ระเบียบกองอาสารักษาดินแดน ว่าด้วยการลาของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๕๓๘

จาก วิกิซอร์ซ

ระเบียบกองอาสารักษาดินแดน

ว่าด้วยการลาของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน

พ.ศ. ๒๕๓๘                  

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกองอาสารักษาดินแดน ว่าด้วยการลาของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๔ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑  ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกองอาสารักษาดินแดน ว่าด้วยการลาของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๕๓๘”

ข้อ ๒  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

ข้อ ๓  ให้ยกเลิกระเบียบกองอาสารักษาดินแดน ว่าด้วยการลาของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๕๑๑

บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ มติของคณะรัฐมนตรี และคำสั่งอื่นใดในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

ข้อ ๔  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาการตามระเบียบนี้ และมีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้

บททั่วไป                  

ข้อ ๕  ในระเบียบนี้

“เข้ารับการตรวจเลือก” หมายความว่า เข้ารับการตรวจเลือกเพื่อรับราชการเป็นทหารกองประจำการ

“เข้ารับการเตรียมพล” หมายความว่า เข้ารับการระดมพล เข้ารับการตรวจสอบพล เข้ารับการฝึกวิชาการทหารหรือเข้ารับการทดลองความพรั่งพร้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร

ข้อ ๖  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับแก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนประเภทประจำกองที่ปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจใด ๆ ตามที่ได้รับอนุมัติจากกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดนหรืออยู่ในระหว่างทำการฝึกอบรม

ข้อ ๗  การลาทุกประเภทตามระเบียบนี้ ถ้ามีกฎหมาย ระเบียบ หรือมติของคณะรัฐมนตรีกำหนดเกี่ยวกับการลาประเภทใดไว้เป็นพิเศษ ผู้ลาและผู้มีอำนาจพิจารณาหรืออนุญาตการลา จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบหรือมติของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการลาประเภทนั้นด้วย

ข้อ ๘  ผู้มีอำนาจพิจารณาหรืออนุญาตการลาของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ให้เป็นไปตามตารางที่กำหนดไว้ท้ายระเบียบนี้

ในกรณีที่ผู้มีอำนาจอนุญาตการลาตามระเบียบนี้ไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ และมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนไม่อาจรอขออนุญาตจากผู้มีอำนาจได้ ให้ผู้ลาเสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้มีอำนาจอนุญาตการลาชั้นเหนือขึ้นไปเพื่อพิจารณา และเมื่อได้อนุญาตแล้ว ให้แจ้งให้ผู้มีอำนาจอนุญาตตามระเบียบทราบด้วย

ผู้มีอำนาจพิจารณาหรืออนุญาตการลา จะมอบหมายหรือมอบอำนาจโดยทำเป็นหนังสือให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งที่เห็นสมควรเป็นผู้พิจารณาหรืออนุญาตแทนก็ได้

ข้อ ๙  การนับวันลาตามระเบียบนี้ ให้นับตามปีงบประมาณ

การนับวันลาเพื่อประโยชน์ในการเสนอหรือจัดส่งใบลา อนุญาตให้ลา และคำนวณวันลาให้นับต่อเนื่องกัน โดยนับวันหยุดราชการที่อยู่ในระหว่างวันลาประเภทเดียวกันรวมเป็นวันลาด้วย

การลาป่วยหรือลากิจส่วนตัว ซึ่งมีระยะเวลาต่อเนื่องกัน จะเป็นในปีเดียวกันหรือไม่ก็ตามให้นับเป็นการลาครั้งหนึ่ง ถ้าจำนวนวันลาครั้งหนึ่งรวมกันเกินอำนาจของผู้มีอำนาจอนุญาตระดับใดให้นำใบลาเสนอขึ้นไปตามลำดับจนถึงผู้มีอำนาจอนุญาต

สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่ถูกเรียกกลับมาปฏิบัติหน้าที่ระหว่างการลา ให้ถือว่าการลาเป็นอันหมดเขตเพียงวันก่อนวันมาปฏิบัติหน้าที่ และวันทำงานเริ่มต้นตั้งแต่วันปฏิบัติหน้าที่เป็นต้นไป

การลาครึ่งวันในตอนเช้าหรือตอนบ่าย ให้นับเป็นการลาครึ่งวันตามประเภทของการลานั้น ๆ

สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนซึ่งได้รับอนุญาตให้ลา หากประสงค์จะยกเลิกวันลาที่ยังไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้เสนอขอถอนวันลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถึงผู้มีอำนาจอนุญาตให้ลา และให้ถือว่าการลาเป็นอันหมดเขตเพียงวันที่ขอถอนวันลานั้น

ข้อ ๑๐  เพื่อควบคุมให้เป็นไปตามระเบียบนี้ ให้แต่ละกองร้อยจัดทำบัญชีลงเวลาปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนในสังกัด ตามแบบท้ายระเบียบนี้

ข้อ ๑๑  การลาให้ใช้ใบลาตามแบบท้ายระเบียบนี้ เว้นแต่ในกรณีจำเป็นหรือรีบด่วน จะใช้ใบลาที่มีข้อความไม่ครบถ้วนตามแบบ หรือจะลาโดยวิธีการอย่างอื่นก็ได้ แต่ทั้งนี้ ต้องส่งใบลาตามแบบในวันแรกที่มาปฏิบัติหน้าที่

ข้อ ๑๒  การลาแบ่งออกเป็น ๔ ประเภท คือ

(๑) การลาป่วย

(๒) การลากิจส่วนตัว

(๓) การลาพักผ่อน

(๔) การลาเข้ารับการตรวจเลือก หรือเข้ารับการเตรียมพล

หมวด ๑

การลาป่วย                  

ข้อ ๑๓  การลาป่วยของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกำหนดไว้ ดังนี้

(๑) การลาป่วยกรณีปกติ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนมีสิทธิลาป่วย โดยได้รับเงินค่าตอบแทนปีหนึ่งไม่เกินสิบห้าวัน

(๒) การลาป่วยกรณีประสบอันตรายเพราะเหตุปฏิบัติหน้าที่ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนซึ่งป่วยเพราะเหตุปฏิบัติหน้าที่ หรือเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทำตามหน้าที่ ถ้าลาป่วยครบสิบห้าวัน แล้วยังไม่หายและแพทย์ของทางราชการลงความเห็นว่า มีทางที่จะรักษาให้หายและสามารถทำงานได้ ก็ให้ลาป่วยเพื่อรักษาพยาบาลเท่าที่ผู้มีอำนาจอนุญาตเห็นสมควร โดยได้รับเงินค่าตอบแทนได้ แต่ต้องไม่เกินหกสิบวัน แต่ถ้าแพทย์ลงความเห็นว่า ไม่มีทางที่จะรักษาพยาบาลให้หายได้ ก็ให้พิจารณาตามข้อบังคับที่ ๔ เรื่อง กำหนดวิธีการให้ออกจากสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๘

ข้อ ๑๔  สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนซึ่งประสงค์จะลาป่วยเพื่อรักษาตัว ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถึงผู้มีอำนาจอนุญาตก่อนหรือในวันที่ลา เว้นแต่ในกรณีจำเป็นให้ส่งใบลาในวันแรกที่มาปฏิบัติหน้าที่

ในกรณีที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนผู้ขอลามีอาการป่วยจนไม่สามารถลงชื่อในใบลาได้จะให้ผู้อื่นลาแทนก็ได้ แต่เมื่อสามารถลงชื่อได้แล้ว ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาโดยเร็ว การลาป่วยตั้งแต่สามวันขึ้นไป ต้องมีใบรับรองแพทย์แนบไปด้วย

การลาป่วยไม่ถึงสามวัน ไม่ว่าจะเป็นการลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งติดต่อกัน ถ้าผู้มีอำนาจอนุญาตเห็นสมควร จะสั่งให้มีใบรับรองแพทย์ตามวรรคสองประกอบใบลา หรือสั่งให้ผู้ลาไปรับการตรวจจากแพทย์ของทางราชการ เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตก็ได้

หมวด ๒

การลากิจส่วนตัว                  

ข้อ ๑๕  สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนมีสิทธิลากิจส่วนตัว โดยได้รับเงินค่าตอบแทนปีละไม่เกินสิบวัน

ข้อ ๑๖  สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนซึ่งประสงค์จะลากิจส่วนตัว ให้ส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถึงผู้มีอำนาจอนุญาต และเมื่อได้รับอนุญาตแล้ว จึงจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นไม่สามารถรอรับอนุญาตได้ทัน ให้ส่งใบลาพร้อมด้วยระบุเหตุจำเป็นไว้ แล้วหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปก่อนก็ได้ แต่จะต้องชี้แจงเหตุผล ให้ผู้มีอำนาจอนุญาตตรวจสอบโดยเร็ว ในกรณีมีเหตุพิเศษที่ไม่อาจส่งใบลาก่อนตามวรรคหนึ่งได้ ให้ส่งใบลาพร้อมทั้งเหตุผลความจำเป็นต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถึงผู้มีอำนาจอนุญาตทันทีในวันแรกที่มาปฏิบัติหน้าที่

ข้อ ๑๗  ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ลากิจส่วนตัว ซึ่งได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปยังไม่ครบกำหนด ถ้ามีราชการจำเป็นเกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจอนุญาตจะเรียกตัวมาปฏิบัติหน้าที่ก็ได้

หมวด ๓

การลาพักผ่อน                  

ข้อ ๑๘  สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนมีสิทธิลาพักผ่อนประจำปีในปีหนึ่งได้สิบวัน โดยไม่ถือเป็นวันลา เว้นแต่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนดังต่อไปนี้ไม่มีสิทธิลาพักผ่อนประจำปี ในปีที่ได้รับการบรรจุสั่งใช้ยังไม่ถึงหกเดือน

(๑) ผู้ซึ่งได้รับการบรรจุสั่งใช้เป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนเป็นครั้งแรก

(๒) ผู้ซึ่งลาออกจากสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือให้ออกจากการปฏิบัติหน้าที่ แล้วต่อมาได้รับบรรจุเข้าเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอีก

ข้อ ๑๙  สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนซึ่งประสงค์จะลาพักผ่อน ให้ส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถึงผู้มีอำนาจอนุญาต เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว จึงจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้

ข้อ ๒๐  การอนุญาตให้ลาพักผ่อน ผู้มีอำนาจอนุญาตจะอนุญาตให้ลาครั้งเดียว หรือหลายครั้งก็ได้ โดยมิให้เสียหายแก่ราชการ

ข้อ ๒๑  ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ลาพักผ่อนซึ่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปยังไม่ครบกำหนด ถ้ามีราชการจำเป็นเกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจอนุญาตจะเรียกตัวมาปฏิบัติหน้าที่ก็ได้

หมวด ๔

การลาเข้ารับการตรวจเลือก หรือเข้ารับการเตรียมพล                  

ข้อ ๒๒  สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนมีสิทธิลาไปเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพลโดยได้รับเงินค่าตอบแทน โดยให้รายงานลาต่อผู้บังคับบัญชาก่อนวันเข้ารับการตรวจเลือกหรือได้รับหมายเรียกเข้ารับการเตรียมพลไม่น้อยกว่าสี่สิบแปดชั่วโมง นับแต่เวลารับหมายเรียกเป็นต้นไป และให้ไปเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพล ตามวัน เวลาในหมายเรียกนั้น โดยไม่ต้องรอรับคำสั่งอนุญาตและให้ผู้บังคับบัญชาเสนอรายงานลาไปตามลำดับจนถึงผู้บังคับบัญชาสูงสุด

ข้อ ๒๓  เมื่อสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่ลานั้น พ้นจากการเข้ารับการตรวจเลือก หรือเข้ารับการเตรียมพลแล้ว ให้มารายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติต่อผู้บังคับบัญชาภายในเจ็ดวัน เว้นแต่กรณีที่มีเหตุจำเป็น ผู้บังคับบัญชาตามข้อ ๒๒ อาจขยายเวลาให้ได้ แต่รวมแล้วไม่เกินสิบห้าวัน

ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘

บรรหาร  ศิลปอาชา                          พลเอก ชวลิต  ยงใจยุทธ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย      รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม


[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๒/ตอนที่ ๔๐ ง/หน้า ๖๓/๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๘


งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"