หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2

จาก วิกิซอร์ซ
๏หนังสือจดหมายเหตุ๚


Bangkok Recorder.

Vol. 1 เล่ม ๑. บังกอก เดือนแปดทุติยาสาตร์ จุลศักราช ๑๒๐๖ August, 1844.
ใบ ๒. No. 2.
คริศศักราช ๑๘๔๔.


หนังสือฃ่าวนี้ตีภิมหน้าวัดเจ้าคุณพระคลัง, ที่บ้านพวกครูอเมริกาอาไศรย. ตีเดือนละแผ่น, คือ ปีหนึ่งสิบสองแผ่น. ราคา, ถ้าซื้อเปนปี, ก็เปนบาทหนึ่ง. ถ้าซื้อเปนแผ่น, ก็เปนแผ่นละเฟื้อง. คนที่ซื้อทั้งปี จะให้เงินเมื่อได้แผ่นที่หนึ่งก็ได้, จะให้เงินเมื่อถึงแผ่นที่หกก็ได้, ตามแต่ใจผู้ซื้อ.


ตั้งแต่ปีนี้ลว่งไปได้เจดปีแปดปีแล้ว, มีอังกฤษอยู่ในเมืองกาลกัตตาพวกหนึ่ง, มีจิตร์ปราถนาจะใครรู้ว่า ภาษาพูดที่ภาษาต่าง ๆ นั้น, จะพูดถูกกันผิดกันเปนคำมากนอ้ยศักเท่าใด. เขาจะใค่รรู้ดั่งนี้ จึ่งแต่งหนังสือคำพูด, มีชื่อศักหกสิบชื่อ, เปนชื่อของซึ่งมีอยู่ทุกเมือง. เขาจึ่งจำลองหนังสือคำพูดนั้นเปนหลายฉะบัพ, ฝากไปถึงอังกฤษซึ่งอาไศรยอยู่ในเมืองพม่า เมืองไท เมืองยวน เมืองจีน แลเมืองอื่น ๆ หลายเมือง, ปราถนาจะให้เขาเอาคำหกสิบคำนี้แปลออกเปนคำภาษาต่าง ๆ, แต่ทว่า ให้เขาเฃียนเปนอักษรอังกฤษ. ครั้นได้หนังสือแปลคำภาษาต่าง ๆ นับได้ยี่สิบเก้าภาษาแล้ว, ก็จัดเรียงกันไว้เปนแถว ๆ ได้ยี่สิบเก้าแถว, แล้วก็ตีภิมแจกกันไป. หนังสือนั้นก็มีอยู่แก่พวกครูอเมริกาซึ่งมาอาไศรยอยู่ในเมืองนี้. เมื่อตรึกตรองดูในหนังสือคำพูดยี่สิบเก้าภาษานั้น, ก็เหนว่า มีสองภาษาคำพูดนั้นคล้ายกันนัก, คือ ภาษาไทแลภาษาคัมตี. ภาษาคัมตีนั้น, คือ คนอาไศรยอยู่ใก้ลเมืองอาซัม, อยู่ทิศเหนือแห่งเมืองพม่านั้น. ที่นี้ จะเอาคำหกสิบคำในภาษาไท ภาษาคัมตี, เฃียนเรียงกันเปนคู่ ๆ กัน, ดว้ยปราถนาจะให้ท่านทั้งปวงเหนว่า ภาษาคำพูดสองภาษานั้นจะถูกกันผิดกันเปนคำศักขี่คำ. คำกอ่นนั้นเปนภาษาไท, คำทีหลังนั้นเปนภาษาคัมตี.

ลม ลุม, มด มุด, ลูกสอน เลมปืน, นก นก, เลือด เลอืด, เรือ เฮอื, กระดูก นูก, ควาย ควาย, แมว มีว, งัว โง, กา กา, วัน วัน, หมา หมา, หู หู, ดิน ลังนิน, ไข่ ไฃ, ข้าง ตซ้าง, ตา ตา, พ่อ พ่อ, ไฟ ไฟ, ปลา ปา, ดอกไม้ มอก, ตีน ตีน, แพะ แพะ, ผม ผุม, มือ มือ, หัว โห, หมู หมู, เขา เขา, ม้า ม้า, เรือน เฮอืน, เหลก เหลก, ไบไม้ มาอื, แสง แลง, คน คุน, ลิ้ง ลิง, เดือน เลอืน, แม่ แม, ภูเฃา นอย, ปาก ปาก, ยุ้ง ยูง, ชื่อ ตซือ, คืน คืน, น้ำมัน น้ำมัน, กล้วย กวย, แม่น้ ำแม่น้ำ, ทาง ทาง, เกลือ เกือ, หนัง หนัง, ฟ้า ฟ้า, งู งู, ดาว นาว, หิน หิน, ตะวัน วัน, เสือ เสือ, ฟัน เคียว, ต้นไม้ ตุน, น้ำ น้ำ, บ้าน มาน, หัวมัน โหมัน.

ในเมืองกาละกัตตานั้น, มีพ่อค้าพวกหนึ่งคิดปฤกษากันว่า จะซื้อกำปั่นไฟหลายลำ, สำหรับจะได้จ้างเขาลากเรือในแม่น้ำคงคา. คิดพร้อมกันแล้ว, จึ่งจัดแจงให้พ่อค้าสองสามคนไปเที่ยวสืบราคากำปั่นไฟ, ดว้ยจะไค่รรู้ว่า จะซื้อกำปั่นไฟมาจ้างเขาลากเรือนั้นจะมีกำไรหฤๅ ๆ ไม่มีกำไร. ครั้นถึงปีเถาะ เดือนญี่นั้น, พ่อค้าสองสามคนนั้นสืบได้ราคาแล้ว, ก็เอาราคานั้นมาบอกแก่พ่อค้าทั้งปวง. ราคากำปั่นไฟนั้น เราจะว่าต่อไปข้างหน้านี้. ความว่า มีกำปั่นไฟลำหนึ่งยาว ๙๐ ศอก, กว้าง ๑๕ ศอก, ไช้เครื่องไฟเปนกำลังม้าได้ ๑๒๐ ม้า, กำปั่นนั้นมีหอ้งสอาดที่สำหรับคนเดินสานอาไศรยหลายหอ้ง, แลมีที่จะบันทุกสิ่งต่าง ๆ จุได้ถึง ๒๑๘๘ หาบ. แลกำปั่นลำนั้น, เมื่อซื้อมาแต่เมืองอังกฤษ, เปนแต่ตัวไม้ ยังไม่ได้ต่อเปนกำปั่น, ทั้งซื้อไม้ทั้งจ้างบันทุกไม้มาแต่เมืองอังกฤษนั้น, เปนราคาเงินถึง ๒๘๐๐๐ รูเปีย. ราคาค่าจ้างทำกำปั่นไม้ที่ซื้อมาแต่เมืองอังกฤษนั้น, เปนเงินจ้างถึง ๒๕๐๐ รูเปีย. ราคาที่ชื้อไม้แลราคาที่จ้างต่อไม้ที่ซื้อในเมืองกาละกัตตาใส่อีก, นั้นเปนเงินถึง ๑๐๐๐๐ รูเปีย. ราคาเครื่องไฟสำหรับกำปั่นลำนั้นเปนราคาซื้อถึง ๓๐๐๐๐ รูเปีย. ราคากำปั่นลำนั้นคิดเปนเสจ์, ทั้งค่าจ้างต่าง ๆ, ทั้งต่อ, ทั้งค่าไม้, จนแล้วลงอยู่ในน้ำ, เปนราคาเงินถึง ๗๐๕๐๐ รูเปีย. รูเปียหนึ่งนั้น, ถ้าแม้นจะคิดเปนสามสลึงเงินไท, เจ๊ดหมื่นห้ารอ้ยรูเปียนั้น ก็คิดเปนเงินบาทไท, ได้ถึง ๕๒๘๗๕ บาท. อีกอย่างหนึ่ง, คนที่สืบราคานั้นบอกว่า, ปีหนึ่งจะตอ้งเสียเงินอีกปีละ ๓๙๕๐๐ รูเปีย, เปนเงินบาทคิดได้ถึง ๒๙๖๒๕ บาท, คือ คาจ้างซ่อมแปลงกำปั่นบ้าง, คือ ค่าจ้างนายกำปั่นแลลูกเรือบ้าง, คือ ซื้อสเบียงอาหารกินบ้าง, คือ ซื้อพืนที่ใส่ไฟบ้าง. ราคาที่เราว่ามานี้ เปนราคากำปั่นไฟลำหนึ่ง.

อนึ่ง ข่าวเมืองอเมริกาว่า เดือน ๔ ขึ้น ๑๔ ค่ำ, เจ้าเมืองอเมริกากับขุนนางใหญ่หลายคนลงกำปั่นไฟจะไปเที่ยวเล่นที่แม่น้ำปะโตมัก. ในกำปั่นไฟนั้นมีปืนใหญ่อยู่บอกหนึ่ง, ปืนใหญ่นั้นใช้ลูกหนัก ๑๗๓ ชั่งจีน. นายกำปั่นจะยิงปืนบอกนั้นเล่น, ยิงหนหนึ่งไม่เปนอันตราย, หนที่สองนั้นปืนก็แตก ถูกขุนนางใหญ่ตายสองคน, ขุนนางนอ้ยสองคน กับลูกเรือสองสามคน. เมื่อกอ่นปืนจะแตกครู่หนึ่งนั้น, เจ้าเมืองอเมริกายืนอยู่ในที่ขุนนางใหญ่ถูกปืนตายนั้น, แต่ทว่า มีธุระดว้ยเหตุใดเหตุหนึ่ง จึ่งไปจากที่นั้น. เหตุดั่งนั้น เจ้าเมืองอเมริกาจึ่งไม่ตาย. ครั้นลว่งมาได้สามวัน, ก็เอาสภขุนนางใหญ่ไปฝัง. เมื่อฝังสภแล้ว, เจ้าเมืองอเมริกาขึ้นขี่รถจะกลับไปวัง, ม้าที่ลากรถนั้นก็ตกใจดว้ยเหตุใดเหตุหนึ่ง จึ่งภารถวิ่งไปในหนทางหน้ากลัวนัก. บังเหียนม้านั้นก็ขาด จะชักม้านั้นก็มิได้. ม้าก็ภารถวิ่งไปเกือบจะถึงที่หนึ่งที่มีหินมาก, ถ้ารถจะถูกหินนั้นแล้ว ก็คงจะฉิบหายหมด. แต่ทว่า ม้านั้นมันวิ่งไป ก็อยุดอยู่ครู่หนึ่ง, ก็มีคนก้ลาวิ่งเข้าไปจับเอาปากม้านั้นไว้. ม้านั้นก็มิได้วิ่งไปอีกได้, เจ้าเมืองอเมริกานั้นก็มิได้เปนอันตราย.

ปีเถาะ เดือนสิบ ข้างขึ้นนั้น, มหากระษัตรเมืองอังกฤษเสดจ์ออกจากเมืองไปเยี่ยมเจ้าเมืองฝรั่งเศศ. ในสามรอ้ยปีที่ลว่งไปกอ่นนั้น, กระษัตรสองนครนั้นไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนกันเลย. แลเมื่อกระษัตรอังกฤษเสดจ์ไปเยี่ยมกระษัตรฝรั่งเศศ, แลอยู่ในเมืองฝรั่งเศศศักเจดวัน, แล้วก็เสดจ์ออกจากเมืองฝรั่งเศศไปเยี่ยมกระษัตรเมืองเบลเชียม. เสดจ์อยู่ในเมืองเบลเชียมนอ่ยหนึ่ง, แล้วก็เสดจ์ออกจากเมืองเบลเชียมไปเยี่ยมกระษัตรเมืองยามะนี. อยู่ในเมืองยามะนีนอ่ยหนึ่ง, แล้วก็เสดจ์กลับไปเมืองอังกฤษดั่งเก่า. แลข่าวว่า ในเดือนสิบ ปีนี้ กระษัตรเมืองฝรั่งเศศจะเสดจ์ไปเยี่ยมกระษัตรเมืองอังกฤษตอบบ้าง. ที่กระษัตรจะไปเยี่ยมซึ่งกันแลกันดั่งนี้ ก็ดีกว่าจะกระทำซึ่งสงครามกัน.

ในประเทษฮินดูสถาน ข้างทิศเหนอ มีเมือง ๆ หนึ่งชื่อ ฆวาลิโอร. เมื่อปีกลายนี้ ก็เกิดสงครามแก่พวกอังกฤษ. ปีเถาะ เดือนญี่ ขึ้นแปดค่ำก็เกิดรบพุ่งกันมากนัก, พวกอังกฤษได้ไชยชำนะ, แต่คนตายในที่รบนั้นเปนอันมาก. ฝ่ายพวกอังกฤษนั้นตายร้อยหกคน, ที่ถูกเปนแผลแต่ไม่ตายหกร้อยแปดสิบสี่คน. ฝ่าชาวฆวาลิโอร, ที่ตาย แลไม่ตายที่เปนแผลนั้น มิได้กำหนด, แต่ว่ามาก. เดี๋ยวนี้ เมืองฆวาลิโอรนั้นขึ้นแก่อังกฤษ. อนึ่ง มีเมืองอีกสองเมืองที่ขึ้นแก่อังกฤษในปีกลายนี้, คือ เมืองซินดะ หนึ่ง, อยู่ที่ปากแม่น้ำอินดัษเหนือเมืองซูรัด, แลเมืองไกตูล อยู่ในประเทษฮินดูสถานข้างทิศเหนือ, เปนเมืองเลกหนึ่ง.

เดือนแปด ปัถมาสาท ขึ้นสามค่ำ, มีหนังสื่อฃ่าวตีภิมในเมืองจีนว่า, มีอังกฤษคนหนึ่งชื่อว่า ดาวิษ จะมาเปนเจ้าเมืองในเมืองฮงคง. เจ้าเมืองเก่าชื่อว่า โปตินเชร ซึ่งแต่ก่อนเปนทูต, นั้น จะกลับไปเมืองอังกฤษแล้วไม่ช้า. อนึ่ง พ่อค้าอังกฤษที่อาไศรยอยู่ในเกาะมกาวแต่ก่อนนั้น, เดี๋ยวนี้เฃาฃนเฃ้าของจะไปอาไศรยอยู่ในเมืองฮงคง. อนึ่ง มีคนหนึ่งชื่อว่า กูชิง เปนทูตมาแต่เมืองอเมริกา มาถึงเมืองจีนแล้ว. อนึ่ง มีทูตฝรั่งเศศจะมาเมืองจีน แต่ว่าเฃามายังไม่ถึง. อนึ่ง เมื่อก่อนเดือนแปด ปถมาสาทนั้น กำปั่นไทมาถึงเกาะมกาวแล้ว

เดือนแปด ปถมาสาท แรมห้าค่ำ, เฃาตีภิมหนังสือฃ่าว ในหนังสือฃ่าวนั้น, ว่า มีกำปั่นไฟลำหนึ่งมาแต่เมืองฮงคง, มาถึงเมืองใหม่ มาเรวนัก ๙ วันถึง, เมื่อมานั้น ทวนลมด้วย. แลโปตินเชร ทูตนั้น ก็มาในกำปั่นไฟลำนั้นด้วย. แลทูตฝรั่งเศศที่จะไปเมืองจีนนั้น, ก็มาถึงเมืองซิงกะโประก่อนวันที่ตีภิมหนังสือฃ่าวนี้.

 เดือนสิบ แรมสิบค่ำ ปีนี้, อายุศม์กระษัตรฝรั่งเศศจะถึง ๗๑ ปี, กระษัตรองค์นั้นชื่อ ลูอีฟีลิบ. แลกอ่นกระษัตรองค์นี้ไป นับขึ้นไปเจดสิบองค์ที่ได้เสวยราชล่วงไปแล้ว, แลกระษัตร ๗๐ องค์นั้น, ถ้าจะคิดเอาอายุศม์มาประมวนกันเข้า, แล้ว ก็แบ่งอายุศม์ให้เท่ากันทุกองค์ ๆ ทั้ง ๗๐ องค์นั้น, ก็จะคิดอายุศม์กระษัตรเหล่านั้นจะได้แต่องค์ละ ๓๐ ปี ๆ.

 เดี๋ยวนี้ เมืองอังกฤษ, เขาต่อกำปั่นดว้ยเหลกมาก. ที่หวัวเมืองลีวะปูล เปนประเทษอังกฤษ, เขาต่อกำปั่นมาก. เมื่อปีเถาะ เดือนเก้า เขายังต่ออยู่ ๑๖ ลำ, เปนทำดว้ยเหลกหมด, ที่ทำดว้ยไม้ไม่มีศักลำหนึ่งเลย.

 ในเมืองอังกฤษนั้น มีที่แห่งหนึ่งที่ทำสำหรับไว้หนังสือ, หนังสือที่ไว้ในที่นั้นมาก. ถ้าจะเอามาวางเรียงให้ชิดกันเปนแถวไปให้สิ้นหนังสือนั้น, ก็วัดยาวได้ ๔๐๐ เส้น.

 เมืองยูในติษเทษ, เมื่อปีฃานนั้น, เฃาเกบเฃ้าโพชได้กว่าแปดล้านสามหมื่นเกียน.

 เมื่อปีเถาะ เดือนเก้านั้น, ราคาน้ำตานทรายในเมืองนูยอก เปนประเทษอเมริกา, ที่อย่างดี น้ำตานทรายหาบละ ๑๗ บาท ๓ สะลึง, ที่อย่างต่ำนั้นเขาขายหาบละ ๑๓ บาทสลึงเฟื้อง.

 ในเมืองอังกฤษนั้น, มีหนังสือที่เขาแปลออกจากหนังสือพระเจ้าเปนภาษาถึง ๘๒ ภาษา. หนังสือนั้นมีอยู่ใหหอไตรหลวงในเมืองอังกฤษ.

 เมืองยูในติษเทษ คือ เมืองอเมริกา, มีกำปั่นใหญ่สำหรับจับปลาวาร ๖๕๐ ลำ. กำปั่น ๖๕๐ ลำนั้น มีลูกเรือคิดหมดดว้ยกันถึง ๑๖๐๐๐ คน.

 เมื่อปีกลายนี้, ในเมืองปรูเชียนั้น, เฃาทำบันชีสำมะโนครัวนับคนทั้งปวง, นับหมดดว้ยกันเปนคนได้ถึงสิบห้าล้านกับสามแสนคน.

 หนังสือฃ่าวมาแต่เมืองใหม่ว่า, กำปั่นไฟที่เฃ้ามาเมืองนี้แต่กอ่นนั้น, เมื่อกลับออกไป, เขาขายไว้แก่เจ้าเมืองยวน, เปนเงิน ๖๗๐๐๐ เหรียน, คิดเปนเงินไทได้ ๑๑๑๖๖๖ บาท.

 ในปีกลายนี้, ในเมืองอังกฤษนั้น, เขาเอากำปั่นไฟลงน้ำลำหนึ่ง, กำปั่นนั้นโตใหญ่นัก, ยาวถึง ๑๙๒ ศอก, คือ สองเส้นแปดวา.

 ข่าวว่า กระษัตรในเมืองซะเวเดนนั้นตายเสียแล้ว. ตายเมื่อเดือน ๔ แรม ๕ ค่ำ, แลพระราชบุตร์ชื่อว่า โอซะการ ได้เสวยราชแทนพระราชบิดา.

 จะว่าดว้ยดอกเบี้ยในเมืองยูในติษเทษ. ที่เรียกว่า เมืองยูในติษเทษ นั้น, คือ เมืองทั้ง ๒๖ เมืองนั้นเปนไม้ตรีกัน, เปนเมืองที่พวกหมออเมริกาอยู่กอ่น. แต่ดอกเบี้ยในเมือง ๒๖ เมืองนั้นไม่เหมือนกัน. ๑๙ เมืองนั้น ถ้าใครกู้เงินต้นไป ๑๐๐ บาทครบปีแล้ว เอาดอกเบี้ย ๖ บาท. เอามากขึ้นไปมิได้ ดว้ยมีกฏหมายสำหรับเมืองห้ามไว้. แต่เมืองหนึ่งนั้นเอา ๑๐๐ ละ ๕ บาทเปนทำเนียม. ในเมืองอีก ๓ เมืองนั้น เอา ๑๐๐ ละ ๗ บาท. อีก ๓ เมืองนั้นเอา ๑๐๐ ละ ๘ บาท. เปนเมืองทว่น ๒๖ เมืองดว้ยกันในนี้.

ที่นี้ คัดออกจากตำราหมอบรัดเล, ว่าด้วยน้ำฌะแผลทั้งปวง, เอาแต่ยาที่หาได้ในเมืองนี้, มาประสมกันเฃ้าเปนน้ำฌะ.

๑. ขนานหนึ่ง, เอาน้ำกรดดินปสิว ๖๐ หยด, น้ำฝนทนานหนึ่ง, ปนกันเฃ้า, เปนน้ำสำหรับฌะแผล, กัดฟ่า เรียกเนื้อให้ชิดกัน, ปากแผลเลกเฃ้า, ให้ฌะทุกวัน วันละหน หายเรวโดยมากแล.

๒. ขนานหนึ่ง, เอาน้ำกรดดินปสิว ๑๒๐ หยด, เอาน้ำท่าครึ่งทนาน, เข้าด้วยกัน เปนยาสำหรับฌะแผลวันละหน กัดเนื้อเน่าเนื้อร้ายทั้งปวง, เรียกเนื้อแดงขึ้นเรวนัก. ถ้าเหนเนื้อแดงดี สิ้นฟ่าแล้ว, อย่าเอาน้ำยานี้ฌะเลย, เอาน้ำยาที่หนึ่งขนานแรกนั้นฌะไปจนหายเถิด.

๓. ขนานหนึ่ง, เอาน้ำกรดดินปสิวอย่างกล้า, เปนยาเผาแผลที่เปนแผลลำลาบลามเลอะไป, และแผลที่จะมากก็ไม่มาก, ที่จะหายก็ไม่หาย, เปนขุมลึกลงไปถ่ายเดียว, ก็ให้เอายานี้หยดลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้ถูกเนื้อหนังที่ดีเลย. แต่ภอกัดเนื้อร้ายทั่วแล้ว, จึ่งเอาน้ำท่าล้างถอนพิศม์เสีย, แล้วก็เอามันเทดต้มให้เปื่อยพอกแปลก็ได้, เอาเข้าต้มให้เปื่อยพอกแผลก็ได้, ถ้าเหนเนื้อแดงขึ้นแล้ว, จึ่งเอายาขี้ผึ้งที่ทำไว้ในจดหมายเหตุที่หนึ่งปิดไปเถิด. ถ้าจะฌะเอายาฌะ ๖๐ หยดในที่หนึ่งทำฌะไปเถิด, หายโดยมาก.

๔. ยาฌะขนานหนึ่ง, เอาจุลษรีหนักสลึง ๑, บดเปนผง เอาน้ำท่าทนานหนึ่ง, ละลายลงเปนน้ำ ฌะแผลเปนที่เรียกเนื้อ, ให้ปากแผลชิดเข้าหากัน. ถ้าเอายาฌะขนานที่หนึ่งนั้นฌะกัดแผลนั้นหนักไป, ก็เอาน้ำฌะขนานนี้ใช้ให้ออ่นลงน่อยหนึ่ง, ฌะไปเถิด, ให้ฌะวันละหน.

๕. ขนานหนึ่ง, เอาจุลษรีหนักบาทบดให้เปนผง, เอาน้ำท่าทนานหนึ่งละลายลงให้เข้ากัน, เปนยาฌะเนื้อเน่าเนื้อร้ายนั้น, ให้สิ้นโทษแลเรียกเนื้อ, ให้ฌะวันละหนจนเหนเนื้อแดงขึ้นแล้ว, จึ่งเอายาขนานที่ ๓ นั้นพอก, แล้วเปลี่ยนน้ำฌะเสีย, เอาน้ำฌะที่หนึ่งที่ห้าก็ได้, แล้วปิดขี้ผึ้งในตำราก่อนนั้น หายโดยมากแล.

๖. ขนานหนึ่ง, เอาน้ำกรดเข้าดินปสิวหนักหุนหนึ่ง, เอาน้ำฝนหนักบาทหนึ่ง ละลายเข้าด้วยกัน, เปนน้ำฌะแผลทั้งปวง, เปนยาอย่างดีที่สุด, เรียกเนื้อให้สนิดกัน, ให้หนังนั้นหนาขึ้นด้วย. น้ำกรดอย่างนี้เปนยาหยอดตาแดงดีนัก. ถ้าได้หยอดยานี้ทันแล้ว, แก้วตาไม่เสีย, ถึงเปนมานานก็ดี, รักษาด้วยยาอื่นไม่ใค่รจะหาย, เอายานี้หยอดหายมาโดยมากแล้ว, ให้หยอดวันละหน, แล้วให้กินยาทุเลาด้วย จึ่งจะหาย. ทั้งให้อดของแสลงทั้งหลายที่แพทย์ห้ามนั้น, จึ่งจะหายโดยเรวแล.

ถ้าผู้ใดเปนแผลด้วยโรคต่าง ๆ นั้น, ถ้ารักษา ให้ล้างชำระด้วยน้ำซ่าบู่เสียทุกวัน ๆ ก่อน, จึ่งเอาน้ำยาฌะที่บอกไว้นี้, ฌะ จึ่งจะต้องด้วยโรค. แล้วให้กินยาถ่ายให้บ่อย ๆ, และอดของแสลง คือ เนื้อสด เนื้อเคม, แลมะพร้าว แลของที่ประกอบเปนน้ำมันมากนั้น, อย่ากินเลย. กะปิก็แสลงนัก. อนึ่ง สุราก็ยิ่งแสลงกว่าของทั้งปวง, ถึงเปนโรคก็ดี, มิเปนก็ดี, สุรานี้ร้ายนัก อย่ากินเลย.

ถ้าเปนแผลที่ท้าว, แลเปนตามปีลน่องก็ดี, น่าแค่งก็ดี, ห้ามมิให้เดินไปเดินมานัก, เพราะเส้นแลโลหิตไม่ปรกติ, ตึงบ้างหย่อนบ้าง แผลนั้นหุบเข้าแยกออก, จึ่งให้นอนนิ่งอยู่. ถ้าเดินหนัก, เนื้อจะตราก รักษายาก ช้าหาย. ถ้าเปนแผลทึ่ปีลน่องนั้นกว้าง, ก็ให้เอาผ้าข่าวทาขี้ผึ้งเหนียวผูกรัศแผลไว้ให้ตึง, แล้วฉีกผ้าออกโดยกว้าง ๓ นิ้ว, โดยยาวศักสิบศอก, พันตั้งแต่ปลายท้าวจนถึงเข่า, คู้ให้ตึงเสมอกัน, อย่าให้ตึง ๆ หย่อน ๆ, ให้รัศแผลใว้อย่าให้เนื้อดิ้นได้, จึ่งหายเรวโดยมากแล.

Price Current. บาด เฟื้อง บาด เฟื้อง
แผ่นทองแดงแลตะปูทองแดง หาบละ ๕๐ ๕๓
ผ้าใบ พับละ ๑๓ ๑๕
ขี้ผึ้ง หาบละ ๕๐ ๕๓
กำญาณอย่างกลาง หาบละ ๕๘ ๖๑
หมากแห้ง หาบละ
การะบูนจีน หาบละ ๓๓ ๔๑
เข้าแฟมาแต่ยะกะตรา หาบละ
ฝ้ายดีห่อหนักสองหาบยี่สิบสี่ชั่ง ห่อละ ๒๕ ๒๖
ฝ้ายอื่นมาแต่บำเบ ห่อละ ๑๓ ๒๖
งาช้างใหญ่ หาบละ ๑๖๗ ๑๘๓
งาช้างเลก หาบละ ๑๐๐ ๑๓๓
หนังควายดี หาบละ
ครามไท หาบละ
น้ำมันมะพร้าวไท หาบละ ๑๐
พริกไท หาบละ
พริกลอ่น หาบละ ๑๔
พริกเทด หาบละ
เข้าสารดีเกียนหนึ่งหนัก ๔๐ หาบ เกียนละ ๙๗
น้ำตานซายเมืองไท หาบละ
เกลือเมืองไท เกียนละ ๓๖
ฝางเมืองไท หาบละ
ครั่งเมืองไท หาบละ ๑๑
ตะกั่วเกรียบ หาบละ ๒๕ ๒๗
กระ หาบละ ๖๖๙ ๗๕๓
รง หาบละ ๑๑๗
ด้ายดิบ หาบละ ๓๐ ๕๕

The Recorder is published on the first Thursday of every month, at the press of the mission of the A. B. C. F. M. in Siam. Price, one tical, or sixty cents, a year.