ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประกาศเรื่องในราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. 2566

จาก วิกิซอร์ซ
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการประกาศเรื่องในราชกิจจานุเบกษา
พ.ศ. ๒๕๖๖

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประกาศเรื่องในราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ เพื่อให้การประกาศเรื่องในราชกิจจานุเบกษาสามารถดำเนินการได้โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑ (๘) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ  ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประกาศเรื่องในราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. ๒๕๖๖"

ข้อ  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ  ให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประกาศเรื่องในราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. ๒๕๔๗

ข้อ  ในระเบียบนี้

"หน่วยงานเจ้าของเรื่อง" หมายความว่า หน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือในรูปแบบอื่นใด และไม่ว่าจะเป็นองค์กรในฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ หรือเป็นองค์กรอิสระ หรือองค์กรอัยการ และให้หมายความรวมถึงองค์กร คณะบุคคล หรือบุคคลที่มิใช่หน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ บรรดาที่มีเรื่องต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา

"ราชกิจจานุเบกษา" หมายความว่า หนังสือของทางราชการที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบรวมและจัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อเป็นหลักฐานและเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเกี่ยวกับพระราชกิจ กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือข้อมูลอื่นใดที่มีกฎหมาย หรือกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือมีมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา

"ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า ข้อมูลที่ได้สร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

"อนุบัญญัติ" หมายความว่า พระราชกฤษฎีกาหรือกฎกระทรวง และให้หมายความรวมถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายและมีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไป

ข้อ  ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรักษาการตามระเบียบนี้

หมวด ๑
การจัดทําราชกิจจานุเบกษา


ข้อ  ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำราชกิจจานุเบกษาเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ประชาชนสามารถเข้าอ่านและค้นหาได้โดยสะดวก

เพื่อประโยชน์ในการเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานและตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องตรงกันกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่ง ให้จัดทำหนังสือราชกิจจานุเบกษาเป็นรูปเล่มจำนวนหนึ่งด้วยเพื่อเก็บรักษาไว้ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหอสมุดแห่งชาติตามจำนวนที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำหนด

ราชกิจจานุเบกษาที่จัดทำเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่ง หรือที่จัดทำเป็นรูปเล่มตามวรรคสอง เป็นต้นฉบับที่ใช้อ้างอิงเป็นหลักฐานของทางราชการได้เช่นเดียวกัน เว้นแต่ในกรณีที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่งมีข้อความไม่ตรงกับหนังสือราชกิจจานุเบกษาตามวรรคสอง ให้ถือตามหนังสือราชกิจจานุเบกษาตามวรรคสอง

ข้อ  เรื่องที่ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษามีดังต่อไปนี้

(๑) กฎหมายและอนุบัญญัติ

(๒) กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่มีกฎหมายกำหนดให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือที่มีผลบังคับหรือกระทบต่อประชาชน และคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรกำหนดให้ประกาศให้ประชาชนทราบ

(๓) เรื่องที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือที่มีกฎหมายหรืออนุบัญญัติกำหนดให้มีผลใช้บังคับเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

(๔) เรื่องสำคัญอื่นที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

ข้อ  การจัดทำราชกิจจานุเบกษา ให้จัดทำแยกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ ดังต่อไปนี้

(๑) ประเภท  ฉบับกฤษฎีกา เป็นการประกาศเกี่ยวกับกฎหมาย อนุบัญญัติ และเรื่องที่มีผลบังคับหรือผลกระทบต่อประชาชน

(๒) ประเภท  ฉบับทะเบียนฐานันดร เป็นการประกาศเกี่ยวกับพระบรมราชโองการ พระราชกิจ และกิจการเกี่ยวกับพระราชสำนัก

(๓) ประเภท  ฉบับทะเบียนการค้า เป็นการประกาศเรื่องเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วน บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจํากัด

(๔) ประเภท  ฉบับประกาศและงานทั่วไป เป็นการประกาศเรื่องอื่น ๆ รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับการล้มละลาย

ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีประกาศรายละเอียดและตัวอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่จะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแต่ละประเภทให้ประชาชนทราบ

ในกรณีจำเป็น เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะจัดให้มีประเภทอื่นเพิ่มขึ้นหรือฉบับพิเศษตามที่เห็นสมควรก็ได้

หมวด ๒
การส่ง การแก้ไข และการถอนเรื่องที่ส่งไปประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา


ข้อ  หน่วยงานเจ้าของเรื่องหน่วยงานใดมีเรื่องที่ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถ้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมิได้กำหนดเป็นอย่างอื่น ให้ส่งเรื่องพร้อมทั้งเอกสารแนบ (ถ้ามี) ที่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก่อนวันที่ประสงค์จะให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน เว้นแต่กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจส่งล่วงหน้าได้ ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องประสานกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นกรณี ๆ ไป

ในกรณีเรื่องที่ส่งมาประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นเรื่องที่ต้องมีลายมือชื่อของผู้มีอำนาจในการทำเรื่องนั้น ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องส่งเอกสารที่เป็นต้นฉบับที่มีลายมือชื่อของผู้มีอำนาจดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพร้อมกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่งด้วย

การส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามลักษณะ รูปแบบ ขนาด วิธีการ และหลักเกณฑ์ที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำหนด

ข้อ ๑๐ เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้มีความสมบูรณ์และเกิดความสะดวกแก่ประชาชน หน่วยงานเจ้าของเรื่องหน่วยงานใดประสงค์จะส่งเรื่องมาประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ ให้ส่งเรื่องพร้อมทั้งเอกสารแนบ (ถ้ามี) ที่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตามข้อ ๙

ข้อ ๑๑ ในกรณีที่ปรากฏว่า เรื่องที่ส่งมาประกาศในราชกิจจานุเบกษาไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่สมบูรณ์ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง ครบถ้วน หรือสมบูรณ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด ถ้าพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว หน่วยงานเจ้าของเรื่องไม่ดำเนินการแก้ไข ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งเรื่องคืนหน่วยงานเจ้าของเรื่อง

ความในวรรคหนึ่งไม่ตัดสิทธิหน่วยงานเจ้าของเรื่องที่จะขอถอนเรื่องคืน แต่ต้องกระทำก่อนที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ข้อ ๑๒ เมื่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รับเรื่องที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาจากหน่วยงานเจ้าของเรื่องที่ถูกต้องครบถ้วนและสมบูรณ์แล้ว ให้ดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษาโดยเร็ว ซึ่งต้องไม่ช้ากว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่อง เว้นแต่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรประกาศภายหลังกำหนดเวลาดังกล่าว หรือหน่วยงานเจ้าของเรื่องกำหนดวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาไว้เป็นการเฉพาะ ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต้องจัดให้มีระบบในการสืบค้นจากประเภท ลักษณะ ชื่อของข้อมูล เนื้อเรื่อง ความเกี่ยวข้อง หรือเรื่องอื่น ๆ ที่จะทำให้สะดวกและรวดเร็วในการค้นหาด้วย

บทเฉพาะกาล

ข้อ ๑๓ ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการกำหนดเรื่องต่าง ๆ ตามข้อ ๔ วรรคสอง และข้อ ๙ วรรคสาม ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ และดำเนินการชี้แจงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบให้แล้วเสร็จภายในสองร้อยสี่สิบวันนับแต่วันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ

ในระหว่างระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง หากเรื่องที่หน่วยงานเจ้าของเรื่องส่งมาประกาศในราชกิจจานุเบกษาไม่ถูกต้องตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำหนดตามข้อ ๙ วรรคสาม ให้เป็นหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่จะดำเนินการปรับปรุงให้ถูกต้องแล้วดำเนินการต่อไป ในกรณีเช่นนั้น ระยะเวลาเจ็ดวันตามข้อ ๑๒ ให้ขยายเป็นสิบสี่วัน

ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี

บรรณานุกรม[แก้ไข]

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (3) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"