วิริยบัณฑิตชาดก

จาก วิกิซอร์ซ

เรื่องวิริยบัณฑิตชาดก พูดถึงพระราชาสองพระองค์เป็นสหายกันคือพระเจ้าปัญจาละในนครปัญจาละ และพระเจ้ามหารัฏฐราช ในนครมหารัฏฐ์ ครั้งแรกพระเจ้าปัญจาละได้ส่งผ้ากัมพลสีแดงผืนหนึ่งไปถวายเป็นเครื่องบรรณาการแก่พระเจ้ามหารัฏฐราช พระเจ้ามหารัฏฐราชจึงคิดหาสิ่งที่จะส่งไปถวายตอบแทนพระสหาย จึงดำริว่าจะส่งรัตนะอย่างใดอย่างหนึ่งไปถวาย แล้วดำริว่ารัตนอันไหนจะมีค่ามากกว่ากัน ได้ทราบว่ารัตนอันใดก็ไม่มีค่าเท่ากับพุทธรัตนะ จึงรับสั่งให้เขียนพระพุทธรูปลงบนแผ่นทองคำส่งไปถวายแก่พระสหาย ปกติพระเจ้าปัญจาละ เป็นมิจฉาทิฏฐิไม่นับถือพระรัตนตรัย พอได้เห็นปาฏิหาริย์ของพระพุทธรูปก็เกิดความเลื่อมใส ได้รับสั่งให้สร้างพระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์แดงขึ้นอีกหนึ่งองค์ เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงให้ป่าวประกาศให้ชาวพระนครพากันเอาทองมาปิดพระพุทธรูป สมัยนั้นพระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นคนยากจนชื่อว่าวิริยบัณฑิต มีภรรยาชื่อว่าสุชาดา และบุตรชื่อว่เรวัตตกุมาร เมื่อวิริยบัณฑิตได้ฟังประกาศ ดังนั้นก็เกิดความเลื่อมใสอยากจะปิดทองพระ จึงได้ไปปรึกษากับภรรยา ด้วยความจน วิริยบัณฑิตจึงลาภรรยาและบุตรไปเพื่อจะขายตัวเองให้เป็นทานแก่คนอื่นเพื่อนำเงินมาซื้อทองคำเปลวปิดพระพุทธปฏิมา ภรรยาพอได้ฟังดังนั้นก็สลดใจจึงขอขายตัวเองกับบุตรแทน เมื่อวิริยบัณฑิตได้่ทองคำแล้วจึงเข้าไปขอปิดทอง แต่ถูกพวกอำมาตย์ห้ามไว้แล้วบอกให้วิริยบัณฑิตไปขออนุญาตจากพระราชา พระโพธิสัตว์จึงเข้าไปเฝ้าพระราชาๆ รับสั่งกับวิริยบัณฑิตว่า ถ้าพระพุทธปฏิมาพูดกับเจ้าๆ ก็จงปิดทองเถิด ในขณะที่วิริยบัณฑิตตั้งจิตอธิษฐานอยู่ต่อพระพักตร์ของพระปฏิมานั้น พวกเทพยดาทั้งหลายที่รักษาพื้นดินไม่สามารถจะทนอยู่ได้ ก็เข้าสิงอยู่ในพระพุทธปฏิมา บันดาลให้พระพุทธปฏิมาโยกคลอนหวั่นไหวประดุจว่าทรงพระชนม์อยู่ เปล่งพระฉัพพรรณรังสีอันโอภาสแล้วตรัสว่า ดูก่อนวิริยบัณฑิต ท่านจงทำกิจที่ควรแก่ความสุขของท่านเถิด เสียงที่พระพุทธปฏิมาตรัสได้แผ่ไปทั่งทั้งเมืองปัญจาลนคร พระโพธิสัตว์ก็ได้ปิดทองสมความปรารถนา เมื่อแผ่นทองไม่พอจึงได้ประกาศว่าถ้าใครสามารถทำเนื้องของเขาให้เป็นทองได้เขาจะมอบให้แก่ผู้นั้น ด้วยแรงอธิษฐานของพระโพธิสัตว์ ภพของท้าวสักกะก็ร้อน ท้าวสักกะจึงเสด็จแปลงเพศเป็นนายช่างทองเดินมาใกล้วิริยบัณฑิตๆ จึงได้ยอมให้นายช่างทองตัดเนื้อของตนทำเป็นทองคำปิดพระพุทธรูป และได้ตั้งความปรารถนา เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต