หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/155

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๒๐

 อยู่มาเถิงจุลศักราชได้ ๑๑๓๑ ตัว เดือนขึ้น ๑๐ ค่ำ มังสามก็ถืออามิศต่อลงมาปงเมืองน่านหื้อเจ้าหนานมโนตนน้องเจ้านายอ้ายหื้อเปนเจ้ากินเมืองน่านแทนหั้นแล เจ้าหนานมโนท่านได้เปนเจ้ากินเมืองน่านได้ ๖ ปี มาเถิงปีกาบซง้า จุลศักราชได้ ๑๑๓๖ ตัวนั้น พระยาจ่าบ้านเชียงใหม่ แลพระยาลพูน แลพระยานครก็เอากันฟื้นฟันม่านอันอยู่เวียงเชียงใหม่ ก็ใช้ไปขอเอากำลังเมืองอโยทธยาขึ้นมารบม่านโปมวยหวานแลจะกายอันอยู่ยังเมืองเชียงใหม่นั้นแล ม่านก็หนีไปในกาลยามนั้นเจ้าวิธูรคือเจ้านาขวาลูกเจ้าอริยวงษ์ก็ได้ไปเอาราชการม่านในเมืองเชียงใหม่ ชาวใต้ก็ได้เจ้าน้อยวิธูรในเมืองเชียงใหม่ที่นั้นแล้ว ก็เอาลงไปเมืองนคร แล้วชาวใต้ก็ตั้งเจ้าน้อยวิธูรนั้นหื้อเปนเจ้ากินเมืองน่าน ก็ในจุลศักราชได้ ๑๑๓๖ ตัว ปีกาบซง้านั้นแล เถิงเดือน ๕ ขึ้น ๑๓ ค่ำท่านก็มาฮอดเมืองน่านหั้นแล ครั้นเจ้าวิธูรมาฮอดเถิงเมืองน่านแล้ว อาชญาเจ้าหลวงมโนท่านก็ปงเมืองน่านทั้งมวลหื้อเจ้าวิธูรได้กินเวียงน่านหั้นแล ในปีนั้น ศักราชนั้น เดือน ๕ นั้นแล เจ้าหลวงมโนท่านได้เสวยราชสมบัติเปนเจ้ากินเมืองน่านได้ ๖ ปี ก็ปงเมืองหื้อเจ้าวิธูรก่อนหั้นแล ได้ ๔ เช่นวงษาก่อนแล นับแต่เจ้าขุนฟองมาได้ ๕๔ เช่นท้าวกินเมืองแล ฯ

 เจ้าหลวงวิธูร ท่านได้เปนเจ้าเสวยราชสมบัติแล้ว ในปีนั้นเดือน ๗ ขึ้นค่ำ ๑ ม่านก็ยกกองทัพลงมาทางศาลาปากงาว แลยามนั้นเมืองน่านเจ้าหลวงวิธูรก็ปงบ้านเอาครอบครัวไพร่ไทยหนีลงไปอยู่บ้านจิมท่าปลาที่นั้นแล้ว ก็ยกเอากำลังขึ้นมารบม่านยังเวียงน่านหั้นแล ม่านก็แตกหนีไปหั้นแล ฯ