มาตรา๓๑ถ้าศาลอุทธรณ์พิเคราะห์ดูเหนจำเปนจะต้องพิจารณาข้อประเด็นข้อใดข้อหนึ่งซึ่งมีอยู่ในฟ้องอุทธรณ์ออกดูให้แจ่มแจ้งแล้ว ก็ให้ศาลอุทธรณ์มีอำนาจเรียกพยานซึ่งได้ให้การไว้ในความเดิมนั้นมาสืบอีกครั้งหนึ่งก็ได้ หรือให้เรียกคนอื่นหรือสิ่งสำคัญอื่นมาสืบเปนพยานใหม่อีกก็ได้ การสืบพยานอีกดังว่ามานี้ ศาลอุทธรณ์ดำริห์เหนสมควรให้สืบเองก็ได้ หรือฝ่ายโจทย์ฝ่ายจำเลยจะขอให้สืบ ก็ให้ศาลอุทธรณ์อนุญาตตามความประสงค์ สุดแต่ศาลอุทธรณ์จะดำริห์เหนสมควร
มาตรา๓๒ข้อบังคับสำหรับการสืบพยานดังมีอยู่ในมาตรา ๑๒ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ แลมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัตินี้ ก็ให้เอามาใช้ในการสืบพยานชั้นพิจารณาความอุทธรณ์ความอาญาซึ่งมีโทษหลวงได้ทุกประการ
มาตรา๓๓ศาลอุทธรณ์จะต้องพิพากษาตัดสินในวันพิจารณาเสร็จสำนวนแล้ว ฤๅภายในกำหนด ๓ วันนับตั้งแต่วันพิจารณาเสร็จสำนวนแล้วเปนต้นไป แต่ศาลอุทธรณ์จะต้องแจ้งความให้ฝ่ายโจทย์แลจำเลยทราบวันแลเวลาที่ศาลอุทธรณ์กำหนดจะ