พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 250)

จาก วิกิซอร์ซ

พระราชกฤษฎีกา 

ออกตามความในประมวลรัษฎากร 

ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 250) 

พ.ศ. 2535 

--------------------------

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. 

ให้ไว้ ณ วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2535 

เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน

                    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า 

                    โดยที่เป็นการสมควรลดอัตราภาษีเงินได้ของมูลนิธิหรือสมาคม เฉพาะรายได้ส่วนที่เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร 

                    อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา 3 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้ 

                    มาตรา 1  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 250) พ.ศ. 2535” 

                    มาตรา 2  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่มาตรา 4 ให้ใช้บังคับสำหรับรายได้ของมูลนิธิหรือสมาคมซึ่งรอบระยะเวลาบัญชีเริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2535 เป็นต้นไป 

                    มาตรา 3  ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 168) พ.ศ. 2529 

                    มาตรา 4  ให้ลดอัตราภาษีเงินได้ตาม (จ) ของ(2) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล แห่งบัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร และคงจัดเก็บในอัตราร้อยละ 2 ของรายได้ก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ของมูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้ อันมิใช่รายได้ตามมาตรา 65 ทวิ (13) แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ เฉพาะรายได้ส่วนที่เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8)แห่งประมวลรัษฎากร 

                    มาตรา 5  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ 

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

อานันท์ ปันยารชุน

         นายกรัฐมนตรี

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่บทบัญญัติเกี่ยวกับภาษีเงินได้ของมูลนิธิและสมาคมได้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2534 ใช้บังคับ แต่สมควรลดอัตราภาษีเงินได้ให้แก่มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ให้คงเสียในอัตราร้อยละ 2 ของรายได้ก่อนหักรายจ่ายดังที่เป็นมาแต่เดิมจึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

อ้างอิง[แก้ไข]

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"