หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๖) - ๒๔๖๒.pdf/11

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้ตรวจสอบแล้ว

ตีกรุงกัมโพชา สมเด็จพระอุไทยราชาก็ลงเรือหนีลงไปเมืองไซ่ง่อน กองทัพเจ้าพระยาบดินทรเดชาฯ ยกติดตามไปจนถึงเปียมเนา มีกองทัพญวนขึ้นมาป้องกัน ได้รบกับกองทัพไทยหลายเวลา กองทัพไทยติดตามเอาตัวสมเด็จพระอุไทยราชาไม่ได้ กองทัพเจ้าพระยาบดินทรเดชาฯ ก็เลิกกลับเข้ามาตั้งอยู่ณเมืองพระตะบอง

ครั้นณปีมะเสง ฉศก พระยาอุดมภักดี ซึ่งเปนพระยาอภัยภูเบศร์ เจ้าเมืองพระตะบอง ได้ ๘ ปี ถึงแก่กรรม ฝ่ายสมเด็จพระอุไทยราชาซึ่งหนีลงไปพึ่งเจ้าเวียดนามณเมืองญวนกลับเข้ามาถึงกรุงกัมโพชาก็ถึงแก่พิราไลย สมเด็จพระอุไทยราชามีราชธิดา ๔ องค์ ชื่อ เจ้าองค์แบน ๑ ชื่อ เจ้าองค์มี ๑ ชื่อ เจ้าองค์เภา ๑ ชื่อ เจ้าองค์สงวน ๑ ต่างมารดากันทั้ง ๔ องค์ เจ้าเวียดนามจึงตั้งเจ้าองค์มี บุตรสมเด็จพระอุไทยราชาที่ ๒ ให้ครองกรุงกัมโพชาธิบดี

ถึงปีจอ สัมฤทธิศก (พ.ศ. ๒๓๘๑) โปรดให้ก่อกำแพงเมืองพระตะบอง ทรงตั้งเจ้าองค์อิ่ม พระมหาอุปราช เปนเจ้าเมืองพระตะบอง (๕) ตั้งพระยาปลัด ชื่อ รศ ให้เปนพระยาวิเศษสุนทร มีเครื่องยศพานทองกระบี่บั้งทอง กองทัพเจ้าพระยาบดินทรเดชาฯ ก็เลิกเข้าไปณกรุงเทพฯ

ณปีกุญ เอกศก (พ.ศ. ๒๓๘๒) มีท้องตราโปรดออกไปที่เมืองพระตะบองว่า ให้ยกเปนกระบวนทัพไปสอดแนมจับพวกด่านเมืองโพธิสัตว์เข้ามาณกรุงเทพฯ จะได้ไต่ถามด้วยข้อราชการกรุงกัมโพชาธิบดี เจ้าองค์อิ่ม เจ้าเมืองพระตะบอง จึงจัดให้พระพิทักษ์บดินทร์ พระ