มหาสุรเสนชาดก

จาก วิกิซอร์ซ

เรื่องมหาสุรเสนชาดก เริ่มแรกปรารภการถวายทานของพระเถระรูปหนึ่งที่บวชในพระศาสนาของพระพุทธเจ้าพระนามว่าโกนาคมน์ เมื่อให้ทานแก่หมู่ภิกษุแล้วท่านจึงเข้าไปบำเพ็ญธุดงค์อยู่ในป่าเจริญวิปัสสนา ไม่นานท่านก็มรณภาพไปอุบัติในพรหมโลก พระพุทธเจ้าพระนามว่โกนาคมน์จึงทรงดำริว่า เพราะพรรณนาคุณการถวายอัฏฐบริขาร เธอจึงได้ความโสมนัสฉะนี้แล้วตรัสว่า ธรรมดาทานควรให้เพื่อหวังประโยชน์แก่ยาจกที่มาขอ แม้โบราณบัณฑิตทั้งหลาย ก็ได้ให้ศีรษะของตนเองเป็นทาน ตรัสแล้วก็ทรงดุษณีภาพอยู่ พวกภิกษุทั้งหลายทูลอาราธนา จึงได้ทรงนำอดีตนิทานมาว่า ในอดีตกาลพระเจ้ามหาสุรเสนครองราชย์ในพระนครพาราณสี มีพระอัครมเหสีพระนามว่า พระนางวิชุลตาเทวี ได้มีพระบรมราโชวาทกับมหาชนทั้งเวลาเช้าเวลาเย็นว่า พวกท่านอย่าได้ประมาท จงพากันทำบุญรักษาศีลบำเพ็ญทานแม้พระองค์เองรับสั่งให้ปลูกโรงทานเสร็จแล้ว ก็ได้บำเพ็ญทานเป็นจำนวนพระราชทรัพย์หลายแสนทุกวัน ถึงวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ทรงรักษาอุโบสถ ต่อมาพระองค์ทรงคำนึงถึงการบำเพ็ญทานของพระองค์ว่า ได้ทรงบำเพ็ญแต่พาหิรกทานอย่างเดียว ยังไม่พอพระทัยในทานนั้น จึงอยากจะบำเพ็ญอัชฌัตติกทานบ้าง เมื่อทรงคำนึงอยู่นั้น พิภพของท้าวสักกะก็แสดงอาการร้อนขึ้น ท้าวสักกะจึงทรงตรวจดูเหตุการณ์ ครั้นทราบแล้วจึงลงจากเทวโลกแปลงเป็นมาณพคอขาดมาปรากฎตัวขึ้นแล้วทูลขอศีรษะกับพระเจ้าสุรเสน ๆ ตัดศีรษะของตนเป็นทานแก่คนคอขาดซึ่งเป็นพระอินทร์ที่แปลงเพศลงมา ภายหลังพระอินทร์ก็ปรากฎตัวและประทานพรให้พระโพธิสัตว์มีศีรษะกลับคืนเหมือนเดิมแล้วก็อันตรธานไป พระผู้มีพระภาคจึงมีพระพุทธดำรัสว่า เพราะถวายบาตร นรชนย่อมเป็นผู้มีปัญญา มีกำลังใหญ่ที่จะก้าวไปสู่คุณเบื้องหน้าหาเวรมิได้ ถึงพร้อมด้วยอิทธิฤทธิ์ มีเดชานุภาพมากเป็นที่รักของหมู่ชน ถวายผ้าสังฆาฏิ ย่อมเป็นผู้ย่ำยีมารและเสนามารได้ ถวายผ้าอุตตราสงค์ พึงชนะข้าศึกในสงคราม เป็นหัวหน้าของปวงชน ภายหลังจะได้เป็นพระพุทธเจ้า ถวายผ้าอันตรวาสกพึงเป็นผู้กล่าวซึ่งวินัยฉลาด ชนะหมู่มารได้เป็นนิตย์ เป็นต้น