โปลิศลาดตระเวน ให้เทียบเหมือนค่าเช่า ให้เรียกภาษี ๑๒ ชัก ๑ กึ่ง คือ สิบสองตำลึงชักหกบาท แต่เรือนโรงร้านตึกแพที่ให้เช่าแลไว้สินค้าของตัวเอง ไม่ได้อยู่ในท้องที่โปลิศลาดตระเวน ให้เรียกภาษี ๑๒ ชัก ๑ แลโรงร้านตึกแพซึ่งอยู่ตามแถวท้องตลาด แทรกปนอยู่ในระหว่างโรงร้านตึกแพที่มีสินค้าขาย ไม่ประกอบการซื้อขายให้มีผลประโยชน์จำเริญแก่แผ่นดินนั้นไม่ชอบ ให้เรียกภาษีเท่ากับโรงร้านตึกแพที่ไว้สินค้าขายเหมือนกัน แลให้เจ้าภาษีเรียกภาษีแต่ผู้ที่อยู่ในโรงร้านตึกแพนั้น ๆ ครั้นจะให้ผู้ที่อยู่ในโรงร้านตึกแพนั้นนำไปหาเจ้าของโรงร้านตึกแพก็ยาก บางทีก็อยู่ไกล บางทีก็อยู่ใกล้ ไปไม่ภพบ้าง มักวิวาทกัน จึงให้เรียกภาษีเอาแก่ผู้ที่อยู่ในโรงร้านตึกแพนั้น ๆ แล้วจึงให้ผู้เช่าไปหักเอาเงินค่าเช่าโรงร้านตึกแพซึ่งได้เสียไปตามมากแลน้อย ถ้าผู้เช่าเปนคนอยู่ต่างประเทศ ให้เรียกภาษีเอาแก่เจ้าของโรงร้านตึกแพผู้ได้ค่าเช่า แลเรือนโรงร้านตึกที่ไว้สินค้าของตัวเอง ไม่ได้ให้เช่า แลอยู่ใกลกับที่เช่า จะเทียบเปนค่าเช่าไม่ได้ ให้เรียกภาษีภาษีเปนห้อง ๆ ได้มีสินค้าสิ่งหนึ่งสองสิ่งสามสิ่ง ราคามากกว่าตำลึงหนึ่งขึ้นไป ให้เรียกภาษาที่ไว้สินค้าห้องละสองสลึง ถ้ามีสินค้าราคาน้อย ๔ สิ่ง ๕ สิ่ง ๖ สิ่ง ให้เรียก
หน้า:กม ร ๕ (๑) - ๒๔๓๖.pdf/135
หน้าตา