รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489/ภาคผนวก
ตามบทฉะเพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๔๘๙ องค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภากำหนดวิธีการเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ๑ประกาศฉะบับนี้ให้เรียกว่า "ประกาศวิธีการเลือกตั้งสมาชิกพฤฒิสภาตามบทฉะเพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๔๘๙"
ข้อ๒ให้ใช้ประกาศนี้ตั้งแต่วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๘๙ เป็นต้นไป
บททั่วไป
ข้อ๓ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องยื่นสมัครรับเลือกตั้งด้วยตนเองต่อเลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาในเวลาราชการ ภายในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๔๘๙
ข้อ๔ให้ทำการเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภา ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งใช้เป็นสำนักงานเลขาธิการองค์การเลือกตั้ง ตามที่ที่ได้จัดไว้ ในวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๔๘๙ ตั้งแต่เวลา ๙.๐๐ นาฬิกาถึง ๑๖.๐๐ นาฬิกา
ข้อ๕ถ้ามีผู้สมัครรับเลือกตั้งเพียง ๘๐ คน หรือน้อยกว่านั้น ให้ถือว่า ผู้สมัครนั้น องค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาได้เลือกตั้งแล้ว โดยไม่ต้องลงคะแนนเลือกตั้ง
ข้อ๖ให้เลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาจัดให้มีความสะดวกและรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งตามที่เห็นสมควร
ข้อ๗ให้ประธานองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภารักษาการให้เป็นไปตามประกาศนี้ และให้มีอำนาจวางระเบียบควบคุมการลงคะแนนและกิจการอื่น ๆ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามบทแห่งประกาศนี้
การสมัครรับเลือกตั้ง
ข้อ๘ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องนำเงินสำหรับเจ้าหน้าที่ใช้จ่ายในการเลือกตั้งเป็นจำนวนหนึ่งร้อยบาท และรูปถ่ายของตนขนาด ๖ นิ้ว ๖ รูป พร้อมทั้งหลักฐานแสดงคุณสมบัติและวิทยฐานะตามกฎหมายไปมอบให้กับเลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาในขณะยื่นใบสมัครตามความในข้อ ๓ ด้วย
ข้อ๙เมื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งยื่นสมัครถูกต้องแล้ว ให้เลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภามีคำสั่งไว้เป็นหลักฐานในวันนั้น แล้วออกใบรับให้แก่ผู้ยื่นใบสมัคร
ใบสมัครให้ใช้แบบที่เลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาจัดขึ้นไว้
ข้อ๑๐ให้เลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาสอบสวนว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะสมัครรับเลือกตั้งตามประกาศฉะบับนี้ได้หรือไม่ ถ้าสมัครได้ ก็ให้ประกาศรับไว้ ณ สำนักงานเลขาธิการองค์การเลือกตั้ง แต่ถ้าสมัครไม่ได้ด้วยประการใด ๆ ก็ให้แจ้งให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งทราบโดยเร็ว และต้องก่อนวันเลือกตั้ง
ข้อ๑๑ให้เลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภากำหนดเลขหมายประจำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งเรียกตามลำดับที่ได้รับสมัครไว้
ข้อ๑๒ถ้าเลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาไม่ยอมรับสมัคร ผู้สมัครรับเลือกตั้งมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการซึ่งองค์การเลือกตั้งได้แต่งตั้งไว้ มีจำนวนห้าคน เมื่อคณะกรรมการองค์การเลือกตั้งได้รับคำร้องแล้ว ให้วินิจฉัยว่า ให้รับสมัครหรือไม่ แล้วแจ้งคำสั่งไปยังเลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาก่อนกำหนดวันเลือกตั้ง คำสั่งของคณะกรรมการนั้นให้ถือว่า เป็นที่สุด
กรรมการตรวจคะแนน
ข้อ๑๓ให้องค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาตั้งกรรมการตรวจคะแนนขึ้นเก้าคน เมื่อได้ตั้งแล้ว ให้ประกาศรายชื่อไว้ ณ สำนักงานเลขาธิการองค์การเลือกตั้ง ให้ถือว่า กรรมการตรวจคะแนนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปมีอำนาจดำเนินการได้
การลงคะแนนเลือกตั้ง
ข้อ๑๕หีบบัตรเลือกตั้งและบัตรเลือกตั้งซึ่งจะใช้สำหรับการลงคะแนน ให้เป็นไปตามที่เลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาได้จัดไว้
ข้อ๑๕ขณะจะเปิดการลงคะแนน ให้กรรมการตรวจคะแนนเปิดหีบบัตรเลือกตั้งแสดงให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งอยู่ ณ ที่เลือกตั้งเห็นว่า เป็นหีบเปล่า แล้วให้ปิดหีบบัตรเลือกตั้งใส่กุญแจไว้จนเสร็จการลงคะแนน
ข้อ๑๗ในระหว่างเวลาเปิดการลงคะแนน ห้ามมิให้เปิดหีบบัตรเลือกตั้ง เว้นแต่มีความจำเป็นอันจะหลีกเลี่ยงมิได้ จึงให้คณะกรรมการตรวจคะแนนเปิดได้ โดยมิให้เอาบัตรออกจากหีบ แล้วให้เปิดไว้ตามเดิม ในกรณีเช่นนี้ ให้คณะกรรมการกระทำต่อหน้าผู้มีสิทธิเลือกซึ่งอยู่ ณ ที่เลือกตั้ง และทำรายงานบันทึกแสดงเหตุในการเปิดหีบบัตรเลือกตั้งนั้นไว้ด้วย
ข้อ๑๘ในวันเลือกตั้ง ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปแสดงตนต่อกรรมการตรวจคะแนน และลงชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อ เมื่อกรรมการตรวจคะแนนจ่ายบัตรเลือกตั้งให้แล้ว จึงให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งดำเนินการลงคะแนน โดยวิธีกาชื่อผู้สมัครที่เห็นสมควรได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกพฤฒสภาในบัตรเลือกตั้งตามที่กำหนดไว้
ข้อ๑๙การลงคะแนนเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกจะใช้สิทธิเลือกตั้งโดยวิธีการตามข้อ ๑๘ ได้ไม่เกิน ๘๐ รายชื่อ
ข้อ๒๐ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนหนึ่งจะลงคะแนนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละครได้เพียงคะแนนเดียว การกาชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดในบัตรเลือกตั้งฉะบับนั้นหลายเครื่องหมาย ไม่ทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้นได้คะแนนเพิ่มขึ้นแต่ประการใด
ข้อ๒๑ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนใดได้รับบัตรเลือกตั้งเพื่อลงคะแนนแล้ว ไม่ประสงค์จะลงคะแนนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดเลย ให้คืนบัตรนั้นแก่กรรมการตรวจคะแนน และกรรมการตรวจคะแนนบันทึกไว้ในบัญชีรายชื่อ
การตรวจและรวมคะแนน
ข้อ๒๒ในวันเลือกตั้ง เมื่อถึงเวลา ๙.๐๐ นาฬิกา ให้กรรมการตรวจคะแนนประกาศเปิดการลงคะแนน
ข้อ๒๓เมื่อถึงเวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา ให้กรรมการตรวจคะแนนประกาศปิดการลงคะแนน แล้วให้เปิดหีบบัตรเลือกตั้งเพื่อดำเนินการนับคะแนนต่อไป
ข้อ๒๔ในการนับคะแนน ให้คณะกรรมการตรวจคะแนนวินิจฉัยว่า บัตรเลือกตั้งใดเป็นบัตรเสียหรือไม่ แล้วหมายเหตุไว้ และแยกรวมไว้เป็นส่วนหนึ่ง
ข้อ๒๕บัตรเลือกตั้งต่อไปนี้ ให้ถือว่า เป็นบัตรเสีย คือ
(๑)บัตรปลอม
(๒)บัตรซึ่งผู้เลือกตั้งกาเครื่องหมายกว่าแปดสิบรายชื่อ
(๓)บัตรซึ่งมิได้กาเครื่องหมายเลย
บัตรซึ่งกาเครื่องหมายนอกจากที่กำหนดไว้ หรือกาเครื่องหมายเลอะเลือนไม่ชัดเจนไม่สามารถจะวินิจฉัยได้ ให้ถือว่า เป็นคะแนนเสียฉะเพาะรายชื่อนั้น
ข้อ๒๖แบบใส่คะแนนซึ่งได้ใช้รวมคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว ให้กรรมการตรวจคะแนนลงลายมือชื่อกำกับไว้
ข้อ๒๗เมื่อปิดการลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว ให้กรรมการตรวจคะแนนนับคะแนนโดยเปิดเผย ห้ามมิให้เลื่อนหรือประวิงการนับคะแนน ต้องทำต่อไปจนเสร็จในรวดเดียว
ข้อ๒๘การนับคะแนน เมื่อเสร็จแล้ว ให้กรรมการตรวจคะแนนรายงานผลของการนับคะแนน พร้อมทั้งมอบหีบซึ่งบรรจุบัตรออกเสียงเลือกตั้งซึ่งปิดหีบใส่กุญแจ ต่อประธานองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาโดยเร็ว
ข้อ๒๙ให้เลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาประกาศผลของการเลือกตั้ง แล้วรายงานผลต่อประธานองค์การเลือกตั้ง เพื่อรายงานต่อไปยังพฤฒสภาและรัฐบาล
การประกาศผลการเลือกตั้งนี้ ต้องประกาศไว้ ณ สำนักงานเลขาธิการองค์การเลือกตั้งโดยเร็ว
ข้อ๓๐ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ได้คะแนนมากที่สุดลงมาจนถึงอันดับที่แปดสิบ ให้ถือว่า ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกพฤฒสภา ในกรณีที่ได้คะแนนเท่ากัน ให้เรียงอันดับชื่อตามหมายเลขประจำตัวที่สมัครรับเลือกตั้ง และในกรณีที่คะแนนคนสุดท้ายเท่ากัน ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งได้คะแนนเท่ากันนั้นจับสลากว่า ผู้ใดได้รับเลือกตั้งหรือไม่ ต่อหน้าเลขาธิการองค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภา
วิธีจับสลากให้มีจำนวนสลากเท่าจำนวนผู้ได้รับคะแนนเท่ากันนั้น โดยให้มีสลากซึ่งมีข้อความว่า "ได้รับเลือกตั้ง" เท่าจำนวนที่ต้องการ นอกจากนี้ ให้ใช้สลากซึ่งมีข้อความว่า "ไม่ได้รับเลือกตั้ง" ผู้ใดจับได้สลากซึ่งมีข้อความว่า "ได้รับเลือกตั้ง" ผู้นั้นเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกพฤฒสภา
การคัดค้านการเลือกตั้ง
ข้อ๓๑ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ใดเห็นว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งผู้ใดมิได้รับการเลือกตั้งโดยชอบแล้ว มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านต่อคณะกรรมการตามความในข้อ ๑๒ ภายในกำหนด ๑๕ วันนับแต่วันเลือกตั้ง
ข้อ๓๒เมื่อคณะกรรมการได้รับคำคัดค้านแล้ว ให้ดำเนินการพิจาณณาสอบสวนวินิจฉัยว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งซึ่งถูกคัดค้าน ได้รับเลือกตั้งขึ้นโดยชอบแล้วหรือไม่ หากการเลือกตั้งมิได้เป็นป็นไปโดยชอบ ก็ให้สั่งเพิกถอนสิทธิที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสภาชิกพฤฒสภาของผู้นั้น
เมื่อได้มีคำสั่งเพิกถอนดังกล่าวในวรรคต้นแล้ว ให้ผู้ได้รับเลือกตั้งที่ได้คะแนนรองจากอันดับที่แปดสิบได้เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งแทนตามลำดับ ในกรณีที่คะแนนเท่ากัน ให้นำข้อบังคับข้อ ๓๐ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ในะหรว่างที่คณะกรรมการมิได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ให้ถือว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งซึ่งถูกคัดค้านเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งโดยชอบ
แนบ พหลโยธิน
ประธานองค์การณ์เลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภา
บรรณานุกรม
[แก้ไข]- "ประกาศวิธีเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาตามบทฉะเพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489". (2489, 10 พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 63, ตอน 30 ก. หน้า 359–368.
งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (3) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"