตรีกันต่อไปในภายภาคหน้า และเมื่อหม่อมฉันได้เห็นผู้รักษาเมืองสุรัตส่งเรือมา สำหรับรับพระราชสาส์นและราชทูตของ


๑๔๒ หม่อมฉันโดยที่ผู้รักษาเมืองได้รับกระแสรับสั่งจากพระองค์นั้น หม่อมฉันก็ได้รู้สึกอิ่มใจสมความประสงค์ของหม่อมฉันทุกอย่าง หม่อมฉันจึงได้จัดพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการมาถวายต่อพระองค์ผู้เปนใหญ่เพื่อเปนหนทางที่เราทั้งสองจะได้เปนพระราชไมตรีอันหนึ่งอันเดียวกัน และเพื่อพระราชไมตรีนี้จะได้สนิทสนม ไม่มีเวลาที่จะดับสูญได้เลยชั่วกาลนาน ถ้าพระองค์ผู้เปนใหญ่จะมีพระราชประสงค์ของสิ่งไรในประเทศของหม่อมฉัน ก็ขอจงได้โปรดรับสั่งให้ทูตของหม่อมฉันทราบด้วย และเมื่อราชทูตเหล่านี้ได้ไปเฝ้าพระองค์หมดกิจธุระแล้ว ก็ขอพระองค์ได้กรุณาพระราชทานพระอนุญาตให้ราชทูตได้กลับมายังเมืองไทยด้วย เพื่อหม่อมฉันจะได้รับข่าวคราวอันดีจากพระองค์ต่อไป อนึ่งขอพระองค์ผู้เปนใหญ่ได้โปรดกรุณาจัดราชทูตให้ออกมาหาหม่อมฉันด้วย และขอพระองค์ผู้เปนใหญ่ได้โปรดจัดการให้ราชทูตของหม่อมฉันได้ไปมาถึงกันมิได้ขาดเลย และขอพระองค์ได้ทรงเปนพระราชไมตรีกับหม่อมฉันอย่างสนิทแน่นหนา อันไม่มีสิ่งใดจะมาหักล้างได้เลย หม่อมฉันขอวิงวินอำนาจของพระเปนเจ้า จงพิทักษ์รักษาให้พระองค์ได้ทรงพระเจริญทุกประการ และขอให้พระเปนเจ้าได้บันดาลให้พระองค์ได้ทรงพระเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปทุกวัน เพื่อพระองค์จะได้ปกครองแผ่นดินฝรั่งเศสและนาวาร์โดยความผาสุก และขอพระเปนเจ้าได้โปรดบันดาลให้พระองค์ได้มีชัยชนะแก่ข้าศึกหมู่ปัจจามิตร์ และให้พระองค์ได้ทรงมีพระชนมายุยั่งยืนชั่วกาลนาน

๑๔๓ สำเนาพระราชสาส์นสมเด็จพระเจ้ากรุงสยาม พระราชทานไปยังโป๊ป พระราชสาส์นของสมเด็จพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาผู้เปนใหญ่ พระราชทานมายังโป๊ป ผู้เปนหัวหน้าหละเปนบิดาของคริศต์สาสนิกชนทั่วไปและเปนผู้ซึ่งบำรุงอุปถัมภ์สาสนา เพื่อสาสนาจะได้รุ่งเรือง ทั้งปกครองการสาสนาเพื่อให้ผู้ถือสาสนาคริศเตียนทั่วไป จะได้ดำเนินสู่ทางยุติธรรมตามลัทธิของสาสนาต่อไป ด้วยเคยเปนธรรมเนียมพระราชประเพณีมาแต่ก่อน ๆ ที่พระเจ้าแผ่นดินผู้เปนใหญ่และเจ้านายทั้งปวงซึ่งอยู่ในศีลในธรรม จะต้องแผ่พระราชไมตรีให้ทั่วถึงบุคคลทุกชั้นทุกชนิดอันอยู่ทั่วโลกทุกประเทศทุกภาษา เพื่อจะได้ทราบถึงการงานทั้งปวงซึ่งมีอยู่ตามเมืองต่าง ๆ นั้น เพราะเหตุฉนั้นเมื่อท่านโป๊ปผู้เปนใหญ่ ได้แต่งให้คอมฟรังซัวสังฆราชเปนทูตมาเฝ้าข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าจึงได้มีความปีติยินดียิ่งนัก และเมื่อได้อ่านศุภอักษรที่มีใจความล้วนแต่สิ่งที่ไพเราะนั้น ข้าพเจ้าก็ได้มีความโสมนัสยินดียิ่งหนักขึ้น เพราะเหตุฉนี้ข้าพเจ้าจึงได้แต่งทูตให้เชิญพระราชสาส์นของข้าพเจ้ากับของต่าง ๆ มาพระราชทานแก่โป๊ป เพื่ให้เราทั้งสองได้เปนไมตรีรักใคร่ซึ่งกันและกัน และปรองดองกันเปนอันหนึ่งอันเดียวชั่วกัลปาวสานต่อไป


๑๔๔ เมื่อราชทูตของข้าพเจ้าได้ทำการทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าได้มอบไว้สำเร็จแล้ว ก็ขอท่านได้โปรดอนุญาตให้ราชทูตได้กลับมา เพื่อราชทูตจะได้นำข่าวของโป๊ปมาบอกแก่ข้าพเจ้า เพราะข่าวเหล่านี้จะเปนข่าวที่ข้าพเจ้าจะยินดีฟังนัก ข้าพเจ้าขอให้ท่านโป๊ปได้โปรดส่งราชทูตให้มาหาข้าพเจ้าด้วย และขอให้ราชทูตของเราทั้งสองฝ่าย ได้ไปมาหาซึ่งกันและกันอย่าให้ขาดได้เลย เพื่อไมตรีซึ่งได้มีต่อกัน อันเปนไมตรีที่มีค่านั้นจะได้มีติดต่อกันชั่วกัลปาวสานมิได้มีเวลาขาดสูญได้เลย ในที่สุดนี้ข้าพเจ้าหวังใจว่าท่านโป๊ปคงจะได้มีความเจริญทุกประการ และขอให้ท่านโป๊ปได้มีชั่วชีวิตยั่งยืนไปอีกหลายปี

สำเนาจดหมายที่เจ้าพระยาพระคลังหรืออรรคมหาเสนาบดี ของประเทศสยาม ได้มีไปยังท่านผู้อำนวยทั่วไป ของบริษัทฝรั่งเศสซึ่งทำการค้าขายในอินเดียฝ่ายตวันออก หนังสือเจ้าพระยาศรีธรรมราชาชาติอำมาตยานุชิต พิพิธรัตนราชโกษาธิบดีอภันพิริยปรากรมพาหุ เจริญทางไมตรีสนิทเสน่หามายังท่านผู้อำนวยการของราชบริษัทฝรั่งเศส ด้วยสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า มีพระราชประสงค์จะให้แผ่นดินทั้งสองได้เปนพระราชไมตรีอันสนิทดุจเปนแผ่นดินเดียวกันนั้น สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินผู้เปนใหญ่นายของข้าพเจ้า จึงได้ทรงแต่งราชทูตให้เชิญพระราชสาสน์และเครื่องราชบรรณาการไปถวายแก่สมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสผู้เปนใหญ่ ๑๔๕ เพื่อพระราชไมตรีในระหว่างพระเจ้าแผ่นดินทั้งสอง จะได้เปนที่มั่นคงยั่งยืนต่อไปในภายภาคหน้า ก็การที่ราชทูต อุปทูต และข้าราชการของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าจะต้องเดินทางอันไกลมากนั้น ถ้าแม้ว่าราชทูตอุปทูตและข้าราชการของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินนายของข้าพเจ้า จะมีประสงค์สิ่งใดสำหรับใช้สอยส่วนตัวหรือจะประสงค์สิ่งอื่น ๆ ก็ดี และถ้าราชทูตอุปทูต และข้าราชการของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินนายของข้าพเจ้า หรือที่สุดถ้าบาดหลวง เกม หรือ อีมานูเอลปีตาเวโดจะไปขอร้องต่อบริษัทแล้ว ข้าพเจ้าขอให้ราชบริษัทได้ให้สิ่งทั้งปวงตามความประสงค์ และขอให้บริษัทได้ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ราชทูตอุปทูต และข้าราชการของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินนายของข้าพเจ้าผู้ไปราชการในคราวนี้ ตามแต่ราชทูตอุปทูตและข้าราชการจะต้องประสงค์อันเปนสิ่งที่จำเปนด้วย ถ้าราชทูตอุปทูตและข้าราชการของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินนายของข้าพเจ้าได้รับสิ่งใดไปจากบริษัทแล้ว ก็ขอให้บริษัทได้ทำบาญชีอันละเอียดและถูกต้องไว้ แล้วขอให้ส่งบาญชีนั้นมายังข้าพเจ้า เพื่อจะได้ชำระสะสางใช้หนี้ซึ่งข้าราชการเหล่านั้นจะได้รับไปจากบริษัท ให้เปนการเสร็จไป อนึ่งถ้าบริษัทจะต้องประสงค์สิ่งใดในประเทศนี้แล้ว ก็ขอได้โปรดบอกกับข้าพเจ้าทราบโดยละเอียดและชัดเจนด้วย

๑๙

๑๔๖ คัดข้อย่อความจากหนังสือของราชทูตสยาม ตามความที่บาดหลวงเดอลียอน และหัวหน้าคณะบาดหลวง ได้บอกกับราชทูตสยามว่า หนังสทอสัญญาที่ได้ทำกันที่กรุงศรีอยุธยานั้น มีข้อความบางอย่างซึ่งบริษัทไม่พอใจ และบริษัทก็หาได้รับสิ่งที่ต้องการตามที่ได้ขอไว้จากพระเจ้ากรุงสยามสมปราถนาของบริษัทไม่ พวกมิชันนารีจึงได้ถามราชทูตสยามว่า ราชทูตมีอำนาจที่จะมาทำความตกลงและแก้ไขข้อขัดข้องของบริษัทได้หรือไม่ ราชทูตสยามจึงได้ตอบว่า ที่ได้รับเลือกให้เปนราชทูตมาในคราวนี้มีอำนาจที่จะจัดการแก้ไขสิ่งทั้งปวง อันไม่ผิดแก่แบบธรรเนียมของประเทศสยามได้ แต่ในเรื่องนี้ เมื่อมองซิเออร์เดอโชมองได้ขอร้องอย่างใดสำหรับความสดวกแก่การค้าขาย และขออย่างอื่นนอกจากสิ่งที่เกี่ยวด้วยการค้าขายนั้น พระเจ้ากรุงสยามก็ได้พระราชทานตามความประสงค์ของมองซิเออร์เดอโชมองทุกอย่างแล้ว อนึ่งมองซิเออร์เดอโชมองนั้นก็รับตำแหน่งเปนราชทูต และเปนธรรมเนียมในประเทศยุโรปอยู่ ว่าเมื่อการสิ่งใดเปนเรื่องที่ตกลงกันแล้ว เรื่องนั้นก็ต้องเปนอันตกลงตามนั้นต่อไป เพราะฉนั้นที่จะมาพูดว่า บริษัทไม่ได้รับสิ่งที่พอใจหรือที่หวังว่าจะได้นั้น เปนการไม่ควร และถ้าเรื่องต่าง ๆ นั้น เปนสิ่งที่ไม่พอใจแล้ว มองซิเออร์เดอโชมองก็ไม่ควรจะตกลงตามนั้น เพราะมองซิเออร์เดอโชมองต้องการอย่างไรก็ได้ตามความประสงค์ทุกอย่างแล้ว ถ้าแม้ว่าราชทูตสยามได้รับหน้าที่แทนมองซิเออร์เดอโชมองแล้ว ถ้าสิ่งใดไม่เปนที่พอใจ ราชทูตสยามก็คงจะไม่ยอมและคงจะได้จำความ

๑๔๗ กราบทูลพระเจ้ากรุงสยาม เพื่อให้ทรงแก้ไขจนกว่าจะพอใจต่อไป ถ้ามองซิเออร์เดอโชมองได้ทำอย่างว่านี้แล้ว ก็จะเปนการสมควรและสดวกอย่างยิ่ง แต่ในเวลานี้ สิ่งที่พระเจ้ากรุงสยามได้โปรดกรุณาพระราชทานจนถึงกับตกลงเซ็นหนังสือสัญญากันเช่นนี้แล้ว เปนการหมดอำนาจของราชทูตสยามที่จะแก้ไขได้ แต่ถึงหากว่าราชทูตสยามจะมีอำนาจที่จะแก้ไขได้ ราชทูตสยามก็ไม่ยอมจะแก้ให้ เพราะเหตุว่าถ้าราชทูตสยามได้ทำเช่นนั้นแล้ว คนทั้งหลายก็จะเข้าใจเสียว่าการที่ราชทูตสยามทำเช่นนี้ ก็เพราะเหตุที่ได้มายืมเงินจากบริษัท แต่การที่ราชทูตสยามได้ยืมเงินจากบริษัทนั้น ก็โดยบริษัทรับจะให้ยืมเอง เพราะบริษัทได้รับคำสั่งจากท่านมาควิศเดอเซเนเล ให้ช่วยเปนธุระจัดการให้ราชทูตสยามได้ทำส่งต่าง ไ ที่ได้รับคำสั่งมา ทั้งมอบให้บริษัทเปนผู้ขายของที่ราชทูตสยามได้นำมาด้วย ราชทูตสยามได้กล่าวต่อไปว่า สินค้าต่าง ๆ ได้บรรทุกลงเรือมีจำนวนน้อยที่สุด เพราะฉนั้นบริษัทจึงยอมรับเปนธุระที่จะทำของต่าง ๆ ซึ่งพระเจ้ากรุงสยามได้สั่งให้ทำ แต่ของเหล่านี้ก็ต้องเลือกทำแต่ฉะเพาะพอดีกับราคาสินค้าที่บรรทุกลงเรือมา และต้องเลือกทำแต่ฉะเพาะของที่สำคัญและที่เร่ง ราชทูตสยามได้กล่าวว่า เมื่อก่อนที่จะออกจากเมืองไทยนั้น ได้ตกลงกับหัวหน้าห้างฝรั่งเศสว่า หัวหน้าฝรั่งเศสจะได้มีหนังสือสั่งจ่ายงินให้แก่ราชทูตสยาม แต่ในเรื่องนี้ราชทูตสยามมิได้ออกความเห็นเช่นนี้เลย แต่ได้ยืนยันอยู่เสมอว่า ถ้าสินค้าต่าง ๆ ที่ได้นำมาจาก

๑๔๘ เมืองไทย ได้จำหน่ายเปนเงินมากน้อยเท่าใด และถ้าเงินนั้นไม่พอสำหรับที่จะทำของต่าง ๆ แล้ว ก็ให้จดทำบาญชีไว้ เพราะจำนวนเงินเกินกว่าที่ผู้อำนวยการของบริษัทได้รับรองว่าจะจ่ายให้เสียแล้ว แต่การที่ท่านมาควิศเดอเซเนเลได้กรุณาสั่งให้บริษัทจ่ายเงินให้แก่ราชทูตเช่นนี้ เปนความกรุณาอย่างยิ่งอยู่แล้ว ซึ่งราชทูตสยามรู้สึกบุญคุณเปนอันมาก การที่บริษัทจะรับรองจ่ายเงินให้นั้น ก็ได้ทำกันจริงอย่างว่า แต่ราชทูตสยามยังมิได้พูดถึงผลที่ขายสินค้าได้เลย ในข้อที่บริษัทได้ตอบกับราชทูตสยาม ว่าหัวหน้าห้างฝรั่งเศสในเมืองไทยมิได้มีหนังสือสั่งมาให้จ่ายเงินให้แก่ราชทูตสยามนั้น กระทำให้ราชทูตสยามรู้สึกละอายใจที่จำเปนต้องยืมเงินจากบริษัทเช่นนี้ ราชทูตสยามได้ถามผู้อำนวยการของบริษัทว่า ในการที่จะคืนเงินที่ยืมรายนี้กับทั้งค่าระวางนั้น ผู้อำนวยการจะต้องการให้คืนเงินด้วยวิธีอย่างใด ผู้อำนวยการของบริษัทจึงออกความเห็นว่า ควรจะใช้เงินสด ๒๕ เปอเซนต์ เหลือนั้นบริษัทจะยอมรับเปนสินค้าในเมืองไทยและสินค้าที่มาจากเมืองจีนและเมืองยี่ปุ่น ทั้งยอมรับเปนพริกไทด้วย ในส่วนสินค้าเหล่านี้ จะให้พระเจ้ากรุงสยามคิดเอากำไร ๒๕ เปอเซนต์ก็ได้ ราชทูตสยามจึงได้ตอบว่า สินค้าต่าง ๆ ที่มาจากเมืองจีนและเมืองยี่ปุ่นนั้น จะต้องแบ่งจำหน่ายตามประเทศต่าง ๆ แต่ส่วนพริกไทนั้น ในเวลานี้ยังจะส่งให้บริษัทไม่ได้ เพราะพึ่งได้เพาะปลูกกันเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง แต่ถ้าบริษัทจะยอมรับสินค้าต่าง ๆ ซึ่งชนชาติอื่นในทวีปยุโรปเคยรับไปส่ง


๑๔๙ ยังเมืองสุรัตและฝั่งคอรอมันเดลแล้ว ราชทูตสยามเชื่อว่าสินค้าก็คงจะยังพอที่จะคุ้ทกับเงินที่ผู้อำนวยการได้ให้ยืมนั้นเปนแน่ ถ้าผู้อำนวยการจะยอมรับแต่ฉะเพาะสินค้าที่จะจำหน่ายในประเทศ ฝรั่งเศสได้แล้ว ก็เปนอันที่ราชทูตสยามจะรับเงินที่ผู้อำนวยการของบริษัทจะให้ยืมไม่ได้ เพราะเหตุว่าถ้าผู้อำนวยการจะรอให้เรือมาถึงจึงให้ชำระเงินรายนี้ และถ้าเรือบรรทุกสินค้าเปนจำนวนน้อยไม่คุ้มกับเงินรายนี้แล้ว ผู้อำนวยการของบริษัทอาจจะหาว่าราชทูตสยามพูดปดก็ได้ ครั้นผู้อำนวยการของบริษัทได้ขอร้องให้ราชทูตสยามกพกำหนดวิธีคืนเงินรายนี้ได้ตามชอบใจ ราชทูตสยามก็ไม่ยอมโดยอ้างเหตุว่าตัวไม่มีความชำนาญในการค้าขาย ราชทูตสยามกลับขอร้องให้ผู้อำนวยการของบริษัทได้คิดวิธีที่จะคืนเงินรายนี้ต่อไป จริงอยู่ ผู้อำนวยการของบริษัทได้ขอเอา ๒๕ เปอเซนต์จากสินค้าซึ่งจะส่งไปประเทสฝรั่งเศส สำหรับที่จะได้ให้ยืมเงินรายนี้ แต่การที่ว่าผู้อำนวยการได้ยอมให้คิด ๒๕ เปอเซนต์จากสินค้าที่จะได้รับมาจากเมืองไทยนั้น เปนความไม่จริงในเรื่องนี้ต่างฝ่ายได้อธิบายกันอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง และผู้อำนวยการของบริษัทก็ได้ขอให้คืนเงินรายนี้เปนเงินสดบ้าง เปนสินค้าของเมืองไทยสำหรับส่งไปเมืองสุรัตและฝั่งคอรอมันเดลบ้าง และเปนสินค้าที่มาจากเมืองจีนและเมืองยี่ปุ่นบ้าง ผู้อำนวยการของบริษัท จึงขอร้องว่า ในส่วนสินค้าฉะเพาะในเมืองไทยนั้นควรจะขายให่แก่บริษัทตามราคาที่ซื้อขายกัน ไม่ควรจะเพิ่มราคาขึ้น เพราะไม่มีเหตุผลที่จะเพิ่มราคาขึ้นด้วยเหตุใด แต่ส่วน

๑๕๐ สินค้าที่มาจากเมืองจีนและเมืองยี่ปุ่นนั้น ถ้าจะคิดค่าโสหุ้ยและค่าระวางเรือเพิ่มจากราคาซื้อขายกันตามธรรมดาก็ควรอยู่ ในเรื่องนี้ราชทูตสยามได้เห็นพร้อมกันว่า ค่าโสหุ้ยและค่าระวางเรือในสินค้าที่มาจากเมืองยี่ปุ่นและเมืองจีนนั้น ก็คงจะไม่มากเท่ากับค่าโสหุ้ยและค่าระวางของสินค้าที่ส่งมาจากประเทศฝรั่งเศสมาเมืองไทย เพราะระยะเดินเรือไกลผิดกว่ากันมากนัก และราชทูตสยามได้พร้อมกันรับรองว่า ในเรื่องนี้บริษัทคงจะได้รับความพอใจทุกอย่าง ราชทูตสยามได้พูดจาแนะนำขอให้บริษัทยอมรับแต่ฉะเพาะสินค้าที่มีอยู่ในเมืองไทย แต่ข้อนี้บริษัทหายอมไม่ และราชทูตสยามได้ชี้แจงต่อผู้อำนวยการของบริษัท ว่าบางทีบริษัทจะไม่ได้สินค้าที่มาจากเมืองจีนและเมืองยี่ปุ่นสักเท่าไรนัก เพราะเหตุที่ยังไม่ได้เตรียมการไว้อย่างใดเลย ในข้อที่บริษัทได้ร้องว่า ไม่มีความพอใจในข้อสญญานั้นราชทูตสยามได้ตอบว่า ถ้าผู้อำนวยการของบริษัทได้บอกให้ราชทูตสยามทราบว่าบริษัทมีความประสงค์อย่างไรแล้ว ราชทูตสยามรับรองว่าเมื่อได้กลับไปถึงเมืองไทยแล้ว จะได้จัดการช่วยเหลือให้บริษัทได้รับความพอใจทุกอย่าง และรับรองต่อไปว่า ถ้าสิ่งที่บริษัทจะต้องการไม่เปนการขัดต่อประเพณีของประเทศสยามแล้ว ทำอย่างไร ๆ พระเจ้ากรุงสยามก็คงจะพระราชทานให้เปนแน่



๑๕๑ ณวันพฤหัสบดี เดือน ๓ ขึ้น ๔ ค่ำ ปีขาล ท่านมองซิเออร์ซูเลต์ ๑ มองซิเออร์เดอวิตรี ๑ และมองซิเออร์เดวีเออ ๑ ได้มาหาข้าพเจ้า ในชั้นต้นท่านทั้ง ๓ ได้ถามข้าพเจ้ามีข้อความว่า จะหวังได้หรือไม่ว่าพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า จะพอพระทัยในการที่บริษัทฝรั่งเศสจะนำสินค้าต่าง ๆ ไปค้าขายในเมืองไทย ข้าพเจ้าได้ตอบว่า ท่านราชทูตแห่งประเทศฝรั่งเศสกับเจ้าพนักงานของบริษัทซึ่งอยู่ในกรุงศรีอยุธยา ได้แนะนำการต่าง ๆ สำหรับที่จะทำการค้าขายตามความดำริห์ของท่านเหล่านี้หลายอย่างมาแล้ว และพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าก็ได้พระราชทานตามความประสงค์ ของท่านเหล่านี้ทุกอย่างแล้ว และพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าได้ทรงพระกรุณาแก่บริษัทอย่างไรเปนเรื่องที่ท่านย่อมทราบดีอยู่แล้ว พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า มีพระราชประสงค์ยิ่งนัก ที่จะให้ท่านไปตั้งห้างให้เปนหลักถานมั่งคงในพระราชอาณาจักร์ เพื่อเปนหนทางสำหรับสืบเนื่องพระราชไมตรี ที่ได้ทรงมีกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสผู้เปนใหญ่และพระราชไมตรีนี้ ในเวลานี้ก็สนิทแน่นหนาดีอยู่แล้ว เพราะเหตุฉนั้นถ้าท่านได้ส่งเรือไปค้าขายในพระราชอาณาจักร์สยามทุก ๆ ปีแล้ว ก็จะเปนการที่พระเจ้ากรุงสยามจะทรงยินดียิ่งนัก ข้อต้นในจดหมายบันทึก ซึ่งบริษัทได้ส่งมาให้ข้าพเจ้า เพื่อให้ข้าพเจ้าตอบนั้น มีข้อความต่าง ๆ หลายอย่าง และความบางข้อข้าพเจ้ายังหาเข้าใจไม่ เพราะฉนั้นในเรองนี้ข้าพเจ้าจะได้รวมตอบเปนข้อเดียว

๑๕๒ ในเรื่องเงินซึ่งบริษัทจะรองจ่ายให้ข้าพเจ้า สำหรับที่จะทำของต่าง ๆ ตามที่ข้าพเจ้าได้รับคำสั่งให้มาทำนั้น ในชั้นเดิมข้าพเจ้าก็ได้ทำความตกลงกับมองซิเออร์เดอลานยีไว้แล้ว ว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้พระราชทานข้อสัญญามายังข้าพเจ้าสำหรับให้บริษัทได้ให้ข้าพเจ้ายืมเงินราย นี้แล้ว และในเรื่องนี้ข้าพเจ้าก็ได้มีจดหมายไปยังท่านมาควิศเดอเซเนเล ๆ จึงได้นำคงามขึ้นกราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และได้มาบอกกับข้าพเจ้าว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงมีรับสั่งให้จัดการในเรื่องนี้โดยยุติธรรมให้เปนที่พอใจด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย ครั้นมองซิเออร์เดอลานยีได้มาหาข้าพเจ้า ก็ได้บอกกับข้าพเจ้าว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้มีรับสั่งให้มองซิเออร์เดอลานยีมาทำความตกลงกับข้าพเจ้า โดยไม่ถือตามข้อความที่ข้าพเจ้าได้ตกลงไว้กับมองซิเออร์ซูเลต์และมองซิเออร์เดวีเออในชั้นเดิมแล้ว มองซิเออร์เดอลานยีกับข้าพเจ้าจงได้พูดปรึกษาหารือกันในเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน มองซิเออร์เดอลานยีได้บอกกับข้าพเจ้าว่า ถ้าจะให้บริษัททดรองเงินสำหรับทำสิ่งของต่าง ๆ แล้วบริษัทจะขอคิดเอากำไร ๒๕ เปอเซนต์ และบริษัทรับจะจัดการส่งของต่าง ๆ เหล่านี้บรรทุงลงเรือของบริษัทส่งไปให้ถึงเมืองไทย และบริษัทจะยอมรับผิดชอบในของเหล่านี้ทุกอย่าง เมื่อของเหล่านี้ได้ไปถึงเมืองไทยแล้ว บริษัทจะขอรับเอาสินค้าต่าง ๆ ซึ่งมาจากเมืองจีน เมืองยี่ปุ่น และเมืองมลายู ทั้งจะขอรับเอาสินค้าที่มีฉะเพาะในเมืองไทยด้วย ในสินค้าเหล่านี้มื่เอได้บอกราคาอันถูกต้องและได้คิดค่าระวางเรือเสร็จแล้ว บริษัทก็จะยอมให้กำไร ๒๕ เปอเซนต์เหมือนกัน เพื่อทั้ง ๒ ฝ่ายจะได้มีกำไรเท่า ๆ กัน ๑๕๓ เมื่อมองซิเออรืเดอลานยีได้อธิบายมาถึงข้อนี้แล้ว ข้าพเจ้าจึงได้พูดขึ้นว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงพระกรุณาโปรดส่งให้บริษัทช่วยข้าพเจ้าในการที่จะทำของต่าง ๆ เหล่านี้แล้ว เพราะฉนั้นข้าพเจ้าขอให้ท่านได้ใคร่ครวญถึงพระเมตตาของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ทั้งขอให้รู้สึกว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงพระเมตตากรุณาแก่พวกข้าพเจ้าเพียงไร และขอให้ท่านระลึกด้วย ว่าสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินนายของพวกข้าพเจ้าได้โปรดปรานบริษัทอย่างไร จนถึงกับได้พระราชทานการต่าง ๆ ให้แก่บริษัทดังนี้ เพราะฉนั้นเมื่อท่านได้ระลึกถึงข้อเหล่านี้แล้ว จึงค่อยพูดถึงกำไรที่ท่านจะขอร้อง และเมื่อกำไรที่ท่านจะต้องการเปนการพอสมควรแล้ว ข้าพเจ้าก็จะยอมตามที่ท่านต้องการทุกอย่าง จึงได้เปนอันตกลงกันต่อไปว่า เมื่อข้าพเจ้าได้กลับไปถึงเมืองไทยแล้ว ข้าพเจ้าจะได้จัดการชำระเงินซึ่งบริษัทได้ให้ข้าพเจ้ายืมนั้น โดยส่งสินค้าต่าง ๆ ซึ่งจะสมควรสำหรับให้บริษัทค้าขายได้นั้น แทนเงินที่ข้าพเจ้าได้ยืมมา ถ้าหากว่าสินค้าจะมีไม่พอสำหรับใช้หนี้ให้หมดแล้ว ขาดเหลือเท่าไรก็จะได้ใช้ให้เปนเงินสด เปนอันนับว่าในเรื่องเงินรายนี้ได้เปนอันตกลงกันแล้ว บริษัทจึงได้จัดการจ่ายเงินให้แก่ข้าพเจ้าตามจำนวนที่ข้าพเจ้าจะต้องการสำหรับของต่าง ๆ ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าได้รายงานชี้แจงเข้าไปในเมืองไทยโดยละเอียดแล้ว แต่มาบัดนี้บริษัทกลับมาขอร้องจะคิดเอากำไร ๓๐ เปอเซนต์อีก ซึ่งเปนการไม่ตรงกับข้อความที่ได้ตกลงกันไว้ในชั้นเดิมเลย ๒๐

๑๕๔ ในจดหมายบันทึกของบริษัทนั้นยังมีอีกข้อ ๑ ซึ่งบริษัทขอให้ชำระเงินที่บริษัทได้ให้ยืมนั้น เปนเงินบ้างสินค้าบ้าง แต่สินค้านั้นจะต้องให้บริษัทเลือกเอาตามชอบใจ ถ้าหากว่าไม่มีสินค้าที่บริษัทจะต้องการแล้ว ก็ขอให้ใช้หนี้เปนเงินสดทั้งหมด ในข้อนี้ข้าพเจ้าขอตอบว่า ในชั้นเดิมก็เปนอันได้ตกลงกันแล้วว่าเมื่อข้าพเจ้าได้กลับไปถึงเมืองไทย จะได้คิดหาสินค้าต่าง ๆ ที่มาจากเมืองจีนเมืองยี่ปุ่นและสินค้าในเมืองไทย ส่งให้แก่บริษัทแทนเงินที่บริษัทได้ให้ข้าพเจ้ายืมสำหรับเอาไปทำของต่าง ๆ และได้ตกลงว่าสินค้าที่จะส่งให้บริษัทนั้น ก็จะเลือกแต่ฉะเพาะสินค้าที่สมควรส่งไปจำหน่ายในเมืองฝรั่งเศสและเมืองสุรัตได้เท่านั้น และถ้าสินค้าเหล่านี้มีไม่พอที่จะคุ้มกับเงินที่ยืมมาแล้ว เหลือมากน้อยเท่าไรก็จะได้ชำระให้เปนเงินสดดังนี้ บริษัทยังขอต่อไปอีกว่า ส่วนสินค้าที่มีฉะเพาะในเมืองไทยนั้น ก็ขอให้คิดราคาเท่ากับต้นทุน อย่าได้เพิ่มราคาเอากำไรอีกเลย ในข้อนี้ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า คงจะต้องให้ท่านซื้อสินค้าของหลวงตามราคาที่พ่อค้าอื่น ๆ ซื้อขายกันเปนแน่ บริษัทยังขอร้องต่อไปอีกว่า ในส่วนสินค้าต่าง ๆ ที่มาจากเมืองจีน เมืองยี่ปุ่น เมืองญวนและเมืองอื่น ๆ อันเปนสินค้าที่สมควรจะเอาไปจำหน่ายในประเทศฝรั่งเศสและอินเดียได้นั้น ก็ขอให้คิดเอาตามราคาซึ่งซื้อขายกันในเมืองต้นทางซึ่งส่งสินค้าเหล่านั้น และบริษัทจะยอมให้กำไร ๑๐ เปอเซนต์สำหรับเปนค่าโสหุ้ยและค่าระวางที่บรรทุกสินค้าเหล่านั้นมาเท่านั้น

๑๕๕ เพราะฉนั้นบริษัทจึงขอให้ข้าพเจ้าคิดระยะทางว่า ระยะทางในระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศสยาม และระยะทางในระหว่างเมืองจีนเมืองยี่ปุ่นและเมืองอื่น ๆ กับประเทศสยามนั้น จะห่างไกลผิดกว่ากันสักเท่าไร บริษัทเห็นว่าระยะทางในระหว่างประเทศฝรั่งเศสและประเทศสยามเปนระยะห่างไกลกันมาก เพราะฉนั้นบริษัทจึงจะขอคิดเอากำไร ๓๐เปอเซนต์ แต่ส่วนสินค้าที่มาจากเมืองจีนเมืองยี่ปุ่นและเมืองอื่น ๆ นั้นบริษัทเห็นว่าเปนเมืองที่ใกล้กับประเทศสยามระยะทางไม่สู้ห่างไกลเท่าไรนัก เพราะฉนั้นบริษัทจึงขอคิดกำไรให้เพียง ๑๐ เปอเซนต์เท่านั้น และในส่วนสินค้าที่มีอยู่ฉะเพาะในเมืองไทยนั้น บริษัทจะยอมรับซื้อตามราคาต้นทุนโดยไม่คิดกำไรให้เลย เพราะอ้างเหตุว่าการที่รับเอาสินค้าออกไปจากเมืองเช่นนี้เปนกำไรอยู่ในตัวแล้ว ในข้อความต่าง ๆ ที่บริษัทยกมาอ้างดังนี้ข้าพเจ้าได้ตอบว่าข้าพเจ้าเปนผู้ที่ไม่มีความรู้ในวิธีการค้าขาย เพราะฉนั้นจะทำความตกลงอย่างไรไม่ได้ การที่จะตกลงกันได้นั้นต้องรู้จักในวิธีค้าขายจึงจะทำได้ แต่พะเอิญสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า ก็มิได้เคยทรงใช้ให้ข้าพเจ้าทำการค้าขายเลย แได้ทรงใช้ให้ข้าพเจ้าทำราชการอย่างอื่นเสมอมา และเมื่อข้าพเจ้าจะมาราชการใรทวีปยุโรปนั้น ก็ไม่ได้นึกว่าจะต้องสืบสวนถึงการต่าง ๆ อย่างใด เพราะเห็นว่าท่านราชทูตแห่งประเทศฝรั่งเศส กับทั้งเจ้าพนักงานผู้แทนของบริษัทซึ่งเปนธุระในการงานของบริษัทในกรุงศรีอยุธยานั้น ก็ได้ขอร้องและขอพระมหากรุณาต่าง ๆ ซึ่งสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามได้พระราชทานตามความต้องการทุก

๑๕๖ อย่างแล้ว จนที่สุดบางอย่างซึ่งบริษัทหรือท่านราชทูตฝรั่งเศสมิได้ขอร้องเลย ก็ได้โปรดพระราชทานเพิ่มให้อีกก็มาก ในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงจัดตั้งข้าราชการสำหรับให้ทำหนังสือสัญญาว่าด้วยการค้าขาย ซึ่งเปนการได้ตกลงทำกันโดยเรียบร้อยแล้ว เพราะฉนั้นจะเอาเรื่องที่ได้ตกลงกันไว้แล้วมาฟื้นขึ้นอีก เปนการที่ไม่สมควรเลย อนึ่งเมื่อพวกข้าพเจ้าพักอยู่ที่ตำบลพระราชวังเวอซายนั้น ท่านมาควิศเดอเซเนเลได้บอกกับข้าพเจ้าว่า ในข้อสัญญาซึ่งสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินนายของข้าพเจ้าได้พระราชทานแก่บริษัทนั้น มีอยู่บางข้อซึ่งเปนที่พอใจ และบางข้อซึ่งไม่เปนที่พอใจของบริษัทก็มี แต่ในเวลาที่เรือจะออกไปเมืองไทยในคราวหน้านี้ พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้แต่งคนออกไปเมืองไทย เพื่อไปกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงสยาม ขอร้องแก้ข้อความเสียใหม่ และท่านมาควิศเดอเซเนเลเชื่อว่าโดยเหตุที่สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามผู้เปนใหญ่ ได้ทรงเปนพระราชไมตรีกับสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสแล้วก็คงพระราชทานสิทธิต่าง ๆ ให้เปนที่พอใจของบริษัท และเมื่อบริษัทจะต้องการอย่างไร พระเจ้ากรุงสยามก็คงจะพระราชทานตามความต้องการของบริษัททุกอย่างเปนแน่ ในส่วนตัวข้าพเจ้าเองนั้นเชื่อใจว่า ถ้ามองซิเออร์เซเบเรต์ผู้ซึ่งจะไปเมืองไทยในคราวนี้ได้ขอร้องสิ่งที่สมควรแล้ว พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าก็คงจะทรงยอม และถ้ามองซิเออร์เซเบเรต์ได้ขอร้องอย่างใด ก็คงจะพระราชทานให้ตามความต้องการทุกอย่าง

๑๕๗ ในจดหมายบันทึกของบริษัทนั้นมีข้อความกล่าวว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้มีพระกระแสสั่งว่า ถ้าข้าพเจ้ายอมแล้วก็ให้บริษัททำความตกลงกับข้าพเจ้าทุก ๆ อย่าง ถ้าหากความต้องการของบริษัทเปนสิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่สมควรแล้ว ก็ให้งดฉะเพาะเรื่องนั้นไว้รอไปทำความตกลงกันในเมืองไทยต่อไป เพราะพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงไว้พระทัยในความยุติธรรม และในพระทัยดีของพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า ในข้อนี้ข้าพเจ้าต้องขอตอบว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า มีพระราชประสงค์อยู่เสมอที่จะทำการปรองดองกับสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกเมื่อ และเพราะเหตุว่าผู้อำนวยการของบริษัทก็เปนไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็เปนผู้ที่ปกครองพวกผู้อำนวยการของบริษัท และเพราะเหตุว่าบริษัทนี้เท่ากับเปนหนทางอันดีสำหรับเชื่อมพระราชไมตรีในระหว่างพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ทั้งจะทำให้พระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ได้เปนน้ำหนึ่งใจเดียว และทำให้พระราชไมตรีได้คงมีติดต่อชั่วกาลนานนั้น ข้าพเจ้าจึงยืนยันอยู่เสมอว่า สิ่งใดที่เปนการสมควรที่พระเจ้ากรุงสยามจะลั่นพระโอษฐ์ได้ และสิ่งใดจะกระทำความเจริญให้เกิดแก่บริษัทแล้ว ก็เปนสิ่งที่พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าจะได้พระราชทานโดยเต็มพระทัย ในข้อนี้ขอให้คนทั้งหลายจงเชื่อถ้อยคำของข้าพเจ้าเถิด แต่ในเรื่องนี้เปนการจำเปนที่บริษัทจะต้องคิดถึงการข้างหน้าบ้าง อย่าคิดแต่ฉะเพาะการปัตยุบัน เพราะข้าพเจ้าเห็นแน่แก่ใจแล้วว่า ถ้าบริษัทได้ไปตั้งห้างค้าขายให้มั่นคงถาวรในเมืองไทยแล้ว บริษัทก็คง

๑๕๘ จะได้รับผลอันดี ยิ่งกว่าห้างทั้งหลายซึ่งบริษัทจะได้ไปตั้งในเมืองอื่น ๆ อีกหลายเท่า หนังสือฉบับนี้ท่านราชทูต (สยาม) ได้ส่งเปนคำตอบจดหมายบันทึกของบริษัท เมื่อณวันเสาร์ เดือน ๓ ขึ้น ๖ ค่ำ ปีขาล ตรงกับวันที่ ๑๘ เดือนมกราคม ซึ่งเปนวันที่ท่านราชทูตได้ออกเรือ


จดหมายบาดหลวงตาชาด์ วันที่ ๑๙ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ด้วยข้าพเจ้าจวนจะออกจากประเทศฝรั่งเศสอยู่แล้ว เพราะฉนั้นข้าพเจ้าขอโอกาสอธิบายข้อความต่าง ๆ ต่อท่านบางข้อ เพื่อในเวลาที่ข้าพเจ้าไปลาท่านนั้น ท่านจะได้ชี้แจงให้ข้าพเจ้าเข้สใจต่อไป คือ ข้อ ๑ เมื่อวานนี้เวลากลางคืนข้าพเจ้าได้ไปลาท่านมองเซนเยอร์เดอเซเนเล ท่านมองเซนเยอร์เดอเซเนเลจึงได้บอกกบข้าพเจ้าว่า จะได้มอบพระราชหัตถ์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสพระราชทานไปยังมองซิเออร์คอนซตันซ์ไว้ที่ข้าพเจ้าฉบับ ๑ แต่ท่านมาควิศเดอเซเนเลก็หาได้มีคำสั่งว่าจะให้ข้าพเจ้าจัดการอย่างใดไม่ เพราะฉนั้นข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่าพระราชหัตถ์ฉบับนี้จะเปนประโยชน์อย่างไรบ้าง ข้อ ๒ ข้าพเจ้ายังหาทราบไม่ว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะพระราชทานอาวุธชนิดใดให้แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์บ้าง แต่เปนเรื่องที่ข้าพเจ้าควร


๑๕๙ จะทราบ เพราะจะต้องจัดการสลักป้ายส่งไปให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ที่เมืองไทย เพื่อมองซิเออร์คอนซตันซ์จะได้ใช้อาวุธที่พระราชทานนั้นได้จริง ๆ ข้อ ๓ ข้าพเจ้ายังหาทราบไม่ว่าพวกหัวหน้าและเจ้าพนักงานทั้งหลาย ได้รับคำสั่งให้ทำตามคำสั่งของมองซิเออร์คอนซตันซ์หรืออย่างไร และจะให้เจ้าพนักงานเหล่านี้ประพฤติตัวต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์อย่างไรท่านคงจะเห็นได้ว่าเมื่อเวลาข้าพเจ้าไปรายงานให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบถึงการต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้าได้มาจัดการและได้มาเจรจาในประเทศฝรั่งเศสนั้น ข้อนี้คงจะเปนข้อแรกที่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะได้ถามขึ้นก่อน ข้อ ๔ ในข้อที่เปนข้อสำคัญที่สุดที่ทำให้ข้าพเจ้าจำเปนต้องมายังประเทศฝรั่งเศสนั้น ก็ยังหาได้มีใครตอบข้าพเจ้าว่าประการใดไม่ ข้อนี้ก็คือให้ข้าพเจ้าหาคนที่ดีที่ฉลาดไหวพริบที่รู้จักปิดความลับและที่ อยู่ในศีลในธรรม ๖๐ หรือ ๗๐ คน ซึ่งเปนคนที่มองซิเออร์คอนซตันซ์จะต้องจัดการให้เข้าทำราชการแผ่นดินที่เปนหน้าที่สำคัญ ๆ ในประเทศสยาม ทั้งในพระราชสำนักและตามหัวเมือง ดังท่านคงจะได้ทราบเรื่องอยู่แล้ว เพราะมองซิเออรืคอนซตันซ์ได้มีจดหมายลัยมาฉบับ ๑ ซึ่งไม่ได้กล่าวความอย่างอื่นนอกจากเรื่องนี้ ซึ่งเปนความดำริห์อันสำคัญมาก เมื่อข้าพเจ้าได้เฝ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและได้กราบทูลให้ทรงทราบในเรื่องนี้ ก็ได้แสดงพระองค์ว่าทรงเห็นชอบด้วยในความคิดนี้ และท่านมาควิศเดอเซเนเลก็ได้กรุณารับรองกับข้าพเจ้าว่า จะได้เปนธุระในเรองนี้โดยฉะเพาะ

๑๖๐ ในเรื่องนี้ขอท่านคิดดูเถิด ว่าถ้าภายใน ๕ หรือ ๖ ปี เราได้มีชาวฝรั่งเศสเปนที่ปรึกษาราชการแผ่นดินในประเทศสยามบ้าง มีชาวฝรั่งเศสเปนเจ้าพนักงานในพระราชวังของพระเจ้าสแผ่นดินสยามบ้าง มีชาวฝรั่งเศสเปนผู้ว่าราชการตามหัวเมืองบ้าง มีชาวฝรั่งเศสเปนผู้บังคับการเรือบ้างเช่นนี้ สาสนาคริศเตียนจะไม่ได้ตั้งอยู่ในประเทศสยามอย่างแน่นอนมั่นคงหรือ เพราะคนเหล่านี้ก็เท่ากับเปนตัวสาสนาอยู่แล้วและเมื่อสาสนาโรมันคาธอลิกได้ตั้งอยู่อย่งมั่นคงเช่นนี้แล้ว จะมีประเทศใด ถึงจะมีกำลังและอำนาจสักปานใดที่จะมาทำให้สาสนาเสื่อมลงได้เล่า ส่วนนายทหารที่ได้ส่งไปพร้อมกับกองทหารนั้นก็จะต้องประจำการอยู่เสมอ ซึ่งเปนการจำเปนโดยแท้ เพราะเหตุว่าในการที่ไปตั้งกองทหารขึ้นใหม่ ๆ เช่นนี้ จำเปนจะต้องระวังโดยรอบคอบ และจะต้องเตรียมตัวระวังเหตุการณ์อยู่ทุกเมื่อ เพราะเหตุว่าไหนเลยพวกไทยจะพอใจที่ได้เห็นชาวต่างประเทศเข้าไปอยู่ในบ้านเมืองของตัวมากมายเช่นนี้ ฝ่ายพวกอังกฤษพวกฮอลันดาและพวกแขกมัว ซึ่งเปนพวกที่มีกำลังและมีอำนาจมากก็คงจะไม่พอใจ และคงจะพยายามทุกอย่างที่จะยุแหย่ให้คนไทยทั้งผู้ดีแลไพร่ราษฎรให้เปนขบถขึ้น และถ้าแม้ว่าพระเจ้ากรุงสยามไม่มีข้าราชการที่จงรักภักดี และถ้าท่านมองซิเออร์คอนซตันซ์ไม่มีชาวฝรั่งเศสเหล่านี้หนุนแล้ว ก็จะไม่ต้องสงสัยเลยว่ากองทหารของเราคงจะสู้พวกขบถไปไม่ได้นานเท่าไร เพราะเสบียงอาหารก็ไม่มี กำลังก็ไม่มีพอทจะสู้ข้าศึกอันมีจำนวนมากเช่นนี้ได้

๑๖๑ อีกประการ ๑ ท่านก็คงจะรู้สึกได้ว่า ถ้ามองซิเออร์คอนซตันซ์ได้บำรุงการสาสนาแล้ว ก็เท่ากับทำให้ตัวมีอำนาจและชื่อเสียงดีขึ้น มองซิเออร์คอนซตันซ์เองก็ได้พูดกับข้าพเจ้าบ่อย ๆ ว่าสาสนาเปนที่พึ่งของมองซิเออร์คอนซตันซ์ และมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็เปนที่พึ่งของสาสนา การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์พูดเช่นนี้ท่านก็คงเข้าใจได้ว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์หมายความว่า พวกที่ถือสาสนาคริศเตียนควรจะต้องหนุนอำนาจของตัว และส่วนตัวมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็จำเปนจะต้องบำรุงอุดหนุนพวกที่ถือสาสนาคริศเตียน เพื่อจะได้ให้พวกที่ถือสาสนา คริศเตียนได้ตั้งตัวให้มั่นคงหนักขึ้นอีกดังนี้ ในจดหมายของมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นก็ยกเรื่องพวกแขกมัวเปนตัวอย่างว่า การที่พวกแขกมัวมีอำนาจในประเทศสยามนั้น ก็เพราะเหตุที่พวกนี้ได้บังคับบัญชาการตามหัวเมือง และการที่พงกแขกมัวซึ่งถือสาสนามหมัดได้ปกครองการบ้านเมืองนั้น ก็ได้ชักชวนคนไทยให้เข้าถือสาสนามหมัดเปนอันมาก เพราะเหตุฉนี้จึงจำเปนจะต้องมีคนที่เปนหลักถาร และที่ไม่เอาประโยชน์ส่วนตัวเปนใหญ่หลาย ๆ คน สำหรับตั้งต้นจัดการให้ลงรูปดังข้าพเจ้าได้อธิบายมาแล้วนี้ ซึ่งเปนปฐมเรื่องที่ข้าพเจ้ามีหน้าที่มาจัดการในประเทศฝรั่งเศสครั้งนี้ และซึ่งเปนเรื่องที่จะมีประโยชน์ต่อการสาสนาอย่างยง อีกประการ ๑ คนที่จะไปรับหน้าที่ต่าง ๆ อย่างว่ามานี้ จำเปนจะต้องประพฤติตัวให้เปนที่พอพระทัยของพระเจ้ากรุงสยามและให้เปนที่พอใจของมองซิเออร์คอนซตันซ์ด้วย ถ้าแม้ว่าคนพวกนี้มิได้พยายาม ๒๑

๑๖๒ เรียนขนบธรรมเนียมของไทย เพื่อจะได้ปกครองการบ้านเมืองให้เปนยุติธรรม หรือสำหรับทำการหน้าที่อื่น ๆ แล้ว ไหนเลยมองซิเออร์คอนซตันซ์จะตั้งแต่งให้คนเหล่านี้ได้เข้ารับราชการในตำแหน่งสำคัญ ๆ เล่า นอกจากนี้คนพวกนี้จะต้องพยายามเรียนภาษาไทยด้วย ซึ่งเปนการที่พวกนายทหารฝรั่งเศสของเราคงจะไม่พยายามเรียนเปนแน่ เพราะพวกนายทหารฝรั่งเศสคงจะไม่ได้อยู่ในประเทศสยามกี่ปีนัก และพวกนี้พอไปถึงเมืองไทยยังไม่ทันอะไร ก็คงจะคิดดิ้นรนกลับไปบ้านเมืองของตัวเท่านั้น ข้อนี้ข้าพเจ้าได้เคยเห็นเปนตัวอย่างมาแล้ว คือที่เราได้ส่งกองทหารไปตั้งอยู่ที่ประเทศอเมริกา เมืองคานาดา เกาะต่าง ๆ และในที่ทั้งปวงนั้น พวกนายทหารและพลทหารมีความเบื่อหน่ายที่สุด พอเหยียบขึ้นไปบนพื้นดินก็ไม่พอใจเสียแล้วดังนี้ แต่สำหรับเมืองไทยนั้นจะต้องจัดคนให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่อย่าง มั่นคง และให้ไปอยู่ณที่นั่นชั่วกัลปาวสาน จึงจำเปนต้องหาคนที่จะสมัคไปอยู่เพื่อประโยชน์ของสาสนาและเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินด้วย เพราะเหตุฉนี้เมื่อคนเหล่านี้ได้ไปอยู่ในเมืองไทยดุจถูกเนรเทศดังนี้ จึงจำเปนต้องให้พวกนได้รับประโยชน์พิเศษ เพื่อทดแทนในการที่เท่ากับถูกเนรเทศ และให้เขาได้มีน้ำใจสมัครักใคร่ไปอยู่ในบ้านเมืองอันห่างไกลเช่นนี้ ข้าพเจ้าได้นำคนส่งให้ท่านมาควิศเดอเซเนเล ๒ คน ซึ่งมีวุฒิและอัธยาศัยสมควรจะไปได้ทุกอย่าง เสียอย่างเดียวแต่คนทั้ง ๒ นี้เปนคนที่หนุ่มเกินไป แต่การที่อายุน้อยไปนั้นก็ยังมีข้อชดเชยที่คนทั้ง ๒ นี้

๑๖๓ เปนคนที่ฉลาดไหวพริบดี อันจะหาคนอื่นที่ประกอบด้วยวุฒิทั้งปวงอย่างนี้ไม่ได้ คนทั้ง ๒ นี้ก็เปนที่พอใจของท่านมาควิศเดอเซเนเล และข้าพเจ้าก็ได้ชมเชยยกย่องท่านมาควิศเดอเซเนเลออกจะรำคาญ แต่ถึงดังนั้นในเรื่องนี้ก็ยังหาได้ตกลงกันอย่างไรไม่ จริงอยู่รัฐบาลฝรั่งเศสก็จะได้ส่งคนไปยังประเทศสยามตามความประสงค์ แต่จะส่งไปโดยวิธีซึ่งทำให้ข้าพเจ้าเสียใจอย่างยิ่ง จนถึงกับนึกเสียใจว่าไม่ควรจะเปิดปากพูดแทนมองซิเออร์คอนซตันซ์เลย และข้าพเจ้าเชื่อว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะไม่ยินดีรับพวกนี้เลย ถ้าแม้ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสได้ส่งคนเหล่านี้ไปโดยตั้งเงินเดือนให้คนละ ๒๐๐ แฟรง และรับรองว่าจะให้ทำราชการต่อไปแล้ว มองซิเออร์คอนซตันซ์ก็คงจะมีความยินดีรับคนพวกนี้ไว้ และคงจะถือว่ารัฐบาลฝรั่งเศสได้กรุณาแก่มองซิเออร์คอนซตันซ์อย่างยิ่ง เพราะคนพวกนี้เมื่อได้รับเงินเดือนแล้วก็คงจะได้ช่วยการสาสนาและการแผ่นดิน โดยถือใจเสียว่าเท่ากับตัวได้ทำราชการอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเหมือนกัน ขอให้ท่านระลึกถึงจดหมายลับของมองซิเออร์คอนซตันซ์ซึ่งมีใจความว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์หวังใจว่า คนที่จะมาอยู่ในเมืองไทยนั้นคงจะมีผลประโยชน์พอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ดังนี้ เพราะฉนั้นผลที่สุดของเรื่องนี้ เมื่อคนพวกนี้ซึ่งเขาได้ขอมาโดยฉะเพาะได้ไปถึงเมืองไทยแล้ว ก็คงจะไม่มีใครเอาเปนธุระด้วยเลย คนอื่น ๆ ซึ่งไม่มีความชำนาญคงจะได้รับหน้าที่และรับความกรุณาต่าง ๆ แต่คนของเรากคงจะไม่ได้รับอะไรเลย


๑๖๔ ในการที่รัฐบาลฝรั่งเศสไม่ยอมจัดตามที่ข้าพเจ้าขอร้องนั้น ข้าพเจ้าเองก็มิได้ทุกข์ร้อนอย่างใด เพราะข้าพเจ้าไม่ได้เสียอะไรด้วย และพระเปนเจ้าก็เปนพยานของข้าพเจ้า ว่าในเรื่องนี้ถ้าไม่ได้เกี่ยวเปนประโยชน์ของสาสนาและประโยชน์ของมองซิเออร์คอนซตันซ์แล้ว ข้าพเจ้าคงจะไม่อ้าปากพูดถึง ๒ ครั้งเลย เมื่อข้าพเจ้าได้กราบทูลพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสในเรื่องนี้ สังเกตดูก็เปนเรื่องที่พอพระทัยเปนอันมาก ต่อนั้นมาท่านบาดหลวงเดอลาเชซ์ก็ได้นำความกราบทูลอีก และได้พูดกับมองเซนเยอร์เดอเซเนเลด้วย ซึ่งกระทำให้ข้าพเจ้ามีความหวังใจว่าคงจะเปนเรองที่สำเร็จ ครั้นมาบัดนี้ก็เปนเรื่องที่ล้มเสียแล้ว แต่ในเรื่องนี้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ได้มีรับสั่งไว้กับท่านบาดหลวงเดอลาเชซ์ว่า ถ้ามองเซนเยอร์เดอเซเนเลได้กราบทูลแนะนำแล้ว ก็จะได้โปรดพระราชทานเงินเดือนให้แก่คนเหล่านี้ เมื่อการได้มาลงรูปเช่นนี้แล้วข้าพเจ้าก็หยากให้งดเสียดีกว่า เพราะถ้าพวกนี้ได้อยู่ในประเทศฝรั่งเศสต่อไป ก็จะยังดีกว่าที่จะไปอยู่ในประเทศสยามด้วยอาการเช่นนี้ และข้าพเจ้าเชื่อว่าทำอย่างไร ๆ เขาก็คงไม่ยอมอยู่ในเมืองไทยเปนแน่ นี่แหละเปนข้อความต่างๆที่ข้าพเจ้าหยากจะทราบความโดยเลอียดก่อนที่ข้าพเจ้าจะได้ออกจากประเทศฝรั่งเศส และข้าพเจ้าก็จะได้ไปภายในอาทิตย์นี้อยู่แล้ว การที่ข้าพเจ้าได้ถามและกล่าวถ้อยคำเช่นนี้ ข้าพเจ้าต้องขออภัยต่อท่าน แต่เปนการจำเปน เพราะเรื่องเหล่านี้เปนเรื่องสำคัญและเปนเรื่องที่ร้อน และการที่ข้าพเจ้าได้มายังประเทศฝรั่งเศสนั้น ก็เพื่อจะมา

๑๖๕ จัดการในเรื่องนี้โดยฉะเพาะ ข้าพเจ้าก็คอยอยู่เสมอว่ารัฐบาลคงจะได้จัดการในเรื่องนี้ให้สำเร็จ เพราะได้มีคนบอกข้าพเจ้าอยู่บ่อย ๆ ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสจะได้จัดการตามจดหมายของมองซิเออร์คอนซตันซ์ทุกประการ ครั้นข้าพเจ้ามาเห็นว่าเรื่องที่เปนเรื่องสำคัญที่สุด และเปนเรื่องที่มอง ซิเออร์คอนซตันซ์ตั้งใจเจตนานัก มิได้มีใครจัดการอย่างไร หรือจะได้จัดการแต่ไม่ได้บอกให้ข้าพเจ้าทราบ ข้าพเจ้าจึงเห็นว่าเปนการจำเปนที่จะต้องถามให้ได้ความโดยชัดเจน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไปรายงานให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ทราบต่อไป เหตุที่ท่านเอาใจใส่ในการสาสนา และที่ท่านมีความกรุณาต่อข้าพเจ้าบ้างนั้น จึงกระทำให้ข้าพเจ้าหวังว่าท่านคงจะได้ฟังคำอ้อนวอนของข้าพเจ้า ซึ่งขอให้ท่านได้โปรดพูดกับท่านมาควิศเดอเซเนเลในเรื่องนี้ และข้าพเจ้าเชื่อในความปรีชาสามารถของท่านว่าคงจะจัดการในเรื่องนี้ให้เปนผลสำเร็จจงได้ ถ้าท่านเห็นเปนการสมควรและจดหมายของข้าพเจ้าไม่ยืดยาวเกินไปแล้ว ท่านจะเอาหนังสือฉบับนี้ให้ท่านมาควิศเดอเซเนเลดูก็ได้ แต่จดหมายฉบับนี้ข้าพเจ้ายังไม่มีโอกาสที่จะให้ท่านบาดหลวงเดอลาเชซ์ดู เพราะฉนั้นขอได้โปรดระวังอย่าให้หนังสือฉบับนี้หายได้ ในที่สุดนี้ขอได้รับความนับถือของข้าพเจ้าด้วย ( เซ็น ) ตาชาด์


๑๖๖ จดหมายมาควิศเดอเซเนเล เซเกรตารีออฟสเต๊ต ของสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส มีไปยังมองซิเออร์คอนซตันซ์ตินฟอนคอล มรรคมหาเสนาบดี ของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามผู้เปนใหญ่ วันที่ ๒๒ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๗ ( พ.ศ. ๒๒๒๙ ) ด้วยมีพระราชโองการในพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของข้าพเจ้า ให้ข้าพเจ้ามีหนังสือมายังท่าน และหนังสือฉบับนี้ข้าพเจ้าจะได้ฝากไปกับบาดหลวงตาชาด์เยซวิตเพื่อนำไปให้ท่าน สมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงมีความยินดีเปนอันมาก ที่ได้เห็นจดหมายและรายงานต่าง ๆ ของบาดหลวงตาชาด์ ซึ่งได้ถวายไปในนามของท่าน และท่านก็คงจะเห็นได้ว่าการที่ได้ทรงพระเมตตาแก่ท่านต่าง ๆ นั้น ก็เพราะเหตุที่ทรงโปรดปราบในตัวท่านโดยฉะเพาะ และทรงไว้พระทัยในถ้อยคำของท่านที่บาดหลวงตาชาด์ไแด้กราบทูลไว้แทนตัวท่าน ทั้งทรงวางพระทัยว่าท่านคงจะเอาราชการของพระองค์เปนใหญ่ยิ่งกว่าการทั้งปวงและท่านคงจะจัดการทุกอย่างให้เปนที่พอพระทัยด้วย บาดหลวงตาชาด์จะได้อธิบายให้ท่านเข้าใจ ว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส มีพระราชประสงค์ให้ท่านทำอย่างไร และเพระาเหตุว่าการที่บาดหลวงตาชาด์จะได้แนะนำให้ท่านทำ เปนสิ่งสำคัญสำหรับเจริญทางพระราชไมตรี ซึ่งสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงมีต่อสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่สงสัยเลยว่าท่านผู้เปนคนที่ฉลาดไหวพริบ


๑๖๗ และเปนผู้เอาใจใส่ในความดีความเจริญของพระเจ้ากรุงสยามนายของท่าน ท่านก็คงจะเอาใจใส่ให้การทั้งปวงได้ดำเนินไป เพื่อให้พระราชไมตรีในระหว่างพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ได้ดำรงคงอยู่ชั่วกาลนาน เพราะพระราชไมตรีนี้จะเปนสิ่งที่เปนประโยชน์ต่อพระเจ้ากรุงสยามในภายภาคหน้า เพราะฉนั้นข้าพเจ้าจึงหวังว่าท่านคงจะได้จัดการตามที่บาดหลวงตาชาด์ จะอธิบายให้ท่านฟังต่อไป และเมื่อบาดหลวงตาชาด์ได้พูดจาอธิบายว่าอย่างไร ท่านจงเชื่อถือถ้อยคำของบาดหลวงตาชาด์เถิด ข้าพเจ้ามีความยินดีเปนอันมากว่าพระราชไมตรีในระหว่างนายของเราทั้ง ๒ คน เปนโอกาสที่จะให้ข้าพเจ้าได้ทำการติดต่อกับท่านได้ และข้าพเจ้าจะได้คอยหาช่องโอกาสอยู่เสมอ ที่จะแสดงให้ท่านเห็นถึงไมตรีของข้าพเจ้าโดยฉะเพาะ เขียนที่พระราชวังเวอซาย ณวันที่ ๒๒ เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๒๙) ( เซ็น ) เซเนเล

จดหมายมองซิเออร์โวดรีคูร์ ถึงมองเซนเยอร์ ด้วยเมื่อวานนี้ข้าพเจ้าได้รับคำสั่งว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้โปรดพระราชทานเงินเดือนให้แก่ข้าพเจ้า การที่ข้าพเจ้าได้รับพระราชทานเงินเดือนเช่นนี้ ก็ด้วยความกรุณาของท่าน เพราะฉนั้นขอท่านได้โปรด


๑๖๘ อนุญาตให้ข้าพเจ้าขอบพระคุณท่าน และข้าพเจ้าขอแสดงตัวว่า ข้าพเจ้าจะมิได้ลืมบุญคุณที่ท่านได้มีแก่ข้าพเจ้าจนชีวิตหาไม่ การที่ท่านได้มีบุญคุณแก่ข้าพเจ้านั้นมากมายนัก จนข้าพเจ้าไม่ทราบว่าจะแสดงตัวให้ท่านเห็นในความจงรักภักดีของข้าพเจ้าอย่างไร เพราะฉนั้นข้าพเจ้าได้แต่ให้พรแก่ท่าน ขอท่านจงมีความสุขความเจริญทุกประการเทอญ เมื่อวานนี้ข้าพเจ้าได้รับคำสั่งและบาญชีนายทหารเรือ ที่จะต้องประจำกองทัพเรือซึ่งจะส่งไปเมืองไทยนั้นแล้ว และข้าพเจ้าจะได้ปฏิบัติการให้ตรงกับกระแสรับสั่งของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกประการ อนึ่งขอท่านได้โปรดมีคำสั่งในเรื่องที่จะยิงสลูตในที่ทั้งปวงซึ่งเรือ จะต้องแวะทุกแห่งด้วย ถ้าเปนการจำเปนที่เรือจะต้องแวะเข้าไปที่เมืองบาตาเวียแล้ว ก็ขอท่านได้โปรดมีคำสั่งด้วย ว่าจะควรให้ข้าพเจ้ารับคนนำร่องชาวฮอลันดาดังเช่นที่เคยทำมาครั้งก่อนหรืออย่างไร เพราะการที่มีคนนำร่องนั้นเปนการจำเปน เพื่อจะได้เดินเรือไปเมืองไทยให้สดวกพ้นความอันตรายทั้งปวง ขอท่านได้โปรดทราบไว้ด้วยว่าเรือคงจะไปติดอยู่ที่สันดอนแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะเรือลามาลีนเปนเรือที่กินน้ำลึก ที่สันดอนนั้นมีน้ำอยู่ในราว ๑๑ หรือ ๑๒ ฟิต และมีโคลนมีตมหนาอยู่ในราว ๑ ฟุต บางแห่งมีน้ำหรือตมลึกอยู่ในราว ๑๒ หรือ ๑๓ ฟิต แต่ตามนี้เปนดินอ่อนเหลวมากสันดอนนี้ยาวอยู่ในราว ๓ ไมล์เศษ แต่ถ้าเข้าไปในลำน้ำได้แล้ว ก็มีน้ำลึกไม่ต่ำกว่า ๘ วา


๑๖๙ ข้อที่ลำบากนั้นก็คือต้องถ่ายปืนใหญ่ลงเรือลำอื่น และต้องสูบน้ำออกจากเรือ และต้องทำอย่างนี้ทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งเปนการลำบากมาก เพราะต้องทอดสมอห่างกับปากน้ำราว ๓ ไมล์ และการที่จะถ่ายปืนถ่ายน้ำหนักตั้ง ๑๐๐ ตันนั้นต้องเสียเวลามาก และการที่จะถ่ายเอาปืนใหญ่ลงเรือเล็กนั้นก็เปนการติดขัด เพราะเรือของเมืองไทยมีกำลังไม่พอที่จะบรรทุกปืนใหญ่ได้ ด้วยเรือไทยเปนเรือที่ไม่แขงแรงแน่นหนาเลยทั้งแคบด้วย ไม่มีกำลังพอที่จะบรรทุกของหนัก ๆ ได้ แต่จะอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าจะได้พยายามปฏิบัติการให้ตรงตามกระแสรับสั่งของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทุกประการให้จงได้ ข้าพเจ้าเชื่อว่า การที่ข้าพเจ้าได้รายงานให้ท่านทราบในข้อนี้ ท่านคงจะเปนที่พอใจ ขอท่านได้เชื่อในเถิดว่า ข้าพเจ้าจะได้มีความนับถือท่านจนชีวิตหาไม่ และจะได้คอยรับคำสั่งของท่านต่อไป ข้าพเจ้าเปนบ่าวอันนอบน้อมของท่าน ( เซ็น ) เดอโวดรีคูร์



๒๒


๑๗๐ วันที่ ๑๘ เดือนเมษายน ค.ศ. ๑๖๘๗ ( พ.ศ. ๒๒๓๐ ) ถึงมองเซนเยอร์ ด้วยข้าพเจ้าขออนุญาตรายงานให้ท่านทราบว่า เจ้าพนักงานผู้จ่าย สเบียงอาหาร ได้จ่ายสเบียงอาหารสำหรับคนประจำในเรือลามาลีน ที่เมืองเบรสต์ตามคำสั่งของท่านเอกอัครราชทูตของพระเจ้ากรุงสยาม และจะมาคิดเอาเงินค่าสเบียงอาหารเหล่านี้จากบริษัท ท่านคงจะทราบได้ดีว่าการที่จะจัดเรือรบไปในคราวนี้ เกี่ยวด้วยพระราชกิจของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมากกว่าการของบริษัท และเวลานี้บริษัทก็ยังไม่มีทุนพอที่จะจ่ายค่าโสหุ้ยพิเศษเช่นนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็พร้อมอยู่เสมอที่จะปฏิบัติตามคำสั่งที่ท่านจะได้โปรดสั่งมาทุกเมื่อ ( เซ็น ) ผู้อำนวยการ ของบริษัทฝ่ายอินเดีย ตวันออก

มองซิเออร์เดอลานยี กรุงปารีศ ณวันที่ ๒๔ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. ๑๖๘๗ ( พ.ศ. ๒๒๓๐ ) เรือเซนต์ฟรังซัวซึ่งได้กลับมาจากฝั่งคอรอมันเดลนั้น ได้เข้ามาทอดสมอที่ท่าเรือเมืองเบรสต์วันนี้แล้ว ตามข้อความในหนังสือและรายงานต่าง ๆ ซึ่งเรือเซนต์ฟรังซัวได้รับมานั้น คงได้ความว่า เรือเลอคอชต้องไปจอดรอระดูหนาวอยู่ที่เมืองตะนาวศรี และได้ความว่าเวลานี้มองซิเออร์มาแตงยังอยู่ที่เมืองปอนดี

๑๗๑ เชรี โดยที่มองซิเออร์มาแตงหวังจะตั้งห้างอย่างมั่นคงถาวรที่เมืองนั้น และมองซิเออร์มาแตงเชื่อว่า ผู้เปนใหญ่ที่มีอำนาจในเมืองนั้นคงไม่ขัดขวางอย่างใด ได้ความต่อไปว่า มองซิเออร์มาแตงได้รับใบอนุญาตจากเจ้าแผ่นดินเมืองคอลกอนกา อนุญาตให้ไปตั้งห้างที่เมืองมาซูรีปาตำได้ แต่กว่ามองซิเออร์มาแตงจะไปตั้งห้างได้ พวกฮอลันดาได้พาเรือรบและกองทหารไปชิงเอาเมืองเสียก่อน และพวกฮอลันดาได้สร้างป้อมขึ้นที่เมืองนั้นแล้ว ได้ความต่อไปว่า มองซิเออร์มาแตงได้ส่งเจ้าพนักงานไปที่เมืองเบงกอล ๕ คน เจ้าพนักงาน ๕ คนนี้ได้รับทุนไปจากมองซิเออร์มาแตงเปนเงินประมาณ ๔๐,๐๐๐ แฟรง เพื่อให้ไปจัดการตั้งห้าง เพราะห้างนี้ได้ลงมือสร้างค้างมาตั้งแต่ ค.ศ. ๑๖๘๕ และ ๑๖๘๖ ( พ.ศ. ๒๒๒๘ และ๒๒๒๙ ) แล้ว มองซิเออร์มาแตงได้มีจดหมายรายงานมาว่า พวกอังกฤษได้เตรียมเรือรบไว้ ๔ ลำที่เมืองมาคาศ แล้วอังกฤษได้เอาทหารเครื่องอาวุธยุทธภัณฑ์และเครื่องมือต่าง ๆ บรรทุกลงเรือ ๔ ลำนี้ เพื่อจะตีบ้านเมืองแห่ง ๑ ตามแม่น้ำแกนซ์ เพราะพวกอังกฤษปราถนาจะเปนใหญ่ในการสินค้าในแถบเหล่านั้น ได้ความตามจดหมายต่าง ๆ ที่มีมาจากเมืองปอนดีเชรี ว่าดูเหมือนพวกฮอลันดาจะกระทำการข่มเหงพระเจ้ากรุงสยาม เจ้าพนักงานที่รายงานมานี้กล่าวต่อไปว่า เขาได้ความมาจากเมืองไทยว่า ตั้งแต่มองซิเออร์เดอโชมองได้ออกจากเมืองไทยไปแล้ว ได้มีพวกปอตุเกตบ้าง พวก

๑๗๒ ครึ่งชาติบ้าง ทหารชาวปอตุเกตบ้าง ได้คบคิดดันประทุษฐร้ายต่อพระเจ้ากรุงสยาม มองซิเออร์คอนซตันซ์และมองซิเออร์เดอฟอแบง แต่ไทยได้รู้ตัวในการที่พวกทุจริตคิดการเช่นนี้ จึงได้จับผู้ที่มีความผิดมาทำโทษแล้ว พวกเจ้าพนักงานของบริษัทรายงานต่อไปว่า ในเวลานี้ไทยกำลังรีบเร่งให้สร้างป้อมที่บางกอกให้แล้วโดยเร็ว ตามความคิดของมองซิเออร์มาแตงที่จะจัดการค้าขายนั้น ดูจะเปนประโยชน์แก่บริษัทเปนอันมาก และถ้าบริษัทได้จัดการตามความคิดของมองซิเออร์มาแตง และถ้ามีทุนเพียงพอแล้ว ก็เปนข้อที่ควรจะหวังได้ ว่าต่อไปบริษัทจะได้ทำการโดยเจริญที่สุด ในเวลานี้บริษัทยังมีเจ้าพนักงานอยู่อีก ๒ คน ซึ่งสังเกตดูว่าเปนคนที่มีวุฒิและเปนคนที่มีหลักฐานดี คน ๒ คนนี้คือ มองซิเออร์เดลานด์บูโรกับมองซิเออร์เคลตอร์ แต่มองซิเออร์เคลตอร์นั้นจะต้องการลาออกจากบริษัทเสียแล้ว ตามข้อความในรายงานต่าง ๆ นั้น มีข้อที่ทำให้หวังได้ว่าคงจะได้ทำการค้าขายกับเมืองไทยต่อไป แต่การที่จะค้าขายกับเมืองไทยนั้นจะต้องมีสินค้าพริกไทจึงจะทำการต่อไปได้ มองซิเออร์เดอลานยีได้ส่งสำเนาจดหมายของมองซิเออร์มาแตงซึ่งเขียนมาจากเมืองจีนฉบับ ๑ ซึ่งเปนจดหมายได้ฝากมากับมิชันนารีฝรั่งเศสคน ๑ มิชันนารีนี้ได้มาแจ้งว่า ที่เมืองจีนนั้นมีความประสงค์หยากจะเปิดการค้าขาย และว่าพวกจีนหยากให้ชาวฝรั่งเศสเข้าไปทำการค้าขายในเมืองนั้นด้วย

๑๗๓ มองซิเออร์เดอโวดรีคูร์ ณวันที่ ๒๔ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๗ ( พ.ศ. ๒๒๓๐ ) ถึงมองเซนเยอร์ ด้วยข้าพเจ้าขอโอกาสเรียนให้ท่านทราบว่า พวกข้าพเจ้าได้มาถึงท่าเรือแหลมเคปออฟกุดโฮป เมื่อวันที่ ๑๑ เดือนมิถุนายน และได้ทอดสมอในเวลาเย็นจวนพลบค่ำแล้ว ได้เดินทางรวม ๓ เดือนกับ ๑๓ วันตั้งแต่เมืองเบรสต์ จึงได้มาถึงแหลมเคปออฟกุดโฮปนี้ ในวันที่ไปถึงแหลมเคปออฟกุดโฮปนั้น ข้าพเจ้าได้จัดให้นายเรือผู้หนึ่งขึ้นไปหาท่ารเจ้าเมืองเปนการคำนับ และให้ไปทำความตกลงในเรื่องที่จะยิงปืนสลูตด้วย ท่านเจ้าเมืองได้ตกลงว่าจะได้ยิงสลูตตอบเรานัดต่อนัด ท่านเจ้าเมืองได้ยอมให้เราพาคนที่ป่วยเจ็บขึ้นไปพักบนบกได้ และท่านเจ้าเมืองรับรองว่า ถ้าพวกที่ป่วยเจ็บขาดเหลือสิ่งใดหรือจะต้องการอะไร ก็จะจัดหาให้ทั้งสิ้น เวลาที่เรือไปถึงนั้นเปนเวลาค่ำเสียแล้ว ข้าพเจ้าจึงหาได้ยิงปืนคำนับป้อมไม่ ครั้นรุ่งเช้าวันที่ ๑๒ (มิถุนายน) ข้าพเจ้าจึงได้ให้ยิงปืนคำนับป้อม เมื่อได้ยิงสลูตเสร็จแล้ว ท่านเจ้าเมืองจึงได้จัดให้เจ้าพนักงานลงมาเยี่ยมเยือนข้าพเจ้าและให้มาบอกว่า ถ้าข้าพเจ้าจะต้องการอะไรและเรือรบของเราขาดเหลืออย่างไร ท่านเจ้าเมืองยินดีจะจัดหาให้ทุกอย่าง ทั้งยินดีที่จะช่วยเหลือพวกที่ขึ้นไปป่วยอยู่บนบกด้วย


๑๗๔ แล้วท่านเจ้าเมืองได้ให้เจ้าพนักงานนำผักต่าง ๆ และผลไม้ต่าง ๆ ของพื้นเมืองมาให้ข้าพเจ้า เจ้าพนักงานผู้ที่นำผักและผลไมมาให้ข้าพเจ้านั้นเปนเลขานุการของบริษัทฮอลันดา การที่เราได้มาพักในที่ดีซึ่งมีคนเอื้อเฟื้อเช่นนี้เปนการเหมาะสมที่สุดเพราะพวกนายเรือรบทั้งหลาย ได้เอาสเบียงอาหารแจกจ่ายให้แก่คนที่ป่วยเจ็บเสียหมดแล้ว แลจำนวนคนที่ป่วยเจ็ยในเรือต่าง ๆ ก็มีจำนวนมากด้วย ข้าพเจ้าจึงจำเปนต้องเรียนให้ท่านทราบว่า ท่านเจ้าเมืองผู้นี้ได้เอื้อเฟื้อต่อเรามาก และเมื่อเราจะต้องการสิ่งใดท่านเจ้าเมืองก็ได้จัดหาให้ทุกอย่าง ถ้าจะว่าไปแล้วที่ใครจะเอื้อเฟื้อยิ่งกว่าเจ้าเมืองคนนี้เปนไม่มี เมื่อข้าพเจ้าได้มาถึงแหลมเคปออฟกุดโฮปนั้น ได้พบเรือลาลัวจอดอยู่ในที่นี้แล้ว เรือลำนี้ได้มาถึงแหลมเคปออฟกุดโฮปก่อนข้าพเจ้า สัก ๓ วัน โดยที่พลัดจากกองทัพเรือเมื่อวันที่ ๙ เดือนมีนาคม เพราะถูกลมพายุซึ่งพัดมาจากทิศตวันตกเฉียงเหนือ ที่ตรงแลติจูต ๓๙ ดีกรี ห่างจากฝั่งตวันตกเมืองปอตุเกตประมาณ ๘๐ ไมล์ เข้าใจกันดีว่าเมื่อเรือลาลัวได้ถูกพายุนั้น เสากระโดงคงหักเปนแน่ แต่ก็หาได้หักลงมาไม่ เปนแต่ชำรุดมาก ยังเรือลัวโซอีกลำ ๑ เมื่อถูกพายุเสากระโดงใหญ่ก็ชำรุดมากเหมือนกัน เรือโดรมาแดร์ก็ถูกพายุเสากระโดงใหญ่ชำรุดและเรือลามาลีนก็ถูกเสาหน้าหัก พวกข้าพเจ้าได้พยายามซ่อมแซมเรือที่ชำรุดเหล่านี้เพื่อป้องกันไม่ให้เปนอันตรายต่อไปอีก และหวังใจว่า


๑๗๕ คงจะพาเรือเหล่านี้กลับไปยังประเทศฝรั่งเศสให้จงได้ แต่พวกข้าพเจ้าก็ได้ระวังการทุกอย่างที่จะคิดอ่านซ่อมแซมเรือเหล่านี้ให้ดีอย่างเดิม อนึ่งขอท่านได้โปรดทราบไว้ด้วยว่า ในกองทัพเรือนี้มีเรือที่ไม่ดีอยู่ ๒ ลำซึ่งทำให้เราเดินทางช้าลงไปเปนอันมาก ถ้ามิฉนั้นเราก็คงจะได้เดินเรืออย่างสดวกทุกอย่าง เรือที่ไม่ดีนั้นคือเรือนอมันดีลำ ๑ กับเรือโดรมาแดร์อีกลำ ๑ ซึ่งยอลมอยู่เสมอ เพราะฉนั้นจึงต้องแล่นใบรอเรือโดรมาแดร์อยู่เสมอ ๆ แต่เปนการเคราะห์ดีที่นายเรือโดรมาแดร์เปนคนที่ชำนาญการเดินเรือ และเขาก็ทำทุกอย่างที่จะทำให้เรือแล่นดีขึ้น เพื่อจะไม่ให้เราเสียเวลาเกินไปนัก อนึ่งขอท่านได้โปรดทราบไว้ว่า ในเรือรบเหล่านี้มีคนได้ป่วยลงเปนอันมาก และยิ่งในเรือบรรทุกสเบียงและเรือเลอกายยาด์แล้วยิ่งมีคนเจ็บมากกว่าในเรือลำอื่น ในพวกพลทหารที่เจ็บนั้นได้ตายแต่คนเดียว ข้าพเจ้าจะได้ทำบาญชีคนเจ็บป่วยล้มตายในระหว่างที่เดินเรือมาถึงแหลมเคปออฟกุดโฮปและที่เจ็บป่วยล้มตายต่อไป ส่งมาให้ท่านทราบ ตั้งแต่กองทัพเรือได้มาทอดสมอในท่าเรือแหลมเคปออฟกุดโฮป ก็หาได้มีคนล้มป่วยลงอีกไม่ อนึ่งขอท่านได้โปรดทราบไว้ด้วยว่า มองซิเออร์เดอลาลูแบร์ กับมองซิเออร์เดอเซเบเรต์ ได้มาบอกกับข้าพเจ้าว่าจะต้องการใช้เรือลามาลีน ในราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และจะต้องส่งเรือลามาลีน กลับคืนไปยังประเทศฝรั่งเศส เพราะฉนั้นจึงต้องจัดที่ในเรือลำอื่น ๆ สำหรับถ่ายของออกจากเรือลามาลีน และได้เฉลี่ยของต่าง ๆ ลงใน

๑๗๖ เรือทุก ๆ ลำ ส่วนเสมียนที่ประจำตามเรือต่าง ๆ นั้น จะได้ทำบาญชีของให้ตรงกับบาญชีของเรือลามาลีนด้วย อนึ่งขอท่านได้โปรดทราบไว้ด้วยว่า เมื่อวันที่ ๒๑ เดือนมิถุนายนพวกข้าพเจ้าได้ประชุมปรึกษาหารือกัน ที่จะจัดการต่าง ๆ ให้เปนประโยชน์แก่ข้าราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และได้ปรึกษากันถึง วิธีที่จะเดินเรือ ในเวลาที่เรือต่าง ๆ จะเกิดพลัดกันขึ้น ขอท่านได้โปรดทราบไว้ว่า ตามข้อความที่ประชุมปรึกษากันบนเรือรบหลวงชื่อเลอกายยาด์นั้น ข้าพเจ้าได้แนะนำการต่าง ๆ โดยเอาประโยชน์ของราชการเปนใหญ่ อันมีปรากฎอยู่ในรายงานการประชุมซึ่งข้าพเจ้าได้ส่งมาให้ท่านทราบด้วยแล้ว อนึ่งขอท่านได้โปรดทราบไว้ด้วยว่า พวกข้าพเจ้าได้ทำความตกลงกันไว้ว่า ถ้าเรือได้พลัดพรากจากกัน ก็ให้ต่างคนพาเรือไปคอยอยู่ที่เมืองบันดำ เพราะเมืองบันดำเปนตำบลที่เหมาะสำหรับจะไปจอดเรือคอยกันในเวลาที่พลัดพรากจากกัน และได้ตกลงกันต่อไปว่า เมื่อเรือลำใดได้ไปถึงเมืองบันดำแล้ว ก็ให้ต่างคอยกันอยู่ที่เมืองนั้น และเรือลำแรกที่ไปถึงก็ให้คอยกันมีกำหนด ๘ วัน การที่ต้องให้คอยกันเช่นนี้ ก็เพราะเหตุว่าเปนการจำเปนที่จะต้องเข้าช่องซอนดาพร้อม ๆ กันโดยเหตุที่สายน้ำในช่องซอนดานี้ไหลเชี่ยวมาก และเรือฟลุกเรือโดรมาแดร์กับเรือนอมานด์เดินไม่ใคร่ดีอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเมื่อเราได้ไปถึงเมืองบันดำแล้ว จะได้สเบียงอาหารเพิ่มเติมอีกก็จะดีมาก เพราะการเดินเรือในระหว่างเมืองบันดำและเมืองบาตาเวีย ต้องกินเวลา

๑๗๗ หลายวัน และจะต้องรีบร้อนให้ทันระดูด้วยจึงจะไปถึงเมืองไทยในปีนี้ได้ เพราะฉนั้นขอให้ท่านทราบไว้ว่า ถ้าเราได้เดินเรืออย่างสดวกจากแหลมเคปออฟกุดโฮปถึงเมืองบันดำอย่าง ๑ และถ้าเราไม่มีคนเจ็บป่วยขึ้นอย่าง ๑ และถ้าเราไม่จำเปนจะต้องแวะที่แห่งใดสำหรับหาสเบียงอาหารและน้ำแล้ว เราก็จะได้เดินทางตรงไปยังเมืองไทยทีเดียว เพื่อใช้เนื่อที่เราได้เดินทางช้าเสียเวลามาแล้ว และเพื่อจะให้ทันตามระดูด้วย เพราะระดูที่เดินเรือได้สดวกนั้น ก็ไปหมดเอาวันที่ ๒๐ เดือนตุลาคมเท่านั้น ขอท่านได้โปรดทราบไว้ว่า ในการที่เดินเรือมาจากเมืองเบรสต์ถึงแหลมเคปออฟกุดโฮปนั้น ได้ตัดทางตรงที่สุดที่ตัดได้ และบรรดาคนนำร่องที่ประจำอยู่ในเรือต่าง ๆ ก็ได้เดินเรือตัดทางตรงทุกคน อนึ่งขอท่านได้โปรดทราบไว้ด้วยว่า มองซิเออร์เดฟาชจะส่งนายทหารกลับไปคน ๑ และได้มาขอให้ข้าพเจ้าส่งนายทหารผู้นี้ไปกับเรือลามาลีน และเหตุผลที่ต้องส่งนายทหารผู้นี้กลับไปมีอย่างไรนั้นมองซิเออร์เดฟาชคงจะได้รายงานให้ท่านทราบต่อไป กับมองซิเออร์เดฟาชจะส่งพลทหารกลับไปด้วยอีกคน ๑ พลทหารผู้นี้ประจำอยู่ในกองทหารที่อยู่ในเรือเลอกายยาด์ เหตุที่ต้องส่งพลทหารผู้นี้กลับไปนั้น ก็เพราะได้พลัดตกลงมาจากเสากระโดงเรือ และบรรดาแพทย์ทั้งหลายมีความเห็นว่าพลทหารผู้นี้พิการใช้การไม่ได้แล้ว จึงควรส่งกลับไปเสียดีกว่า ๒๓

๑๗๘ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อท่าน ขอท่านได้โปรดกรุณาปกครองข้าพเจ้าต่อไป และขอท่านได้เชื่อเถิดว่า ในโลกนี้ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะนบนอบและนับถือท่านเหมือนตัวข้าพเจ้า ( เซ็น ) เดอโวดรีคูร์ เขียนณะที่ท่าเรือแหลมเคปออฟกุดโฮป วันที่ ๒๔ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐)

หนังสือออกญาวิชเยนทร์ ถึงมองเซนเยอร์เลอมาควิศเดอเซเนเล เสนาบดี และเซเกรตารีออฟสเต๊ต ณราชสำนักฝรั่งเศส ด้วยเปนการยากนักที่ข้าพเจ้าจะอธิบายให้ท่านเข้าใจได้ ว่าเมื่อพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า ได้ทรงทราบว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งเรือรบและกองทหารมาถวายนั้น ได้ทรงพระโสมนัสส์ยินดีสักเพียงไร ส่วนตัวข้าพเจ้านั้นเมื่อได้ทราบในเรื่องนี้ก็ได้มีความปีติยินดี อย่างยิ่ง แต่นอกจากยินดีที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งเรือรบและกองทหารมาเช่นนี้ ข้าพเจ้ายังมีความยินดีอีกชั้น ๑ ซึ่งได้รู้สึกบุญคุณของท่านโดยฉะเพาะ ที่ท่านได้ฝากของต่าง ๆ อันมีค่ามายังข้าพเจ้าอย่าง ๑ กับอีกอย่าง ๑ ได้รู้สึกบุญคุณของท่านยิ่งนัก โดยเหตุที่ข้าพเจ้าได้รับพระมหากรุณาต่าง ๆ จากพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าคงจะเนื่องจากความเมตตาของท่านนั้นเอง


๑๗๙ การที่ได้มีทหารล้มตายตามทางหลายคนนั้น ได้กระทำให้พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าทรงเสียพระทัยเปนอย่างยิ่ง จึงได้มีรับสั่งกำชับให้ข้าพเจ้าระวังคอยเปนธุระกับกองทหารที่ได้มาถึงเมืองไทยแล้ว และทรงรับสั่งให้ข้าพเจ้าเลี้ยงดูกองทหารเพื่อให้พลทหารได้หายอ่อนเพลียและมีกำลังขึ้นอย่างเดิม แต่ข้าพเจ้ามีความเสียใจเปนอันมาก ว่าทหารบางคนซึ่งยังไม่ได้หายป่วยดีและได้พาขึ้นมาไว้บนบกนั้น มีกำลังไม่พอที่จะทนอากาศของเมืองนี้ได้ ข้อนี้ก็ไม่น่าประหลาดอย่างใด เพราะเปนธรรมดาเมื่อมาได้รับอากาศใหม่และรับประทานอาหารซึ่งไม่เคยกัน ถึงจะเปนอาหารที่ดีสีกเพียงไรก็อาจจะทำให้ล้มเจ็บและตายใชั้นต้นได้ แต่ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ต่อไปพวกฝรั่งเศสคงจะได้คุ้นเคยกับผลไม้และอากาศของเมืองไทยได้โดยง่าย เพราะเวลานี้พวกฝรั่งเศสก็ได้ปรองดองกับไทย และไทยก็มีความรักใคร่ชาติฝรั่งเศสอยู่แล้ว พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าทรงเอาพระทัยใส่นัก ที่จะให้เปนธุระช่วยเหลือพลทหารและนายทหารซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงพระกรุณาส่งมาและทรงเปนพระธุระรับสั่งถามทึงการทั้งปวงที่เกี่ยวด้วยกองทหาร แม้แต่เปนเรื่องเล็กน้อยที่สุดก็ทรงเอาพระทัยใส่ทุกอย่าง เพราะฉนั้นถึงข้าพเจ้าจะพยายามหาช่องโอกาสฉลองพระเดชพระคุณพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสสัก เพียงไร ก็ไม่พ้นอยู่ในถานที่จะต้องทำตามรับสั่งพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าอยู่เรื่อยไป ข้าพเจ้าเชื่อว่านายทหารที่ท่านได้ส่งมานั้น คงจะได้รายงานให้ท่านทราบถึงการเรื่องต่าง ๆ โดยลเอียด และคงจะเปนพยานว่าตามที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมานี้เปนเรื่องที่จริงทั้งสิ้น ๑๘๐ ตามเหตุผลต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเมืองนี้ข้าพเจ้าพิเคราะห์เห็นว่า การที่ตั้งต้นกันได้เช่นนี้เปนหนทางอันดีที่สุด สำหรับให้พระราชไมตรีในระหว่างพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ นายของเรา ได้เพิ่มภูลเจริญต่อไป แต่ถึงดังนั้นเพื่อประโยชน์ของพระราชไมตรีนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่าจะต้องหาหนทางแก้ไขเพื่อคอยป้องกันมิให้ชาวฝรั่งเศสบางคนที่มีเจตนา ไม่ดี ได้กระทำการให้พระราชไมตรีในระหว่างประเทศทั้ง ๒ นี้มัวหมองไปได้ ความประพฤติไม่ดีของชาวฝรั่งเศสบางคนนั้น กระทำให้พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าเสียพระทัยเปนอันมาก เดิมก็ทรงหวังพระทัยว่า ท่านที่มาเปนราชทูตนั้นคงจะได้จัดการห้ามปรามและแก้ไขมิให้ชาวฝรั่งเศสเหล่านี้ได้ทำการวุ่นวายเช่นนี้ต่อไป แต่ก็ได้มีรับสั่งกับข้าพเจ้าหลายครั้งว่า ทรงเห็นว่าท่านราชทูตไม่รู้จักปิดความลับและไม่ใคร่เอาใจใส่ในการเหล่านี้นัก จึงเปนอันป่วยการที่จะพูดกับราชทูตในเรื่องนี้ เมื่อการเปนเช่นนี้พระเจ้ากรุงสยามจึงได้ทรงแต่งให้บาดหลวงตาชาด์ เปนเอกอัครราชทูตแทนพระองค์ และได้ทรงมอบหมายให้บาดหลวงตาชาด์เชิญพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการไปถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสด้วย ทั้งได้ทรงมีกระแสรับสั่งให้บาดหลวงตาชาด์ได้ทราบในพระราชดำริห์ และได้พระราชทานอำนาจให้บาดหลวงตาชาด์ได้ไปจัดการให้เรื่องที่ได้ตั้งต้นดีมาแล้วได้เปนผลสำเร็จต่อไป พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าทรงหวังพระทัยว่าเมื่อบาดหลวงตาชาด์ได้ไปถงประเทสฝรั่งเศสแล้ว ท่านคงจะแนะนำให้ความรู้แก่

๑๘๑ บาดหลวงตาชาด์บ้าง และเมื่อบาดหลวงตาชาด์ได้ไปเจรจาการอย่างใดทรงหวังพระทัยว่าท่านคงจะได้หนุนให้เรื่องที่บาดหลวงตาชาด์จะได้ไป จัดการนั้น ได้เปนผลสำเร็จสมพระราชประสงค์ของพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ผู้เปนนายของเราต่อไป และส่วนตัวข้าพเจ้าก็จะขออ้อนวอมท่าน ขอท่านได้โปรดกรุณาช่วยในเรื่องนี้ให้สำเร็จด้วย ข้าพเจ้าจะขอพูดเพิ่มเติมอีกคำเดียวเท่านั้น คือว่า ขอให้ท่านเชื่อใจเถิดว่า ในการที่พระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ จะได้เปนพระราชไมตรีเปนน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้น พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าได้ทรงหวังให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงพระเจริญและได้ทรงมีพระเกียรติยศ เท่ากับที่ทรงหวังจะมีในส่วนพระองค์ดุจเดียวกัน เพื่แสดงความขอบใจที่ท่านได้ส่งของต่าง ๆ งาม ๆ มายังข้าพเจ้านั้น ขอท่านได้โปรดรับของแปลก ๆ ในเมืองนี้ที่ข้าพเจ้าได้มอบให้บาดหลวงตาชาด์นำไปส่งให้ท่านด้วย และถ้าข้าพเจ้าได้ทราบว่าท่านจะชอบของสิ่งใดอันมีอยู่ในเมืองหนึ่งเมืองใดในฝ่ายทิศตวันออกแล้ว ข้าพเจ้าก็ยินดีที่จะจัดหาส่งไปให้ท่าน เพื่อแสดงให้ท่านเห็นว่าที่ท่านได้กรุณาแก่ข้าพเจ้านั้นเปนการที่จับใจข้าพเจ้ายิ่งนัก




๑๘๒ จดหมายบาดหลวงตาชาด์ ณวันที่ ๒ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๗ ( พ.ศ. ๒๒๓๐ ) ถึงมองเซนเยอร์ ด้วยข้าพเจ้าหยากนักที่จะแสดงให้ท่านรู้สึกว่า ท่านมองเซนเยอร์คอนซตันซ์ได้รับรองข้าพเจ้าดีและมีความยินดีที่ได้พบข้าพเจ้าเพียงไร ทั้งท่านมองซิเออร์คอนซตันซ์ได้ปลื้มใจยิ่งนักที่ได้รับหนังสือของท่านด้วย ในส่วนกิจการทั้งปวงที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและตัวท่านได้มอบให้ข้าพเจ้ามาจัดการนั้น ข้าพเจ้ายังหามีเวลาที่จะพูดกับท่านมองซิเออร์คอนซตันซ์โดยฉะเพาะไม่ แต่เมื่อข้าพเจ้าได้มาเห็นอัธยาศัยของท่านมองซิเออร์คอนซตันซ์ ซึ่งเอาใจใส่ในกิจการของพระเจ้า ซึ่งจงรักภักดีต่อราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และซึ่งระวังในประโยชน์ของพระเจ้ากรุงสยามนักนั้น ข้าพเจ้าจึงอาจรับรองล่วงหน้าต่อท่านได้โดยไม่จำเปนจะต้องอธิบายให้ ยืดยาวว่า พระเจ้าได้เลือกพวกเราเปนแน่แล้วสำหรับให้มาจัดการสาสนาโรมันคาธอลิกได้มาแพร่หลายในประเทศสยามนี้ และให้มาจัดการให้ทำคุณทำประโยชน์อย่างอื่นในประเทศด้วย ข้อนี้เปนข้อสำคัญที่ข้าพเจ้าหวังยิ่งนัก และข้าพเจ้าขอแสดงตัวว่าข้าพเจ้าเปนผู้ที่นอบน้อมต่อท่านอย่างที่สุด ( เซ็น ) ตาชาด์ เขียนณะกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันที่ ๒ เดือนตุลาคม ข้าพเจ้าหวังใจว่าจะได้ออกจากเมืองไทยในวันพรุ่งนี้ เพื่อจะได้นำข่าวต่าง ๆ ไปเล่าให้ท่านฟังอย่างลเอียดต่อไป ๘๓ สำเนาจดหมายบันทึกให้ใช้ต่าวงคำสั่ง สำหรับให้บาดหลวงตาชาด์ไปแนะนำและพูดจากับเสนาบดีของพระเจ้ากรุงสยาม ตามข้อความในลายพระราชหัตถ์ ซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้โปรดพระราชทานให้แก่บาดหลวงตาชาด์ ด้วยพระนามอันโด่งดังของพระเจ้ากรุงสยามซึ่งเลื่องลือทั่วทิศา นุทิศข้ามน้ำข้ามทะเล ได้กระทำให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของพวกเราบังเกิดความรักใคร่และนับถือพระองค์พระเจ้ากรุงสยามขึ้น การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้นับถือพระเตจ้ากรุงสยามซึ่งเปนการสมควรอยู่นั้น ได้เพิ่มภูลทวีขึ้นโดยพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงรู้สึกพระเดชพระคุณของพระเจ้า กรุงสยามที่ได้ทรงจัดรับรองเชอวาเลียเดอโชมองเปนการพิเศษโดยฉะเพาะ และได้ทรงแต่งราชทูตอย่างงดงามให้มาเฝ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ทั้งได้ถวายเครื่องราชบรรณาการอันงดงามด้วย และการที่พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงแต่งราชทูตมาในคราวนี้นั้น ก็ได้ทรงเลือกแต่ฉะเพาะข้าราชการที่สมควรจะรับหน้าที่เปนราชทูตได้เปนอย่างดี แต่ข้อที่จับพระทัยพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสยิ่งกว่าอย่างอื่นนั้น ก็คือพระเจ้ากรุงสยามได้ทรงพระเมตตากรุณาและทรงปกครองสาสนาคริศเตียนในพระราชอานาเขตร์อันเจิรญ และบริบูรณ์ของพระองค์ เพราะเหตุฉนั้นพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจึงได้ทรงตอบแทน โดยทรงจัดการรับรองราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามอย่างเต็มเกียรติยศและโดยมี พิธีต่าง ๆ อันงดงามใหญ่โต ซึ่งบรรดาประเทศทั้งหลายในทวีปยุโรปมิได้เคยเห็นมาเลย เพราะในเวลาที่ราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามได้เข้า

๑๘๔ เฝ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้น ก็ได้เสด็จออกรับโดยมีพิธีอย่างงดงามน่าดูนักและในเวลาที่เชิญพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงสยามนั้น เจ้าพนักงานก็ได้เป่าแตรรับเปนเกียรติยศ นอกจากนี้ราชทูตของพระเจ้ากรุงสยาม ยังได้เข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารี ในเวลาที่ยังต้องประทับอยู่ในพระที่ เพราะเหตุที่กำลังประสูติพระโอรสอยู่ และในระหว่างที่ราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามกำลังเดินทางผ่านบ้านเมืองต่าง ๆ นั้น บรรดาราษฎรพลเมืองทั่วไปก็ได้ออกมาต้อนรับทุกแห่ง ทั้งเจ้าพนักงานก็ได้ยิงปืนเล็กและปืนใหญ่รับเปนเกียรติยศด้วย อนึ่งในเวลาราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามได้ไปชมโรงต่าง ๆ ที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้รับสั่งให้ทำ และเมื่อไปชมบ้านเมืองใหม่ ๆ ที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสตีมาได้ในเขตร์แดนเมืองแฟลนเดอร์นั้น กองทหารก็ได้ตั้งแถวอย่างวิธีตั้งทัพในเวลามีศึก มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ผู้น้อยยืนกำกับหัวแถวตามหน้าที่ทุกกอง และกองทหารของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ได้รับราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามโดยเต็มเกียรติยศ ซึ่งในประเทศฝรั่งเศสไม่เคยได้จัดรับใครเช่นนี้เลย แม้แต่เจ้านายหรือเจ้าแผ่นดินต่างประเทศที่เสด็จมายังประเทศฝรั่งเศส ก็มิได้เคยรับเกียรติยศอย่างราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามเลย การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้โปรดให้รับรองราชทูตสยามโดย เกียรติยศเช่นนี้ ก็เพราะมีพระราชประสงค์จะทรงแสดงให้ปรากฎทั่วโลกว่าทรงรักใคร่และทรงนับถือพระเจ้ากรุงสยามโดยฉะเพาะ อิกประการ ๑ ตามที่พระเจ้ากรุงสยามได้มีพระราชประสงค์ให้มาทำของต่าง ๆ ไปประเทศฝรั่งเศสนั้น พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสก็ได้โปรดกำ

๑๘๕ ชับให้เปนหน้าที่ของบริษัทฝรั่งเศสซึ่งทำการค้าขายในฝ่ายทิศตวันออกนั้น ให้เปนธุระรีบทำของต่าง ๆ เหล่านั้นให้แล้วโดยเร็วตามพระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงสยามทุกประการ แต่การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงกำชับบริษัทฝรั่งเศสเช่นนี้ก็ยังหาพอพระทัยไม่ แต่ยังกลับทรงเลือกของต่าง ๆ ที่ดีและงามอันเปนสิ่งที่สมควรจะส่งไปถวายเปนเครื่องราชบรรณาการต่อพระเจ้ากรุงสยามอีกด้วย อนึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมีพระราชประสงค์จะปฏิบัติการทั้งปวงให้เปนที่พอพระทัยและถูกพระทัยของพระเจ้ากรุงสยามทุกอย่าง เพราะฉนั้นเมื่อราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามและบาดหลวงเดอลาเชซได้กราบทูลในครั้งแรก ขอบาดหลวงคณะเยซวิตที่ชำนาญการเลข ๑๒ คนนั้น พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจึงได้โปรดให้จัดเลือกหาบาดหลวงคณะเยซวิตที่มี ความรู้และความชำนาญที่สุดในประเทศฝรั่งเศส พระราชทานให้ตามความประสงค์ และได้มีรับสั่งให้บาดหลวงเยซวิตที่เลือกได้นั้น ไปยังเมืองไทยต่อไป แต่การที่ทรงเลือกบาดหลวงเยซวิตให้ไปเมืองไทยนั้น ก็ยังหาพอพระทัยไม่ ยังกลับพระราชทานเครื่องมือต่าง ๆ อย่างดีมีราคาให้พวกบาดหลวงไปใช้ในเมืองไทยอีก และได้ทรงเปนพระราชธุระให้จัดการจ่ายเงินค่าเดินทาง และทรงเปนพระราชธุระให้บาดหลวงเหล่านี้ได้เดินทางโดยสดวก ดุจบาดหลวงเหล่านี้เปนคนในส่วนของพระองค์เองและที่ได้โปรดส่งบาดหลวงเหล่านี้ไปถวายพระเจ้ากรุงสยามนั้น ก็เพราะได้ทรงทราบว่า จะเปนสิ่งที่พอพระทัยของพระเจ้ากรุงสยามยิ่งกว่าอย่างอื่น ๒๔

๑๘๖ อนึ่งเมื่อบาดหลวงตาชาด์ได้พูดอธิบายในข้อต่างๆ ดังได้พรรณามาในตอนต้นแล้ว ซึ่งเปนข้อความที่ราชทูตสยามคงจะได้ไปรายงานกราบทูลให้พระเจ้ากรุงสยามทรงทราบโดยละเอียดยิ่งกว่านี้ ก็ให้บาดหลวงตาชาด์พูดอธบายต่อไปว่า การที่พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงวางพระทัยในพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส จนถึงกับทรงแต่งราชทูตเพื่อมาเจริญทางพระราชไมตรีกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้น เปนการที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงยินดีและทรงจับพระทัยยิ่งนัก ทั้งฝ่ายทิศตวันออกและทิศตวันตกได้ทราบทั่วกันหมดแล้ว ว่าราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามที่ได้เดินสารเรือโซเลย์เดอลอรีอัง และที่ตายในเวลาที่เรือได้แตกนั้น มิได้รับคำสั่งอย่างอื่นนอกจากจะมาขอทำ ไมตรีกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของเรา และจะมาถวายบ้านเมืองและทำเลที่เหมาะสมที่สุดในพระราชอาณาจักร์สยาม ให้แก่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเพื่ให้ชนชาติฝรั่งเศสได้ไปตั้งทำการค้าขายต่อไป และราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามที่มาเจริญทางพระราชไมตรีในคราวนี้ ก็ได้รับคำสั่งอย่างเดียวกันกับราชทูตที่มาคราวก่อนและที่ตายเสียตามทาง อีกประการ ๑ เมื่อเชอวาเลียเดอโชมองได้เปนราชทูตฝรั่งเศส ไปเจริญทางพระราชไมตรีกับประเทศสยามนั้น เชอวาเลียเดอโชมองได้เฝ้าพระเจ้ากรุงสยามโดยฉะเพาะหลายครั้ง และในเวลาที่เฝ้านั้น พระเจ้ากรุงสยามก็ได้รับสั่งกับเชอวาเลียเดอโชมอง ว่ามีพระราชประสงค์ยิ่งนักที่จะได้เปนไมตรีกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และในข้อนี้นอกจากที่พระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งกับเชอวาเลียเดอโชมองด้วยพระโอษฐ ก็ยังได้ทรง

๑๘๗ เขียนไว้เปนลายลักษณอักษรอีกหลายครั้ง ซึ่งเปนความตรงกันทั้งนั้น ครั้นพระเจ้ากรุงสยามได้รับสั่งถามเชอวาเลียเดอโชมองหลายครั้งถึงอำนาจที่เชอวาเลียเดอโชมองได้รับมาสำหรับจัดการต่าง ๆ นั้น เชอวาเลียเดอโชมองก็มิได้กราบทูลให้แน่นอนอย่างไรลงไป และมิได้รับรองแทนพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสอย่างไร แต่ถึงดังนั้นพระเจ้ากรุงสยามก็ยังมีพระราชประสงค์มากขึ้นทุกทีที่จะได้เปนพระราชไมตรีกับพระเจ้ากรุง ฝรั่งเศสให้จงได้ อนึ่งการที่พวกฮอลันดาได้คิดทุจริตต่อพระเจากรุงฝรั่งเศสนั้น ก็มิได้ทำให้พระเจ้ากรุงสยามได้เปลี่ยนพระราชดำริห์อย่างใด แต่พระเจ้ากรุงสยามทรงดูถูกในความอิจฉาริษยาของพวกพ่อค้าฮอลันดาอันมีนิสสัยหยิ่งจองหอง เพราะทรงเชื่อถือในพระราชอำนาจที่พระองค์มีอยู่ ทั้งทรงหวังในพระราชไมตรีของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของเราด้วย เพราะฉนั้นพระเจ้ากรุงสยามจึงโปรดพระราชทานตำบลบางกอก ให้แก่เชอวาเลียเดอโชมองและบาดหลวงเดอชัวซี และมิได้พระราชทานแต่ฉะเพาะบางกอกตำบลเดียว แต่ตำบลใดที่เปนตำบลสำคัญและมั่งคงก็ได้พระราชทานให้ด้วย ถึงกับได้มีรับสั่งแก่เชอวาเลียเดอโชมองและบาดหลวงเดอชัวซี ว่าในตำบลต่าง ๆ ที่พระราชทานให้นั้น ควรจะคิดสร้างป้อมและจัดการให้เปนที่มั่งคงแขงแรง เพื่อประโยชน์ของพวกฝรั่งเศสเอง และได้รับสั่งต่อไปว่า ถ้าพวกฝรั่งเศสไม่ต้องการที่เหล่านี้แล้ว ก็จะได้ทรงยกกองทัพช้างม้ารี้พลสกลโยธาอันมีมากมายก่ายกองนั้น ไปทำลายตำบลเหล่านี้ให้หมดสิ้น ให้คงเหลือแต่พื้นแผ่นดินเท่านั้น เพราะทรง

๑๘๘ เชื่อพระทัย โดยได้เคยมีตัวอย่างมาหลายคราวแล้ว ว่าทรงมีกำลังพอที่จะปราบพวกราชศัตรูอันอะธรรมเหล่านี้ได้ เมื่อพระเจากรุงสยามได้รับสั่งดังกล่าวมาข้างบนนี้แล้ว อันเปนพระวาจาสุจริตยุติธรรม เพื่อแสดงพระทัยว่าทรงรักใคร่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของเราจริงนั้น ก็ได้รับสั่งต่อไปว่า ถ้าแม้ต่อไปภายภาคหน้าพระเจ้าแผ่นดินผู้ที่จะครองราชสมบัติกรุงศรีอยุธยาต่อไป จะทรงเชื่อฟังผู้ที่จะกราบทูลแนะนำอันทุจริต มิได้ทรงปฏิบัติตามที่ทรงพระราชดำริห์ไว้ดังได้อธิบายมาในตอนต้นนี้แล้ว ก็จะได้พระราชทานอำนาจให้แก่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงถือว่า พระเจ้าแผ่นดินเหล่านั้นเปนราชศัตรูฉะเพาะพระองค์ และพระราชทานอำนาจให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสมายึดแผ่นดินสยามได้ การที่พระเจ้ากรุงสยามได้มีรับสั่งเช่นนี้ ก็ได้ทรงปฏิบัติการทั้งปวงต่อมาให้เห็นปรากฎว่า พระวาจานั้นเปนสิ่งที่จริงทั้งสิ้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่พอพระทัย ยังมีพระราชประสงค์จะให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงเชื่อถือในพระวาจานั้นให้แน่นหนาขึ้น จึงได้โปรดแต่งราชทูตมายังประเทศฝรั่งเศส จนที่สุดเราก็ได้รับเกียรติยศที่จะได้พาราชทูตเหล่านี้กลับไปยังประเทศสยามต่อไป เมื่อราชทูตของพระเจ้ากรุงสยามได้มาถึงประเทศฝรั่งเศส ก็ได้กราบทูลต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสอีกครั้ง ๑ ว่าพระเจ้ากรุงสยามนายของเขาไม่ได้มีพระราชประสงค์สิ่งใดยิ่งกว่าพระราชประสงค์จะเปนพระราชไมตรี กับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และมีพระราชประสงค์ให้กองทหารฝรั่งเศสไป

๑๘๙ ประจำในตำบลต่าง ๆ ในพระราชอาณาเขตร์ อันจะเปนตำบลที่เหมาะที่สุดสำหรับทำการค้าขายของประเทศทั้ง ๒ ทั้งให้เปนพระเกียรติยศแก่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของเราด้วย เพราะเมื่อได้จัดการให้เปนไปตามพระราชประสงค์ดังนี้แล้ว ก็เท่ากับเปนพยานว่า พระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ได้ทรงปรองดองซึ่งกันและกันแล้ว เพราะเหตุฉนั้นพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของเรา มีพระราชประสงค์จะทำการตอบแทนพระราชไมตรีของพระเจ้ากรุงสยามให้ทันพระทัย เพราะพระราชไมตรีของพระเจ้ากรุงสยามเปนสิ่งที่พอพระทัยของพระเจ้ากรุง ฝรั่งเศสยิ่งนัก จึงมิได้ขัดในสิ่งที่เชอวาเลียเดอโชมองได้ไปรับรองไว้ ในพระนามของพระองค์ และซึ่งพระเจ้ากรุงสยามทรงหวังพระทัยว่าจะเปนการสำเร็จ แต่อันที่จริงข้อความที่เชอวาเลียเดอโชมองได้ไปรับรองไว้นั้น ก็มิได้เปนหลักฐานแน่นอนอย่างใดเลย เพราะฉนั้นข้างฝ่ายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส เพื่อตั้งต้นปฏิบัติการให้สมกับพระราชไมตรีอันจะเปนคุณเปนประโยชน์ต่อแผ่นดินทั้ง ๒ นั้น จึงได้ทรงเร่งให้เตรียมกองทัพเรือโดยเร็ว และโปรดให้กองทัพเรือนี้ นำพลทหาร นายทหารเอนยินเนีย ปืนใหญ่ ลูกแตก และปืนสำหรับยิงลูกแตก ส่งไปถวายพระเจ้ากรุงสยาม เพื่อให้ไปรักษาตำบลบางกอกต่อไป แต่การที่จะให้กองทหารและปืนใหญ่ไปรักษาตำบลบางกอกนั้น ก็หาได้ให้ไปรักษาในพระนามของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ดังประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรปได้เคยไปรักษาเมืองต่าง ๆ ในประเทศอินเดียไม่ แต่ให้กองทหารฝรั่งเศสนี้ไปรักษาตำบลบางกอกในพระนามของพระเจ้ากรุงสยามเอง และรับสั่ง

๑๙๐ ให้กองทหารฝรั่งเศสไปสร้างป้อมที่บางกอกอย่างแบบในทวีปยุโรป ตามความพอพระทัยของพระเจ้ากรุงสามทุกประการ คือว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงถวายกองทหารนี้ไว้แก่พระเจ้ากรุงสยาม และให้ถือว่ากองทหารฝรั่งเศสนี้เปนกองทหารของพระเจ้ากรุงสยาม และให้กองทหารทำการโดยมีความจงรักภักดีต่อพระเจ้ากรุงสยาม เหมอนกับทหารฝรั่งเศสเหล่านี้เปนไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินไทยดุจเดียวกัน ในข้อนี้จะมีใครมากล่าวหาว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทำผิดหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีไม่ได้ เพราะหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรียังไม่เคยมีกันเลย ที่จะห้ามมิให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเอาไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินของพระองค์ไปถวายต่อพระเจ้าแผ่นดินผู้เปนพระสหายดังนี้ เพราะฉนั้นต่อไปไม่จำเปนที่พระเจ้ากรุงสยามจะต้องไปทำลายบางกอกให้เหลือแต่ พื้นแผ่นดิน หรือไม่จำเปนที่จะต้องทรงมอบให้พวกปอตุเกตหรือแขกมัวหรือแขกเตอรกี หรือชาวต่างประเทศอื่น ๆ ซึ่งจะจับพลัดได้เปนผู้รักษาบางกอกต่อไป และพระเจ้ากรุงสยามจะได้วางพระทัยได้ว่า การที่มอบให้พวหฝรั่งเศสรักษาตำบลบางกอกนั้นเปนการพ้นเหตุภัยอันตรายต่าง ๆ เพราะพลทหารฝรั่งเศสเหล่านี้เปนคนที่เคยมีความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งมีความกล้าหาญและเคยมีชัยชนะในทัพศึกมาแล้วด้วย และเราอาจจะรับรองได้โดยไม่ต้องวิตกว่าจะไม่มีใครเชื่อ ว่าถ้ากองทหารฝรั่งเศสได้ไปประจำรักษาตำบลบางกอกแล้ว ไม่มีประเทศใดในทวีปยุโรปที่จะอาจสามารถเหลียวแลไปทางบางกอก หรือไม่มีประเทศใดที่จะกล้าทำสงครามกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสโดยความหยากจะได้ตำบลบางกอกนี้

๑๙๑ และถึงจะเห็นว่าถ้าไปตีบางกอกก็จะได้ชัยชนะโดยง่าย ก็ไม่มีประเทศใดจะอาจสามารถทำสงครามเลย ในเรื่องที่เกี่ยวด้วยเมืองสงขลานั้น ขอท่านบาดหลวงตาชาด์อย่าได้ลืม ว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงมีรับสั่งไว้กับราชทูตของพระเจ้ากรุงสยาม ว่าจะไม่ทรงยอมให้กองทหารฝรั่งเศสเข้าไปตั้งในเมืองสงขลาเปนอันขาด และไม่ทรงยอมที่จะส่งกองทหารไปยังประเทศอินเดียสำหรับไปตั้งในเมืองที่ได้ทำลายลงไปแล้วและที่ไม่มีชื่อว่าเปนเมือง ทั้งที่มีท่าเรืออันใช้ไม่ได้ด้วย แต่จะทรงยอมส่งกองทหารให้ไปอยู่ที่ตำบลบางกอกแห่งเดียวเท่านั้น เพราะตำบลนี้เปนตำบลที่พระเจ้ากรุงสยามได้ยอมถวายให้แก่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสแล้ว และการที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งผู้รักษาเมืองและกองทหารให้ไปประจำอยู่ที่ตำบลบางกอกนั้น ก็โดยถวายคนเหล่านี้ให้แก่พระเจ้ากรุงสยามโดยเต็มพระทัย อีกประการ ๑ การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงแสดงพระราชไมตรีต่อพระเจ้ากรุงสยามเช่นนี้ ก็เพราะหวังพระทัยว่าพระเจ้ากรุงสยามคงจะได้ทรงรับคำสั่งสอนในสาสนาคริศเตียน ดังได้รับสั่งไว้กับเชอวาเลียเดอโชมองว่าเต็มพระทัยที่จะทรงรับคำสั่งสอนในสาสนาคริศเตียนต่อไป จริงอยู่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเปนพระเจ้าแผ่นดินที่เปนคริศเตียนยิ่งกว่า พระเจ้าแผ่นดินและเจ้านายองค์อื่น ๆ ทั้งหมด และที่เรียกกันว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเปน " เจ้าที่เปนคริศเตียน " และเปน " บุตร์หัวปีของการสาสนา " นั้น เปนคำที่เรียกซึ่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสโปรดยิ่งกว่า


๑๙๒ ที่จะออกพระนามอย่างอื่น เช่นเรียกออกพระนามว่า " ผู้เปนใหญ่ " หรือ " ผู้มีชัยแก่ข้าศึก " ดังนี้เปนต้น พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงทราบด้วยพระปรีชาญาณ ว่าสาสนา คริศเตียนเปนสาสนาที่ดียิ่ง ทรงทราบได้ดีว่าถึงพระเจ้าจะทรงยอมให้มนุษย์ทั้งหลายได้นับถือสาสนาต่าง ๆ กัน ดุจเดียวกับที่ทรงยอมให้มุนษย์บางจำพวกเปนผู้ร้าย และมนุษย์บางจำพวกเปนคนดีนั้น แต่ถ้ามนุษย์เราได้ใช้สติปัญญาความคิด รู้จักแยกสิ่งที่จริงออกจากสิ่งที่เท็จแยกสิ่งที่ชั่วออกจากสิ่งที่ดีแล้ว พระเจ้าก็คงจะต้องเห็นชอบในความคิดอันดีนั้น เพราะเหตุฉนี้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของเราจึงอดไม่ได้ที่จะทรงหวัง ว่าบรรดาพระเจ้าแผ่นดินทั้งหลาย และพระเจ้าแผ่นดินที่เปนพระสหายโดยฉะเพาะ คงจะได้ดำเนินสู่ทางที่ได้กระทำให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้มีพระนามโด่งดังนัก เพราะการที่ถือสาสนาคริศเตียนนี้ได้ทำให้เกิดประโยชน์หลายอย่างนัก กล่าวคือ กระทำให้น้ำใจของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินมีความซื่อสัตย์สุจริตจงรักภักดีต่อเจ้านายของตัวอย่าง ๑ กระทำให้อาณาประชาราษฎรได้ปรองดองกันอยู่เย็นเปนสุขอย่าง ๑ กระทำให้พระเจ้าแผ่นดินมีพระเกียรติยศใหญ่ยิ่งอย่าง ๑ กระทำให้พระองค์พ้นภยันตรายทั้งปวงอย่าง ๑ และกระทำให้บรรดามนุษย์ทั้งปวงเมื่อได้ประพฤติตัวดีในเวลาที่มีชีวิตอยู่นั้น ได้รับความผาสุกชั่วกัลปาวสาน เหตุฉนี้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจึงทรงพระราชดำริห์เห็นว่า ถ้าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใดทรงตั้งอยู่ในศีลในธรรมแล้ว ก็ต้องถือว่าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้นเปนราชสัมพันธมิตร์และเปนพระสหายของพระองค์โดยแท้

๑๙๓ เพราะถึงแม้ว่าลัทธิถือสาสนาจะต่างกันก็ตาม แต่เมื่อความประพฤติอยู่ในทางที่ดีแล้วก็เปนอันใช้ได้เหมือนกัน ในข้อนี้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสคงจะได้ทรงมีรับสั่งกับพระเจ้ากรุงสยามอยู่เปนเนืองนิตย์ และการที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ดำเนินการจนถึงกับทำให้พระเจ้ากรุงสยามผู้ซึ่งเปนพระเจ้าแผ่นดินที่มีพระอำนาจใหญ่ยิ่งในฝ่ายทิศตวันออก ได้ทรงปกครองสาสนาคริศเตียนอย่าง ๑ และการที่ได้ทรงจัดให้กองทหารที่นับว่าเปนกองทหารคริศเตียนกองแรกที่ได้ไป ยังประเทศอินเดีย ซึ่งเปนแห่งที่ความกระหายเงินและทองไม่อาจจะชักนำให้คนไปมากมายเช่นนี้ได้อีกอย่าง ๑ นั้น เปนการที่ทรงถือว่าได้ทรงช่วยเหลือการของสาสนามากอยู่แล้ว เพราะฉนั้นกองทหารเหล่านี้ได้เดินทางไกล ได้รับความเหน็จเหนื่อยมามากแล้ว จึงเปนการจำเปนที่สุดที่จะให้กองทหารได้เข้าไปอยู่ตามหน้าที่โดยเร็ว จึงเปนหน้าที่ของบาดหลวงตาชาด์ที่จะรีบร้อนขอคำสั่งของพระเจ้ากรุงสยาม ให้กองทหารได้เข้าไปอยู่ที่บางกอกเสีย โดยเร็ว เพื่อจะได้รักษาบางกอกในพระนามของพระเจ้ากรุงสยามต่อไปเขียนที่ท่าเรือเมืองไทย เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐)


๒๕


๑๙๔ สำเนาคำสั่งลับสำหรับบาดหลวงตาชาด์ ด้วยตามคำสั่งที่เราได้รับมาเราจึงจำเปนต้องส่งจดหมายบันทึกฉบับนี้มาให้บาดหลวงตาชาด์พร้อมกับคำสั่งลับฉบับนี้ แต่ความจริงเราก็รู้สึกว่าเราจำเปนจะต้องได้รับความรู้จากบาดหลวงตาชาด์ เราจึงจะทำคำสั่งให้ตรงกับหน้าที่ของเราได้ เพราะฉนั้นเราได้เห็นปรากฎแล้วว่าบาดหลวงตาชาด์มีความเจตนาดีที่จะทำการให้พระเจ้าและให้พระเจ้า กรุงฝรั่งเศส และการที่ได้สำเร็จมาได้ถึงเพียงนี้ก็โดยความพยายามของบาดหลวงตาชาด์ผู้เดียวเท่านั้น และการจะสำเร็จต่อไปถึงผลที่สุดอย่างไรก็เกี่ยวด้วยความพยายามของบาดหลวงตาชาด์เหมือนกัน เพราะฉนั้นขอให้บาดหลวงตาชาด์รับจดหมายบันทึกต่างคำสั่งซึ่งได้ ส่งมาพร้อมกับคำสั่งลับฉบับนี้แล้ว และเมื่อบาดหลวงตาชาด์ได้ไปถึงพระนครศรีอยุธยาเมื่อใด ก็ขอให้มอบจดหมายบันทึกฉบับนี้ให้แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์ ซึ่งได้จดข้อความอันจริงใจของเราไว้ และขออย่าให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้สงสัยเลยว่า การเรื่องนี้เมื่อได้จัดไปสำเร็จแล้ว จะไม่เปนการสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสาสนาและประเทศทั้ง ๒ ด้วย อนึ่งเราอาจจะชมเชยและแสดงความยินดีต่อบาดหลวงตาชาด์ล่วงหน้าได้ว่าการเรื่องนี้คงจะเปนผลสำเร็จ เพราะเหตุว่าบาดหลวงตาชาด์ผู้ที่จะไปพูดจาจัดการในเรื่องนี้ และท่านเสนาบดีผู้ที่มีหน้าที่จะจัดการในเรื่องนี้ ก็เห็นชอบในเรื่องนี้ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่ายแล้ว


๑๙๕ เพราะฉนั้นขอให้บาดหลวงตาชาด์ไปชี้แจงต่อมองซิเออร์คอนซตันซ์ผู้เปนสหายอันสนิท ว่าบาดหลวงตาชาด็ได้จัดการให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รับความโปรดปรานและรับความปกครองจากพระเจ้าแผ่นดินผู้เปนใหญ่ยิ่ง จะหาพระเจ้าแผ่นดินองค์ใดในโลกนี้มาเปรียบปานกับพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้เปนไม่ได้แล้ว และขอให้บาดหลวงตาชาด็ชี้แจงกับมองซิเออร์คอนซตันซ์ผู้เปนเสนาบดีที่มีความปรีชาสามารถและกล้าหาญต่อไปว่า สติปัญญาความไหวพริบของมองซิเออร์คอนซตันซ์เปนสิ่งที่มีประโยชน์ ต่อพระเจ้ากรุงสยามนายของเขามากมายนัก เพราะฉนั้นในการเรื่องนี้ก็เปนสิ่งที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มีความประสงค์อยู่เอง ทั้งได้ออกปากรับรองไว้แล้วด้วย จึงเชื่อว่ามองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะจัดการให้เปนผลสำเร็จจงได้ เพราะจะเปนเรื่องที่จะทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมาก กล่าวคือ การที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้แนะนำการงานต่าง ๆ จนพระราชอาณาเชตร์สยามได้แผ่ใหญ่โตออกไปและประเทศสยามได้มีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรูนั้น ไม่เปนการประหลาดอะไรเลย แต่ที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้จัดการเขียนหนังสือฉบับเดียวและเซ็นชื่อตัวของตัว จนถึงกับชักนำให้กองทัพเรืออันสำคัญได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลตั้ง ๕,๐๐๐-๖,๐๐๐ ไมล์เพื่อมายังประเทศอินเดียสำหรับมารับราชการของพระเจ้าแผ่นดินของตัว และการที่ได้กองทัพเรือนี้ก็ได้มาจากพะเจ้าแผ่นดินผู้เปนใหญ่ยิ่งในโลกนี้ หาได้มาจากบริษัทพ่อค้าไม่นั้น เปนสิ่งที่ไม่เคยปรากฎในประเทศอินเดียเลย


๑๙๖ พงศาวดารในฝ่ายทิศตวันออกก็เคยมีตัวอย่าอยู่เสมอ ๆ ว่าพวกพ่อค้าชาวปอตุเกตบ้าง ชาวฮอลันดาบ้าง ชาวอังกฤษบ้าง ได้เคยมาขอดินแดนและบ้านเมืองจากเจ้าแผ่นดินในประเทศอินเดีย และถ้าไม่ได้โดยดีแล้วก็เอากำลังทหารมายึดเอา มีตัวอย่างปรากฎอยู่เช่นนี้เสมอ ๆ แต่ฝ่านพระเจ้าหลุยผู้เปนใหญ่ เมื่อได้ตั้งพระองค์เปนกลางชี้การในทวีปยุโรปได้เด็ดขาด และได้ทรงบังคับให้บรรดานา ๆ ประเทศซึ่งถือสาสนาคริศเตียนต้องยอมสงบศึกทั่วหน้ากันหมดตามข้อสัญญาและตามพระราชประสงค์ของพระองค์ดังนี้แล้ว ก็ได้ทรงยอมจัดเรือใหญ่ ๆ ๕ ลำให้เดินทางระยะไกลตั้ง ๖,๐๐๐ ไมล์ สำหรับบรรทุกกองทหารไปถวายพระเจ้ากรุงสยาม โดยกองทหารนี้ได้รับคำสั่งให้ไปทำราชการของพระเจ้ากรุงสยาม และให้ถือตัวว่าต้องทำราชการเหมือนดังเช่นไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสยามทั่วไป และถ้าพระเจ้ากรุงสยามจะโปรดให้กองทหารนี้ไปรักษาที่ตำบลแห่งใด ก็ให้กองทหารไปรักษาตำบลนั้น ๆ ในพระนามของพระเจ้ากรุงสยามต่อไป ก็การที่พระเจ้าหลุยผู้เปนใหญ่ได้ทรงยอมจัดการดังนี้เพราะอะไรเล่า ก็เพราะทรงเชื่อคำแนะนำของมองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นเอง และการที่ผู้ใดจะแนะนำให้พระเจ้าหลุยผู้เปนใหญ่ได้ทรงจัดการดังนี้ได้ ก็ไม่มีใครจะทำได้นอกจากมองซิเออร์คอนซตันซ์ผู้เดียวเท่านั้น และการที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ทำได้เช่นนี้ก็เพราะพระเจ้าได้ช่วยให้เปนเช่นนั้น โดยพระเจ้าคอยช่วยผู้ที่เอาใจใส่ในกิจการของพระองค์อยู่เสมอ


๑๙๗ เมื่อท่านบาดหลวงตาชาด์ได้ตอบมองซิเออร์คอนซตันซ์ตามข้อความ ในจดหมายของมองซิเออร์คอนซตันซ์หมดแล้ว บาดหลวงตาชาด์ก็คงจะไม่มีความลำบากอย่างไรที่จะทำให้มองซิเออร์คอนซตันซ์เชื่อว่า การที่ได้สำเร็จไปเท่าที่เห็นนี้ ก็เปนผลเนื่องจากจดหมายของมองซิเออร์คอนซตันซ์ฉบับเดียวเท่านั้น และเท่าที่มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้เห็นผลนี้ ก็เปนส่วนแต่เล็กน้อยสำหรับทำทางให้ได้ทำการใหญ่โตยิ่งกว่านี้อีกหลายเท่า เพราะฉนั้นเปนข้อที่ควรจะหวังได้ว่าภายหน้าคงจะได้เปนไมตรีอย่างสนิท โดยเหตุที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงตั้งต้นอย่างเร็วและอย่างพระทัยกว้างขวางเช่นนี้แล้ว เมื่อการปรากฎเปนพยานแก่ตาอยู่ดังนี้แล้ว จึงต้องหวังได้ว่าข้างฝ่ายมองซิเออร์คอนซตันซ์คงจะใช้สติปัญญาและพยายามทุกอย่าง ที่จะให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของเรา ได้สมพระราชประสงค์ในสิ่งที่จะละเว้นไม่ได้ เพื่อให้เปนพระเกียรติยศยิ่งขึ้น และสิ่งที่มีพระราชประสงค์โดยฉะเพาะนั้นก็คือว่า ขออย่าให้กองทหารซึ่งได้เต็มพระทัยถวายไว้ต่อพระเจ้ากรุงสยามนั้น ต้องไปประจำอยู่ที่เมืองสงขลาซึ่งเปนเมืองร้างไม่มีชื่อเสียงอย่างใด และซึ่งท่าเรือก็เปนท่าที่ใช้ไม่ได้ หรืออย่าให้กองทหารนี้ต้องไปประจำอยู่ที่แห่งใด ๆ นอกจากประจำอยู่ที่บางกอกแห่งเดียวเท่านั้น เพราะในเมืองและตำบลต่าง ๆ ทั้งพระราชอาณาจักร์สยามก็มีแต่ตำบลบางกอกแห่งเดียวที่จะจัดให้มีผู้รักษาเมืองเปนชาติฝรั่งเศส และให้มีกองทหารฝรั่งเศสประจำอยู่ สำหรับให้ปรากฎเกียรติยศว่า


๑๙๘ พระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ได้เปนพระราชไมตรีจนถึงกับต่างองค์ทรงไว้พระทัยกันได้ถึงเพียงนี้ แต่เรามีเหตุผลที่ทำให้เราเชื่อได้ว่า ในข้อนี้บาดหลวงตาชาด์คงจะไม่ต้องไปเจรจาสักเท่าไรนัก เพราะฉนั้นจึงขอกำชับบาดหลวงตาชาด์ด้วยคำสั่งฉบับนี้ ดังได้เคยกำชับด้วยปากมาหลายครั้งแล้วว่า ขอให้บาดหลวงตาชาด์จงจำไว้ว่า การที่เราได้มาในครั้งนี้ มิได้มีหน้าที่จะมาขอร้องหรือเลือกที่แห่งหนึ่งแห่งใด สำหรับให้กองทหารของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสไปประจำรักษาในพระนามของพระเจ้ากรุงสยาม แต่หน้าที่ของเราในข้อนี้มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น คือมีหน้าที่รับรองที่จะให้กองทหารฝรั่งเศสประจำรักษาฉะเพาะแต่บางกอกแห่งเดียวเท่านั้น เพราะตำบลบางกอกนี้พระเจ้ากรุงสยามรับสั่งว่าจะยกพระราชทานให้แก่เราหลายครั้งหลายหนแล้ว ไม่ฉะเพาะแต่บางกอกแห่งเดียว แต่จะพระราชทานที่แห่งอื่น ๆ ในพระราชอาณาเขตร์ของพระองค์ให้เราด้วย การที่ได้รับสั่งเช่นนี้มี ปรากฎอยู่ในจดหมายต่าง ๆ ที่เชอวาเลียเดอโชมองในพระนามของพระเจ้ากรุงสยาม และมีปรากฎในจดหมายของมองซิเออร์คอนซตันซ์โดยฉะเพาะด้วย ในจดหมายต่าง ๆ เหล่านี้ก็มีข้อความปรากฎในบางฉบับว่า มองซิเออร์คอนซตันซ์มีความประสงค์จะให้สร้างป้อมที่บางกอกและให้มีกองทหารประจำรักษาในป้อมนั้น เพื่อเปนที่มั่นสำหรับหลบหนีเข้าไปอาศรัยได้ในเวลาที่จะเกิดการกบฏขึ้น เพราะเกรงว่าถ้าสาสนาคริศเตียนได้แพร่หลายไปทั่วพระราชอาณาจักร์สยามแล้ว ก็อาจจะเกิดการกบฏขึ้นได้ และในจดหมายฉบับอื่น ๆ ก็มีข้อความปรากฎว่า

๑๙๙ มองซิเออร์คอนซตันซ์ขอให้ข้าพเจ้าจัดชาวฝรั่งเศสที่เปนคนดี ๆ ส่งมาให้เพื่อจะได้มอบหน้าที่ราชการให้ชาวฝรั่งเศสเหล่านี้ต่อไป คือว่าบางคนมองซิเออร์คอนซตันซ์จะได้มอบหน้าที่การปกครองหัวเมือง และให้รับหน้าที่ราชการที่เปนตำแหน่งสำคัญ ๆ บ้าง บางคนจะได้มอบให้เปนธุระในการทำเรือกสวนไร่นาบ้างดังนี้ อีกประการ ๑ การที่พระเจ้ากรุงสยามต้องการความช่วยเหลือของประเทสฝรั่งเศสนั้น ก็เพราะเหตุที่พวกฮอลันดามีความริษยาพวกฝรั่งเศสนัก จึงคิดการประทุษฐร้ายต่าง ๆ และการที่พวกฮอลันดามีเจตนาร้ายเช่นนี้ พระเจ้ากรุงสยามก็ทรงทราบอยู่เต็มพระทัย และได้มีรับสั่งในเรื่องนี้กับเชอวาเลียเดอโชมองด้วย เพราะฉนั้นตำบลบางกอกนี้เปนแห่งที่พวกฮอลันดาหยากได้นัก จึงจำเปนต้องหากำลังมาช่วยรักษาที่แห่งนี้และเมื่อกองทหารฝรั่งเศสได้เข้าไปประจำรักษาอยู่ที่บางกอกแล้ว เพียงแต่ออกชื่อว่าฝรั่งเศสเท่านั้น ก็จะทำให้พวกฮอลันดาและบรรดาประเทศทั้งหลายในทวีปยุโรปและประเทศอินเดีย ขยาดไม่กล้ามารบกวนบางกอกได้ และข้อนี้พระเจ้ากรุงสยามไม่ควรจะมีข้อสงสัยอย่างใดเลย เพราะการที่กองทหารฝรั่งเศสจะได้ประจำรักษาอยู่ที่ตำบลบางกอกนั้น เปนการที่ได้เปรียบหลายอย่าง กล่าวคือ ๑ เปนทำเลที่ดีและเหมาะแต่ไกลจากทะเลสักหน่อย ๒ กองทหารนี้ก็อยู่ใต้พระเนตร์พระหัตถ์ของพระเจ้ากรุงสยาม จะทรงบังคับบัญชาอย่างไรก็ได้ แต่ข้อที่สำคัญยิ่งกว่าข้อทั้ง ๒ นี้ ก็คือว่า ผู้ที่ประจำรักษาบางกอกนั้นเปนพลทหารฝรั่งเศสซึ่งปรากฎชื่อลือนามว่าเปนคนชาติที่ซื่อสัตย์สุจริตนัก และตั้งแต่ไหน

๒๐๐ แต่ไรมาก็ไม่เคยปรากฎเลยว่า เมื่อคนชาติฝรั่งเศสได้ไปทำราชการของเจ้านายองค์ใด จะได้เคยทำการทุจริตไม่ซื่อตรงต่อเจ้านายของตัวนอกจากความ ๓ ข้อนี้แล้ว พระเจ้ากรุงสยามก็คงจะวางพระทัยได้ ที่ทรงเห็นปรากฎว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงตั้งพระองค์เปนยุติธรรม ถึงกับถวายกำลังโดยความซื่อสัตย์สุจริตเช่นนี้ และในส่วนที่เกี่ยวกับตัวมองซิเออร์คอนซตันซ์โดยฉะเพาะนั้น ขออย่าให้มองซิเออร์คอนซตันซ์ได้รั้งรอเลย แต่ขอให้รีบจัดการให้พวกฝรั่งเศสได้เข้าไปอยู่ที่บางกอกเสียโดยเร็ว เพราะในจดหมายของมองซิเออร์คอนซตันซ์มีไปถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสฉบับ ๑ ก็ได้กราบทูลความว่า การที่จะให้กองทหารฝรั่งเศสประจำอยู่ที่บางกอกนั้น ก็เพื่อจะเอาไว้ต่อสู้ผู้ที่จะคิดการทุจริตต่อสาสนาคริศเตียนในประเทศสยามต่อไปอีกประการ๑ การที่จะรีบให้กองทหารได้เข้าประจำอยู่ในบางกอกโดยเร็วนั้นนอกจากจะเปนประโยชน์แก่การสาสนาแล้ว ก็คงจะเปนประโยชน์ต่อตัวมองซิเออร์คอนซตันซ์เองเปนอันมาก เพราะจะเปนการทำให้มองซิ เออร์คอนซตันซ์ได้รับเกียรติยศสูงอย่าง ๑ และอีกอย่าง ๑ จะเปนการป้องกันตัวมองซิเออร์คอนซตันซ์ให้พ้นจากความทุจริตของพวกที่จะอิจฉาริษยาด้วย เพราะกองทหารนี้จะเท่ากับเปนกองทหารประจำตัวมองซิเออร์คอนซตันซ์ก็ว่าได้ และจะได้อยู่ในความบังคับบัญชาของมองซิเออร์คอนซตันซ์โดยฉะเพาะด้วย อีกประการ ๑ พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงขอร้อง ให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของเราได้ทรงปกครองมองซิเออร์คอนซตันซ์ และพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนายของเราก็ได้พระราชทานเครื่องหมายล่วงหน้า ว่าจะทรงโปรดเปนที่พึ่งแก่มองซิเออร์คอนซตันซ์ ๒๐๑ ดังแจ้งอยู่ในจดหมายบันทึกซึ่งบาดหลวงตาชาด์จะได้ส่งให้แก่มองซิเออร์คอนซตันซ์นั้นแล้ว เพราะเหตุฉนั้นมองซิเออร์คอนซตันซ์ควรจะมีความยินดีฉวยโอกาสนี้ที่จะทำการให้สมกับพระเมตตาของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเพราะการที่จะต้องทำนี้ก็เปนสิ่งที่ง่ายอย่างที่สุด ทั้งจะเปนการแสดงให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงเชื่อพระทัยในพระราชไมตรีนี้ด้วย เพราะเมื่อประเทศทั้ง ๒ นี้ได้เปนพระราชไมตรีกันแล้ว ก็จะต้องนับว่าเปนพระราชไมตรีที่ใหญ่โตมีอำนาจ อันจะหาพระราชไมตรีใดในโลกนี้มาเปรียบปานไม่ได้เลย เมื่อบาดหลวงตาชาด์ได้จัดการให้ไทยได้ส่งคำสั่งมายังเรา อนุญาตให้พวกฝรั่งเศสได้เข้าไปอยู่ในบางกอกแล้ว พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงเห็นต่อไปว่า เพื่อกระทำให้พระราชไมตรีในระหว่างประเทศทั้ง ๒ ได้เลื่องลือ ปรากฎทั่วไปนั้น ควรจะจัดการให้ไทยทำพิธีรับกองทหารฝรั่งเศสเสียด้วยและพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงมีพระราชดำรัสไว้ว่า ก่อนที่จะทำหนังสือสัญญาที่เกี่ยวด้วยการค้าขายนั้น จะต้องเตรียมการไว้ให้เสร็จก่อนกล่าวคือให้บาดหลวงตาชาด์รีบกราบทูลพระเจ้ากรุงสยามโดยเร็วที่สุด อย่าให้ต้องเสียเวลาได้ ขอแบ่งกองทหารของเราไปประจำอยู่ที่เมืองมะริตตามลำแม่น้ำบ้าง และประจำอยู่ที่เมืองตะนาวศรีในอ่าวเบงกอลบ้าง กับขอให้ชาวฝรั่งเศสได้รับตำแหน่งเปนผู้รักษาเมืองด้วย ในข้อนี้พระเจ้ากรุงสยามคงจะไม่ขัดขวางอย่างไร แต่คงจะทรงยอมโดยดี เพราะเหตุว่าทรงมีพระราชประสงค์จะทำการค้าขายทั้งหมดแต่ฉะเพาะกับฝรั่งเศส ๒๖

๒๐๒ ฝ่ายเดียวเท่านั้น ก็เมื่อพระเจ้ากรุงสยามทรงมีพระราชประสงค์เช่นนี้แล้ว การที่จะให้เปนไปตามพระราชประสงค์นั้น ก็จำเปนที่พวกฝรั่งเศสจะต้องมีท่าเรืออยู่ในพระราชอาณาเขตร์ ๒ แห่ง คือที่บางกอกในอ่าวสยามแห่ง ๑ และที่เมืองมะริตในอ่าวเบงกอลอีกแห่ง ๑ ทั้งจำเปนที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะต้องมีที่มั่นสำหรับสร้างป้อมให้แขงแรงมั่งคงด้วย เรือค้าขายของเราจะได้ไปมาโดยสดวก จึงจำเปนต้องมีท่าเรือไว้ในพระราชอาณาจักร์สยามเพื่อเรือพ่อค้าจะได้ไปมาโดยไม่จำเปนจะต้องมีกองทัพเรือหรือเรือรบมาคอยคุมกำกับ เมื่อมีท่าเรือดังว่ามานี้แล้ว เรือพ่อค้าก็ไม่จำเปนจะต้องเดินทางช่องซอนดาและช่องมลากาอีกต่อไป และความลำบากที่ต้องเดินเรือทางช่องซอนดาและช่องมลากามีเพียงไรนั้น เราก็ได้รู้สึกเมื่อมาในคราวนี้อยู่แล้ว เพราะต้องพึ่งพาพวกฮอลันดาสำหรับหาน้ำและ สเบียงอาหารดังนี้ ในข้อนี้มองซิเออร์คอนซตันซ์คงเข้าใจได้ดี เพราะในจดหมายที่ได้มีมาถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสนั้น ก็ได้กล่าวในเรื่องนี้เหมือนกัน การที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงเลือกเมืองมะริต มิได้ทรงเลือกเมืองอื่นในอ่าวเบงกอลนั้น ก็เพราะเหตุว่าเมืองมะริตนี้เปนท่าเรือที่เรือลำใหญ่ ๆ จะเข้าไปจอดได้ และเปนทำเลเหมาะสมที่สุดสำหรับทำท่าเรือได้ดีกว่าแห่งอื่น ซึ่งเปนเรื่องที่มองซิเออร์คอนซตันซ์เข้าใจได้ดีอยู่แล้ว ในเรื่องนี้ถ้าจะพูดให้สั้นแล้วก็คือว่า การที่พระเจ้ากรุงสยามได้ขอร้องให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ส่งทหารและพ่อค้าไปตั้งอยู่ในที่อันไกลเช่นนี้ ถ้าไม่ได้ไปตั้งให้สมเกียรติยศของประเทศฝรั่งเศสแล้ว ก็ดูไม่เปนการสมควรเลย ๒๐๓ อนึ่งถ้าแม้ว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสไม่ได้ส่งกองทหารไปตั้งอยู่ที่บางกอกและเมืองมะริตแล้ว ถ้าหากว่าในประเทศสยามจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างใด ก็น่าจะต้องเกรงว่าพวกฮอลันดา หรือพวกอังกฤษ หรือพวกนา ๆ ประเทศอื่น ๆ คงจะต้องไปยึดที่ ๒ แห่งนี้ไว้โดยพระเจ้าแผ่นดินสยามในอนาคตคงจะทรงยินยอมเห็นด้วย ถ้าการต่อไปจะเปนดังว่ามานี้จริง ไหนเลยพระเจ้ากรุงสยามจะทรงยอมให้ประเทศฝรั่งเศสได้รับความดูหมิ่นดังนี้ เพราะแต่ในบัดนี้พระเจ้ากรุงสยามก็ได้รับสั่งไว้แล้ว ว่าถ้าต่อไปในภายหน้าได้เกิดเรื่องเปลี่ยนแปลงดังว่ามานี้แล้ว ก็พระราชทานอำนาจให้พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสในปัตยุบัน และพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสในอนาคต ได้ไปยึดเอาประเทศสยามไว้ให้อยู่ในอำนาจของฝรั่งเศสได้ เพราะเปนการที่ขัดกับพระราชไมตรีนี้ เพราะฉนั้นในเรื่องบางกอกและเมืองมะริตนี้ ขอบาดลวงตาชาด์อย่างได้ฟังเสียงอย่างอื่นเปนอันขาด เพราะพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงห้ามไว้แล้ว นอกจากนี้เราเชื่อใจแน่ว่าในไม่ช้าเราก็คงจะได้ตามบาดหลวงตาชาด์ไป จึงขออวยพรให้บาดหลวงตาชาด์ได้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และขอให้บาดหลวงตาชาด์ส่งข่าวพระเจ้ากรุงสยามและข่าวมองซิเออร์คอนซตันซ์มายังเราทุก ๆ วัน เพราะเจ้าพนักงานของบริษัทได้รับคำสั่งให้จัดเรือให้บาดหลวงตาชาด์ได้ส่งข่าวมาทุก ๆ วันแล้ว เขียนที่ท่าเรือเมืองไทย ณวันที่ ๒๗ กันยายน ค.ศ. ๑๖๘๗ ( พ.ศ. ๒๒๓๐ )



๒๐๔ พระราชโองการของพระเจ้ากรุงสยาม ดำรัสสั่งให้ท่านกาวนาเยเนราลคือมองซิเออร์เดฟาช ได้ปฏิบัติการทั้งปวงในที่พักกองทหารที่บางกอก ทั้งฝั่งตวันออกตวันตก ตามข้อความที่จะกล่าวต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้บังคับบัญชาปกครองกองทหารตามข้อบังคับของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และให้ฝึกหัดกองทหารตามแบบฝึกหัดกองทหารฝรั่งเศส เพื่อให้เปนระเบียบเดียวกัน เพราะฉนั้นให้เปนหน้าที่ของนายพันตรีที่จะฝึกหัดคนไทย และชาวประเทศอื่นซึ่งเปนทหารของพระเจ้ากรุงสยามโดยฉะเพาะ เพื่อให้ทหารเหล่านี้ได้รับความฝึกหัดให้เปนระเบียบเดียวกันหมด ข้อ ๒ ข้อบังคับซึ่งเราได้ตั้งไว้สำหรบกองทหาร ๒ กองเมื่อวันที่ ๗ เดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) นั้น ให้กองทหารได้ปฏิบัติตามข้อบังคับนั้นจงทุกประการ เพราะเปนการสมควรสำหรับเกียรติยศของพระเจ้า และเปนการสมครแก่ราชการของพระเจ้ากรุงสยามด้วย ข้อ ๓ ห้ามมิให้ท่านกาวนาเยเนราลได้ออกจากป้อมโดยมิได้รับพระราชานุญาตเปนอันขาด ถ้าท่านกาวนาเยเนราลไม่อยู่ ก็ห้ามมิให้ผู้บังคับกองทหารออกจากป้อมดุจเดียวกัน


๒๐๕ ข้อ ๔ ให้ท่านกาวนาเยเนราลส่งนายพันตรีและนายทหารอื่น ๆ ให้ระวังมิให้พลทหารเจ็บป่วยลงไปได้ และให้บรดานายทหารปฏิบัติตามข้อความที่จะกล่าวต่อไปนี้ คือห้ามมิให้รับประทานน้ำนลำแม่น้ำแต่ให้ตักน้ำนั้นมาใส่ตุ่มใหญ่ ๆ ซึ่งจะได้หาเตรียมไว้ให้ ให้โคลนและตมนอนเสียก่อนจึงให้รับประทานได้ และในเวลาเช้าทุก ๆ วันให้จ่ายพลทหารไปตักน้ำใส่ตุ่มเล็ก ๆ ไว้ให้พอตามความห้องพลทหารทุก ๆ ห้อง แต่ในการตักน้ำนี้จะไว้ใจแก่พลทหารนักไม่ได้ เพราะโดยมากพวกพลทหารมักเปนคนที่สะเพร่า และถ้าไม่ระวังในเรื่องน้ำรับประทานแล้วไม่ช้าก็จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บ เพราะในเวลาน้ำท่วมน้ำได้หลากไหลมาจากเหนือ พาพิษต่าง ๆ ซึ่งอยู่ตามพื้นดินมาด้วย จึงเปนการจำเปนที่จะต้องระวังเสียก่อนจึงจะรับประทานน้ำนี้ได้ เข้าสารที่จะหุงให้พลทหารรับประทานนั้นต้องใช้เข้าใหม่ที่ดี และต้องเอาน้ำล้างเสียก่อน ๓ หรือ ๔ หนจึงจะหุงได้ มิฉนั้นจะเกิดความไข้เจ็บขึ้น สุราที่จะให้พลทหารรับประทานนั้น ต้องต้มกับน้ำตาลบ้างเล็กน้อยและให้เก็บรักษาไว้ในตุ่มหรือถังเสียก่อนจึงให้รับประทาน เพราะสุรานี้มีปูนมาก จะทำให้พลทหารไม่สบาย ให้นายทหารบังคับพลทหารให้อาบน้ำในเวลาเช้าทุกวัน และให้อาบในที่กำบังซึ่งมีเสาปักล้อมรอบ เพื่อป้องกันมิให้สัตว์ร้ายทำอันตรายแก่พลทหารได้


๒๐๖ ถ้าพลทหารป่วยเปนไข้ลงเมื่อใด ห้ามมิให้รับประทานเนื้อโคหรือเนื้อสัตว์อย่างใดที่มีมันมาก ให้นายทหารคอยห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดนอนกลางแจ้งหรือนอนกับพื้นดินเปนอันขาด เพราะการนอนกลางแจ้งและนอนกับพื้นแผ่นดินนั้น กระทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ให้นายพันตรีคอยดูแลบงคับให้บรรดานายทหารได้ปฏิบัติตามข้อความที่ว่ามานี้ และให้บรรดานายทหารเปนธุระให้พลทหารได้ปฏิบัติตามข้อบังคับนี้จงทุกประการ ข้อ ๕ อนึ่งไม่เคยมีเลยที่จะมีชาวยุโรปมาอยู่ในตำบลนี้มากมายเช่นนี้เพราะฉนั้นสเบียงอาหารและของสำหรับพลทหารจะใช้สอยจึงอัตคัตหายาก แต่เพื่อจะให้พลทหารได้เลี้ยงชีวิตได้เท่าอัตราเงินเดือนที่ได้รับอยู่นั้น ก็ให้เจ้พนักงานอินเตนเดนต์จัดตั้งคนที่ซื่อตรงและที่ไว้ใจได้ ๒ คนสำหรับเปนหัวหน้าขงกองทหาร คน ๑ ให้อยู่ฝั่ง ๑ อีกคน ๑ ให้ประจำอยู่อีกฝั่ง ๑ หัวหน้ากองทหารนั้นจะได้คอยตรวจตราให้ทราบได้แน่ว่าทหารคน ๑ จะต้องกินอยู่วัน ๑ มากน้อยเท่าไร เมื่อได้ทราบเปนแน่นอนแล้ว จะได้กะกำหนดราคาของต่าง ๆ ตามราคาของพื้นเมืองเพื่อราษฎรพลเมืองจะได้ไม่เดือดร้อน และพลทหารจะได้ไม่ต้องรับความลำบากที่จะต้องไปเที่ยวหาซื้อของสำหรับมาเลี้ยงชีพ แต่เพื่อจะให้การหาสเบียงอาหารให้กองทหารได้เปนการสดวก เราจึงได้สั่งพนักงานคลังเมืองธน (บุรี) (TON) แะเมืองนน (ทบุรี) (NON) ให้


๒๐๗ จัดหาสเบียงอาหารไว้ และให้เอาเงินของพระเจ้ากรุงสยามจ่ายให้ไปก่อนและให้จัดหาของทุก ๆ อย่างที่จำเปนสำหรับเลี้ยงดูกองทหารต่อไปด้วย เมืองธนบุรีนั้นอยู่ข้างฝั่งตวันตก และเมืองนนทบุรีนั้นอยูข้างฝั่งตวันออก ถ้าแม้ว่านายทหารก็ดีพลทหารก็ดี จะต้องการสิ่งใด ก็ให้นายพันตรีบอกกับ ออกหมื่นบัญชาบาล (Omun Bacha Ban) ออกหลวงศรีสุราช (Oluan Srisurat) และออกหมื่นนนทราชธานี (Omun Non raya tany) ให้จัดการหาให้ตามประสงค์ การเรื่องนี้ให้เจ้าพนักงานอินเตนเดนต์ได้เปนธุระตรวจตราดูแล ให้คนทั้งหลายได้รับประทานของตามที่สมควร เพราะการที่เปนธุระจนเปนที่พอใจของคนทั่วไปนั้น เปนสิ่งที่พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าพอพระทัยยิ่งนัก ในที่สุดเราหวังใจว่า ท่านกาวนาเยเนราลคงจะได้สั่งให้บรรดานายทหารและพลทหารรักษาชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศสให้คงมีชื่อดีต่อไปกล่าวคอให้นายทหารและพลทหารประพฤติตัวอย่าให้คนไทยหรือคนต่างชาติต่างภาษาติเตียนได้ แต่คงจะได้ประพฤติตัวให้ได้รับความชมเชยสรรเสริญจากคนไทยและคนต่างภาษาทุกเมื่อ ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านกาวนาเยเนราลคงจะจัดการให้ได้ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ให้สมพระเกียรติยศพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ จงทุกประการ เขียนที่บางกอก ณวันที่ ๒๑ ตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) ( เซ็น ) ซี ฟอลคอน


๒๐๘ จดหมายมองซิเออร์ฟอลคอน ด้วยในการที่ท่านได้ไปในคราวนี้ ช้ากว่าที่ข้าพเจ้าได้คาดไว้มากแต่ถึงดังนั้นข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จะยินดีที่ท่านได้ไปพบเรือกายยาด และเรืออื่น ๆ ที่มาพร้อมกับเรือลำนี้ เพราะพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าทรงพระวิตกมากที่เรือได้มาถึงช้าไป ด้วยทรงเกรงว่าเรือเหล่านี้จะไปติดอยู่ตามฝั่งเมืองจันทบุรี และถ้าได้ไปติดจริงก๋ยากที่จะถอนเอาเรือเหล่านี้ออกมาได้ เพราะฉนั้นพระเจ้ากรุงสยามมีพระราชประสงค์จะทรงช่วยเหลือแก่คนที่เจ็บป่วยอยู่ในเรือเหล่านั้น จึงได้มีพระดำรัสสั่งให้ข้าพเจ้าส่งเรือล่วงหน้าไป ๓ ลำ และให้สั่งตามบรรดาข้าราชการเจ้าพนักงานซึ่งอยู่ตามฝั่งเมืองจันทบุรีนั้น ให้คอยส่งน้ำแลสเบียงอาหารให้พอแก่ความต้องการของเรือเหล่านั้น เมื่อเรือลานอมานด์ได้มาถึงเมื่อใด ก็ขอท่านได้โปรดบอกให้ข้าพเจ้าทราบ เพราะจวนจะหมดฤดูเดินเรืออยู่แล้ว หนังสือของท่านเอกอัครราชทูตลงวันที่ ๗ เดือนนี้ ซึ่งท่านได้นำส่งมายังข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าได้อ่านตลอดแล้ว ข้าพเจ้ามีความยินดีเปนอันมากที่ได้ทราบว่า ท่านเอกอัครราชทูตได้มีความเห็นพ้องกับข้าพเจ้าในเรื่องที่ข้าพเจ้าได้ทำความตกลงไว้กับท่าน และที่ข้าพเจ้าได้ตั้งใจดีไว้สำหรับกิจของพระเจ้า และเพื่อปะโยชน์ของแผ่นดินทั้ง ๒ นั้นคงจะเปนผลสำเร็จตามความปราถร์นาเปนแน่ ข้าพเจ้ายังหวังใจต่อไปว่า ถ้าพระเยซูได้ช่วยแล้ว พระเจ้าแผ่นดินผู้เปนใหญ่ทั้ง ๒ พระองค์กับทั้งอาณาประชาราษฎรไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน คงจะได้รับ

๒๐๙ ผลอย่างดีจากพระราชไมตรีนี้ และพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ นายของเรานั้น คงจะได้รับพระเกียรติยศอันไม่มีเวลาหมดสิ้นเลยเปนแน่ ในเรื่องที่จะได้กระทำสัตย์สาบาล ซึ่งท่านและเอกอัครราชทูตขอให้ข้าพเจ้าออกความเห็นนั้น เปนเรื่องที่เปิดเผยและสำคัญอย่างยิ่ง ในเรื่องนี้ถ้าแม้ว่าพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าจะเชื่อตามรับสั่งของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสฝ่ายเดียวแล้ว ก็จะเปนเหตุกระทำให้ผู้ที่คิดประทุษฐร้ายมีเสียงที่จพูดได้ต่าง ๆ แต่ความจริงการที่พระเจ้ากรุงสยามมีพระราชประสงค์จะให้พวกฝรั่งเศสกระทำสัตย์สาบาลนั้น มิได้เกี่ยวในการที่พระเจ้ากรุงสยามไม่ไว้พระทัยในพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสอย่างใดเลย และถ้าข้าพเจ้าได้กระทำตามพระราชดำริห์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสแล้ว ก็มิได้คิดที่จะป้องกันเหตุเภทภัยซึ่งจะมีมาจากประเทศฝรั่งเศสเลย แต่ที่จะต้องการให้พวกฝรั่งเศสกระทำสัตย์สาบาลนั้น ก็เพื่อป้องกันมิให้มีเสียงพูดขึ้นได้เท่านั้น ในเรื่องนี้ไม่จำเปนที่ข้าพเจ้าจะต้องอธิบายให้ยืดยาวยิ่งกว่านี้ เพราะในเวลาที่ท่านได้มาอยู่ในประเทศอินเดียถึงจะไม่เปนเวลาช้านานสักเท่าไรก็จริงอยู่ แต่ท่านก็คงจะเห็นได้แล้ว ว่าการที่ข้าพเจ้าป้องกันไว้เช่นนี้เปนการที่จำเปนโดยแท้ ถ้าแม้ว่าท่านจะมีความเห็นอย่างใด ว่าควรจะจัดการอย่างไรจึงจะให้คนจำพวกนี้ได้มีความเคารพอยู่เปนนิตย์แล้ว ก็ขอท่านได้แนะนำใข้าพเจ้าทราบด้วย ข้าพเจ้าจะมีความยินดีอย่างที่สุดที่จะได้รับคำแนะนำของท่านต่อไป เพราะการ ๒๗


๒๑๐ ที่จะให้คนจำพวกนี้ได้อยู่ในโอวาทคำบังคับบัญชานั้น เปนการสำคัญนักสำหรับเปนเครื่องพอพระทัยของพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ และเปนการสำคัญสำหรับให้การทั้งปวงได้ดำเนินตามพระราชดำริห์ของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ซึ่งจะกระทำให้พระเกียรติยศพระเกียรติคุณของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้แพร่หลายมาในทิศตวันออกด้วย เพราะการที่ประเทศฝรั่งเศสได้คิดส่งกองทหารมาประจำอยู่ในประเทศอินเดียนั้น ต้องนับว่าคราวนี้เปนครั้งที่ ๒ แล้ว เพราะเหตุฉนั้นท่านเอกอัครราชทูตจำเปนจะต้องจัดการในเรื่องนี้ให้เด็ดขาด เพื่อกระทำให้อาณาประชาราษฎรไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินและเจ้านายในเมืองเหล่านี้ได้เห็นว่า ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส มีความรักใคร่และนับถือเจ้านายของตัวมากนัก แม้แต่อยู่ในที่ห่างไกลหนทางตั้ง ๖,๐๐๐๐ ไมล์ ก็ยังคงมีความนับถือและซื่อสัตย์สุจริตต่อเจ้านายของตัว เปรียบประดุจเจ้านายของตัวได้มาบังคับบัญชาด้วยพระองค์เองเช่นนี้ เรื่องนี้เปนเรื่องที่สำคัญนัก ถ้าหากว่าได้ทำผิดไปแม้แต่พลาดเล็กน้อย ก็อาจจะทำให้พวกเรามีความเสียใจเปนอันมาก และอาจจะทำให้ประเทศฝรั่งเศสต้องเสียชื่อเสียงอันจะแก้ให้กลับดีอย่างเดิมยากนัก เพราะฉนั้นถ้าท่านเอกอัครราชทูตจะทำประการใดให้เปนที่เชื่อใจได้แน่แล้ว ว่าพวกฝรั่งเศสจะได้อยู่ในความบังคับบัญชาพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า ตัวข้าพเจ้าและผู้ที่จะแทนข้าพเจ้าต่อไปได้แล้ว ข้าพเจ้าก็จะยอมงดไม่บังคับใพวกฝรั่งเศสกระทำสัตย์สาบาลเหมือนกัน

๒๑๑ ท่านก็ย่อมทราบอยู่เต็มใจแล้ว ว่าข้าพเจ้ามีความจงรักภักดีและเอาใจใส่ในกิจราชการของพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ เพียงไร จึงไม่จำเปนที่ข้าพเจ้าจะต้องชี้แจงให้ท่านฟังต่อไป แต่ข้าพเจ้าจะต้องขอกล่าวอีกครั้ง ๑ ว่าการที่ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้ มิใช่เพราะข้าพเจ้าทะเยอทะยานหยากจะได้ดี หรือเพราะข้าพเจ้าจะทะเยอทะยานหยากบังคับบัญชาคนทั่วไปหามิได้เพราะคนทั่วโลกก็ย่อมเห็นอยู่แล้ว ว่าข้าพเจ้าได้รับตำแหน่งซึ่งได้บังคับบัญชาคนอยู่แล้ว ทั้งข้าพเจ้าก็รู้สึกว่าการที่เปนคนมีอำนาจนั้นเปนการที่หาประโยชน์มิได้ เพราะข้าพเจ้าได้เคยรับทุกข์และรับความลำบากมาได้แก่ตัวอยู่แล้ว อนึ่งท่านก็ทราบอยู่เต็มใจว่าเมื่อข้าพเจ้าได้เห็นการเรองสาสนาได้ดำเนินสู่ทางเจริญจนข้าพเจ้าไม่จำเปนจะต้องช่วยเหลือแล้วข้าพเจ้าก็หยากจะลาออกเสียทีเดียว แต่ข้าพเจ้าไม่หยากจะทำให้ท่านเสียเวลาต่อไป เพราะคนที่อยู่ในเรือคอยฟังข่าวจากท่านอยู่ เพราะฉนั้นในที่นี้ข้าพเจ้าจะได้จดหัวข้อที่สำคัญ ๆ ซึ่งเกี่ยวแก่การบังคับบัญชากองทหารของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสหรือกองทหารที่จะมีมาเปลี่ยนต่อไปภายหน้า คือ ข้อ ๑ กองทหารฝรั่งเศสทั้งนายทหารและพลทหาร จะไม่ต้องอยู่ในบังคับบัญชาของคนไทยหรือคนชาติอื่น ๆ เว้นแต่พระเจ้ากรุงสยามองค์ ๑ และตัวเราหรือผู้ที่จะแทนเราต่อไปในภายหน้าเท่านั้น ซึ่งเปนข้อที่ได้ตกลงเปนความลับไว้กับท่านแล้ว ข้อ ๒ ถึงหากว่าพระเจ้ากรุงสยามจะต้องพระราชประสงค์ทหารฝรั่งเศสสักเท่าไรก็ตาม แต่จะทรงถอนทหารออกกว่าครึ่ง ๑ หรือจะทรง

๒๑๒ ถอนทหารออกจนจำนวนทหารที่จะรักษาบางกอกไม่เพียงพอไม่ได้ และกองทหารที่จะได้ทรงแบ่งแยกออกไปนั้น จะต้องอยู่ในบังคับบัญชาของชาวฝรั่งเศส ข้อ ๓ บรรดาพลทหารซึ่งพระเจ้ากรุงสยามจะได้โปรดให้ไปประจำในที่ต่าง ๆ นั้น ถึงจะเปนคนชาติใดก็ตาม จะต้องอยู่ในความบังคับบัญชาของกาวนาซึ่งเปนชาวฝรั่งเศส และถ้าพระเจ้ากรุงสยามจะทรงเปลี่ยนกาวนาเวลาใด จะได้โปรดเกล้ารับสั่งให้เราทราบ และเมื่อจะทรงโปรดให้จัดการประการใด ก็จะได้โปรดมีรับสั่งให้เาเปนผู้จัดการตามพระกระแสต่อไป ข้อ ๔ บรรดาป้อมคูประตูหอรบที่จะคิดสร้างขึ้นนั้น จะต้องได้รับความเห็นชอบของพระเจ้ากรุงสยามและของเราเสียก่อนจึงจะสร้างขึ้นได้เมื่อเอนยินเนียของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้เขียนแบบและเขียนแผนที่ยื่นให้แก่เรา และเมื่อพระเจ้ากรุงสยามทรงเห็นชอบ และตัวเราก็ได้เห็นชอบตามแบบที่เขียนมานั้นแล้ว ผู้บังคับการและนายทหารจะต้องก่อสร้างป้อมตามแบบนั้นทุกประการ จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างไรไม่ได้เปนอันขาด ข้อ ๕ การตั้งนายทหารสำหรับบังคับบัญชาพลทหารนั้น ต้องแล้สแต่พระเจ้ากรุงสยามกับตัวเราและผู้ที่จะแทนเราในภายหน้าจะตั้งแต่งเมื่อให้ตั้งแต่งผู้ใดเปนนายทหารขึ้นแล้ว ผู้บังคับการหรือนายทหารคนใด จะคัดค้านอย่างใดไม่ได้เปนอันขาด


๒๑๓ ข้อ ๖ ถ้าแม้ว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในกองทหารอย่างใด ๆ ผู้บังคับการเลื่อนตำแหน่ง หรือจะถอดนายทหารผู้ใดไม่ได้ แต่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากเราเสียก่อนจึงจะได้ ข้อ ๗ เจ้าพนักงานอินเตนเดนต์จะให้รางวัลแก่ใครก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากเราไม่ได้ และโดยปรกติ อินเตนเดนต์ผู้นี้จะต้องประจำอยู่ในราชสำนัก เว้นแต่จะไปตรวจกองทหารเปนครั้งเปนคราวเท่านั้น ข้อ ๘ ถ้าจะเกิดข้อโต้เถียงซึ่งกันและกันขึ้น และข้อโต้เถียงนั้นเกี่ยวแก่ประโยชน์ของพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ แล้ว ผู้บังคับการและนายทหารทั้งปวงจะต้องฟังความเห็นของเราและความเห็นของบาดหลวงตาชาด์เปนเด็ดขาด และจะต้องปฏิบัติตามความเห็นนั้น จนกว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้สั่งมาเปนอย่างอื่น ข้อ ๙ เมื่อมาพิเคราะห์ดูว่า พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงไว้วางพระราชหฤทัยในบาดหลวงคณะเยซวิตเปนอันมาก และเมื่อปรากฎว่าข้างฝ่ายพระเจ้ากรุงสยามก็ทรงไว้วางพระราชหฤทัยในพวกบาดหลวงคณะเยซวิตมากเหมือนกัน เพราะเหตุที่บาดหลวงเหล่านี้ได้ช่วยให้พระเจ้าแผ่นดินนายของเราได้เปนพระราชไมตรี และคงจะช่วยต่อไปในภายหน้าอีกนั้น ข้าพเจ้าเห็นเปนการสมควรที่จะต้องปรึกษาหารือกับหัวหน้าของบาดหลวง หรือบาดหลวงคนหนึ่งคนใดก็ได้ และเมื่อความเห็นของบาดหลวงต้องด้วยพระราชประสงค์ของพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ และเปนการสมควรสำหรับเกียรติยศของพระเจ้าแล้ว ก็ควรจะกระทำตาม


๒๑๔ ข้อ ๑๐ ถ้าแม้ว่าพวกฝรั่งเศสได้เปนทหารรักษาพระองค์พระเจ้ากรุงสยามก็ดี หรือจะได้เปนผู้บังคับการเรือก็ดี หรือจะได้เปนผู้ว่าราชการและผู้รักษาเมืองและสถานที่ต่าง ๆ ก็ดี หรือจะได้รับราชการของพระเจ้ากรุงสยามอย่างใด ๆ ก็ดี ชาวฝรั่งเศสที่รับราชการเหล่านี้จะต้องขาดจากหน้าที่ ๆ อยู่ในบังคับบัญชาของผู้บังคับการและนายทหารกองทหารฝรั่งเศส จนกว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้มีคำสั่งมาเปนอย่างอื่น ข้อ ๑๑ ผู้บังคับการทหารก็ดี บรรดานายทหารชาวฝรั่งเศสก็ดี พลทหารชาวฝรั่งเศสก็ดี จะต้องอยู่ในความบังคับบัญชาและขึ้นอยู่ในพระเจ้ากรุงสยาม และตัวเราและผู้ที่จะแทนเราต่อไปในภายหน้า เหมือนกับที่คนเหล่านี้เคยอยู่ในความบังคับบัญชาของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเช่นเดียวกัน ในเรื่องที่จะกระทำสัตย์สาบาลนั้น ผู้ที่จะกระทำสัตย์สาบาลจะต้องสาบาว่า จะได้ทำราชการต่อสู้ศัตรูของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและพระเจ้ากรุงสยามด้วยใจซื่อสัตย์สุจริต และเมื่อเราหรือผู้ที่จะแทนเราต่อไปภายหน้า ได้รับ ๆ สั่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและพระเจ้ากรุงสยาม มาสั่งการตามกระแสรับสั่งประการใด ผู้ที่ได้กระทำสัตย์สาบาลแล้วจะต้องกระทำตามคำสั่งนั้น ๆ จงทุกประการ ถ้าท่านเอกอัครราชทูตได้ตรวจดูข้อความในจดหมายบันทึก ซึ่งพระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าได้พระราชทานสิ่งต่าง ๆ ให้แก่เชอวาเลียเดอโชมอง อันเปนสิ่งที่เปนประโยชน์แก่ประเทศฝรั่งเศสนัก ดังท่านได้ทราบข้อความอยู่ดีแล้วนั้น ท่านเอกอัครราชทูตก็คงจะไม่ต้อง ๒๑๕ หาหลักฐานอย่างอื่นสำหรับการภายหน้าต่อไป แต่ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าไม่ต้องการจะพูดให้ยืดยาวไป เพราะข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านเปนผู้ที่ได้ทราบในคำสั่งของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสอยู่ดีแล้ว ก็ไม่ได้เปนประสงค์อะไรนอกจากจะให้พระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ นายของเรา ได้รับพระเกียรติยศยิ่งขึ้นไป ทั้งประสงค์จะให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินได้รับความผาสุก และให้พระเจ้าได้มีเกียรติยศมากขึ้นเท่านั้น ข้าพเจ้ามีความมุ่งหมายเช่นนี้จึงต้องปฏิบัติการตามที่ทำอยู่ดังนี้ ทั้งต้องไว้ใจและมอบอำนาจของข้าพเจ้าให้อยู่ในกำมือของท่าน เพื่อท่านจะได้ลงเรือลัวโซเจรจากับท่านเอกอัครราชทูตแทนตัวข้าพเจ้า ในกิจการทั้งปวงของพระเจ้า และในกิจการต่าง ๆ อันจะเปนประโยชน์ต่อพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ด้วย ข้าพเจ้าขออ้อนวอนท่านให้ระวังจงหนักในเวลาที่จะไปเจรจาการบ้านเมืองกับเอกอัครราชทูต อย่าให้ข้อความที่จะทำสัญญากันนั้นเคลือบคลุมได้เปนอันขาด และในข้อที่เกี่ยวด้วยการบังคับบัญชากองทหารฝรั่งเศสนั้น ก็ต้องให้ชัดเจนแจ่มแจ้งที่สุด อย่าให้เปนข้อสงสัยหรือโต้เถียงกันในภายหน้าได้ เพราะการต่าง ๆ ที่จะสั่งแก่กองทหารฝรั่งเศสนั้น ก็คงจะสำหรับประโยชน์ราชการแผ่นดินทั้ง ๒ และสำหรับเกียรติยศของพระเจ้าด้วย เมื่อท่านได้ไปชี้แจงเหตุผลทั้งปวงให้ท่านเอกอัครราชทูตเข้าใจแล้วข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านเอกอัครราชทูตก็คงจะหมดคำคัดค้าน และคงจะไม่มีข้อขัดข้องอีกต่อไป


๒๑๖ อนึ่งข้าพเจ้าขอให้ท่านรู้สึกว่า พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าได้ทรงถือเสมอว่า บาดหลวงที่ประจำอยู่ในบริษัทเท่ากับเปนเครื่องมือสำหรับทำให้พระราชไมตรีและประโยชน์ของพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ นายของเราได้ติดต่อกันอยู่เสมอ และฝ่ายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเองก็ทรงถือเช่นนี้เหมือนกัน จึงได้ทรงไว้วางพระราชหฤทัยแก่บาดหลวงเหล่านี้ดังปรากฎมาแล้ว เพราะเหตุฉนี้ในเวลามราจะทำสัญญา ข้าพเจ้าจึงขอให้แทรกข้อพิเศษโดยฉะเพาะ ข้อ ๑ ว่า ถ้าข้าพเจ้าได้ตายลงไปแล้วก็ดี หรือข้าพเจ้าจะไม่อยู่ก็ดี ก็ขอให้หัวหน้าของบาดหลวงคณะเยซวิตได้มีอำนาจเท่ากับที่ข้าพเจ้ามีอยู่ในเวลานี้ เพราะข้าพเจ้าเห็นว่า ถ้าไม่ได้ระวังการไว้เช่นนี้ ผู้ที่จะทำราชการของพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ก็คงจะไม่ได้ทำราชการเต็มที่ และผู้ที่จะทำการให้ชื่อเสียงของพระเจ้าได้แพร่หลายออกไปนั้น ก็คงจะไม่ได้ทำการให้เปนดังนี้ไปได้ ข้าพเจ้าพอคาดคะเนได้ว่า ท่านเอกอัครราชทูตจะคัดค้านอย่างไรในข้อความที่ข้าพเจ้าได้แทรกลงไปในข้อสัญญาข้อต้น ซึ่งเปนข้อความลับที่ข้าพเจ้าได้ทำความตกลงไว้กับท่านแล้ว เพราะฉนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เอกอัครราชทูตขัดข้องได้นั้น ข้าพเจ้ารับรองว่าข้าพเจ้าจะได้อธิบายความลับข้อนี้ให้ท่านเอกอัครราชทูตเข้าใจโดยแจ่มแจ้ง แต่ท่านจะต้องจัดการระวังป้องกันเสียก่อน อย่าให้เอกอัครราชทูตนำความลับข้อนี้ไปพูดบอกเล่าแก่ผู้ใดทั้งทางตรงและทางอ้อทอย่าง ๑ เว้น


๒๑๗ แต่เอกอัครราชทูตจะนำความลับนี้ไปกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและไปเรียนต่อมาควิศเดอเซเนเลก็ได้ แต่จะต้องกราบทูลเรียนด้วยปาก จะกราบทูลและเรียนเปนลายลักษณ์อักษรไม่ได้ เมื่อท่านได้ไปทำความตกลงกับท่านเอกอัครราชทูตแล้ว ท่านจงส่งเรือให้แก่เอกอัครราชทูตโดยทันที เพื่อจะได้รับบรรทุกกองทหารมาส่งที่บางกอกต่อไป ในเวลาที่ท่านจะลงไปหาเอกอัครราชทูตนั้นจะได้มีข้าราชการไปกับท่านด้วย ๒ นาย เพื่อเชิญกระแสพระราชโองการของพระเจ้ากรุงสยามไปถามว่า ท่านเอกอัครราชทูตจะต้องการขึ้นบกวันใด เพื่อเจ้าพนักงานข้าราชการของพระเจ้ากรุงสยามจะได้ลงไปรับท่านเอกอัครราชทูตที่ปากน้ำทันตามกำหนด ขอพระเจ้าจงพิทักษรักษาท่านให้ท่านได้มีสติปัญญาทำสิ่งที่ควร ( เซ็น ) ซี ฟอลคอน เขียนในเรือที่พระประแดง ณวันที่ ๑๕ ตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐)


ข้อสัญญาซึ่งได้ตกลงกันในระหว่างมองซิเออร์เดอลาลูแบ และมองซิเออร์เซเบเรต์ เอกอัครราทตของประเทศฝรั่งเศสฝ่าย ๑ กับบาดหลวงตาชาด์ ผู้แทนฮีซเอกซเลนซี มองเซนเยอร์คอนซตันตอนฟอลคอน อัครมหาเสนาบดีของพระเจ้ากรุงสยามอิกฝ่าย ๑ ๒๘


๒๑๘ ร่างข้อสัญญาสำหรับเมืองไทย ข้อ ๑ คนไทยก็ดี คนต่างชาติต่างภาษาก็ดี จะมาเปนผู้บังคับบัญชากองทหารฝรั่งเศสหรือนายทหารเรือฝรั่งเศส ซึ่งได้ไปประจำรักษาการอยู่ที่บางกอกและที่เมืองมะริต หรือที่จะไปประจำรักษาการในที่อื่น ๆ ต่อไปในภายหน้าไม่ได้ แต่กองทหารฝรั่งเศสและนายทหารฝรั่งเศสจะต้องทำตามกระแสรับสั่งของพระเจ้ากรุงสยามทุกประการ เสนาบดีของพระเจ้ากรุงสยามจะได้เปนผู้เชิญพระราชโองการมาสั่งแก่กองทหารเปนลำดับ แต่การที่กองทหารฝรั่งเศสจะต้องปฏิบัติตามพระราชโองการของพระเจ้ากรุงสยามนั้น จะต้องเปนที่เข้าใจว่า พระราชโองการนั้น ๆ มิได้ขัดกับพระราชโองการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสอย่างใด ข้อ ๒ พระเจ้ากรุงสยามจะทรงเรียกทหารจากผู้บังคับการ หรือผู้บังคับกองในที่ต่าง ๆ ให้มากเกินจำนวนที่สมควรไม่ได้ กล่าวคือ ผู้บังคับการและผู้บังคับกองจะแยกทหารออกจากกองแต่ฉะเพาะเท่าจำนวนที่เห็นว่าจะแยกออกได้ โดยมิให้จำนวนพลทหารที่รักษาอยู่ในที่ต่าง ๆ น้อยจนถึงกับไม่เพียงพอที่จะรักษาที่เหล่านั้น และเมื่อได้แยกกองทหารออกไปเช่นนี้แล้ว ผู้ที่จะบังคับบัญชากองทหารที่แยกออกไปนั้น จะต้องเปนคนชาวฝรั่งเศส ข้อ ๓ บรรดาป้อมคูประตูหอรบที่จะได้สร้างขึ้นใหม่นั้น จะต้องอยู่ในความพิทักษรักษาของกองทหารฝรั่งเศส ถ้าจะมีพลทหารไทยอยู่ด้วย ก็จะต้องมีจำนวนพลทหารไทยเท่ากับที่ผู้บังคับการกองทหารฝรั่งเศสจะต้องการเท่านั้น ส่วนกองทหารไทยนั้นจะได้รักษาอยู่ในเมือง


๒๑๙ และผู้ที่จะบังคับบัญชากองทหารไทยนั้น ก็แล้วแต่พระเจ้ากรุงสยามจะทรงตั้งแต่งใครก็ได้ ข้อ ๔ การที่จะสร้างป้อมขึ้นนั้น ในชั้นต้นเอนยินเนียของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้คิดเขียนแบบขึ้น เมื่อพระเจ้ากรุงสยาม และฮีซเอกซเลนซี ได้ทรงเห็นชอบและเห็นชอบตามแบบนั้นแล้ว บรรดานายทหารฝรั่งเศสก็ดี จะมาคัดค้านหรือมาเกี่ยวข้องไม่ได้ แต่มีหน้าที่จะต้องสร้างป้อมตามแบบนั้น ๆ อย่างเดียวเท่านั้น ข้อ ๕ การตั้งแต่งนายทหารสำหรับบังคับกองทหารซึ่งมิใช่เปนคนชาวฝรั่งเศสนั้น ก็แล้วแต่พระเจ้ากรุงสยาม หรือฮีซเอกซเลนซี หรือผู้แทนฮีซเอกซเลนซีจะตั้งแต่งได้ทั้งสิ้น และการตั้งแต่งนายทหารที่ไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสนั้น ผู้บังคับการหรือนายทหารฝรั่งเศสจะมาเกี่ยวข้องคัดค้านไม่ได้ แต่ก็ต้องไม่ขัดกับข้อความในข้อ ๓ นั้นด้วย ข้อ ๖ ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใดก็ดี หรือจะแยกย้ายกองทหารฝรั่งเศสอย่างใดก็ดี ผู้บังคับการทหารฝรั่งเศสจะเพิ่มหรือลดหน้าที่ของนายทหารคนหนึ่งคนใดไม่ได้ นอกจากจะกราบทูลพระเจ้ากรุงสยามและเรียนท่านเสนาบดีให้ทรงทราบและทราบเสียก่อน ข้อ ๗ การชำระสะสางและพิจารณาตัดสินคดีทั้งปวงที่เกี่ยวด้วยกองทหารฝรั่งเศสนั้น จะต้องตกเปนหน้าที่ของพวกฝรั่งเศสแต่ฝ่ายเดียว ข้อ ๘ เจ้าพนักงานอินเตนเดนต์จะต้องมีหน้าที่ประจำอยู่ในพระราชสำนักเสมอ เว้นไว้แต่ถ้ามีราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสหรือราชการ



๒๒๐ ของพระเจ้ากรุงสยามเกิดขึ้น ซึ่งจำเปนเจ้าพนักงานอินเตนเดนต์จะต้องไปตรวจตราจัดการในที่ใดที่หนึ่งแล้ว จึงจะไปตามที่เหล่านั้นได้ ข้อ ๙ ถ้าในการทั้งปวงซึ่งเกี่ยวด้วยราชการของแผ่นดินทั้ง ๒ จะเกิดมีข้อสงสัยขึ้นอย่างหนึ่งอย่างใดแล้ว ผู้บังคับการและบรรดานายทหารจะต้องปฏิบัติตามความเห็นของท่านเสนาบดีและบาดหลวงตาชาด์เปนเด็จขาด จนกว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้สั่งมาเปนอย่างอื่นต่อไป ข้อ ๑๐ โดยเหตุที่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทรงไว้พระทัยนักหนาในพวกบาดหลวงของบริษัท และโดยเหตุที่พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้าก็ทรงไว้วางพระราชหฤทัยในบาดหลวงเหล่านี้เหมือนกัน เพราะบาดหลวงเหล่าน เปนผู้ที่เปนต้นเหตุช่วยให้พระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ได้เปนพระราชไมตรี และในภายหน้าบาดหลวงเหล่านี้ก็จะได้เปนธุระช่วยให้พระราชไมตรีนั้นได้สนิทแน่นยิ่งกว่าเดิมนั้น จึงเปนการสมควรและตกลงเห็นพร้อมกันว่า ต่อไปจะได้ปรึกษาหารือขอความเห็นของหัวหน้าบาดหลวงฝรั่งเศส หรือหารือบาดหลวงฝรั่งเศสคนใดคนหนึ่ง เพื่อออกความเห็นในสิ่งที่จะเปนประโยชน์ สมพระราชดำริห์ของพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ทั้งเพื่อให้เพิ่มเกียรติยศของพระเจ้าที่นับถือของเราด้วย ข้อ ๑๑ ถ้าพวกฝรั่งเศสได้เข้ารับราชการของพระเจ้ากรุงสยามเช่นเปนทหารรักษาพระองค์พระเจ้ากรุงสยามก็ดี หรือเปนผู้บังคับการเรือต่าง ๆ ก็ดี หรือเปนผู้รักษาสถานที่ต่าง ๆ หรือเปนผู้ว่าราชการเมืองตามหัวเมืองต่าง ๆ ก็ดี หรือจะทำราชการของพระเจ้ากรุงสยามในหน้าที่ใด ๆ ก็ดี ชาวฝรั่งเศสที่รับราชการเหล่านี้จะต้องขาดจากความ


๒๒๑ บังคับบัญชาของผู้บังคับการทหารฝรั่งเศสและนายทหารฝรั่งเศสทั้งปวงจนกว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสจะได้สั่งในเรื่องนี้เปนอย่างอื่นต่อไป ข้อ ๑๒ บรรดาพลทหารก็ดี ผู้บังคับการก็ดี ผู้บังคับกองก็ดีนายทหารทั้งปวงก็ดี จะต้องอยู่ในความบังคับบัญชาขึ้นอยู่ในพระเจ้ากรุงสยาม และขึ้นอยู่ฉะเพาะตัวท่านเสนาบดีหรือผู้ที่จะแทนท่านเสนาบดีในภายหน้า เหมือนกับที่คนเหล่านี้ต้องขึ้นอยู่ในพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสดุจเดียวกัน ข้อ ๑๓ ในข้อที่จะต้องกระทำสัตย์สาบาลนั้น วิธีที่จะสาบาลนั้นก็คือว่า กองทหารฝรั่งเศสทั้งนายและไพร่ จะต้องสาบาลว่า ตนจะได้มีความจงรักภักดีซื้อสัตย์สุจริตต่อราชการของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และพระเจ้ากรุงสยาม จะได้ตั้งใจต่อสู้พวกศัตรูทั้งปวง จะได้ปฏิบัติการให้ถูกต้องตามข้อสัญญาเหล่านี้ทุกประการ และจะได้กระทำตามคำสั่งซึ่งรับมาจากท่านเสนาบดีหรือผู้แทนเสนาบดีในภายหน้า อันเปนคำสั่งซึ่งท่านเสนาบดีได้รับกระแสรับสั่งมาทุกประการ ข้อ ๑๔ ด้วยพระเจ้ากรุงสยามทรงถือว่า บาดหลวงคณะเยซวิตเหมือนเครื่องมือ สำหรับเชื่อมพระราชไมตรีในระหว่างพระเจ้ากรุงสยามและพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และฝ่ายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเองก็ทรงเชื่อถือในพวกบาดหลวงคณะเยซวิตเหมือนกัน เพราะฉนั้นถ้าหากว่าท่านเสนาบดีจะถึงแก่กรรมเสียก็ดี หรือจะไม่อยู่ก็ดี การทั้งปวงที่ท่านเสนาบดีเคยบังคับบัญชามา ก็ให้มาเวนมอบให้หัวหน้าของคณะบาดหลวงได้บังคับบัญชาการทั้งปวงต่อไป เหมือนกับที่ท่านเสนาบดีได้เคยทำมาเช่นนั้น


๒๒๒ ข้อ ๑๕ โดยเหตุที่ผู้รักษาเมืองมะริตเปนชาวฝรั่งเศส เคยอยู่ในความบังคับบัญชาของผู้บังคับการฝรั่งเศส เพราะเหตุฉนั้นเมื่อพระเจ้ากรุงสยามจะมีกระแสรับสั่งมาอย่างใด ๆ หรือท่านเสนาบดีของพระเจ้ากรุงสยามจะสั่งประการใด ก็จะได้มีคำสั่งมายังผู้รักษาเมืองมะริตโดยผ่านผู้บังคับการทหารฝรั่งเศสก่อน เว้นไว้แต่ถ้ามีเหตุจำเปนเกิดขึ้นซึ่งจะต้องปฏิบัติอย่างอื่น อันไม่ผิดหรือขัดกับข้อความในข้อ ๙ แล้ว ก็จะได้ส่งคำสั่งนั้น ๆ ไปทางอื่นตามเหตุที่จำเปน

ข้อสัญญาลับ ข้อ ๑ ตามข้อความในสัญญาข้อ ๑ ซึ่งใช้คำว่า กองทหาร ฯลฯนั้น จะต้องเปนอันเข้าใจตามความลับซึ่งได้ตกลงกันไว้ในระหว่างมองซิเออร์คอนซตันตินฟอลคอน และบาดหลวงตาชาด์ ความลับอันนี้ได้แจ้งไปให้มองซิเออร์เดอลาลูแบ และมองซิเออร์เซเบเรต์ทราบโดยละเอียดแล้ว และท่านทั้ง ๒ นี้ก็ได้สาบาลตัวต่อพระคำภีร์แล้ว ว่าจะได้รักษาความลับอันนี้ไว้โดยมิได้แพร่งพรายให้ใครทราบเลย คือว่าจะไม่เอาความลับอันนี้จดลงในจดหมายบันทึก และจะไม่เอาความลับอันนี้บอกพูดเล่ากับใครโดยทรงตรงหรือทางอ้อมเปนอันขาด เว้นแต่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสและท่านมาควิศเดอเซเนเลเท่านั้น แต่เมื่อจะกราบทูลและเรียนนั้นจะต้องพูดด้วยปาก จะเขียนเปนลายลักษณ์อักษรไม่ได้เปนอันขาด เขียนบนเรือลัวโซ ณวันที่ ๑๖ ตุลาคม ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐)


งานนี้เป็นสาธารณสมบัติ เนื่องจากต้องด้วยหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗

  • (๑) เป็นภาพถ่าย โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง หรืองานแพร่เสียงแพร่ภาพ ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับห้าสิบปี นับแต่วันสร้างสรรค์ขึ้นครั้งแรก (หรือวันที่มีการเผยแพร่งานครั้งแรก) แล้วแต่ว่ากรณีใดปรากฏก่อน
  • (๒) เป็นงานศิลปประยุกต์ ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับยี่สิบห้าปี นับแต่วันสร้างสรรค์หรือเผยแพร่ครั้งแรก
  • (๓) เป็นงานโดยผู้ไม่เปิดเผยชื่อหรือผู้ใช้นามแฝง ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับห้าสิบปี นับแต่วันสร้างสรรค์หรือเผยแพร่ครั้งแรก
  • (๔) เป็นงานในหมวดหมู่อื่น ๆ ที่ไม่เข้าเกณฑ์ข้างต้น และผู้สร้างสรรค์คนสุดท้ายถึงแก่ความตายมากว่าห้าสิบปีแล้ว
  • (๕) เป็นกรณีที่ผู้สร้างสรรค์งานนี้ไม่ปรากฏ ผู้สร้างสรรค์งานนี้เป็นนิติบุคคล หรือตายก่อนการเผยแพร่งาน ประกอบกับงานนี้มีอายุอย่างน้อยห้าสิบปี นับแต่วันเผยแพร่งานครั้งแรก