หน้า:กม ร ๕ - ๒๔๓๙.pdf/22

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
ศก ๑๑๕
17
 

ทั้งฝ่ายโจทย์ฝ่ายจำเลยเสร็จแล้ว ก็ให้พิพากษาตัดสินในที่ประชุมศาล ถ้าเหนว่าพิจารณาได้ความจริงตามฟ้องแล้ว ก็ให้ลงโทษจำเลยตามพระราชกำหนดกฎหมาย ถ้าเหนว่าพิจารณาไม่ได้ความจริงตามฟ้องแล้ว ก็ให้ยกฟ้องเสีย

๑๙ เมื่อฟังคำพยานแลคำชี้แจงของคู่ความแล้ว ให้ศาลตัดสิน

มาตรา๒๐ผู้พิพากษาต้องพิพากษาตัดสินในวันที่ได้ชำระเสร็จแล้ว ฤๅมิฉนั้น ในกำหนดภายใน ๓ วันนับตั้งแต่วันที่ได้ชำระแล้ว แลผู้พิพากษาจะพิพากษาตัดสินวันใดแล้ว ก็ต้องนัดให้โจทย์จำเลยทราบล่วงน่าเสียก่อน ๒๐ เมื่อชำระแล้ว ให้ตัดสินไม่ช้ากว่าสามวัน
มาตรา๒๑คำพิพากษาตัดสินนั้นต้องให้เขียนเปนตัวอักษร แล้วให้บรรดาผู้พิพากษาทั้งปวงผู้ได้ลงเนื้อเห็นพิพากษาตัดสินคดีเรื่องนั้นเขียนชื่อลงลายมือของตนไว้จงทุกนาย ๒๑ คำตัดสินต้องเขียน
มาตรา๒๒ในคำตัดสินนั้น ให้ผู้พิพากษาลงเนื้อเห็นชี้ขาดในข้อซึ่งจะกล่าวไว้ต่อไปนี้ คือ— ๒๒ คำตัดสินต้องชี้ขาดในข้อต่าง ๆ คือ—