จำพวกนี้ นับว่าเปนทาษโดยกระบินเมืองท่าน ถ้าไม่มีเงินมาให้แก่เจ้าทาษครบค่าแล้ว ก็ไม่มีเวลาที่จะพ้นยากจากทุกข์เปนไทยได้ ฝ่ายลูกทาษซึ่งเกิดแต่ทาษทั้ง ๗ จำพวกนั้น ตั้งแต่ออกจากครรภ์ ภอลืมตา ก็ต้องนับว่าเปนทาษมีค่าตัวไปจนอายุถึงร้อยปีแล้วก็ยังไม่หมดค่าตัว คือ ท่านคิดอายุตั้งแต่เดือนหนึ่ง ๒ เดือน ๓ เดือน ชาย ๖ บาท หญิงตำลึง ๑ จนชายอายุ ๒๖ ปีถึง ๔๐ ปี เตมค่าสิบสี่ตำลึง หญิงอายุ ๒๑ ปีถึง ๓๐ ปี เตมค่าสิบสองตำลึง ถ้าชายอายุเกิน ๔๐ ปี หญิงอายุเกิน ๓๐ ปี จึงได้ลดถอนค่าตัวลง จนอายุถึง ๑๐๐ ปียังมีค่าตัว ชายตำลึง ๑ หญิงสามบาท ยังหาขาดค่าตัวไม่ เปนธรรมเนียมเดิมมีมาดังนี้ ดูประหนึ่งหามีความกรุณาแก่ลูกทาษไม่ ด้วยลูกทาษที่เกิดมาไม่ได้รู้ไม่ได้เหนสิ่งใดเลย บิดามารดาชั่วไว้ แล้วยังภาลูกให้เปนทาษไปจนสิ้นชีวิตรอิกเล่า เพราะรับโทษทุกข์ของพ่อของแม่เท่านั้น หาควรที่จะเอาเปนทาษจนตลอดชีวิตรไม่ ถ้าจะโปรดเลิกถอนให้ลูกทาษหลุดค่าตัวเสียทีเดียว นายเงินผู้ไม่มีความเมตากรุณา ก็จะไม่ให้ทาษมารดาเลี้ยงรักษาลูก เพราะเหนว่า ลูกทาษเกิดมาไม่เปนคุณไม่เปนประโยชน์แก่นายเงิน ๆ ก็จะเอาทาษที่เปนพ่อแม่ไปใช้การงานของตัว มิให้เลี้ยงรักษาลูก ๆ นั้นก็จะเปนอันตรายตายเสียเปนอันมาก เพราะ
หน้า:กม ร ๕ (๑) - ๒๔๓๖.pdf/196
หน้าตา