กลับลงมาโดยสะพานเขาทำยื่นลงมาจนพ้นหาดในยาวอยู่ พวกราษฎรทั้งชายหญิงแลเด็กลงมาช่วยกันเข็นเรือโดยความเบิกบาน เหมือนอย่างแห่พระ เด็ก ๆ จนจมถึงคอยังไม่วางต้องไล่ ล่องลงมาถึงพลับพลายางเอนเวลาพลบ วันนี้ยุงชุมกว่าทุกวัน ถึงเมื่อขามาก็มามีที่นครสวรรค์ ตอนบนมีบ้างก็เป็นยุงนอนหัวค่ำไม่มีไปเท่าไร แต่อย่างไร ๆ ก็คงยังน้อยกว่าบางกอก
วันที่ ๒๙ เช้าพวกชาวบ้านมาหา แต่ล้วนพวกที่ยังไม่รู้จักต้องการจะมาดู ในหมู่นั้นมียายอิ่มบ้านพังม่วง ซึ่งได้ไปขึ้นกินเข้าวันแรกมาด้วยกับลูกสาวคนหนึ่งหลานคนหนึ่ง ครั้นเวลาออกไปก็ไม่รู้จักอยู่นั่นเอง ได้ถามว่าพระยาโบราณไปที่บ้านหรือ ตอบว่า ท่านว่า ท่านเป็นพระยาโบราณ แต่อย่างไรก็ไม่ทราบ ถามว่าท่านนัดให้ลงไปหาจะพาเฝ้าไม่ใช่หรือ ก็รับว่าท่านว่าเช่นนั้นแหละแต่จะอย่างไรก็ไม่ทราบ ถามว่าทำไมแกไม่เชื่อท่านหรือ บอกว่าก็เชื่อแต่อย่างไรก็ไม่ทราบ ถามว่าทำไมจึงว่าอย่างไรก็ไม่ทราบ บอกว่าชาวบ้านเขาว่าอย่างหนึ่ง ถามว่าเขาว่ากะไร อิดเอื้อนไม่ใคร่จะบอกต้องซัก แล้วกระซิบกระซาบว่าเขาว่าไม่ใช่พระยาโบราณ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จเอง พอรู้เช่นนั้นเข้าขนลุกซ่าทั้งตัว ได้นึกสงสัยอยู่แล้ว เลยนอนไม่หลับกระสับกระส่ายไป ถามว่าแกเพ็ดทูลอะไรหรือจึงได้ไม่สบาย ก็ว่าได้พูดมากอยู่มีเรื่องขึ้นค่านาเป็นต้น ถามว่าพระรูปพระโฉมท่านเป็นอย่างไร กระซิบบอกว่าสูง ๆ ผอม ๆ ผิวอยู่ข้างจะคล้าม จึงถามว่าวันนั้นไปด้วยกับเจ้าคุณโบราณแกจำได้หรือไม่ ว่าไม่ทันสังเกตมัวรับรองอยู่ แล้วหันไปถามลูกสาวว่าท่านไป