หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๖) - ๒๔๖๒.pdf/17

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้ตรวจสอบแล้ว
๑๑

ที่ ๒ พระยาวิเศษสุนทร ชื่อ รศ เปนพระยาอภัยภูเบศร์ ที่ ๓ พระอุดมภักดี ชื่อ เชด เปนพระยาอภัยภูเบศร์ ที่ ๔ เจ้าองค์อิ่ม พระมหาอุปราช เปนเจ้าเมืองพระตะบอง ที่ ๕ พระนรินทรโยธา ชื่อ ฟอง เปนพระยาอภัยภูเบศร์ ที่ ๖ พระคทาธรธรณินทร์ ชื่อ เยีย เปนพระยาคทาธรธรณินทร์ ที่ ๗ เมืองพระตะบอง

แต่งต่อมาเมื่อจะพิมพ์หนังสือนี้

ถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้เลื่อนเกียรติยศพระยาคทาธรฯ เยีย ขึ้นเปนเจ้าพระยาคทาธรธรณินทร์เมื่อปีเถาะ ตรีศก (พ.ศ. ๒๔๓๔) เจ้าพระยาคทาธรธรณินทร์ถึงอสัญกรรมปีมโรง จัตวาศก (พ.ศ. ๒๔๓๕) ทรงตั้งพระอภัยพิทักษ์ ชุ่ม บุตรเจ้าพระยาคทาธรฯ เยีย เปนพระยาคทาธรธรณินทร์ ผู้ว่าราชการเมืองพระตะบอง นับเปนที่ ๘ ต่อมาถึงปีวอก พ.ศ. ๒๔๓๙ โปรดให้รวมหัวเมืองเขมร ๔ เมือง คือ เมืองพระตะบอง ๑ เมืองนครเสียมราฐ ๑ เมืองพนมศก ๑ เมืองศรีโสภณ ๑ เข้าเปนมณฑล เรียกว่ามณฑลบุรพา โปรดให้พระยาศักดาภิเดชวรฤทธิ ดั่น เปนสมุหเทศาภิบาลคนแรก ต่อมาทรงตั้งพระยาคทาธรธรณินทร์ ชุ่ม เปนสมุหเทศาภิบาลรับราชการมาจนรัฐบาลไทยทำหนังสือสัญญากับรัฐบาลฝรั่งเศสยอมคืนหัวเมืองเขมรให้แก่กรุงกัมโพชาเมื่อปีมะแม พ.ศ. ๒๔๕๐ พระยาคทาธรธรณินทร์ ชุ่ม ไม่สมัคไปอยู่กับต่างประเทศ ขออพยพเข้ามาเปนข้าทูลลอองธุลีพระบาทอยู่ในพระราชอาณาจักร จึงทรงพระกรุณา