หน้า:กม ร ๕ - ๒๔๓๙.pdf/18

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
ศก ๑๑๕
13
 

รักษากฎหมายจะต้องฟ้องกล่าวโทษผู้ล่วงลเมิดพระราชอาญาในความที่ไม่มีคนอื่นเปนโจทย์ ฤๅจะต้องว่าความเรื่องที่โจทย์เดิมไม่ติดใจว่านั้นต่อไป เมื่อเห็นว่า มีพยานพอที่จะพิสูทธ์ให้สมจริงได้ว่าผู้ล่วงลเมิดพระราชอาญานั้นมีข้อพิรุทกระทำผิดต่อพระราชกำหนดกฎหมาย

๗ ความหลวงไม่มีโจทย์ ให้ชำระเปนความแผ่นดินตามคำพยาน
มาตราให้เจ้าพนักงานอำเภอกำนันกองตระเวนแลกองไต่สวนโทษหลวงในกรุงแลหัวเมืองสืบสวนหาคำพยาน ฤๅสิ่งสำคัญอันเปนหลักฐานใช้เปนตัวพยาน ฤๅตัวคนผู้ซึ่งควรอ้างเปนพยานนั้น ส่งมาให้กรมอัยการฤๅเจ้าพนักงานผู้รักษากฎหมายที่จะเปนผู้ฟ้องคดีนั้นเสมอไป ๘ ให้เจ้าพนักงานกองตระเวนแลกองไต่สวนช่วยเสาะหาพยานให้ชำระ

มาตราในการพิจารณาความนั้น ให้โจทย์แลจำเลยมีอำนาจแต่งทนายช่วยว่าความได้ แต่ต้องทำหนังสือแต่งทนายไว้เปนสำคัญต่อศาลด้วย แม้ว่าแต่งทนายแล้วก็ดี คู่ความฤๅ