พระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475

จาก วิกิซอร์ซ
พระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม
พุทธศักราช ๒๔๗๕

เมื่อการเรียบเรียงรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามสำเร็จสมบูรณ์แล้ว จึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญนั้นแก่ราษฎรสยาม ดั่งต่อไปนี้

วันที่ ๑๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕ เวลา ๑๔ นาฬิกา ๔๐ นาฑี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องบรมราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระมหากฐิน ประดับเครื่องราชอิสสริยาภรณ์ ทรงสอดสายสะพายนพรัตนราชวราภรณ์อันเป็นโบราณมงคล เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์บนพระราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตรในพระวิสูตร มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร กรมวังชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญา ชาวประโคมกระทั่งแตรมะโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายเคารพ แตรวงบรรเลงสรรเสริญพระบารมี พระบรมวงศานุวงศ์ มีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฏ์ พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร เป็นอาทิ และคณะทูตานุทูต ผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือน เฝ้าฯ ตามตำแหน่ง เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว พระยามโนปกรณนิติธาดา ประธานคณะกรรมการราษฎร พร้อมด้วยกรรมการราษฎรบางท่าน เชิญฉะบับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว พระยามโนปกรณนิติธาดาได้เชิญฉะบับรัฐธรรมนูญไปประดิษฐานไว้ยังที่เดิม และได้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ครั้นแล้ว พระราชทานพนักงานประทับพระราชลัญฉกร ในระหว่างนี้ ได้โปรดเกล้าฯ ให้พระสารประเสริฐอ่านประกาศดำเนิรกระแสพระบรมราชโองการพระราชทานรัฐธรรมนูญจบลง พระยามโนปกรณนิติธาดาเชิญรัฐธรรมนูญซึ่งประทับพระราชลัญฉกรแล้วนั้นน้อมเกล้าฯ ถวายอีก ครั้นถึงอุตดมมงคลฤกษ์ระหว่างเวลา ๑๔ นาฬิกา ๕๓ นาฑีถึงเวลา ๑๕ นาฬิกา ๕ นาฑี พระยาโหราธิบดีลั่นฆ้องชัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามแก่เจ้าพระยาพิชัยญาติ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เจ้าพระยาพิชัยญาติเข้าไปรับพระราชทานพร้อมด้วยนายพลเรือตรี พระยาศรยุทธเสนี รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ชาวพนักงานประโคมสังข์แตรดุริยางค์ กองทหารเกียรติยศถวายเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ยิงปืนมหาฤกษ์ มหาชัย มหาจักร มหาปราบยุค ๑๐ นัด และทหารบกทหารเรือยิงปืนใหญ่ฝ่ายละ ๒๑ นัด ตามพระอารามต่าง ๆ ทั่วพระราชอาณาจักรสยามย่ำระฆังและกลอง ประชาชนนิกรโห่ร้องสำแดงความปีติยินดีกันกึกก้องกัมปนาท ครั้นเจ้าพระยาพิชัยญาติรับพระราชทานรัฐธรรมนูญแล้ว ได้มอบให้แก่พระยาศรยุทธเสนีเชิญไปประดิษฐานไว้บนพานทอง ๒ ชั้นเหนือตั่งทองหน้ามหาสมาคม เจ้าพระยาพิชัยญาติกราบบังคมทูลสนองพระมหากรุณาคุณซึ่งได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญ เสร็จแล้ว มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตรมะโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนี้ เจ้าพระยาพิชัยญาติได้เชิญฉะบับรัฐธรรมนูญไปยืนอยู่ที่ลานพระที่นั่งอนันตสมาคมทิศใต้พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระมาลาเส้าสะเทิน เสด็จออกสีหบัญชรทักษิณพระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตรมะโหระทึก กองทหารเกียรติยศถวายเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้พระบริรักษ์กฤษฎีกา กรมพระอาลักษณ์ อ่านประกาศดำเนิรกระแสพระบรมราชโองการพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม จบแล้ว เจ้าพระยาพิชัยญาติชูพานฉะบับรัฐธรรมนูญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้น ชาวประโคมกระทั่งแตรมะโหระทึก กองทหารเกียรติยศถวายเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นเสร็จการ

บรรณานุกรม[แก้ไข]

งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า

ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
  2. ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
    1. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
    2. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
  2. แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก