ข้ามไปเนื้อหา

พระราชกฤษฎีกา ที่ระโหฐาน เพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๕๗

จาก วิกิซอร์ซ

พระราชกฤษฎีกา ที่ระโหฐาน เพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๕๗


มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ ฉเพาะเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี เสนาบดีกระทรวงวัง สั่งว่า

ตามราชประเพณีแต่ก่อนสืบมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินประทับอยู่ ณ ที่ใด ๆ การพิทักษ์รักษาก็ต้องมีเปนธรรมดา ถ้าประทับในที่ระโหฐาน (อันว่ามิใช่ที่เสด็จออกให้พระบรมวงษานุวงศ์แลข้าทูลละอองธุลีพระบาทเฝ้า ซึ่งมีกำหนดแล้วนั้น) การพิทักษ์รักษาก็เปนประเพณีที่เจ้าน่าที่ทั้งปวง จะต้องปฏิบัติให้เปนระเบียบอันกวดขันยิ่งขึ้นอยู่ทุกเมื่อ บางคราวที่มีพระราชประสงค์เปนอย่างอื่น ก็พระราชทานโอกาสโดยเฉพาะ แต่บัดนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้ประทับอยู่แต่ในพระบรมมหาราชวังแห่งเดียว มีที่เสด็จแปรพระราชสำนักแลประพาส ณ ที่ต่าง ๆ เพื่อทรงพระราชวิจารณ์ตรวจตรากิจการทั้งปวงอันจะเปนประโยชน์แก่บ้านเมือง ให้ทันแก่สมัย

จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่ง ให้ตราพระราชกฤษฎีกานี้ขึ้นไว้ให้ต้องด้วยราชประเพณีแลพระราชนิยม ให้เจ้าน่าที่ปฏิบัติให้ถูกถ้วนด้วยราชประเพณีที่มีมาแต่โบราณกาล แลเพิ่มเติมขึ้นอีกตามเวลาที่ควร

๑ ที่ระโหฐาน ซึ่งเรียกว่า ภายในฤๅข้างใน ผู้ใด ๆ ไม่ว่าหญิงฤๅชาย จะเข้าออกโดยพละตนไม่ได้ ต่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว จึงจะเปนอันเข้าออกได้

๒ ที่ใดที่เรียกว่า พระที่นั่งฤๅพระตำหนัก ฤๅพลับพลา ฤๅที่ประทับ ณ ค่ายหลวง ฤๅในเรือ ฤๅในแพ แลที่ใด ๆ ก็ดี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ ทั้งนี้ ให้เปนอันเข้าใจว่า เปนเขตแคบเข้ากว่าในข้อ ๑ ผู้ใด ๆ ทั้งหญิงแลชาย ซึ่งมิใช่เจ้าพนักงานอันประจำตำแหน่ง ซึ่งทรงอนุญาตเปนผู้ที่ประจำอยู่แล้วไซ้ ท่านห้ามมิให้เข้าออกเปนอันขาด เว้นไว้แต่ผู้นั้นได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต โปรดให้เบิกเข้าไป จึงจะเข้าไปได้

๓ ให้เจ้าน่าที่อันประจำตำแหน่งรักษาการมีอำนาจในน่าที่นี้ ห้ามปรามจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนพระราชนิยมอันนี้ได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าบุคคลชนิดใด

๔ ให้เสนาบดีกระทรวงวัง เปนน่าที่รักษาพระราชกฤษฎีกานี้ ให้เปนไปจงถูกถ้วนโดยพระราชนิยม แลพระราชกฤษฎีกานี้ ให้นับเนื่องอยู่ในกฎมณเฑียรบาลด้วยเหมือนกัน

ประกาศมา ณ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ เปนวันที่ ๑๔๗๖ ในรัชกาลปัตยุบันนี้


งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"