บังอาจเอาไปโดยเจ้าของเขามิได้อนุญาตไซ้ ท่านว่า มันคือโจรลักทรัพย์ มีความผิด ต้องรวางโทษจำคุกไม่เกินกว่าสามปี แลให้ปรับไม่เกินกว่าห้าร้อยบาทด้วยอีกโสดหนึ่ง
ลักษณโทษฐานลักทรัพย์ที่ว่ามาในมาตรา ๒๘๘ นั้น ท่านให้ใช้ได้ตลอดถึงเหตุเหล่านี้ คือ
(๑)ผู้ที่มีหุ้นส่วนด้วยกันบังอาจเอาทรัพย์อย่างใดใดอันเปนสมบัติของการเข้าหุ้นส่วนนั้นไปเสียจากผู้ที่มีหุ้นส่วนด้วยกัน หรือไปจากผู้อื่น โดยมันเจตนาทุจริต ประการหนึ่ง
(๒)ผู้ที่เปนเจ้าของทรัพย์อย่างใดใดด้วยกันกับคนอื่นบังอาจเอาทรัพย์นั้นไปเสียจากผู้ที่เปนเจ้าของทรัพย์ร่วมกับมัน หรือเอาไปเสียจากผู้อื่นที่รักษาทรัพย์นั้น โดยมันเจตนาทุจริต ประการหนึ่ง
ทรัพย์อย่างใดใดอันต้องยึดหรือต้องอายัดไว้ตามกฎหมาย ถ้าแลผู้ใด จะเปนเจ้าของทรัพย์นั้นก็ตาม หรือมิใช่เจ้าของก็ตาม บังอาจเอาทรัพย์นั้นไปเสียโดยเจตนาทุจริตไซ้ ท่านว่า มันมีความผิดฐานลักทรัพย์
ทรัพย์อย่างใดใดที่มอบไว้เปนจำนำอยู่ในมือผู้อื่น แลผู้รับจำนำมิได้อนุญาตให้เอาไป ถ้าแลผู้ใด จะเปนเจ้าของทรัพย์นั้นก็ตาม หรือมิใช่เจ้าของก็ตาม บังอาจเอาทรัพย์นั้นไปเสียโดยเจตนาทุจริตไซ้ ท่านว่า มันมีความผิดฐานลักทรัพย์
ผู้ใดบังอาจลักเก็บผลไม้หรือพรรณไม้ที่มีประโยชน์อย่างใดใดที่เขาปลูกไว้ในเรือกสวนไร่นา ท่านว่า มันมีความผิด ต้องรวางโทษานุโทษเปนสามสฐาน คือ สฐานหนึ่ง ให้จำคุกไม่เกินกว่าสามเดือน สฐานหนึ่ง ให้ปรับไม่เกินกว่าสองร้อยบาท สฐานหนึ่ง ให้ลงโทษทั้งจำทั้งปรับเช่นว่ามาแล้วด้วยกัน
ถ้าหากว่าการลักทรัพย์ได้กระทำประกอบด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งดังว่าต่อไปในมาตรานี้ คือ
(๑)ลักทรัพย์เขาในเวลาค่ำคืนก็ดี
(๒)ลักทรัพย์เขาโดยปีนป่ายหรือตัดช่องเข้าไปลักภายในบริเวณที่เขาทำไว้สำหรับป้องกันภยันตรายแก่คนหรือแก่ทรัพย์ก็ดี
(๓)ลักทรัพย์เขาโดยมันย่องเบาเข้าทางทางช่องทางอันมิใช่สำหรับให้คนไปมา หรือใช้ช่องทางที่พรรคพวกหรือผู้สมรู้เปนใจด้วยมันผู้ร้ายลอบเปิดไว้ให้ก็ดี
(๔)ลักทรัพย์เขาโดยลอบไขกุญแจด้วยลูกกุญแจที่มันมีอยู่โดยผิดกฎหมาย หรือไขด้วยเครื่องมืออย่างอื่นก็ดี