หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/184

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
169

ตัวท่านนั่งเก้าอี้หยู่ที่โต๊ะกับข้าราชการอีกสักสองสามคน ท่านเรียกตัวเข้าไปนั่งที่ข้างเก้าอี้ของท่าน แล้วถามถึงเรื่องที่ไปปล้น แกปติเสธว่า ไม่ได้รู้เห็นด้วย ท่านก็หัวเราะแล้วว่า "คิดดูเสียไห้ดีเถิด พวกพ้องเขาก็รับหมดแล้ว" ท่านว่าแต่เท่านั้นแล้วก็หันไปพูดกับพวกข้าราชการถึงการงานหย่างอื่น ๆ และสูบบุหรี่กินน้ำร้อนไปพลาง ไห้แกนั่งคอยหยู่นาน จึงหันกลับไปถามอีกว่า "จะว่าหย่างไร" แกปติเสธ ท่านก็หัวเราะว่า "คิดดูเสียไห้ดี" แล้วหันไปพูดกับข้าราชการไห้แกนั่งคอยหยู่อีก นาน ๆ หันมาถามหย่างนั้นอีก แกปติเสธ ท่านก็หัวเราะ แล้วบอกไห้คิดไห้ดีอีก เวียนถามหยู่แต่หย่างนั้นหลายพัก จนเวลาสัก 5 ทุ่มจึงเลิกชำระ ถึงวันที่ 2 พอยามหนึ่ง ท่านก็เอาตัวไปชำระอีก พอได้ยินท่านถามเหมือนหย่างวันก่อนก็รำคานไจ ยิ่งถูกถามซ้ำซากก็ยิ่งรำคานหนักขึ้น แต่ยังแขงไจปติเสธหยู่ได้อีกคืนหนึ่ง พอถึงคืนที่ 3 ระอาไจเสียแต่เมื่อเขาไปเอาตัวมาจากเรือนจำ พอเจ้าคุนเทสาตั้งคำถามหย่างเก่าอีก ก็เกิดเบื่อเหลือทน เห็นว่า ถ้าปติเสธ ท่านก็คงถามเช่นนั้นไปไม่มีที่สิ้นสุด นึกว่า ไหน ๆ ก็คงไม่พ้นโทส เพราะพวกเพื่อนรับเปนสัจหมดแล้ว รับเสียไห้รู้แล้วไปดีกว่า จะได้หลับนอนสิ้นรำคาน แกจึงรับเปนสัจไนคืนที่ 3 เพราะ "สู้ปัญญาเจ้าคุนเทสาท่านไม่ได้"

ไนการชำระโจรผู้ร้าย เจ้าพระยาสรีวิชัยฯ มีวิธีผิดกับคนอื่นหลายหย่าง ท่านเคยบอกกับฉันหย่างหนึ่งว่า ถ้าชำระไนถิ่นที่ตัวผู้ร้ายหยู่ ไม่ไคร่รับเปนสัจ ด้วยมันอายพวกพ้องของมัน ถ้าเอาไปชำระไห้ห่างถิ่น

22