ขึ้นรถพระที่นั่งดังเดิมกลับไปยังที่พักของราชทูต ขณะนั้น ทหารแตรก็เป่าแตรทำเพลงสรรเสริญรับรองราชทูตสยามตามธรรมเนียม
ขณะเมื่อราชทูตานุทูตสยามพักอยู่ในกรุงโรมนั้น ได้ไปเที่ยวชมถิ่นฐานบ้านเมือง แลตึกใหญ่น้อย แลวัดวาอารามทุก ๆ แห่งในจังหวัดกรุงโรม แลได้ไปดูสิ่งของโบราณ มีตึกแลโบถวิหารเปนต้น หลายแห่ง เปนที่พิศวงน่าชมล้วนประหลาดยิ่งนัก
ครั้นถึงวันที่ ๒๔ เดือนธันวาคม ในปีนั้น ซึ่งเปนวันจ่ายตรุษฝรั่ง คือ วันก่อนวันพิธีคฤศตมาศ เปนวันประสูตรพระเยซูเจ้า ทูตานุทูตสยามก็ได้ไปดูพวกบาดหลวงสวดบูชานมัสการพระเปนเจ้าฝ่ายฝรั่งในโบถพระอารามหลวงในพระราชวังของโปป ซึ่งเปนพิธีใหญ่แลเปนการประชุมของมหาชนที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระคฤศตสาสนาโรมันกาทอลิกเปนอันมาก
ครั้นวันที่ ๔ เดือนมกราคม คฤศตศักราช ๑๖๘๙ ปี เปนกาลขึ้นปีใหม่ของชาวประเทศยุโรป ตรงกับจุลศักราช ๑๐๕๐ ปีมะโรง สัมฤทธิศก ทูตานุทูตสยามพร้อมด้วยบาดหลวงล่ามผู้กำกับขึ้นรถไปเฝ้าโปปถวายบังคมลาในท้องพระโรงเหมือนเมื่อแรกเฝ้านั้น โปปจึงพระราชทานพระราชสาส์นสนองพระเจ้ากรุงสยามฉบับหนึ่ง พระราชสาส์นนั้นเชิญลงสถิตย์ในหีบทองคำหนาแขงแรงหีบ ๑ แล้วพระราชทานเครื่องราชบรรณาการตอบแทนต่อพระเจ้ากรุงสยาม คือ ประคำทองคำประดับเพ็ชรสายหนึ่ง กับทองคำเหรียญ ๑ น่าหนึ่ง จำหลักเปนพระราชฉายา