หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑) - ๒๔๕๗.pdf/108

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๘๗
พระแก้วอยู่เมืองปาตลีบุตร

จากมนุษโลกแล้ว ก็เมื้อเกิดในสวรรคเทวโลกสิ้นทุกคนนั้นแล ซึ่งพระมหานาคเสนเจ้าอันประกอบด้วยศีลาทิคุณบริสุทธิ์ แลปรากฏในพระสาสนาพระสัพพัญญูพุทธเจ้าแห่งเรานี้เหมือนอย่างพระสุริยอาทิตย์ อันปรากฏในนภากาศเวหา แลยกยอพระพุทธสาสนาให้รุ่งเรืองงามต่อถึง ๕๐๐๐ พระวัสสา ท่านจึงสร้างพระแก้วเจ้าพระองค์นี้ไว้ให้เปนที่นมัสการบูชาแก่เทพยดาแลคน ทั้งปวง ครั้นท่านตั้งอยู่ตามเขตรอายุของท่านนั้น อันมีสังโยชนธรรมหากสิ้นแล้ว ท่านก็ถึงแก่พระนิพพานธาตุ มีวิบากขันธ์แลกรรมชะรูปในอันนั้นแล

 อยู่แต่นั้นไปข้างน่า จึ่งชาวเมืองปาตลีบุตรทั้งปวงมีพระมหากระษัตริย์ แลเสนาอำมาตย์ราชมนตรี เศรษฐีพราหมณเปนประธาน ก็พร้อมกันปฏิบัติรักษาบูชาพระแก้วเจ้าสืบ ๆ มานานได้ ๓๐๐ ปี ตั้งแรกแต่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่พระมหานครนฤพานไปแล้วนั้น มาผสมเข้า ๓๐๐ ปีนั้นพระพุทธสาสนาครบ ๕๐ พระวัสสา จึงมาถึงพระมหากระษัตริย์เจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระเจ้าตะละกะเปนหลานแห่งพระมหากระษัตริย์องค์หนึ่ง ทรงพระนามพระเจ้าบุนดะละราชาธิราชท่านก็ได้ครองราชสมบัติเปนกระษัตริย์ใน เมืองปาตลีบุตรที่นั้น ท่านก็ปฏิบัติรักษาพระแก้วเจ้าองค์นั้นต่อไป ท่านจึ่งมีพระราชโอรสองค์หนึ่งทรงพระนามว่าศิริกิตติกุมาร ครั้นพระเจ้าตะกะละอันเปนพระราชบิดาได้ถึงแก่กรรมไปแล้วนั้น จึงเจ้าศิริกิตติราชกุมารอันเปนพระราชโอรสก็ได้ครองราชสมบัติเปนกระษัตริย์ ในเมืองปาตลีบุตรที่นั้นสืบแทนพระราชบิดาแห่งตนแล้ว ก็ปฏิบัติรักษาพระแก้วเจ้าต่อไปนั้นแล แต่นั้นการ